ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 362 ปะปน (1)
ตอนที่ 362 ปะปน (1)
ภายในทางเดินพลังงาน
ฟางผิงเข้าไปแล้วก็รับรู้ถึงความแตกต่างจากถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ทันที
ทางเดินพลังงานของเซี่ยงไฮ้ พลังจิตใจนั้นไม่ถึงขั้นปลดปล่อยออกมาข้างนอก ยากที่จะสัมผัสได้ถึงอนุภาคพลังงานที่หลอมรวมอย่างมั่นคง
ส่วนหนานเจียง พอเข้ามาก็รับรู้ถึงพลังงานมหาศาลที่ท่วมท้นออกมากลางทางเดิน!
เวลานี้พวกอู๋ชวนกำลังปลดปล่อยพลังจิตใจ ไม่ได้ทำเพื่อปิดผนึกทางเดิน แต่ใช้พลังจิตใจทำให้ทางเดินมั่นคง
ตาเฒ่าหลี่ไม่รู้ว่ามาอยู่ด้านข้างฟางผิงตั้งแต่เมื่อไหร่ เอ่ยเตือนว่า “ระวังหน่อย ฝั่งตรงข้ามอาจมีคนเข้ามา ทางเดินเพิ่งจะเสถียร เป็นช่วงที่อันตรายที่สุดเช่นกัน!”
ระหว่างที่พูดจู่ๆ ทางเดินก็สั่นสะเทือนขึ้นมา!
อนุภาคพลังงานจำนวนมากเริ่มระเบิดทันที พลังจิตใจและสะพานฟ้าดินของฟางผิงเริ่มสั่นคลอน ดูดกลืนอย่างบ้าคลั่ง แต่อนุภาคพลังงานที่ดูดซับได้มีแค่น้อยนิดเท่านั้น
ทางเดินพลังงานระหว่างสองโลกมีพลังงานมหาศาลเกินไปจริงๆ!
ฟางผิงถูกพลังงานขนาดใหญ่พุ่งชนอวัยวะภายในจนสั่นสะเทือนอยู่บ้าง ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ด้านข้างอ่อนแอที่สุด กระอักเลือดสดออกมา
ดีที่เวลานี้ปรมาจารย์หลายคนทยอยลงมือ เริ่มปลดปล่อยพลังจิตใจควบคุมการระเบิดของอนุภาค
“ฝั่งตรงข้ามมีคนเข้ามา!”
ผ่านไปสักพัก อู๋ชวนก็ถอนหายใจ ก่อนจะเอ่ยเสริมว่า “น่าจะเป็นขั้นเก้า แต่ถอนตัวออกไปแล้ว!”
พวกฟางผิงไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ตาเฒ่าหลี่กดเสียงว่า “คนของพวกเราเข้ามาได้อย่างจำกัด พวกเขาก็เหมือนกัน ตอนนี้พวกเราเข้ามาแล้ว หากพวกเขาเข้ามาอีก ทางเดินไม่อาจเสถียรแล้ว หากทางเดินถูกทำลาย ทั้งสองฝ่ายจะจบเห่ไปพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่กล้าเสี่ยง…”
ฟางผิงม่านตาหดเกร็ง เอ่ยทันที “งั้นไม่ได้หมายความว่าขอแค่อีกฝ่ายใจถึงก็สามารถทำลายพวกเราพังพินาศไปด้วยกันได้แล้ว?”
“นั่นอย่างน้อยก็ต้องเป็นขั้นเก้า”
ตาเฒ่าหลี่เดินไปพร้อมทั้งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แม้ขั้นเจ็ดขั้นแปดจะสั่นสะเทือนได้ชั่วขณะ แต่ทั้งสองฝั่งไม่ไกลกันมาก พวกผู้บังคับการอู๋ยังสามารถต้านไว้ได้ช่วงหนึ่ง พอถึงสุดทางก็เป็นเวลาที่สังหารอีกฝ่ายแล้ว หากคิดจะถ่วงรั้งพวกเราให้ตาย ต้องส่งขั้นเก้าเข้ามาทำให้พวกเราพังพินาศไปด้วยกันเท่านั้น แต่ปกติมักไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ยอดฝีมือขั้นเก้า แม้จะอยู่ในถ้ำใต้ดินก็เป็นเจ้าเมือง เธอคิดว่าพวกเขาจะแลกชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้พวกเราเข้ามาอย่างนั้นหรือไง?”
“มักรู้สึกว่าอันตรายยังไงไม่รู้”
ฟางผิงบ่นพึมพำ ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เข้าถ้ำใต้ดินมีอันตรายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทางเดินจะอันตรายหน่อย นับเป็นเรื่องอะไรกัน?”
ระหว่างที่พูด พวกเขาก็เดินมาเกือบสุดทางเดินแล้ว
ทางเดินเส้นนี้มีความยาวประมาณหนึ่งพันเมตร ตอนนี้อนุภาคพลังงานจำนวนมากยังไม่เสถียรดี
ฟางผิงไม่ได้พูดอะไร ฉินเฟิ่งชิงกลับเอ่ยอย่างอิจฉา “อย่างอื่นไม่พูดถึง หากฝึกวิชาภายในทางเดินนี้สักสามสี่วันคงเทียบได้กับข้างนอกหลายเดือน!”
“อันตรายเกินไป!”
อู๋ชวนส่ายหน้าเล็กน้อย “ทั้งช่วงแรกไม่สามารถเข้ามาได้ รอเสถียรแล้ว อนุภาคพลังงานที่พลุกพล่านพวกนี้ก็จะถูกทางเดินดูดซับอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็จะฟื้นฟูเป็นปกติ ดังนั้นฝึกวิชาภายในทางเดินจึงใช้การไม่ได้เท่าไหร่”
ฟางผิงรับบทสนทนาว่า “พลังจิตใจสามารถดึงอนุภาคออกจากทางเดินได้สินะครับ นี่ไม่ใช่แร่พลังงานขนาดใหญ่หรือไง?”
“เป็นเรื่องยากอย่างมาก หลังจากมั่นคงแล้ว พลังงานจะไม่พลุกพล่านอีก กระทั่งฉันยังยากจะดึงออกมา ได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งไม่คุ้มค่าพอ”
ไม่ใช่ทำไม่ได้ แต่ไม่คิดจะทำเท่านั้น
ยอดฝีมือขั้นเก้าดูดซับอนุภาคพลังงานที่ลอยไปมาก็เกือบถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ดูดซับภายในทางเดิน ความเร็วจะถูกจำกัดอยู่บ้าง
แม้พลังงานภายในทางเดินจะไร้จำกัด แต่ดูดซับได้ช้า ไม่ดูดซับจะดีเสียกว่า
ถึงสุดทางเดินแล้ว อู๋ชวนก็สูดลมหายใจเข้าลึก “เมื่อกี้ฝั่งตรงข้ามมีคนเข้ามา เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่คาดเดาไว้ไม่เกิดขึ้น!”
สิ่งที่เรียกว่าสถานการณ์ที่ดีที่สุดย่อมเป็นฝั่งตรงข้ามไม่มีคนมา ทางเข้าไม่ถูกค้นพบ
นี่เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน อย่างน้อยก็ทางเดินของซีซาน จากบันทึกนั้นตอนที่ค้นพบทางเดิน ฝั่งตรงข้ามไม่มีคนเข้ามา
ช่วงแรกที่ทางเดินบางส่วนถูกค้นพบ ก็ไม่มีฝั่งตรงข้ามเข้ามาเช่นกัน
แต่หลายปีมานี้ เหตุการณ์แบบนี้แทบไม่ค่อยเกิดขึ้นแล้ว ทางเดินเปิดออก อีกฝ่ายก็ส่งทหารมาเฝ้าอารักขาทางเข้าแล้ว
อู๋ชวนถอนหายใจเบาๆ จ้องมองทางออกอยู่พักหนึ่ง เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “เดี๋ยวออกไปแล้ว พวกเราจะจู่โจมฝั่งตรงข้ามทันที ดังนั้นฉันจะออกไปตรึงกำลังอีกฝ่ายก่อน พวกผู้บัญชาการโจวรอสิบวินาทีแล้วค่อยออกมา ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกรอหลังจากพวกผู้บัญชาการโจวออกไปยี่สิบวิแล้วค่อยออกจากทางเดิน ส่วนพวกฟางผิง…ดูสถานการณ์เอาเถอะ ออกไปก็วิ่งไปนอกสนามรบ เป็นหรือตายแล้วแต่ชะตาฟ้าลิขิต! อีกอย่างจำไว้ให้ดี!”
เวลานี้อู๋ชวนเผยสีหน้าหนักแน่นขึ้นมาหลายส่วน กำชับว่า “หากคนกลุ่มแรกไม่ได้กลับไปรายงานข้อมูล รอกลุ่มที่สองเข้ามาก็ไม่มีคนกลับไป แต่ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำเริ่มบุกไปข้างนอก งั้นหน่วยทหารจะถึงช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานแล้ว บางทีอาจต้องปิดผนึกทางเดิน หากยังมีคนรอดชีวิตอยู่ข้างในก็หาสถานที่สักแห่งหลบซะ อย่าปรากฏตัวออกมาอีก รอทางเดินที่สองปรากฏใหม่อีกครั้ง!”
“เข้าใจแล้ว!”
ทุกคนขานรับ ส่วนจะรอจนทางเดินที่สองปรากฏได้หรือไม่ ต้องอยู่ที่โชคชะตาแล้ว
มีโอกาสสูงที่…จะรอไม่ถึง
ในถ้ำใต้ดินเคลื่อนไหวเพียงลำพัง รอบด้านมีแต่ศัตรู หากถูกค้นพบแทบจะหนีจากการไล่ล่าของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำไม่พ้น
“งั้นก็ดำเนินการตามแผนเถอะ จางติ้งหนาน นายและหลิวพั่วหลู่ออกไปทีหลัง หน้าที่หลักต้องอารักขาปากทางเดิน! ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกคนอื่นๆ คอยช่วยเหลือพวกเขา ประคองสถานการณ์สักสองวัน ทหารกองหนุนของพวกเราก็จะมาถึงแล้ว!”
อีกสองวันทางเดินจะเสถียรอีกครั้ง สามารถส่งกลุ่มที่สองเข้ามาได้!
ตอนนี้หลังจากที่พวกอู๋ชวนเข้ามา อนุภาคพลังงานภายในทางเดินก็เริ่มผันผวนอีกครั้ง เวลานี้ยอดฝีมือไม่เหมาะจะเข้ามาอีกแล้ว
พวกเขาต่างทยอยตอบรับ ส่วนจะประคองถึงสองวันได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่พูดยาก
ผู้ฝึกยุทธ์นั้นต่อสู้สิ้นสุดอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว
แต่ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ แม้จะตายในสนามรบจริงๆ ก็ต้องบั่นทอนกำลังของพวกถ้ำใต้ดิน ไม่ให้เข้ามาครั้งหน้าอีก ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินมีเยอะเกินไป จะก่อความสูญเสียอันใหญ่หลวงอีกครั้ง
ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกัน ฟางผิงก็ควักเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าสัมภาระ รีบสวมอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้บนพื้นโลกเขาอายเกินกว่าที่จะให้คนเห็นว่าตัวเองวางแผนทำอะไร
เวลานี้ฟางผิงเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วก็สวมวิกผมยาว
เห็นทุกคนมองตัวเอง ฟางผิงก็ละล่ำละลักว่า “เดี๋ยวออกไปผมจะฉวยโอกาสช่วงชุลมุนวิ่งไล่ฆ่าพวกฉินเฟิ่งชิง ระหว่างทางที่พวกเราวิ่งออกจากสนามรบ พวกผู้อาวุโสได้โปรดมองข้ามพวกเราไปด้วย! หากพวกคุณสนใจพวกเรา พวกเราจะยิ่งเป็นอันตราย เห็นพวกเราเป็นปลาซิวปลาสร้อยไปก็ได้!”
ล้อกันเล่นแล้ว ปรมาจารย์ไม่สนใจพวกเขายังพอว่า หากสนใจขึ้นมา ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินคงจะพุ่งเข้ามาฆ่าพวกเขาทันที
อู๋ชวนหัวเราะเสียงดัง จางติ้งหนานหมดคำจะพูดอยู่บ้าง “ปิดบังไม่ได้หรอก”
“ไม่แน่เสมอไป!”
ฟางผิงรู้ถึงความคิดของทุกคน สู้กันขึ้นมาพลังปราณระเบิดออก นี่เป็นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างยอดฝีมือมนุษย์และยอดฝีมือถ้ำใต้ดิน
ผู้ฝึกยุทธ์จะมีความรับรู้ต่อคลื่นพลังงานค่อนข้างฉับไว
คลื่นของปราณและคลื่นของพลังงานแตกต่างกันอยู่บ้าง ขอแค่ฟางผิงลงมือ พลังปราณก็จะปิดไม่มิด
แต่พวกเขาก็คือพวกเขา ฟางผิงไม่ถึงกับไร้หนทาง
รอสถานการณ์ชุลวุนวุ่นวาย ตัวเองก็จะเข้าไปปะปนในกลุ่มคน อาจไม่ถูกจับได้เสมอไป
แน่นอนว่า…หากเผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ทหารทั้งหมด…หน่วยทหารของเมืองถ้ำใต้ดินจะแต่งกายไม่เหมือนกัน ภายใต้ความสนใจของทุกคน เขาคงจะถูกค้นพบทันที
แต่จากสถานการณ์ทั่วไป พวกถ้ำที่ผนึกทางออกในช่วงแรกจะเป็นการร่วมมือของผู้ฝึกยุทธ์พื้นเมืองและผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารทั้งสองฝ่าย
ผู้ฝึกยุทธ์พื้นเมืองสวมเสื้อผ้าอย่างหลากหลาย แต่ละถ้ำใต้ดินเครื่องประดับไม่แตกต่างกันมาก นั่นย่อมมีหวังจะอำพรางตัวได้
สำหรับความคิดของฟางผิง ทุกคนไม่พูดอะไรเช่นกัน
สวมชุดแบบไหนก็เหมือนกัน เข้าไปปะปนได้จะดีที่สุด ปะปนไม่สำเร็จก็ไม่ต่างอะไร ต้องถูกไล่ฆ่าเหมือนกันอยู่แล้ว
อู๋ชวนไม่สนใจเขาอีก เวลานี้ไม่มีเวลามาสนใจแล้ว
สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนด้านหน้าอู๋ชวนจะมีดาบโค้งปรากฏขึ้นจากอากาศ
ดาบโค้งไม่มีปราณชัดเจนนัก ดูคล้ายเรียบง่ายไม่ซับซ้อน พวกฟางผิงกลับอดกลืนน้ำลายไม่ได้ นี่ถึงจะเป็นอาวุธที่ปรมาจารย์ใช้
อยู่ระหว่างจินตนาการและความเป็นจริงเหมือนกับพลังจิตใจ สามารถซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า ทั้งสามารถปรากฏในความเป็นจริงได้
ไม่ใช่ว่าปรมาจารย์ไม่ใช้อาวุธ แต่หาอาวุธได้ยาก
อาวุธแบบนี้สร้างขึ้นมา ไม่ใช่วัสดุโลหะผสมทั่วไปก็ทำได้แล้ว ยังมีเงื่อนไขอีกมากมาย
ปรมาจารย์ยอดฝีมือทั่วไป เดิมทีสร้างขึ้นไม่ได้อยู่แล้ว
———————–