ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 366 ฟางผิงไว้ใจได้ที่สุดแล้ว (1)
ตอนที่ 366 ฟางผิงไว้ใจได้ที่สุดแล้ว (1)
ห่างจากปากทางเข้าถ้ำนับร้อยลี้
กลางหุบเขาเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ฟางผิงฟันหมาป่าอสูรธรรมดาตัวหนึ่งแล้วก็ไม่คิดชักช้า เก็บร่างของมันมาหยดเลือดใส่อีก ‘ร่าง’ หนึ่ง
‘ร่าง’ นี้ราวกับมีความรู้สึก ตอนนี้สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าต่อต้านอยู่บ้าง
ฟางผิงไม่สนใจเขา แค่นเสียงว่า “ไม่รู้ว่าสมองคุณอยู่ไหน ดื่มเลือดไปก่อนแล้วกัน”
ตอนนี้หลี่ฉางเซิงมีสภาพราวกับก้อนเนื้อ ทั้งยังเป็นก้อนเนื้อที่ถลกหนังแล้ว ดูน่าสะอิดสะเอียนไม่น้อย
“อวดเก่ง กระแดะจริงๆ แกล้งตายสินะ?”
“เมื่อกี้ว่ายังไงนะ วันนี้ฉันฟันขั้นแปดด้วยกระบี่เดียว เก่งเอาเรื่องนี่!”
“แม่งเหอะ ผมพาก้อนเนื้อนี้กลับไป คุณลองเดาดูเถอะ คนอื่นจะจำคุณได้หรือเปล่า?”
ฟางผิงหลุดด่าออกมา ก่อนจะเอ่ยอย่างร้อนใจ “คุณว่าควรทำยังไงดีล่ะ! กะโหลกแตกหมดแล้ว อะไรที่ควรระเบิดก็ระเบิดไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรสักอย่าง คุณยังจะมีชีวิตรอดทำไมก่อน!”
“คุณว่าตอนนี้ผมควรจะช่วยคุณยังไงดี?”
“คุณพูดสิ! หาปากตัวเองไม่เจอสินะ พูดไม่ออกแล้ว?”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็รู้สึกหดหู่อยู่บ้าง นวดขมับเอ่ยอย่างจนใจว่า “คุณเหลือทางหนีทีไล่ไว้บ้างไม่ได้หรือไง? กระดูกแทบจะแหลกไปหมดแล้ว ตอนนี้เป็นแค่เนื้อเละก้อนหนึ่ง นี่ยังจะช่วยยังไงอีก คุณมีลมหายใจอยู่ ผมก็คาดไม่ถึงพอแล้ว เป็นเพราะมีความปรารถนาสุดท้ายที่ไม่สำเร็จผลใช่หรือเปล่า?”
“หรือคุณลองเขียนออกมาดี ผมจะช่วยทำให้คุณสมปรารถนา แล้วคุณก็สิ้นลมไปเลย?”
คำพูดนี้ราวกับไปกระตุ้นตาเฒ่าหลี่
ก้อนเนื้อขมุกขมัวนั้นขยับเล็กน้อย…ไม่รู้ว่าเป็นส่วนนิ้วมือหรือเปล่าที่กำลังขีดเขียนบนดิน…
ไม่นานฟางผิงก็ก้มหน้าดู
ผ่านไปสักพักค่อยจับคางตัวเองว่า “โห ถูกผมกระตุ้นจนเขียนตัวหนังสือได้? ไม่ง่ายเลยนะเนี่ย เขียนว่าอะไร…ไสหัวไป? ตาเฒ่านี่ ไม่รำลึกถึงกันยังพอว่า ยังจะให้ผมไสหัวไป? ถ้าผมไสหัวไป คุณก็กลายเป็นอุจจาระของสัตว์ประหลาดไปแล้ว มั่นใจนะว่าจะให้ผมไป?”
ก้อนเนื้อบนพื้นนั้นดิ้นขยุกขยิกต่อ เขียนคำว่า ‘ไสหัวไป’ ที่ชุ่มไปด้วยเลือดชัดเจนขึ้นกว่าเดิมซะอีก
ฟางผิงตบก้อนเนื้อนั่นไปที เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “อย่าขยับสุ่มสี่สุ่มห้า นี่ถ้าจมูกของคุณจมเข้าไปอยู่ในปาก ผมคงหาไม่เจอแล้ว ดึงออกมาไม่ได้จะทำยังไง?”
ไม่สนใจตาเฒ่าหลี่อีก ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง “อาการบาดเจ็บของคุณจะหนักเกินไปแล้ว ยาฟื้นคืนชีวิตก็เอาให้กินไปแล้ว ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตอย่างลำบากเหมือนกัน ตรงทางเข้านั้นไม่รู้ว่าพวกผู้ว่าจางเป็นยังไงกันบ้าง เฮ้อ คุณฆ่าไปหนึ่งคนละยังไงล่ะ ยังมีอีกตั้งสอง! ขั้นเจ็ดยังมีอีกเจ็ดคน ทางฝั่งพวกคุณมีแค่กี่คนเอง? หัวหน้าโจวตายแล้ว ผู้เฒ่าหลิวก็ไม่รู้เป็นยังไง จางติ้งหนานตอนที่ผมออกมา เหมือนว่าเขาจะต้านได้อีกไม่นาน อธิการเฉินก็ไม่น่ารอด…”
ฟางผิงพูดจบก็มองออกไปไกลๆ เอ่ยต่อว่า “บางทีอาจจะมีโอกาส เหล่าอู๋เหมือนจะไม่ตาย ต่อสู้ดุเดือดอยู่ไม่น้อย แต่เหล่าอู๋ก็ไร้ประโยชน์อยู่บ้างจริงๆ อยู่ตั้งสิบอันดับแรกของขั้นเก้า สู้กับขั้นเก้าหนึ่งคนยากขนาดนั้นเลยหรือไง! หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตามอันดับหนึ่งของขั้นเก้าเข้ามาไม่ดีกว่าเหรอ ให้ผู้บัญชาการหลี่นำทัพ! หากผู้บัญชาการหลี่มา ยังจะมีคนตายมากขนาดนี้หรือไง? ยอดฝีมือพวกนี้คิดอะไรอยู่? คงไม่ได้เป็นพวกลัทธินอกรีตหรอกนะ จงใจส่งพวกเราเข้ามาตาย?”
คำพูดนี้ราวกับกระตุ้นโทสะของ ‘ก้อนเนื้อ’ จนถึงขีดสุดแล้ว ขยุกขยิกขึ้นอีกครั้ง เขียนคำว่า ‘ไสหัวไป’ ออกมา
“ไสหัวกับผีน่ะสิ ไสหัวไปไหน? ผมไสหัวไปไหนไม่ได้ คุณต่างหากลองไสหัวไปดูสิ!”
ฟางผิงพูดเหน็บแนมออกมา ถอนหายใจว่า “รู้หรอกคุณจะพูดว่าต้องมีเหตุผลจำเป็นบางอย่างหรือเดิมทีผู้บัญชาการหลี่ก็ไม่อาจลงมือได้ บางทีผู้บัญชาการหลี่มา อาจจะทำให้ทั้งสองโลกเปิดสงครามกันเต็มกำลังอย่างนี้สินะ? ทั้งสองโลกทำสงคราม ต้องบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น ดังนั้นคนอย่างพวกเราตายหน่อยไม่เป็นไร เพื่อมนุษยชาติ เพื่อประเทศชาติงั้นสิ”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็ส่ายหัวว่า “สรุปแล้วยังคงอ่อนแอนั่นแหละ! คุณอย่าเคารพนับถือพวกผู้บัญชาการหลี่เกินไป นั่นก็ไก่อ่อนเหมือนกัน หากแข็งแกร่งจริงๆ คงมากำราบถ้ำใต้ดินแล้ว จำเป็นต้องประนีประนอมหรือไง! เขาจะประนีประนอมไปทำไม? สู้ไม่ได้ซะมากกว่า! พวกถ้ำใต้ดินบอกว่าจะสู้ยังไง เขาก็ทำได้เพียงสู้อย่างนั้น พวกถ้ำใต้ดินบอกว่าไม่อนุญาตให้ขั้นเก้าของพวกเราเข้ามา เขาก็ไม่กล้าเข้ามาแล้ว!”
“รุ่นพี่อู๋ถูกจัดในอันดับเก้าของขั้นเก้า ผมว่าน่าจะเรื่องไร้สาระ อันดับเก้าของขั้นเก้าอ่อนแอขนาดนี้ ประเทศจีนของเราคงจะถูกซัดจนไม่เหลือตั้งนานแล้ว! ยังไงก็รู้สึกว่ารุ่นพี่อู๋ฝีมือธรรมดาอยู่ดี สู้กับเจ้าเมืองๆ หนึ่งยากถึงขนาดนี้ ทั้งยังสู้แค่ถ้ำใต้ดินเดียว? สิบอันดับแรกของขั้นเก้าร่วมต่อสู้พร้อมกัน หรือจะสยบถ้ำใต้ดินเดียวไม่ได้อีก? นั่นยังจะสู้เพื่ออะไรกัน! ดังนั้นผมเดาว่าต้องมียอดฝีมืออีก แน่นอนว่าไม่เกี่ยวกับคุณ แต่เกี่ยวกับผม หลังจากนี้ผมจะกำราบถ้ำใต้ดิน บางทีอาจจะยังหารือกับพวกเขาได้ด้วย”
ฟางผิงพูดพึมพำกับตัวเอง “หากผมเป็นผู้บัญชาการทหารใหญ่ หรือเป็นผู้นำของมุนษยชาติ ผมต้องแข็งแกร่งกว่าพวกผู้บัญชาการหลี่อย่างแน่นอน คนพวกนี้ไม่อาจเชิดหน้าชูตาในถ้ำใต้ดินด้วยซ้ำ ผมเป็นผู้นำแล้ว ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินยังต้องก้มหัวให้ผม ผมอยากสู้กับถ้ำใต้ดินเมืองไหนก็จะสู้กับเมืองนั้น นี่ถึงจะเรียกว่าสะใจ”
พูดน้ำไหลไฟดับอยู่พักใหญ่ ฟางผิงก็เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง “เอาเถอะ กลับมาที่ประเด็นหลักดีกว่า คุณยังจะสามารถฟื้นฟูได้หรือเปล่า?”
ก้อนเนื้อดิ้นขยุกขยิกขึ้นมาอีกครั้ง ไม่นานก็เขียนตัวหนังสือออกมา…ปราณ
“พลังปราณ?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ผมลองถ่ายโอนให้คุณแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่ได้ สภาพร่างกายไม่ดีพอ ร่างทองปลอมของคุณระเบิดไปแล้ว ตอนนี้สภาพคุณแย่กว่าคนธรรดาซะอีก…ไม่สิ ดีกว่าหน่อยหนึ่ง พื้นฐานก้อนเนื้อนี้ของคุณไม่อ่อนด้อยเท่าไหร่ คุณสามารถหายใจได้น่าจะเกี่ยวข้องกับร่างทองด้วย คุณยังจะไม่สอนผมอีก หากสอนผม ผมอาจจะทำสำเร็จก็ได้ ร่างทองไม่แตกสลาย ฟินจะตาย แต่ว่า…ร่างทองนั่นคุณฟันหนึ่งกระบี่ก็แหลกสลายแล้วไม่ใช่หรือไง? ไม่แหลกสลายคือเรื่องโกหกสินะ ประเด็นอยู่ที่ว่ายังรักษาชีวิตไว้ได้”
“ปราณของผมแข็งแกร่งเกินไป สำหรับคุณอาจรับไม่ไหวก็ได้” ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มขึ้นมา “ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่คุณไม่อาจรับกระทั่งปราณของผมได้ คุณเคยคิดมาก่อนหรือเปล่า? จุๆ เมื่อก่อนเอะอะอะไรนิดอะไรหน่อยก็ให้ผมฟันคุณไม่ใช่หรือไง? ตอนนี้ลองเอะอะโวยวายอีกสิ?”
ก้อนเนื้อนั้นราวกับถูกกระตุ้นโทสะจนไม่อยากขยับแล้ว นิ่งเงียบไม่ไหวติง
ฟางผิงมีความสุขไม่น้อย เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เอาเถอะ ต้องการพลังปราณสินะ ผมจะฟันพวกสัตว์ประหลาดอ่อนๆ มาให้คุณดื่มเลือดละกัน เฮ้อ พวกฉินเฟิ่งชิงก็ไม่รู้วิ่งไปไหน ไม่งั้นคงให้ช่วยวิ่งเต้นแล้ว”
ฟางผิงเสียใจอยู่บ้าง น่าเสียดาย
ไม่งั้นตอนนี้ตัวเองคงไม่จำเป็นต้องทำงานหนักแล้ว
—
ในเวลาเดียวกัน
ปากทางเข้าถ้ำใต้ดิน
ทัพทหารจำนวนมากผนึกกำลังที่กระแสน้ำวน
เวลานี้ด้านหน้าทัพทหาร มียอดฝีมือหลายคนมองไปทางกระแสน้ำวนอย่างตึงเครียด
คนที่อยู่ด้านหน้าสุด สวมกวานสีทองบนหัว
เนิ่นนานก่อนยอดฝีมือที่สวมกวานจะเอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “ดินแดนแห่งการเกิดใหม่…แข็งแกร่งจริงๆ!”
การต่อสู้ครั้งนี้ ผลลัพท์เหนือความคาดหมายของเขาอย่างมาก!
ระดับอารยะตายไปหนึ่งคน!
แม่ทัพตายไปสี่คน
ขุนพลยอดฝีมือ…แหลกสลายทั้งกองทัพ!
นอกจากขุนพลยี่สิบกว่าคนที่เหลือไว้อารักขาเมืองจู้หลิว ขุนพลที่นำทัพมาพวกนั้นตายในสนามรบจนเกลี้ยง!
ทั้งขั้นราชาของอีกฝ่ายยังหนีไปได้
ขั้นอารยะคนนั้นก็บาดเจ็บหนัก พาผู้บัญชาการอีกสามคนหนีไปด้วยกัน
ทั้งตามข้อมูลของเขตหวงห้ามแล้ว นี่ยังไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของอีกฝ่าย ไม่นานทหารกองหนุนกลุ่มที่สองของอีกฝ่ายจะตามเข้ามา
ถึงเวลานั้นร่วมมือประสานกันทั้งภายนอกภายใน แม้ว่าเขาจะสามารถหนีเอาตัวรอดได้ แต่คนอื่นๆ ของเมืองจู้หลิวล่ะ?
คนผู้นั้นถอนหายใจจนแทบไม่ได้ยิน ดินแดนแห่งการเกิดใหม่…เมล็ดพันธุ์คืนชีพ…
ไม่คิดมากอีก มองไปทางกระแสน้ำวน ยอดฝีมือสวมกวานเอ่ยเสียงเบาว่า “จะสู้หรือถอย?”
สู้ งั้นก็ต้องผนึกกำลังที่ปากทางเดินต่อ คนของดินแดนเกิดใหม่ไม่อาจเลิกราแน่
ถอย งั้นก็ต้องรอพวกเขาสร้างเมืองขึ้นมาเหมือนกับพื้นที่อื่นๆ กลายเป็นสงครามยื้อกันไปยื้อกันมา
ยอดฝีมือสวมกวานถามแล้ว คนๆ หนึ่งที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยทุ้มลึกว่า “ฝีมือเมืองจู้หลิวของเราไม่เพียงพอ ราชาหลิว เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะร่วมมือกับเมืองอื่นๆ ของเผ่าเยาจื๋อ ไม่งั้นทำได้แค่ถอยแล้ว!”
———————–