ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 370-2 ควรทำเรื่องสำคัญแล้ว (2)

ตอนที่ 370 ควรทำเรื่องสำคัญแล้ว (2)

ถ้ำใต้ดินหนานเจียงมีเมืองราชากี่เมืองกัน?

ตอนนี้ฟางผิงยังไม่รู้ แต่จากประสบการณ์ ถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่งอย่างน้อยจะมีเมืองสิบแห่ง มากสุดถึงยี่สิบแห่ง ถ้ำใต้ดินของปักกิ่งมีเมืองถึงยี่สิบเมือง

แน่นอนว่านั่นคืออดีต ตอนนี้ถ้ำใต้ดินปักกิ่งลดจำนวนลงไปสองเมืองแล้ว สงครามใหญ่ในเวลานั้นแม้จะไม่สามารถกวาดล้างถ้ำใต้ดินปักกิ่งอย่างสิ้นซากก็ทำลายไปได้ถึงสองเมือง

“ถ้ำใต้ดินปักกิ่งทำลายไปแล้วสองเมือง…”

จู่ๆ ฟางผิงก็ตระหนักถึงอะไรบางอย่าง เมืองราชาหนึ่งแห่งเท่ากับแหล่งแร่หนึ่งแห่ง!

เกรงว่ารัฐบาลจะเก็บสะสมแร่พลังงานไว้ไม่น้อย!

แม้ว่าเวลานั้นจะสูญเสียไปมาก แต่ทำลายได้สองเมือง จะไม่ได้รับค่าตอบแทนสักเล็กน้อยเลยหรือยังไง?

หลายปีมานี้กำเนิดปรมาจารย์ออกมามากขนาดนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามนี้ด้วยเช่นกัน

“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังหนทางอีกยาวไกล อย่าพูดเลยว่าถ้ำใต้ดินเดียว แค่เมืองเดียวก็ยังยากจะต่อต้าน ยอดฝีมือระดับสูงกว่าสิบคน มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังขาดอีกมาก ขั้นหกก็มีแค่นี่สิบคนเท่านั้น ความแตกต่างไม่ใช่น้อยๆ ขั้นสี่ขั้นห้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีไม่ถึงสี่ร้อยคน เมืองจู้หลิวอย่างน้อยมีเยอะกว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ถึงสิบเท่า!”

ฟางผิงส่ายหัว หนึ่งมหาวิทยาลัยกำราบหนึ่งถ้ำใต้ดิน พูดเหมือนง่าย แต่ทำได้ยากมาก

ตอนนี้รวบรวมกำลังทั้งมหาวิทยาลัย แม้จะต่อกรกับเมืองเทียนเหมินที่สูญเสียอย่างหนักแล้ว โอกาสชนะยังมีไม่สูงเลย โอกาสที่แพ้อย่างราบคาบมีสูงมากกว่า

เมืองเทียนเหมินมีขั้นเก้าหนึ่งคน ขั้นแปดหนึ่งคน ขั้นเจ็ดอีกหลายคน

“ผู้เฒ่าหลิวไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? หากเขาตายในสนามรบ งั้นความสามารถของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงจะตกต่ำลงอีกครั้ง”

คนต่างมีความเห็นแก่ตัว แบ่งแยกเรื่องความสัมพันธ์เป็นปกติอยู่แล้ว

ปรมาจารย์ยอดฝีมือที่เข้ามาในครั้งนี้ คนอื่นๆ ตายไป ฟางผิงอาจไม่เศร้าเสียใจเท่าไหร่ แต่หากหลิวพั่วหลู่ตาย นั่นคงหลีกเลี่ยงความเสียใจไม่พ้น

เหมือนยอดฝีมือขั้นหกคนอื่นๆ ตายในสนามรบ แม้เวลานั้นฟางผิงจะเสียใจ แต่ตอนที่ต้องช่วยคนจริงๆ เขาก็เสี่ยงช่วยชีวิตแค่หลี่ฉางเซิงเพียงคนเดียวเท่านั้น

คิดฟุ้งซ่านอยู่ยกใหญ่ ฟางผิงเดินชมสินค้าต่อ ในขณะเดียวกันก็แบ่งสมาธิไปฟังบทสนทนาที่ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำคุยกันด้วย

มีคนเอ่ยถึงเรื่องเกี่ยวกับการเปิดน้ำพุแห่งชีวิตเช่นกัน

แต่ผู้ฝึกยุทธ์ที่นี่ ส่วนมากจะมาจากหมู่บ้านรอบๆ หรือเมืองราชาแห่งอื่น

พวกเขาไม่มีคุณสมบัติเข้าใกล้น้ำพุแห่งชีวิต เพราะน้ำพุแห่งชีวิตอยู่ใจกลางเมืองชั้นใน

แต่เปิดน้ำพุแห่งชีวิต พลังงานจำนวนมากจะหลั่งไหลออกมา แม้จะอยู่เมืองชั้นนอก ความเข้มข้นของพลังงานก็จะเพิ่มขึ้นมาช่วงใหญ่ เมืองจู้หลิวไม่ได้ห้ามผู้ฝึกยุทธ์เข้ามาในเมืองชั้นนอก ตอนที่เปิดน้ำพุแห่งชีวิต พวกเขาก็สามารถยืมโอกาสฝึกวิชาได้เช่นกัน

ประสิทธิภาพคงไม่ได้สูงมาก แต่ได้ย่อมดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

“เมืองชั้นในงั้นเหรอ?”

ฟางผิงถอนหายใจเล็กน้อย ไม่สามารถเข้าไปได้ง่ายๆ

เมืองชั้นใน ฟังจากคนพวกนี้แล้ว เข้าไปยากอยู่บ้าง ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าไปได้

ฟางผิงออกจากลานกว้างด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

ที่นี่มีของมากมาย ขโมยไปทั้งหมด ฟางผิงคิดว่าน่าจะขายได้ห้าถึงหกร้อยล้าน

แต่ขโมยที่นี่ เกรงว่าวิ่งหนีออกจากเมืองคงเป็นเรื่องยากแล้ว

เดินตามลานกว้างมุ่งไปข้างหน้าต่อ ระหว่างทางฟางผิงก็จดจำตำแหน่งร้านค้าบางส่วน ร้านค้าปกติเขาไม่ให้ความสนใจเท่าไหร่ แต่เน้นจำพวกสถานที่ที่มีพลังงานค่อนข้างอุดมสมบูรณ์!

ที่นั่นเทียบได้กับธนาคารของมนุษย์!

ธนาคารของมนุษย์กักเก็บทองคำและเงินตราไว้

แต่ที่นี่กลับเก็บหินพลังงาน

ในเมืองราชามีบริการอย่างหนึ่ง สามารถเลือกแลกเปลี่ยนหินพลังงานที่ความเข้มข้นต่ำเป็นหินพลังงานฝึกวิชาได้ แน่นอนว่าอัตราแลกเปลี่ยนนั้นน่าตกใจเช่นกัน

ในถ้ำใต้ดินอันที่จริงหินพลังงานความเข้มข้นต่ำไม่ได้หาเจอยาก แหล่งแร่เล็กๆ บางแห่งแทบจะมีหินพลังงานความเข้มข้นต่ำประเภทนี้อยู่

สัตว์ประหลาดไม่เห็นความสำคัญเท่าไหร่ ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินก็ไม่ค่อยสนใจเช่นกัน

และหินพลังงานพวกนี้ก็เป็นส่วนใหญ่ที่มนุษย์ถ้ำทั่วไปหาได้

พวกเขาสามารถขุดหาแร่ นำหินพลังงานชนิดนี้มาแลกเปลี่ยนกับหินพลังงานฝึกวิชาที่มีความเข้มข้นสูงในเมืองราชาได้ ทั้งทางถ้ำใต้ดินก็รับหินพลังงานความเข้มข้นต่ำพวกนี้ไว้เช่นกัน ฟางผิงไม่รู้ว่านำไปกลั่นให้บริสุทธิ์ได้หรือนำไปทำอย่างอื่นกันแน่

ทางเมืองราชามีร้านค้าที่รับแลกเปลี่ยนแบบนี้ไม่น้อย ฟางผิงเห็นมีหลายร้านเลยทีเดียว

แม้เขาจะไม่รู้จักตัวอักษรของถ้ำใต้ดิน แต่เห็นมีคนถือหินพลังงานความเข้มข้นต่ำเข้าไปกองใหญ่ ไม่นานก็แลกเปลี่ยนเป็นความเข้มข้นสูงออกมา

ครุ่นคิดเล็กน้อยก็เดาถึงวัตถุประสงค์ของร้านค้าพวกนี้ได้แล้ว

“แต่ไม่สามารถขโมยได้ง่ายๆ น่าจะมีขั้นหกรักษาการณ์อยู่”

ฟางผิงถอนหายใจ แต่ก็มีร้านค้าร้านสองร้านที่ไม่มีขั้นหกควบคุมอยู่ แต่เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า พอจะสามารถวางแผนได้

เมืองจู้หลิวนั้นใหญ่มาก ฟางผิงเดินมาเกือบหนึ่งชั่วโมงก็ยังไม่ถึงเขตเมืองชั้นใน

ทั้งต้นไม้ยักษ์ต้นนั้น ยิ่งเดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็ยิ่งพบว่าก่อนหน้านี้ประเมินความสูงของมันต่ำไป

ไม่ใช่แค่หนึ่งร้อยเมตร!

ฟางผิงยังไม่เคยเห็นตึกใหญ่ขนาดนี้ในเซี่ยงไฮ้ด้วยซ้ำ สูงประมาณห้าร้อยหกร้อยเมตรยังคงมีอยู่ ทว่าเพราะในเมืองเซี่ยงไฮ้มีตึกสูงมากมาย ไม่ดูใกล้ๆ ก็ไม่เตะตาเท่าไหร่

แต่ต้นไม้ยักษ์อยู่ไกลขนาดนี้ยังคงสะดุดตา ฟางผิงคาดเดาว่าน่าจะสูงสี่ถึงห้าร้อยเมตรทีเดียว

“สูงและใหญ่ขนาดนี้ ตกลงดูดซับพลังงานไปเท่าไหร่กัน! ต้นไม้แบบนี้เอากลับไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงจะดูดกลืนอนุภาคพลังงานในเมืองเซี่ยงไฮ้จนเกลี้ยง แต่หากไม่ดูดพลังงาน เปลี่ยนเป็นคายพลังงานแทน…จุๆ งั้นเซี่ยงไฮ้คงกลายเป็นสวรรค์ในการฝึกวิชาแล้ว”

“แต่พูดยากเหมือนกัน พืชที่ฝึกวิชาจนกลายเป็นภูติอาจจะไม่ได้ดูดกลืนพลังงานอยู่ตลอดเสมอไป ไม่งั้นเมืองจู้หลิวคงจะถูกดูดกลืนไปนานแล้ว? เมื่อถึงระดับขั้นที่แน่นอน พลังงานจะไม่เสียไปอีก หากไม่เลื่อนขั้นอาจไม่ต้องการดูดกลืนพลังงานเสมอไป ไม่งั้นคงจะไม่มีน้ำพุแห่งชีวิตหรอก จะถูกต้นไม้ปีศาจนี้กลืนกินไปนานแล้วน่ะสิ”

ลำต้นที่โปร่งใสนั้น ไม่ว่าจะนำมาเป็นส่วนประกอบของอาวุธหรือวัตถุดิบในการฝึกวิชา เกรงว่าจะเป็นของดีทั้งนั้น

ความทนทานของโลหะผสมระดับ A จะเทียบกับลำต้นนี้ได้จริงๆ เหรอ?

ไม่สิ บางทีการสร้างอาวุธวิเศษอาจจะเกี่ยวข้องกับวัสดุพวกนี้ อาวุธวิเศษนั้นเป็นของดีอย่างแท้จริง

เลือดสีทองเหล่านั้นสะสมพลังงานไว้นับไม่ถ้วนเช่นกัน นำมาเป็นวัตถุดิบทำยาบำรุง เกรงว่าจะผลิตยาบำรุงออกมาได้มหาศาล

“โค่นต้นไม้นี้ บางทีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจจะมีระดับกลางออกมานับพันคน ถึงกระทั่งปรากฏปรมาจารย์ออกมาจำนวนหนึ่งด้วยซ้ำ!”

แต่แม้จะโค่นแล้ว อาจไม่สามารถเอากลับไปได้ทั้งต้น ใหญ่เกินไป ทางเดินอาจรองรับไม่ไหว

“หากช่องเก็บของของฉันกว้างหลายพันลูกบาศก์เมตร งั้นคงเอากลับไปได้จริงๆ แต่จะโค่น…ไม่มีอาวุธวิเศษคงตัดไม่ได้”

ฟางผิงพึมพำในใจยกใหญ่ ก่อนจะเริ่มสำรวจอย่างระมัดระวัง หาโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งเพื่อพักผ่อน จะตะลอนไปเรื่อยแบบนี้ไม่ได้

อยู่ที่นี่ บางทีเขาอาจจะลองขุดดินดูได้

บนพื้นดินเขาไม่กล้าบุ่มบ่ามเคลื่อนไหว

แต่ถ้าเป็นใต้ดิน เก็บงำลมหายใจ…ไม่อาจพาเหล่าหลี่ไปด้วย ไม่งั้นจะถูกจับสัมผัสได้ง่าย

เก็บงำลมหายใจ ขอแค่ไม่คลื่อนไหวใหญ่โตใต้ดิน งั้นก็ค่อนข้างปลอดภัยแล้ว

ค้นหาอยู่พักหนึ่ง ฟางผิงก็เห็นสถานที่ที่เหมือนกับโรงเตี๊ยม ยืนฟังอยู่ฝั่งตรงข้ามครู่หนึ่ง มีแผนในใจแล้วฟางผิงก็สาวเท้าเข้าไป

ไม่นานฟางผิงก็ใช้ผลึกหินพลังงานสิบก้อนแลกเปลี่ยนกับสิทธิ์การอยู่อาศัยในเรือนเล็กหลังหนึ่งที่นับว่ามีสภาพแวดล้อมสวยงามเป็นเวลาสองวัน!

ระหว่างนั้นฟางผิงยังใช้พลังจิตใจแสดงคลื่นพลังงานของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามออกมา การเปิดน้ำพุแห่งชีวิตกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เถ้าแก่โรงเตี๊ยมเข้าใจเป็นอย่างดี ฟางผิงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ไม่อนุญาตให้รบกวน” อีกฝ่ายรีบพยักหน้าทันที

ยอดฝีมือผู้นี้วางแผนจะทะลวงขั้นสี่ ตั้งใจจะอาศัยการเปิดน้ำพุแห่งชีวิตเพื่อการทะลวงด่าน

หากถูกขัดจังหวะโดยมีโรงเตี๊ยมเป็นต้นเหตุ นั่นก็มีปัญหาแล้ว แม้ผู้ที่มาทะลวงด่านที่โรงเตี๊ยมจะไม่ได้เป็นคนมีเบื้องหลังใหญ่โตอะไร แต่เรื่องยิ่งน้อยลงเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

—

ฟางผิงเข้ามาในเรือนเล็กภายใต้การนำทางของมนุษย์ถ้ำคนหนึ่ง ปิดประตูเรือนแล้วก็เข้าไปในห้องทันที

“ผู้เฒ่าหลี่ สืบข้อมูลได้ไม่น้อยแล้ว ควรจะทำเรื่องสำคัญสักที!”

ฟางผิงพูดอย่างสมเหตุสมผล พอจะสืบเสาะข้อมูลได้อย่างชัดเจนแล้ว

จำนวนคนของขั้นเจ็ดขั้นแปดขั้นเก้าและระดับกลางต่างรู้จำนวนคร่าวๆ แล้ว ได้รับอะไรกลับมาไม่น้อย

ส่วนสถานที่อื่นๆ ฟางผิงคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องไปตรวจสอบ ยังไงเรื่องที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ก็คือการสร้างฐานทัพ มีเวลาค่อยไปตรวจสอบอีกที

เรื่องหลักย่อมเป็นเรื่องน้ำพุแห่งชีวิต

อีกอย่างสถานที่ของร้านค้าแลกเปลี่ยนหินพลังงานพวกนี้ เขาพอจะจำได้เจ็ดแปดแห่งแล้ว มากไปกว่านี้ก็ไม่มีประโยชน์

ตอนนี้อยู่ที่นี่ ทุกวันเสียค่าทรัพย์สินไปกว่าสิบล้าน ฟางผิงก็ปวดใจเหมือนกัน

“พวกฉินเฟิ่งชิงยังขโมยหินพลังงานก้อนใหญ่ไปแล้ว ฉันไม่ได้อะไรสักอย่าง คงไม่อาจได้น้อยไปกว่าพวกเขาได้หรอกมั้ง? ไม่งั้นถึงจะกลับไปก็ถูกคนหัวเราะเยาะอยู่ดี”

“ผมจะไปตรวจสอบใต้ดินสักหน่อย เดี๋ยวจะทิ้งคุณไว้ที่นี่ คุณอธิษฐานเอาละกัน หากถูกคนเจอตอนที่ผมไม่อยู่ คุณน่าจะถูกเอาไปย่างแล้ว นั่นจะโทษผมไม่ได้เชียว…”

ฟางผิงพึมพำออกมา เห็นได้ชัดว่าจนใจอยู่บ้าง ม่านพลังงานใช้งานได้แค่เขา พาเหล่าหลี่ลงใต้ดินไปด้วย เกรงว่าจะถูกคนพบเจอได้ง่าย

ผู้ฝึกยุทธ์มีสัมผัสค่อนข้างฉับไว พอถึงระดับสูง หากใช้พลังจิตใจตรวจสอบดู ไม่นานเหล่าหลี่ก็จะถูกค้นพบ

ครั้งนี้หลี่ฉางเซิงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร ลงไปสำรวจใต้ดินไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยขนาดนั้น

โดยเฉพาะใต้ดินที่เป็นแหล่งแร่ ทางถ้ำใต้ดินต้องมีการป้องกันอยู่แล้ว หากโง่ขนาดนั้นจริงๆ คงถูกคนขโมยเกลี้ยงไปนานแล้ว

————————-