ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 372-2 กระรอกดิน (2)
ตอนที่ 372 กระรอกดิน (2)
ฟางผิงถอนหายใจเบาๆ มองสำรวจไปรอบด้าน ครุ่นคิดแล้ว จู่ๆ ก็คว้าดาบผิงล่วนออกมา หาจุดลับตาคนก่อนจะเริ่มขุดโพรง
ที่นี่เป็นเขตขุดแร่ แม้ต้นหลิวปีศาจจะจับสัมผัสความเคลื่อนไหวได้ก็คงไม่สนใจหรอกสินะ?
คงไม่อาจจับสังเกตทุกครั้งที่มีคนขุดแร่ได้ ต่อให้พลังจิตใจแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่อาจทำถึงขั้นจับตาดูละเอียดยิบทุกเวลาหรอก
ในความเป็นจริง ตอนนี้เพื่อเปิดน้ำพุแห่งชีวิต ความสนใจของต้นหลิวปีศาจจึงไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว แต่ไปรวมอยู่ที่น้ำพุแห่งชีวิตต่างหาก
ตอนนี้แม้ว่าฟางผิงจะฟันรากไม้ขาด ต้นหลิวปีศาจก็อาจไม่สนใจเขาเสมอไป
ไม่เสียแรงที่ดาบผิงล่วนเป็นผลงานชั้นยอดในหมู่อาวุธระดับ A แม้ข้างล่างจะเป็นแร่พลังงานและหินเต็มไปหมด ก็ยังคงถูกฟางผิงขุดเป็นโพรงลึกได้ในเวลารวดเร็ว
ฟางผิงเข้าไปอย่างว่องไว เอาที่หินกระจัดกระจายปิดบังโพรงข้างบนเอาไว้
ก่อนจะกัดฟันคลานอยู่ใต้ดิน เริ่มขุดต่อไป!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่สูงสุด แม้ข้างล่างจะเต็มไปด้วยก้อนหิน ไม่นานก็ถูกทะลวงจนเป็นทางเดินเส้นหนึ่ง
ฟางผิงหลีกเลี่ยงจากทิศทางของพวกทหารคุ้มกันเหล่านั้น มุ่งหน้าไปตามทางที่มีพลังงานเข้มข้น ในใจโอดครวญอย่างไม่หยุดหย่อน ครั้งนี้เขาแทบจะกลายเป็นกระรอกดินอยู่แล้ว
ขุดหลุม ทะลวงถ้ำ ขุดหลุม ทะลวงถ้ำ…
เพื่อหินพลังงานเล็กน้อยนี้เป็นเรื่องง่ายหรือไง?
ระหว่างที่กำลังทะลวงถ้ำ จู่ๆ คลื่นพลังงานที่แข็งแกร่งก็ก็ม้วนตัวขึ้นมา!
เวลานี้ฟางผิงรู้สึกราวกับตัวเองอยู่ท่ามกลางทะเลพลังงาน!
อนุภาคพลังงานนับไม่ถ้วนพรั่งพรูมาจากสี่ทิศทาง!
เข้มข้นเกินไปแล้ว!
อันที่จริงทางเดินของถ้ำใต้ดินก็เป็นอนุภาคพลังงานบริสุทธิ์เช่นกัน แต่ค่อนข้างยุ่งเหยิง ทั้งหลังจากเสถียรแล้วก็จะสัมผัสไม่ได้
ตอนนี้อนุภาคพลังงานพวกนี้ยังไม่แข็งตัว แต่กำลังกระจายออกมาไม่ขาดสาย ก้อนหินในดินพวกนั้นคล้ายจะมีพลังงานขึ้นมาเช่นกัน!
“เปิดแล้ว!”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เร็วขนาดนี้เลย?
เขายังจะทันอย่างนั้นเหรอ?
ครั้งนี้จะเปิดออกนานเท่าไหร่กัน?
ในตอนที่เขาครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ ใต้ดินก็มีเสียง ‘จี๊ดๆ’ ดังขึ้นอย่างวุ่นวาย
ฟางผิงได้ยินเสียงก็มองไปรอบๆ จู่ๆ ก็เห็นสิ่งมีชีวิตหลายตัวที่คล้ายกับหนูแตกฮืออยู่รอบทิศทาง
“หนูแร่!”
นี่คือสิ่งมีชีวิตถ้ำที่ฉินเฟิ่งชิงบอกว่ามีรสเลิศที่สุด ฟางผิงตาเป็นประกายทันที บางทีเขาอาจจะระวังตัวมากเกินไป
อยู่ที่นี่ บางทีการเคลื่อนไหวเอริกเกริกอาจจะถูกจับจ้อง
แต่หนูแร่อาศัยอยู่ใกล้ๆ แร่พลังงานมาโดยตลอด มักจะเคลื่อนไหวในทางเดินอุโมงค์เหมือง ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำกลับไม่สนใจอะไร เพราะหนูแร่มีขนาดเล็กเกินไป ทั้งไม่นับเป็นปีศาจ กลืนกินพลังงานน้อยมากๆ
เว้นเสียงแต่ว่าผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำจะอยากกินของอร่อยถึงจะหันมาสนใจล่าหนูแร่ ไม่งั้นคงไม่คิดให้ความสำคัญการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ พวกนี้
“ฉันเป็นแค่หนูแร่ตัวหนึ่ง!”
ฟางผิงพึมพำ ตอนนี้ฉันเป็นแค่หนูแร่ ไม่สิ ฉันไร้ตัวตนยิ่งกว่าหนูแร่ซะยิ่ง แค่ขนาดตัวใหญ่กว่าเท่านั้น
กระแสพลังงานเข้มข้นอย่างมาก โถมคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังเป็นประเภทที่นุ่มนวล
หากเป็นบนโลก ฟางผิงคงเริ่มฝึกวิชาแล้ว ตอนนี้กลับไม่อาจสนใจเรื่องนี้ได้ ขุดดินตามทิศทางพลังงานที่แพร่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว หนูแร่ขุดดิน ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว?
—
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ในมือถือหินพลังงานที่คล้ายกับหินกรวดไว้ก้อนหนึ่ง ฟางผิงตาเป็นประกาย แร่พลังงานความบริสุทธิ์สูง!
เขามาถึงเขตใจกลางแล้ว!
ไม่พูดมาก ฟางผิงรีบใส่แร่พลังงานไว้ในช่องเก็บของ
เริ่มขุดไปข้างหน้าต่อ
ตอนนี้รากไม้โปร่งแสงรอบๆ ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
ฟางผิงกลับไม่สนใจนัก รากไม้พวกนี้มีไว้ข่มขู่เท่านั้น ฟางผิงเห็นหนูแร่บางส่วนปีนไปดูดกลืนพลังงานบนรากไม้ด้วยซ้ำ ก็ไม่เห็นรากไม้จะทำอะไร
ถ้ารู้ว่ารากไม้พวกนี้เป็นแค่ของหลอกคน เขาคงไม่ระมัดระวังตัวขนาดนี้
ไม่สนใจหนูแร่กับรากไม้พวกนั้นอีก ฟางผิงขุดไปข้างหน้าต่อ
ในตอนที่เขาจากไปได้ไม่นาน รากไม้ราวกับเพิ่งมีปฏิกิริยาทีหลัง เวลานี้กลับสั่นไหวเบาๆ ก่อนหนูแร่ที่คลานอยู่ด้านบนจะกลายเป็นกองเลือดในชั่วพริบตา
รากไม้ที่สงบนิ่งมาโดยตลอดมีการสั่นไหวเล็กน้อย คล้อยหลังรากไม้ที่หยาบกร้านหลายเส้นก็คล้ายกับงูน้ำ แหวกว่ายออกไปปัดกวาดใกล้ๆ กับโพรงที่ฟางผิงเพิ่งจากไป
บางทีอาจจะเพราะไม่พบอะไร ทั้งไม่รับรู้ถึงลมหายใจ ไม่นานรากไม้ก็หยุดเคลื่อนไหว กลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม
—
“แปดก้อน ห้าร้อยกรัมแล้วสินะ?”
ฟางผิงเก็บหินพลังงานระดับสูงก้อนเล็กๆ มาตลอดทาง แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ความบริสุทธิ์สูงถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เกรงว่าจะถึงห้าร้อยกรัมได้
หินพลังงานฝึกวิชาความบริสุทธิ์สูงมีมูลค่าอย่างมาก ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ของสิ่งนี้คิดเป็นสามสิบคะแนนต่อหนึ่งกรัม ราคาสูงลิ่ว!
ฟางผิงเงยหน้ามอง ด้านบนอาจจะเป็นพื้นที่ขุดหินพลังงานของระดับสูง แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าเสี่ยง
ด้านบนนั้นมีเสียงเคลื่อนไหวของฝีเท้าเช่นกัน
ฟางผิงถึงกระทั่งสัมผัสได้ว่ามีพลังจิตใจเบาบางกวาดลงมาด้านล่างด้วย
ไม่ได้เป็นพลังจิตใจของยอดฝีมือระดับสูง แต่เป็นพลังจิตใจที่คล้ายกับต้นกล้าเล็กๆ ที่อยู่หน้าประตูเมืองนั้น
หากฟางผิงไม่เก็บงำลมหายใจอาจจะถูกค้นพบไปนานแล้ว
ไม่แปลกใจที่ใต้อุโมงค์จะไม่ค่อยมีคนสนใจ อยากจะหลบจากการตรวจสอบพลังจิตใจพวกนี้ แม้จะเป็นปรมาจารย์ก็ทำได้ยาก บางทีปรมาจารย์ที่พลังจิตใจแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะทำได้ แต่แข็งแกร่งจนถึงขั้นอำพรางจากต้นกล้านี้ได้ นั่นหมายความว่าแข็งแกร่งเกินไปย่อมดึงดูดความสนใจของต้นหลิวปีศาจ
ผู้อ่อนแออำพรางไม่ได้
ผู้แข็งแกร่งก็มีการไหลเวียนของปราณที่ยากจะปกปิดยอดฝีมือได้
“ช่างเถอะ ทิ้งหินพลังงานพวกนี้ไว้ก่อน ข้างบนเป็นที่อยู่ของน้ำพุแห่งชีวิตแล้ว!”
พลังงานที่แข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด เวลานี้ยังทะลักไปข้างนอกไม่ขาดสาย หินพลังงานบริสุทธิ์สูงข้างหน้าฟางผิงบางส่วนกำลังส่องแสงระยิบระยับ เริ่มเปลี่ยนเป็นระดับสูง เห็นได้ชัดว่าพลังงานนี้แข็งแกร่งขนาดไหน
เดินไปข้างหน้าต่อ ยิ่งเคลื่อนไปข้างหน้ามากเท่าไหร่ฟางผิงก็ยิ่งรู้สึกว่าเคลื่อนไหวลำบากมากขึ้นเท่านั้น
พลังงานเข้มข้นสกัดการเคลื่อนไหวของเขาอยู่บ้าง
จวบจนคลานอยู่พักหนึ่ง จู่ๆ ฟางผิงก็รู้สึกผ่อนคลายลงไม่น้อย
“ตอนนี้ฉันน่าจะอยู่ใต้แหล่งพลังงานแล้ว!”
ฟางผิงรับรู้ได้ ในตอนที่เขาปีนมาถึงด้านล่าง ยอดฝีมือขั้นแปดด้านบนที่กำลังดูดกลืนพลังงานคนนั้นก็ลืมตามองไปรอบๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย
รอบด้านยอดฝีมือขั้นเจ็ดพวกนั้นกำลังหลับตาดูดกลืนพลังงานเพื่อรักษาตัวเองอยู่ รอบนอกยอดฝีมือขั้นห้าขั้นหกก็พยายามดูดกลืนพลังงานเช่นกัน
มองอยู่สักพัก ไม่สัมผัสถึงสิ่งผิดปกติ อารยะเฟิงก็หลับตาลง คิดมากไปแล้ว
หากมียอดฝีมือหรือสัตว์ประหลาดมาถึงที่นี่ ปิดบังเขาได้ แต่คงไม่อาจปิดบังเทพผู้พิทักษ์ได้หรอก
ส่วนผู้ที่อ่อนแอก็อยู่ที่นี่ไม่ได้เช่นกัน
เสี้ยวนาทีที่อารยะเฟิงผู้นั้นหลับตา มุมหนึ่งของโถงใหญ่ บนพื้นนั้นนูนขึ้นมาเล็กน้อย เสียงบางเบาถูกกลบด้วยเสียงคลื่นพลังงานที่พรั่งพรูกระทบกัน
หัวที่ดำปี๋โผล่ออกมา
ครู่ต่อมาหัวนั้นก็นิ่งค้างไป!
“คนเยอะขนาดนี้เลย!”
หัวใจของฟางผิงแทบจะกระเด็นหลุดออกมา!
เขาเพิ่งจะตั้งใจฟังอยู่ข้างล่าง ไม่ได้ยินเสียงอะไร เขาถึงอยากโผล่หัวขึ้นมาดู
ใครจะรู้ว่าข้างบนมีคนเยอะขนาดนี้!
คนพวกนี้กระทั่งหัวใจยังไม่เต้นกันหรือไง?
ไม่ใช่ว่าหัวใจหยุดเต้น แต่เพราะเสียงพลังงานที่พรั่งพรูจึงกลบเสียงพวกนี้ไป ทำให้ฟางผิงได้ยินแค่เสียงกระทบกันของพลังงานเป็นพักๆ เท่านั้น
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“จะให้ฉันขโมยของใกล้หูใกล้ตายอดฝีมือเยอะขนาดนี้เนี่ยนะ?”
“นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือไง?”
ฟางผิงใจเต้นตึกตัก เขาสงสัยว่าหากไม่เคยหลอมหัวใจมา เมื่อกี้เขาน่าจะตกใจจนหัวใจระเบิดไปแล้ว
คนที่อยู่ด้านหน้าสุดนั้น ร่างทองเปล่งแสงระยิบระยับ แม่งเห็นได้ชัดว่าเป็นยอดฝีมือร่างทอง!
ทั้งห่างจากที่ที่ฟางผิงยื่นหัวออกมาไม่ถึงสองเมตรก็มีคนๆ หนึ่งนั่งสมาธิอยู่หันก้นให้เขา ระยะนั้นใกล้จนถึงขั้นดมได้ชัดเจนว่าเป็นกลิ่นยังไง
ฟางผิงไม่กล้าจะกลืนน้ำลายด้วยซ้ำ
ถูกได้ยินเข้าจะตายเอา น่ากลัวเกินไปแล้ว
เขารู้สึกอยากกลับบ้านอยู่บ้าง ต่อหน้าขั้นแปด ไม่สิ ข้างบนยังมีต้นไม้ปีศาจขั้นเก้าอีก นี่เป็นเรื่องที่ขั้นสี่ทำได้ที่ไหน
ฉินเฟิ่งชิงไอ้เวรนั่นถึงจะอวดเก่งขนาดนั้น เจอเจี่ยวยังเกือบฉี่ราดกางเกงเลย
ต่อให้เจี่ยวอันตรายแค่ไหนก็ไม่อันตรายถึงขั้นนี้หรอกมั้ง?
ฟางผิงไม่ได้ตกใจจนฉี่ราดกางเกง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษที่คนอื่นนับถือได้แล้ว