ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 378 ขั้นห้า (1)
ตอนที่ 378 ขั้นห้า (1)
บนผืนป่ารกร้าง
ตาเฒ่าหลี่ระเบิดพลังปราณ พยายามกดสะพานฟ้าดินเอาไว้
หากไม่กดไว้อีก ฟางผิงคงจะระเบิดเร็วๆ นี้แล้ว
คนอื่นทะลวงขั้นห้า สะพานฟ้าดินเชื่อมต่อกันเป็นรูปร่างวงแหวน เหมือนการหมุนเวียนที่ไม่มีที่สิ้นสุด
พลังงานเข้าสู่ร่างกาย สะพานฟ้าดินดูดกลืนและเปลี่ยนแปลง ถ่ายทอดให้ภายในไม่ปล่อยให้ออกไปข้างนอก
แต่ฟางผิง…ตอนนี้พลังงานเข้นข้นเกินไป ทำให้สะพานฟ้าดินที่ยืดยาวพวกนั้นถูกบีบจนเบี้ยว
อันที่จริงสะพานฟ้าดินเป็นคำเรียกอีกอย่างหนึ่งของทางเดินพลังงานเช่นกัน
ในสถานการณ์ทั่วไป เจอกับพลังงานที่มากเกินไป สะพานฟ้าดินจะระเบิดออก ไม่ใช่ถูกบีบจนเบี้ยวแบบนี้
แต่สะพานฟ้าดินของฟางผิง ในช่วงการแข่งขันเขาเคยนำมาเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานฟ้าดินมาก่อน
พลังฟ้าดินมีอานุภาพแข็งแกร่งกว่าพลังปราณและอนุภาคพลังงานเพียงอย่างเดียว
ระหว่างการแข่งขัน ฟางผิงใช้สะพานฟ้าดินเปลี่ยนเป็นพลังฟ้าดิน หลังจากเกิดเรื่องนั้นก็ใช้พลังปราณและพลังจิตใจจำนวนมากบ่มเพาะเข้าไปอีก นี่ทำให้สะพานฟ้าดินทนทานเป็นพิเศษ
เวลานี้น้ำแร่พลังงานที่ดูดซับมา บางทีอาจจะสามารถใช้คำเรียกที่พวกผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำใช้ว่า ‘น้ำแร่แห่งชีวิต’ แทนได้เช่นกัน
นี่ไม่ใช่น้ำแร่พลังงานเพียงอย่างเดียว แต่ผ่านการเปลี่ยนแปลงจากต้นไม้ปีศาจขั้นเก้ามาก่อนแล้ว แฝงไปด้วยพลังชีวิตอีกมากมาย
พลังงานพวกนี้แพร่กระจายไปทั่วสะพานฟ้าดิน พร้อมทั้งซ่อมแซมร่องรอยที่ถูกทำลายพวกนั้นไปด้วย ทำให้สะพานฟ้าดินยิ่งบวมป่องและบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ…
ฟางผิงยังคงรับรู้ได้ เห็นสะพานฟ้าดินทั้งห้ายิ่งเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ…ก็อยากร้องไห้ขึ้นมาอยู่บ้าง
“นี่ยังเป็นสะพานฟ้าดินอยู่หรือไง?”
“เดี๋ยวยังจะสามารถเก็บเข้าไปในร่างกายได้หรือเปล่า?”
สะพานฟ้าดินไม่ถือว่าเป็นรูปธรรม คล้ายๆ กับประตูซานเจียว มีการคงอยู่อย่างไร้รูปร่าง
แต่เวลานี้…แทบไม่ไร้รูปร่างแล้ว นี่เกือบจะกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้แล้ว!
‘แผ่นแป้ง’ ที่ใหญ่ขนาดนี้ ตัวเองจะเก็บเข้าไปในร่างกายยังไง?
ฟางผิงกำลังขบคิดเรื่องนี้อยู่ ตาเฒ่าหลี่ก็ครุ่นคิดเช่นกัน บีบสะพานฟ้าดินพร้อมทั้งพึมพำว่า “ใหญ่เกินไปแล้ว อาจจะเก็บกลับร่างกายไม่ได้เสมอไป…”
นี่ถ้าเก็บไม่ได้ ฟางผิงต้องกลายเป็นคนพิการแล้ว
อาจไม่นับว่าเป็นคนพิการเหมือนกัน เก็บกลับไปในร่างกายไม่ได้ ภายหลังเขาทำได้แค่นำสะพานฟ้าดินมาไว้ข้างนอก จุดอ่อนที่ใหญ่ขนาดนี้ ต่อสู้กันตัวต่อตัว งั้นนี่ก็กลายเป็นเป้าโจมตีแล้ว หากทำให้ระเบิดได้ เกรงว่าฟางผิงจะบาดเจ็บหนักจนร่วงจากขั้นปัจจุบันไปได้แล้ว
“ลองดูสิ เอาเก็บกลับไปได้หรือเปล่า!” ตาเฒ่าหลี่ตะโกนเบาๆ
ฟางผิงได้ยินก็เริ่มลองดู เพิ่งเก็บไปไม่ถึงครึ่ง ฟางผิงก็ลิ้นจุกปากราวกับกินจนอิ่มแล้ว เอ่ยอย่างยากลำบากว่า “ไม่ได้ รู้สึกเหมือนจะจุกตาย!”
ตาเฒ่าหลี่อับจนหนทางอยู่บ้าง ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “งั้นก็บีบต่อ ลองบีบให้เล็กลงอีกหน่อย!”
ฟางผิงไม่คิดชักช้า เริ่มบีบอัดขึ้นมา ตาเฒ่าหลี่ให้ความร่วมมือด้วยเช่นกัน
แผ่นแป้งที่มีขนาดเท่าอ่างล้างหน้าค่อยๆ เริ่มหดลงเรื่อยๆ พลังงานกลับยิ่งเข้มข้นขึ้นไม่หยุด
ตาเฒ่าหลี่พึมพำว่า “ถ้าเธอระเบิดตัวเอง พลังทำลายล้างจะมากกว่าคนอื่นซะอีก”
ฟางผิงใบหน้าดำคล้ำ ตาเฒ่าคิดอะไรอยู่กัน?
ทำไมถึงคิดไปถึงเรื่องระเบิดตัวเองที่โหดร้ายขนาดนั้นได้?
ไม่สนใจเขาอีก ฟางผิงมองสะพานฟ้าดินที่หดลงอย่างไม่หยุดหย่อน พึมพำว่า “จะบีบจนกลายเป็นจินตันหรือเปล่า? นี่ผมจะบุกเบิกเส้นทางเป็นเซียนแล้วสินะ”
“อย่ามาไร้สาระ!”
ตาเฒ่าหลี่ด่าอย่างไม่สบอารมณ์ “อย่าคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนั้นอีก เรื่องฝึกเป็นเซียนมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ไม่ว่าจะจริงหรือเปล่า ตอนนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นพวกนอกรีตนอกทาง! เซียนฝึกความเป็นอมตะ ผู้ฝึกยุทธ์ฝึกตัวเอง! เป็นหนึ่งเดียวทั้งข้างในและข้างนอก ร่างทองไม่แตกสลาย พลังจิตใจคงอยู่ตลอดไป นี่ถึงเป็นทางที่ถูกต้อง! อย่าคิดว่าเทพเซียนจะดีกว่าผู้ฝึกยุทธ์ ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเราสามารถสังหารเทพทำลายเซียนได้ แข็งแกร่งด้วยตัวเองถึงจะเป็นรากฐานที่สำคัญ!”
ฟางผิงเห็นเขาพูดออกมายกใหญ่ก็เอ่ยอย่างไร้คำพูดว่า “ผมแค่พูดไปเท่านั้น คุณจะจริงจังขนาดนี้ทำไม”
“เตือนสติเธอเฉยๆ อย่าได้เดินไปผิดทาง แม้บนโลกจะมีเทพเซียนจริงๆ เจอกับฉันก็พินาศแค่หมัดเดียวเท่านั้น!”
ตาเฒ่าหลี่มั่นอกมั่นใจและบ้าคลั่งเป็นพิเศษ
แม้จะมีเทพเซียนจริงๆ เจอกับพวกเขา มีแต่ต้องตายเท่านั้น!
ร่างทองขั้นแปดไม่ดับสลาย พลังจิตใจคงกระพัน นอกจากผู้ฝึกยุทธ์แล้ว ใครจะจัดการได้อีก?
“เอาเถอะ ไม่แปลกใจแล้วที่ชื่อวิชาพวกนั้นของผู้ว่าจางจะบ้าๆ บอๆ แบบนั้น”
ฝึกวิชาเป็นเรื่องที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์อยู่ยงคงกระพัน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าวิธีฝึกแบบนั้นคือทางที่ถูกต้อง เป็นวิธีของสากล
ผู้ฝึกยุทธ์ยังมั่นใจในตัวเองเป็นพิเศษ ไม่คิดว่ายังจะมีเส้นทางอื่นสามารถก้าวผ่านเส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ได้ ถ้ำใต้ดินแข็งแกร่งขนาดนี้ อันที่จริงก็ฝึกวรยุทธ์เช่นกัน ฝึกร่างกายตัวเอง ไม่ใช่สิ่งของภายนอก
ฟางผิงพูดว่าจะบุกเบินเส้นทางใหม่ ในความคิดของตาเฒ่าหลี่ นั่นเป็นการปล่อยวางเส้นทางที่ถูกต้อง เลือกเดินวิธีลัด
นี่เป็นเส้นทางแห่งการแข่งขัน ฟางผิงพูดเหมือนเป็นเรื่องเล่นๆ ตาเฒ่าหลี่กลับมองว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่อาจมองเป็นเรื่องเล่นๆ ได้
ทั้งสองคนไม่พูดกันอีก บีบสะพานฟ้าดินให้เล็กลงต่อไป
แผ่นแป้งขนาดใหญ่ค่อยๆ หดลงเหลือแค่ขนาดของชาม
เวลานี้ไม่อาจหดได้อีกแล้ว
ตาเฒ่าหลี่เห็นแบบนั้นก็หอบหายใจเล็กน้อย “ลองดูสิ พอจะเอากลับไปได้หรือเปล่า”
ฟางผิงไม่ชักช้าเช่นกัน รีบลองทำตาม
ครั้งนี้ราบรื่นกว่าก่อนหน้านี้มาก สามารถเก็บเข้าไปได้แล้ว
ชั่วพริบตาที่เก็บเข้าไปในร่างกาย จู่ๆ ร่างของฟางผิงก็ขยายขึ้นมา ฟางผิงตกใจจนเอ่ยอย่างหวาดกลัวว่า “แม่งเหอะ จะจุกตายอยู่แล้ว!”
ตาเฒ่าหลี่ขมวดคิ้วทันที เอ่ยเสียงดังว่า “จะเริ่มหลอมอวัยวะภายในแล้ว! ขจัดพลังงานส่วนเกินพวกนี้ออกไป!”
ฟางผิงไม่คิดชักช้า ทั้งไม่นั่งสมาธิอีกแล้ว เปลี่ยนเป็นยืนจวงกงแทน ตั้งแต่ที่ฝึกวิชาเคลื่อนไหวในอากาศ ฟางผิงก็ไม่ค่อยได้ยืนจวงกงเท่าไหร่
ไม่ใช่แค่เขา ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปพอถึงระดับกลางจะไม่ฝึกจวงกงมากมายอีกแล้ว
แต่เวลานี้คล้อยจากการฝึกวิชาของฟางผิง เซลล์ทั่วร่างต่างกำลังสั่นไหว เริ่มดูดกลืนพลังงานในแผ่นแป้งนั้นอย่างบ้าคลั่ง
อวัยวะภายใน ตอนนี้อวัยวะตันทั้งห้าโปร่งใสเป็นพิเศษ
เนื้อหนังเริ่มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน
แต่แตกต่างออกไปจากผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำตั้งแต่เริ่มฝึกวิชาก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานทันที
อันที่จริงมนุษยชาติยังคงรักษาเอกลักษณ์ของมนุษย์ไว้ได้
ความจริงในร่างกายนั้นยังกำเนิดเป็นพลังปราณ แม้อวัยวะภายในจะเป็นพลังงาน แกนกลางยังคงเป็นเลือดเนื้อ นี่เป็นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างมนุษย์โลกและมนุษย์ถ้ำ
ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำเมื่อถึงมาตรฐานหนึ่งแล้ว อวัยวะจะกลายเป็นพลังงานทั้งหมด
อวัยวะตันทั้งห้าเริ่มโปร่งแสง อวัยวะภายในอื่นๆ ก็จะเริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่หลอมอวัยวะตัน ขั้นห้าหลอมอวัยวะกลวง อวัยวะกลวงเป็นแค่นามธรรม อันที่จริงขั้นห้านั้นหลอมอวัยวะในร่างกายที่นอกเหนือไปจากกะโหลกที่ยังไม่ถูกหลอมทั้งหมด
ขั้นห้าถือเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนเช่นกัน
ขั้นตอนนี้ผู้ฝึกยุทธ์ต้องหลอมอวัยวะที่ยังไม่ถูกหลอมทั้งหมด รวมถึงเลือดเนื้อและเส้นเลือด เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับสร้างร่างทอง
ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่และเล็ก หลอมอวัยวะภายในพวกนี้เสร็จสิ้นถึงจะนับเป็นขั้นห้าตอนกลาง
เส้นเลือดปรับเปลี่ยนใหม่แล้ว ถึงจะเป็นขั้นห้าตอนปลาย จากการแบ่งของผู้ฝึกยุทธ์ ร่างกายมีเส้นเลือดหลักสิบสี่เส้น เส้นเลือดฝอยสองร้อยหกเส้น
เส้นเลือดทั้งหมดสองร้อยยี่สิบเส้นถูกปรับเปลี่ยนใหม่แล้วถึงจะเป็นขั้นห้าตอนปลาย
ส่วนขั้นห้าสูงสุดกลับเป็นหลังจากเลือดเนื้อถูกเปลี่ยนแปลงแล้ว
ผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์เมื่อถึงขั้นห้าสูงสุด นอกจากหัวแล้ว แทบจะถอดเปลี่ยนกระดูกทั้งหมด
ขั้นหกปิดผนึกประตูซานเจียว ฝึกพลังจิตใจ ขั้นตอนนี้จะฝึกในเรื่องค่อนข้างนามธรรม
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า ฟังดูเหมือนขั้นตอนหลอมยุ่งยาก มีหลายแห่งต้องหลอม แต่ความยากในการหลอมกลับไม่สูงเท่าไหร่ ตอนที่ร่างกายถูกหลอมอย่างลึกล้ำ การหลอมขององค์ประกอบต่างๆ จะง่ายขึ้นแล้ว
ผู้ฝึกยุทธ์บางคนอาจจะติดอยู่ในขั้นสี่ตอนต้นไปชั่วชีวิต ไม่อาจสร้างหัวใจใหม่ได้ แต่ในสถานการณ์ทั่วไป ขอแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าสิ้นเปลืองเวลาหน่อย ไม่ช้าก็เร็วจะสามารถฝึกถึงขั้นห้าสูงสุดได้
ขั้นห้าสูงสุดทะลวงถึงขั้นหก ทำให้ประตูซานเจียวที่ไร้รูปร่างเป็นรูปธรรมขึ้นมา กลับเป็นเรื่องยากอย่างหนึ่ง ขั้นหกไม่ได้ทะลวงง่ายๆ ขนาดนั้น
———————-