ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 383 ถ้ำใต้ดินน่ากลัวเกินไปแล้ว (2)
ฟางผิงใบหน้าซีดเผือด พลังจิตใจถูกสั่นสะเทือนหลายครั้ง ทำให้เขามึนหัวไปหมดแล้ว
ฉันแค่จะมาขโมยหินพลังงานระดับต่ำที่พวกนายไม่ต้องการแค่เล็กน้อยเท่านั้น!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้!
จำนวนที่ฉันขโมยมายังไม่เยอะเท่าที่พวกนายทำให้ระเบิดด้วยซ้ำ
จำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยหรือไง?
เพื่อหินพลังงานเล็กน้อยแค่นั้น ต้นไม้ปีศาจขั้นเก้าถึงกับลงมือไล่ฆ่าด้วยตัวเอง ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือไง!
เคยเห็นบริษัทเหมืองแร่ที่ไหนถูกขโมยเศษวัสดุแล้วประธานบริษัทไล่ตามด้วยตัวเองบ้าง?
‘เปรี้ยง!’
ฟางผิงยังคงอยู่ระหว่างการวิ่งหนี บนท้องฟ้ากลับมียอดฝีมือขั้นเจ็ดลงมือแล้ว
ตบฝ่ามือลงมาจากอากาศ แผ่นดินปริแยก!
เศษหินจำนวนมากกดทับลงมา ฟางผิงกลับไม่หยุดฝีเท้าแม้แต่น้อย ตรงดิ่งทะลวงเศษหินพวกนั้นไป บนร่างถูกหินบาดจนเกิดเป็นบาดแผลหลายแห่ง
“ตาเฒ่าหลี่อยู่ไหนเนี่ย?”
ฟางผิงแทบจะร้องไห้ออกมารอมร่อ ตอนนี้เขาถูกจับตามองแล้ว อยากหนีไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อวานเขาซ่อนตัวภายในเมืองได้ นั่นเพราะว่าทางเดินใต้ดินในเมืองมีมากมาย ยอดฝีมือขั้นเจ็ดขั้นแปดพวกนี้ไม่อยากทำลายเมืองราชาเช่นกัน
แต่ตอนนี้ต้นหลิวปีศาจเป็นฝ่ายเริ่มถล่มเมืองไปกว่าครึ่งแล้ว
ยังไงก็เกิดความสูญเสียอย่างหนักไปแล้ว ยอดฝีมือขั้นเจ็ดคนนี้จึงไร้ความกังวลอีก โอบกอดความคิดที่ต้องฆ่าให้ได้ ลงมืออย่างไม่ออมแรง
ทางเดินจำนวนมากพังถล่มลงทันที!
ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป หากไม่มีสิ่งป้องกัน ทางเดินโดยรอบถูกปิดกั้นคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย ฟางผิงไม่คิดว่าตัวเองวิ่งเร็วกว่าขั้นเจ็ดหรือต่อต้านขั้นเจ็ดได้จริงๆ
—
ในเวลาเดียวกับที่ฟางผิงวิ่งหนี
ไกลจากเมืองจู้หลิวออกไปสามสิบลี้
พวกฉินเฟิ่งชิงก็กำลังวิ่งหนีเช่นกัน แต่ละคนต่างอ้าปากค้าง
ต้นหลิวยักษ์สูงเสียดฟ้าที่ระเบิดแสงสว่างจ้านั้นมันอะไรกัน?
“นี่คือปีศาจต้นไม้ผู้พิทักษ์ที่พวกเขาพูดถึงสินะ?”
“น่าจะอย่างนั้น”
“ไม่ใช่บอกว่าเคลื่อนย้ายไม่ได้หรือไง?”
“ใครจะไปรู้! ระยะไกลขนาดนี้ ฉันยังรับรู้ถึงแรงกดดันได้เลย!”
“เป็นเมืองจู้หลิว คนของพวกเราจู่โจมเมืองอย่างนั้นเหรอ?”
“…”
สามสิบลี้ไม่นับว่าใกล้ ค่อนข้างไกลอย่างมาก
แต่ต้นไม้ยักษ์ต้นนั้นยังคงเตะตาและทำให้คนหวาดผวาอย่างยิ่ง
ฉินเฟิ่งชิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ นึกไม่ถึงว่าฉันจะเคยคิดไปปล้นเมือง เบื่อการมีชีวิตแล้วสินะ
นี่หากยั่วโมโหอีกฝ่ายเข้า ตายยังไม่รู้จะตายยังไงเลย
“โชคดีที่พวกเราไม่รนหาที่ตาย!”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าดีใจ ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำพูดเรื่องต้นไม้ปีศาจผู้พิทักษ์ แน่นอนว่าแค่ฟังไปเท่านั้น เจ้าคนที่ใช้เรื่องนี้มาข่มขู่เขาเหมือนจะเป็นผู้นำหมู่บ้าน ถูกพวกเขาซ้อมจนแทบจะกลายเป็นหมูบดแล้ว
แค่ฟังมาเท่านั้น ใครจะคิดเป็นจริงเป็นจัง
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงกลับรู้สึกดีใจอย่างมาก ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ครั้งหน้าตีให้ตายก็ไม่คิดจะเข้าเมืองของถ้ำใต้ดินอีกแล้ว
หลี่หานซงที่อยู่ด้านข้างวิ่งหน้าตั้งสุดชีวิต ไม่คิดจะพูดอะไรสักคำ
นายมั่นใจนะว่าตัวเองไม่ได้รนหาที่ตาย?
ข้างหลังยังมีผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำนับร้อยคนไล่ตามฆ่าพวกเขาอยู่!
มาถ้ำใต้ดินสามวัน วิ่งมาสามวันแล้ว แทบจะไม่ได้พักหายใจสักนิดเดียว
ตอนนี้หลี่หานซงคร้านจะสนใจเมืองจู้หหลิวแล้ว เขาอยากหาที่พักสักแห่งเท่านั้น เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!
หากมีข่าวลือออกไปน่าจะไม่มีใครเชื่อ ยอดฝีมือขั้นห้าคนหนึ่งเหนื่อยตายกลางทาง
สามวัน!
วิ่งมาตั้งสามวัน!
หากร่างกายไม่แข็งแรง ทั้งดูดซับหินพลังงานไปไม่น้อย เขาคงเหนื่อยตายไปนานแล้ว
“ถูกขั้นหกหลายคนไล่ฆ่า ขั้นสี่และขั้นห้าอีกเป็นกอง นี่มันประสบการณ์อะไรกัน…”
หลี่หานซงผุดความคิดนี้ขึ้นในใจ ทั้งนึกไปถึงคำพูดของหวังจินหยาง ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่ถูกไล่ฆ่าไม่สามารถเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ดีได้
ตอนนี้ตัวเองนับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ดีแล้วสินะ?
“บางทีฉันควรจะติดตามฟางผิงตั้งแต่แรก อย่างน้อยก็ไม่ถึงกับวิ่งติดต่อสามวันสองคืนแบบนี้หรอก…”
อันที่จริงระยะห่างจากเมืองจู้หลิวสามสิบลี้ไม่ได้นับว่าไกลจนเกินไปเหมือนกัน
สำหรับพวกฟางผิง ใช้ความเร็วสูงสุด อาจจะหนึ่งร้อยเมตรต่อวินาที วิ่งสุดชีวิต หนึ่งนาทีก็สามารถวิ่งได้หลายสิบลี้แล้ว
แน่นอนว่าโดยทั่วไปวิ่งเร็วขนาดนั้น ไม่สามารถประคองเป็นเวลานานได้อยู่แล้ว
แต่ศักยภาพของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด
เผชิญกับวิกฤตระหว่างความเป็นความตาย ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้
ตอนที่หลี่หานซงมีความคิดนี้ในหัว ไกลๆ นั้นก็มีเสียงตะโกนดังตามมา
“เหล่าหลี่ ช่วยฉันด้วย!”
ทั้งไม่ได้ขุดดินต่ออีก ช้าเกินไป เขาแทบจะถูกสั่นสะเทือนตายหลายครั้งแล้ว
แต่ต่อให้เร็วแค่ไหน ก็เร็วไม่เท่าขั้นเจ็ดอยู่ดี
ตอนนี้ยอดฝีมือขั้นเจ็ดที่อยู่กลางอากาศคนนั้นแฝงไอสังหารอย่างเยือกเย็น โจมตีเข้ามาด้วยความรวดเร็ว อยากจะสังหารเขาให้ตายทันที
สาเหตุที่เขาตะโกนก็เพราะอยากให้ตาเฒ่าหลี่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
มากสุดสามสิบวินาทีเขาก็จะถูกตามทันแล้ว นั่นมีแค่ตายสถานเดียว!
เสียงตะโกนนี้ยังคงได้ยินจากที่ไกลๆ อย่างเลือนราง
หลี่หานซงชะงักไปเล็กน้อย หวังจินหยางสีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน ฉินเฟิ่งชิงกลับทำหน้าตื่นตระหนก เอ่ยอย่างรวดเร็ว “แม่งเอ้ย ฉันว่าแล้ว เขาต้องไปกวาดรังศัตรู!”
“หยุดพูดไร้สาระ เขาถูกคนไล่ฆ่าแล้ว!”
“พวกเราก็เหมือนกัน”
“ไม่เหมือน…คนที่ไล่ฆ่าเขาเป็นระดับสูง!”
คำพูดนี้หลุดจากปากหวังจินหยาง ฉินเฟิ่งชิงก็หน้าเปลี่ยนสี คำรามเบาๆ ว่า “เร็ว เปลี่ยนทาง!”
ครู่ต่อมาฉินเฟิ่งชิงก็หมุนตัววิ่งไปอีกทางอย่างไม่ลังเล
ส่วนเรื่องช่วยเหลือ ล้อกันเล่นแล้ว พวกเขาเข้าไปก็ตายฟรีเท่านั้น
หวังจินหยางไม่ชักช้าเช่นกัน วิ่งตามเขาไปอย่างบ้าคลั่ง เจ้าฟางผิงมีฝีมือกว่าพวกเขาอีก ไสหัวไปให้ไกลหน่อย ไม่งั้นได้จบเห่กันหมดแน่
หลี่หานซงวิ่งตามทั้งสองคนไปเช่นกัน วิ่งอยู่สักพักก็อดเอ่ยไม่ได้ “ไม่ช่วยเขาเหรอ?”
คนพวกนี้บ้าคลั่งกันจริงๆ!
ฉินเฟิ่งชิงบอกว่าฟางผิงอาจจะไปกวาดรังศัตรู ตอนแรกเขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
ถึงจะไป เขาคิดว่าฟางผิงคงจะแฝงตัวอยู่ในนั้น
แต่นึกถึงเสียงตะโกนก่อนหน้านี้ดังขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของต้นไม้ยักษ์นั่น ตอนนี้มีระดับสูงไล่ฆ่า…นี่นับว่าแฝงตัวหรือไง?
นี่ไปกวาดรังคนอื่นเขาอย่างแท้จริงแล้ว!
“ช่วยกับผีน่ะสิ รีบวิ่งเข้า ยิ่งห่างจากเขาเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น!”
ฉินเฟิ่งชิงหน้าดำหน้าแดง ครั้งนี้ไม่มีแรงเหลือจนตับเริ่มจะระเบิดจริงๆ แล้ว
นี่หากถูกตามทันคงตายสถานเดียว
ส่วนฟางผิง…เจ้าหมอนั่นใครจะรู้ว่าตายหรือเปล่า ตายไปก็ช่วยไม่ได้ อวดเก่งยิ่งกว่าเขาซะอีก แม่งตกลงไปทำอะไรกับเมืองจู้หลิวกัน?
ทำให้ต้นไม้ยักษ์โมโหถึงขนาดนั้น!
หลี่หานซงได้ยินคำพูดนี้ก็ตระหนักได้ว่าตัวเองถามอะไรโง่ๆ ช่วยฟางผิงไม่ไหว มีแต่ตายไปด้วยกันเท่านั้น ตอนนี้ทำได้แค่ภาวนา อย่าให้ฟางผิงเปลี่ยนใจวิ่งมาทางนี้พอ!
เสียดายที่ก่อนหน้านี้หลงคิดว่าพวกเขาถูกขั้นหกไล่ตามเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแล้ว แต่ตอนนี้…
ฟางผิงถูกระดับสูงไล่ฆ่า!
ทั้งยังไม่ใช่แค่คนเดียว ก่อนหน้านี้ต้นไม้นั่นก็ไล่ฆ่าเขาเหมือนกันสินะ?
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ฟางผิงสามารถมีชีวิตรอดจนถึงตอนนี้ได้ หลี่หานซงก็ยากที่จะเชื่อแล้ว คนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดวงแข็งกันจริงๆ!
“ครั้งนี้ถ้าฉันรอดชีวิตออกไป ครั้งหน้าก็ไม่คิดจะเข้าถ้ำใต้ดินมาพร้อมพวกเขาอีกแล้ว!”
“ไม่สิ ครั้งหน้าถ้ามีพวกเขาอยู่ในถ้ำใต้ดิน ตีให้ตายฉันก็ไม่มาหรอก!”
“ไม่ถูก ไม่ใช่แค่ถ้ำใต้ดิน ครั้งหน้าพวกเขาอยู่ที่ไหนบนโลก ฉันจะไม่ไปร่วมวงด้วยเด็ดขาด!”
ความคิดต่างๆ นานาวาบผ่านเข้ามาในหัวหลี่หานซง จะตื่นเต้นเกินไปแล้ว ตื่นเต้นจนเขารับไม่ไหวอยู่บ้าง
เดิมทีคิดว่าฉินเฟิ่งชิงและหวังจินหยางแปลกคนแล้ว ตอนนี้ดูท่า…แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด!
เวลานี้เขาไม่อาจสนใจความเป็นความตายของฟางผิงได้เช่นกัน เอาตัวเองให้รอดก่อนค่อยว่ากัน
———————–