ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 385 อย่าคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นสิ (1)
ตอนที่ 385 อย่าคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นสิ (1)
‘ตู้ม!’
เมืองจู้หลิว เกิดเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวขึ้นอีกครั้ง!
ราชาหลิวและต้นหลิวยักษ์ที่โมโหอย่างถึงที่สุดสัมผัสได้ถึงลมหายใจของจ้าวซิ่งอู่ที่แผ่กระจายมาก็ไม่คิดจะรั้งตัวอยู่ในเมืองอีก ต้นหลิวยักษ์ชักตัวขึ้นมาจากพื้นดิน กิ่งก้านจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับแขนขา เกิดเป็นระเบิดในอากาศ!
ราชาหลิวที่เปี่ยมด้วยโทสะ รวบรวมพลังงานจำนวนมากในอากาศดูดกลืนเข้าสู่ร่างกายก่อนจะจู่โจมออกไปราวกับสายฟ้าฟาด อากาศปริแตก ระเบิดจนปรากฏเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่สองออกมา
ภายใต้โทสะที่พวยพุ่งของยอดฝีมือขั้นเก้าสองคน แม้จ้าวซิ่งอู่จะฝีมือแข็งแกร่งอย่างมากก็ถูกจู่โจมจนตัวลอยกระเด็นไปหลายสิบลี้ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีก สับขาวิ่งทันที!
บ้าไปแล้ว!
ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินหนานเจียงเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว?
เขายังเห็นถึงกระทั่งเห็นฉากที่พื้นดินแตกแยก สิ่งก่อสร้างพังถล่ม ประชาชนถ้ำใต้ดินนับไม่ถ้วนตกอยู่ในความตายอย่างน่าอเนจอนาถภายใต้ความเดือดดาลของยอดฝีมือขั้นเก้าพวกนั้น
โหดเหี้ยมถึงขนาดนี้เลย!
ทั้งนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เข้าสู่ถ้ำใต้ดินสินะ?
หรือยอดฝีมือของที่นี่เป็นแบบนี้กันหมด?
ไม่แปลกใจที่เหล่าเจิ้งกลับไปรายงานว่าสงครามของถ้ำใต้ดินหนานเจียงน่าอนาถใจอย่างมาก แค่สถานการณ์ตอนนี้อู่ชวนสามารถมีชีวิตรอดได้ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์แล้ว
พวกขั้นเก้าแทบไม่สนใจกระทั่งรังของตัวเอง แค่เห็นมนุษย์ก็สู้อย่างสุดชีวิต อู๋ชวนไม่ตาย ถือเป็นเรื่องที่โชคดีแล้วจริงๆ
จ้าวซิ่งอู่เผยสีหน้าสับสน จริงๆ แล้วเขาก็เคยทำสงครามกับถ้ำใต้ดินมาบ้าง
แต่เจ้าเมืองและพืชปีศาจที่สู้สุดชีวิตขนาดนี้ พบเห็นได้น้อยจริงๆ
เขาแค่ไล่ตามมาดูเท่านั้น ไม่ได้คิดจะต่อสู้เอาเป็นเอาตายตอนนี้แต่อย่างใด
หากเป็นถ้ำใต้ดินอื่น เขาสามารถเข้าใจได้ ทุกคนรบรากันมาหลายสิบหลายร้อยปี บาดเจ็บล้มตายอย่างหนักหนาสากรรจ์
แต่ที่นี่เพิ่งจะเริ่มครั้งแรกเท่านั้น!
“แต่ว่า…ใครทำเมืองพังถล่มกัน?”
เห็นประกายแสงสีทองอ่อนจากที่ไกลๆ นั้น จ้าวซิ่งอู่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ พึมพำว่า “ไม่ถูกสิ ตอนแรกที่ฉันเจอหลี่ฉางเซิง เขา…เขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
จ้าวซิ่งอู่มึนไปหมดแล้ว!
หลี่ฉางเซิงไม่ตาย จากนั้นยังล่อขั้นเก้าคนหนึ่งมาให้เขา
ขั้นเก้าคนนี้ไม่ได้ไปล้อมฆ่าอู๋ชวน แต่มาไล่ตามหลี่ฉางเซิง
นี่เป็นสิ่งที่แปลกมากอย่างหนึ่ง ตามหลักแล้ว หากอีกฝ่ายจะไล่ฆ่าก็ควรไล่ฆ่าอู๋ชวนสิ สำหรับยอดฝีมือโดยปกติต้องล้อมฆ่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก่อน ที่เหลือแทบจะเป็นลูกไก่ในกำมือเท่านั้น
แต่เมื่อกี้กลับเจอขั้นเก้าคนนั้นไล่ฆ่าหลี่ฉางเซิง หรือเป็นเพราะหลี่ฉางเซิงสังหารขั้นแปดของอีกฝ่าย?
อีกอย่างเมืองของพวกเขายังถูกระเบิด ใครสามารถระเบิดเมืองของอีกฝ่ายในสถานการณ์ที่มีพืชปีศาจเฝ้าดูแลอยู่กัน?
อู๋ชวน?
ไม่สิ ลมหายใจของอู๋ชวน จนถึงตอนนี้เขายังสามารถสัมผัสได้ อยู่ตั้งไกล!
เป็นฝีมือของหลี่ฉางเซิง?
หลี่ฉางเซิงยังสามารถระเบิดเมืองใต้หูใต้ตาพืชปีศาจขั้นเก้าได้?
จ้าวซิ่งอู่ไม่เข้าใจอย่างยิ่ง ช่างเถอะ ไม่สนใจแล้ว ตอนนี้พวกขั้นเก้ายังอยู่ในอาการบ้าคลั่ง
เข้าถ้ำใต้ดินครั้งแรก ไม่ใช่เพื่อสู้ชี้เป็นชี้ตาย แต่เพื่อวางรากฐานให้มั่นคง
เวลานี้ต่อสู้สุดชีวิตกับอีกฝ่ายไม่ได้มีประโยชน์มากเท่าไหร่
ทั้ง…เขาออกมา พวกขั้นเก้าก็ไม่ตามต่ออีก อยู่เฝ้าที่รังของตัวเอง นี่มันเรื่องอะไรกัน?
“ไม่ไปเฝ้าทางเดินหรือไง?”
“สถานการณ์ของถ้ำใต้ดินหนานเจียง มองไม่ออกอยู่บ้างจริงๆ”
“…”
ชั่วชีวิตนี้ของจ้าวซิ่งอู่ เคยไปถ้ำใต้ดินมาไม่น้อย
เมืองในถ้ำใต้ดิน รวมกับที่นี่เป็นยี่สิบสามแห่ง เขาแทบไปมาหมดแล้ว
แต่สถานการณ์ของถ้ำใต้ดินหนานเจียง เขาไม่เข้าใจอยู่บ้าง
มีแต่เรื่องแปลกๆ!
เมืองที่อยู่ใกล้กับทางเดินมากที่สุดแห่งนี้ พวกขั้นเก้าที่อยู่ภายในเมืองนึกไม่ถึงว่าจะถอยกลับไม่สู้อีกแล้ว แปลกหรือเปล่าล่ะ!
จ้าวซิ่งอู่สะบัดหัวเล็กน้อย ช่างเถอะ ไม่สนใจแล้ว ไปช่วยอู๋ชวนแล้วกลับไปที่ทางเดินดีกว่า!
—
หนึ่งชั่วโมงกว่าหลังจากนั้น
ปากทางเดิน
อู๋ชวนและจ้าวซิ่งอู่ต่างมีสีหน้างงงวย ผ่านไปสักพัก จ้าวซิ่งอู่ก็ทนไม่ไหวอีก ถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ไม่สู้แล้วงั้นเหรอ? นี่คือปล่อยให้พวกเราสร้างเมือง? จะเป็นกลลวงหรือเปล่า?”
ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น!
เมื่อก่อนบุกเบิกสร้างฐานทัพในถ้ำใต้ดิน หากไม่ถึงขั้นต่อสู้จนไร้เรี่ยวแรง อีกฝ่ายคงไม่เลิกรา
เพราะถ้ำใต้ดินครองความได้เปรียบเรื่องจังหวะ โอกาสและพื้นที่ มนุษย์ไม่สามารถส่งยอดฝีมือเข้ามาเยอะเกินไป ไม่งั้นจะทำให้อีกฝ่ายส่งยอดฝีมือมามากกว่าเดิม
ดังนั้นในสถานการณ์ทั่วไป ขั้นเก้าของมนุษย์จะเข้ามาแค่คนสองคน คนที่สองแทบจะไม่ได้ลงมือ หลักๆ จะเพื่อป้องกันในสถานการณ์ที่อีกฝ่ายเป็นคนลงมือก่อนเท่านั้น
ตอนนี้ล่ะ?
สถานการณ์ถ้ำใต้ดินไม่ถือว่าดีเท่าไหร่ สองเมืองร่วมมือกัน เวลานี้จ้าวซิ่งอู่จึงได้เข้ามา
พวกเขาเฝ้าที่รังไม่ออกมา ทั้งยังกลับไปที่รังอย่างเร่งรีบ ไม่ยอมออกมาอีก
อู๋ชวนมึนงงเช่นกัน ขมวดคิ้วว่า “บางทีอาจจะมีกบฏ! แต่ไม่สนแล้ว เรื่องที่เร่งด่วนในตอนนี้คือครองอาณาเขตทางเดิน บุกเบิกฐานทัพ! ยิ่งยืดเวลาออกไปมากเท่าไหร่ก็จะเป็นประโยชน์กับพวกเรามากเท่านั้น! ขอแค่ทางเดินมั่นคง พวกเราเฝ้าระวังที่นี่ไว้ คนของพวกเราก็จะสามารถเข้าออกได้ตามใจแล้ว ถึงเวลานั้นปรับสถานการณ์ต่อสู้ตามศัตรูจะดีมากกว่าตอนนี้”
ทุกคนเสี่ยงอันตรายเข้าสู่ถ้ำใต้ดินก็เพื่อความมั่นคงในภายหลัง
ก่อนหน้านี้กังวลว่าคนของถ้ำใต้ดินจะออกไปก่อน ดังนั้นจึงเสี่ยงอันตรายเข้ามา
ตอนนี้นอกจากคนของถ้ำใต้ดินจะไม่ออกไป ยังเฝ้าอยู่ที่รังไม่เคลื่อนไหว งั้นพวกเขาคงไม่อาจเป็นฝ่ายไปหาเรื่อง รอดูไปละกัน ใครจะอยู่ได้นานกว่าใคร
แม้ทั้งสองคนจะไม่ค่อยเข้าใจนักว่าตกลงเป็นเพราะสาเหตุอะไร แต่นี่เป็นเรื่องดี
หากคนของถ้ำใต้ดินแต่ละแห่งพูดง่ายแบบนี้หมด อาจจะไม่มีการต่อสู้ด้วยซ้ำ
แม้จะคิดอย่างนั้น ทั้งสองคนก็ไม่กล้าผ่อนคลายอยู่ดี
อู๋ชวนยิ่งแล้วใหญ่ เขาไม่ลืมว่าวันแรกที่เขามา อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับทางเดินขนาดไหน
ยกโขยงกันมาทั้งเมือง!
แทบจะล้อมฆ่าพวกเขาทั้งหมดแล้ว!
หากไม่ใช่สุดท้ายหลี่ฉางเซิงระเบิดพลังสังหารขั้นแปดคนหนึ่ง ทำให้สถานการณ์โดยรวมวุ่นวาย…
ใช่ หลี่ฉางเซิง!
จู่ๆ อู๋ชวนก็เอ่ยว่า “เกิดอะไรขึ้นกับฉางเซิง?”
จ้าวซิ่งอู่มองเขาด้วยใบหน้างุนงง นายถามฉัน? ฉันยังไม่ได้ถามนายเลย!
หลี่ฉางเซิงเป็นมายังไงกันแน่!
ทั้งสองคนมองหน้ากัน ปวดหัวอยู่บ้าง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
สถานการณ์ตอนนี้มองไม่ออกอยู่บ้างแล้ว
—
ในเวลาเดียวกัน
สถานที่ที่ห่างจากทางเดินหกร้อยกว่าลี้ ห่างจากเมืองจู้หลิวสามร้อยกว่าลี้
พวกเขากำลังปีนขึ้นมาจากพื้นดินอย่างระมัดระวัง
เห็นฟางผิงดูคุ้นชิน หลี่หานซงอดเอ่ยไม่ได้ “นาย…นายขุดถ้ำได้เร็วชะมัด”
ฟางผิงชำเลืองมองเขา เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ขุดแร่เป็นทักษะที่จำเป็นอยู่แล้ว นายคงจะไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่มีความรู้เรื่องนี้หรอกนะ! นายดูพวกฉินเฟิ่งชิงสิ ใครขุดดินไม่เก่งบ้าง”
ฉินเฟิ่งชิงกลับไม่คิดว่ามีอะไรไร้ความเหมาะสม ถ่มดินออกมา ส่ายหัวว่า “ไม่ได้ขุดดินตั้งนานแล้ว ทำไม นายไม่เคยขุดดินมาก่อนหรือไง?”
ระหว่างที่พูด ฉินเฟิ่งชิงก็มองหลี่หานซงอย่างแปลกประหลาดอยู่บ้าง “ไม่มั้ง? ฉันอยู่ขั้นสามยังขุดดินตั้งหลายครั้ง แต่แค่ขุดไม่เจอเท่านั้น นายไม่เคยขุดมาก่อนจริงๆ?”
“เอ่อ…”
หลี่หานซงรู้สึกอับอายขึ้นมาอีกครั้ง!
ที่แท้การขุดดินเป็นทักษะที่สำคัญ นึกไม่ถึงว่าฉันจะทำไม่เป็น น่าอายเกินไปแล้ว
ระหว่างที่พูดหลี่หานซงก็มองไปทางหวังจินหยาง ถ้ำใต้ดินหนานเจียงเพิ่งจะอุบัติ นายก็คงขุดไม่เป็นสินะ?
หวังจินหยางยิ้มบางๆ “อย่าฟังพวกเขาพูดไร้สาระ ขุดดินหลักๆ เพื่อหลบหนีจากการไล่ฆ่า ลมหายใจของพวกเราชัดเจนเกินไป แต่คลุกตัวอยู่ในดินลึกหลายสิบเมตร ขั้นเจ็ดทั่วไปก็ยากที่จะค้นเจอพวกเราแล้ว”
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือฉันขุดดินเป็นเหมือนกัน ทั้งยังนับว่าช่ำชองด้วย
“ถ้ำใต้ดินอื่นๆ ต้องเอาตัวรอดแบบนี้หมดหรือเปล่า?”
จู่ๆ หลี่หานซงก็เห็นใจพวกเขาอยู่บ้าง ที่แท้สถานการณ์ของถ้ำใต้ดินอื่นเลวร้ายถึงขนาดนี้!
ชั่วชีวิตนี้ของเขาเคยไปแค่ถ้ำใต้ดินปักกิ่งเท่านั้น
ที่นั่นผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้เป็นแบบนี้
ที่นั่นผู้ฝึกยุทธ์จะต่อสู้ซึ่งๆ หน้า ทั้งน้อยครั้งที่จะถูกไล่ฆ่า
ที่แท้ถ้ำใต้ดินปักกิ่งไม่เหมือนที่อื่นนี่เอง
ตาเฒ่าหลี่ชำเลืองมองเขา ปัญญาอ่อน!
แม่งใครจะไปอยู่รอดใต้ดินได้
ไอ้เวรตะไลพวกนี้ ชอบหาเรื่องถูกไล่ฆ่าบ่อยๆ ต่างหาก ตั้งแต่ขั้นสามถูกไล่ฆ่าจนถึงขั้นห้า ยังจะมีใครเป็นเหมือนพวกเขาอีก?
ถ้ำใต้ดินอื่นๆ รวมถึงถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ แม้มนุษย์จะออกนอกเมือง ก็ไม่อาจเข้าไปลึกจนเกินไป
ตอนนี้กลายเป็นสงครามยืดเยื้อแล้ว เข้าไปรังศัตรูลึกก็จะถูกไล่ฆ่าน้อยลงแล้ว
เธอคิดว่าทุกคนเป็นแบบเจ้าสามคนนี่หมดหรือไง ไม่มีอะไรทำก็ไปหาเรื่องแหย่ระดับสูง?
เห็นหลี่หานซงทำหน้านับถือและเห็นใจ ตาเฒ่าหลี่ก็คิดว่าเจ้าเด็กนี่รีบกลับไปเร็วๆ จะดีกว่า ไม่งั้นตายยังไม่รู้จะตายยังไงเลย
———————-