ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 387-2 ควรจะหาที่ลงหลักปักฐานได้แล้ว (2)
ตอนที่ 387 ควรจะหาที่ลงหลักปักฐานได้แล้ว (2)
อู๋ชวนเผยสีหน้าหมดคำพูด ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยว่า “จากนั้นเพราะพลังงานเข้มข้นมากเกินไป แหล่งแร่เลยพลอยระเบิดไปด้วย?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผมตั้งใจ ก่อนหน้านี้ผมตั้งใจเทน้ำแร่พลังงานไว้ก็เพื่อแผนการในวันนี้ ผมรู้ว่าพลังานไม่ได้สลายเร็วขนาดนั้น ดังนั้นจึงไประเบิดเมืองของอีกฝ่าย!”
คำพูดนี้ยากที่จะแยกแยะว่าจริงหรือไม่จริง โอกาสที่เป็นเรื่องบังเอิญแตะสูงถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์
แต่ฟางผิงพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนจึงไม่อาจโต้แย้งอะไรได้
อู๋ชวนฟังอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยหยอกว่า “ไอ้หนู ดวงเธอแข็งจริงๆ มีชีวิตรอดได้ก็ไม่ง่ายแล้ว ระเบิดแหล่งแร่ใต้ดินของเมืองราชา อันที่จริงพวกเราเคยคิดลองมาก่อนเหมือนกัน แต่จำเป็นต้องเข้าไปในเขตใจกลาง แต่เข้าเขตใจกลาง นั่นก็หมายความว่าต้องบุกเข้าไปในเมืองราชาโดยตรง เธอกลับจับผลัดจับผลูเข้าไประเบิดแหล่งแร่รอบนอกได้…”
ปาฏิหาริย์ที่ยากจะเลียนแบบได้จริงๆ!
ฟางผิงไม่สนใจว่าเขาจะพูดอะไร เอ่ยทันที “รุ่นพี่อู๋ คุณว่าผมทำลายเมืองราชาไปตั้งครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยรัฐบาลจะให้รางวัลผมสักหลายพันหลายหมื่นล้านได้หรือเปล่า?”
อู๋ชวนหุบปากลงทันที
จ้าวซิ่งอู่เอ่ยอย่างขำขันว่า “เกรงว่าจะยากแล้ว แต่หลายสิบล้าน…”
ฟางผิงไม่ชักช้า วางกระเป๋าหนังสัตว์ประหลาดไว้ข้างหน้า เปิดปากกระเป๋าออกแล้วก็นวดไหล่ตัวเองอย่างส่งๆ พึมพำว่า “แบกซะเหนื่อยเชียว ของแค่ไม่กี่พันล้าน นึกไม่ถึงว่าจะหนักเอามากๆ”
หลี่หานซงที่อยู่ด้านข้างหน้าแดงขึ้นมาอยู่บ้าง ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ชัดเจนขนาดนี้สักหน่อย
ต้องการจะบอกว่าไม่ให้ค่ารางวัลเล็กน้อยแค่นั้นสินะ
อู๋ชวนและจ้าวซิ่งอู่ใบหน้าแข็งทื่อไปอยู่บ้าง ไอ้หนูนี่ คิดว่าพวกเราไม่กล้าปล้นเธอหรือไง?
ทั้งสองคนยังไม่ทันพูด ฟางผิงก็ทุบกำปั้นลงไปแล้ว ทำให้กรงเล็บที่แอบยื่นมาจมลงไปในดิน ฟางผิงใบหน้าดำคล้ำ ฉินเฟิ่งชิงคงไม่ได้เสียสติไปแล้วสินะ ฉันแค่พูดไปเท่านั้น คิดว่าไม่ชอบของหนักจริงๆ หรือไง?
ฉินเฟิ่งชิงเก็บมือกลับเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ฉันแค่ดูเท่านั้น นายแม่งคิดจะตีใครก็ตีเลย ขี้เหนียวชะมัด
ถือโอกาสนี้อู๋ชวนจึงหลบจากหัวข้อสนทนานี้ไป เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “พูดแบบนี้ ในช่วงเวลาสั้นๆ เมืองจู้หลิวอาจออกมาจู่โจมไม่ได้เสมอไปสินะ เอาแบบนี้ละกัน หลังวันมะรืนทางเดินจะเสถียรเป็นครั้งที่สาม ฟางผิง พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”
ฟางผิงละล่ำละลักเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “รุ่นพี่อย่าเป็นห่วงพวกเราเลย พวกเราไม่เป็นไร ยังทำสงครามต่อได้”
อู๋ชวนกระแอมไอเบาๆ โจวติ้งกั๋วที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างอู้อี้ว่า “เอ่อ…พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้เมืองจู้หลิวอาจไม่ออกมาจู่โจมเสมอไป แต่ถ้าพวกเธออยู่ที่นี่…เอ่อ…จะกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดการต่อต้านขึ้นมาได้…”
เธอไประเบิดเมืองราชาของคนอื่นเขาไปกว่าครึ่ง พวกเธออยู่ที่นี่ บางทีขั้นเก้าพวกนั้นอารมณ์ไม่ดี อาจจะพยายามบุกมาฆ่าอย่างสุดชีวิตก็ได้ นั่นจะยิ่งเพิ่มปัญหาเข้าไปอีก
แน่นอนว่าพูดประโยคพวกนี้ออกมา จะเป็นการทำร้ายจิตใจคนเกินไป
ฟางผิงเผยสีหน้าหมดคำพูด นี่จะไล่คนแล้ว?
ฉินเฟิ่งชิงไม่ยินยอมเช่นกัน เอ่ยทันที “นี่ไม่เกี่ยวกับผม ฟางผิงกลับไปคนเดียวก็พอ”
“เธอไม่ได้บอกว่าทำลายเมืองเล็กๆ ไปหลายแห่งหรือไง?”
อู๋ชวนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ครุ่นคิดเล็กน้อย “กลับไปก่อนเถอะ ไม่ได้จะปฏิเสธผลงานของพวกเธอ แต่อยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัยจริงๆ หากขั้นเก้ามาโจมตี ภายใต้การปะทะของพวกเรา เป็นเรื่องยากที่จะคุ้มครองพวกเธอ ประจวบเหมาะที่ผู้ว่าจางและอธิการหลิวได้รับบาดเจ็บหนักพอดี ครั้งนี้พวกเธอกลับไปพร้อมกันเถอะ สถานการณ์ของถ้ำใต้ดินหนานเจียงดีกว่าที่พวกเราคาดการณ์ไว้เล็กน้อย ถ้ารักษาสถานการณ์เหมือนตอนนี้ต่อไปได้ ก็จะมีเวลาให้พวกเราได้เตรียมตัวมากขึ้น”
อู๋ชวนสีหน้าหนักแน่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ไม่อาจกระตุ้นให้ยอดฝีมือของถ้ำใต้ดินทำถึงขั้นทุ่มสุดชีวิตได้แล้ว อันที่จริงหากจะทำลายเมืองจู้หลิวจริงๆ ประเทศจีนก็มีความสามารถนี้ แต่หากเป็นแบบนั้น พวกศัตรูเห็นใจชะตากรรมของพวกเดียวกัน เมืองถ้ำใต้ดินแห่งอื่นๆ ต้องโต้กลับอย่างดุเดือดแน่!”
ฟางผิงเงียบลงทันที ผ่านไปสักพักก็แค่นเสียงว่า “เข้าใจแล้วครับ สรุปแล้ว ถ้ำใต้ดินสามารถฆ่าคนของพวกเรา สังหารยอดฝีมือของพวกเรา พวกเราทำได้แค่ข่มกลั้น อดทนไว้เท่านั้น แม้จะสามารถทำลายอีกฝ่ายก็ไม่อาจทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง ต้องเห็นแก่ภาพรวมเป็นหลัก! ภาพรวม ภาพรวมก็คือการสละชีวิตของคนอื่น ช่วยเหลือมนุษยชาติทั้งหมดให้สมปรารถนา! ภาพรวมแบบนี้ บางครั้งก็ทำให้คนอัดอั้นตันใจจนแทบคลั่ง! ครั้งนี้พวกเราตายไปตั้งเยอะ…”
อู๋ชวนเงียบไม่ปริปาก จ้าวซิ่งอู่แววตามืดหม่นลง โจวติ้งกั๋วกำหมัดแน่น กดเสียงว่า “สิ่งที่เธอพูดมาทั้งหมด พวกเราสามารถเข้าใจได้ ทั้งรู้สึกอย่างลึกซึ้งเช่นกัน! แต่สถานการณ์เป็นแบบนี้ พวกเราทำได้เพียงยึดตามกฎเท่านั้น! ใช่แล้ว ตอนนี้ทำลายเมืองถ้ำใต้ดินหลายแห่ง หรือถึงกระทั่งกำราบถ้ำใต้ดินหนึ่งถึงสองแห่ง พวกเราสามารถทำได้ ทั้งระบายความโกรธได้เหมือนกัน! แต่ระบายความโกรธแล้วหลังจากนั้นล่ะ? พวกเราทำได้แค่อดทน ทำได้แค่รอ แต่ตอนนี้ดูท่าทุกอย่างคงคุ้มค่าแล้ว! ยอดฝีมือรุ่นใหม่อย่างพวกเธอกำลังโดดเด่นขึ้น! ผู้ฝึกยุท์ขั้นเจ็ดขึ้นไปกำลังเพิ่มจำนวนขึ้น อัจฉริยะนับวันก็ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ มนุษยชาติต้องการเวลา!”
“ฟางผิง เธอเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมทั่วไป บางครั้งภาพรวมที่เธอเกลียดชัง อาจจะเป็นสิ่งที่เธอควรจะตระหนักถึง! วันนี้คนที่ตายไปเป็นแค่คนส่วนหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์อาวุโสส่วนหนึ่ง แต่หากปะทุสงครามเต็มรูปแบบ นักศึกษาเซี่ยงไฮ้นับพันคน เกรงว่าต้องลงสู่สนามรบถ้ำใต้ดินทั้งหมดแล้ว คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องตายไป เธอว่าให้เธอเลือก เธอจะเลือกยังไง?”
ฟางผิงไม่พูดอีก
คนอื่นๆ ก็ปิดปากเงียบเช่นกัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ หวังจินหยางเอ่ยเบาๆ ว่า “ผู้บัญชาการโจว พวกผู้ว่า…”
โจวติ้งกั๋วมองหวังจินหยางแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “อธิการเฉินและหัวหน้าโจวตายในสงครามแล้ว…ระเบิดตัวเอง ร่างหาไม่เจอ ขอโทษด้วย ผู้ว่าจางและอธิการหลิวบาดเจ็บไม่น้อย ตอนนี้กำลังรักษาตัวอยู่ รอทางเดินเสถียร พวกเธอกลับไปพร้อมกันเถอะ”
หวังจินหยางกำหมัดแน่น ผ่านไปก็พักก็เอ่ยว่า “เข้าใจแล้วครับ”
ทุกคนจมดิ่งในความเงียบอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างเกียจคร้านว่า “ยังไม่ได้พูดเรื่องรางวัลเลย ผู้บัญชาการโจว พวกเราสร้างผลงานใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่พูดว่าจะได้รางวัลอะไร แต่ทางหน่วยทหาร รับตำแหน่งแม่ทัพเป็นเรื่องยากหรือเปล่า?”
ฉันกำลังจะเรียนจบแล้ว ควรหาที่ลงหลักปักฐานสักหน่อย
โจวติ้งกั๋วมองเขาอย่างลึกล้ำ ผ่านไปพักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “ถ้าจะห้อยตำแหน่งเฉยๆ ผู้บัญชาการกองทำได้…”
“ห้อยตำแหน่ง? ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนี้ ผมหมายถึงทำอย่างเต็มรูปแบบ…”
โจวติ้งกั๋วสูดลมหายใจเข้าลึก เนิ่นนานก่อนจะเอ่ยว่า “ตอนนี้หน่วยทหารยังไม่ขาดแคลนคน”
คำพูดนี้จอมปลอมเกินไปแล้ว!
หน่วยทหารมีช่วงที่ไม่ขาดแคลนคนด้วยหรือไง!
แต่นึกไม่ถึงว่าฉินเฟิ่งชิงจะอยากเป็นแม่ทัพอย่างเต็มรูปแบบ นี่หมายความว่าเขาอยากจะนำทัพทหาร!
ล้ออะไรกันเล่น!
ให้ยศทหารเธอ เธอไปเตร็ดเตร่คนเดียว หน่วยทหารคงไม่ว่าอะไร
ฉินเฟิ่งชิงหน้าดำคล้ำในชั่วพริบตา กัดฟันแน่น มองไปทางอู๋ชวนอีกครั้ง ฟื้นฟูรอยยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “รุ่นพี่อู๋ กองตั้งมั่นเฝ้าระวังยังขาดแคลนคนหรือเปล่า?”
อู๋ชวนยิ้มเล็กน้อย “ถ้าเธอคิดจะมากองเฝ้าระวัง ฉันพร้อมต้อนรับทุกเมื่อ แต่ว่า…ตอนนี้กองเฝ้าระวังขาดแคลนตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำเมืองเท่านั้น…”
ฉินเฟิ่งชิงขมวดคิ้วทันที ดูไม่จริงใจสักนิด!
สิ่งที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่ประจำเมืองก็เหมือนกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกที่ประจำอยู่ที่ถ้ำใต้ดินมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คนนั้น รักษาการณ์ในฐานทัพของถ้ำใต้ดินแห่งใดแห่งหนึ่ง
ไม่มีกองกำลังทหาร ไม่มีอำนาจ มีแค่บทบาทของอันธพาลเท่านั้น
คนอย่างฉินเฟิ่งชิงจะทำเรื่องแบบนี้งั้นเหรอ?
แต่ว่า…ก็พอสามารถครุ่นคิดดูได้เช่นกัน
ฉินเฟิ่งชิงครุ่นคิดเล็กน้อย อู๋ชวนเอ่ยต่อว่า “แน่นอน ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่โดยพลการ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ละทิ้งหน้าที่อย่างส่งเดช กองเฝ้าระวังจะบังคับใช้กฎทหารเช่นกัน แต่ว่าเธอสามารถเลือกห้อยตำแหน่งกองเฝ้าระวัง เคลื่อนไหวตามลำพังก็ได้เหมือนกัน”
ฉินเฟิ่งชิงทนไม่ไหวอีกต่อไป เอ่ยว่า “คนพวกนั้นที่จบการศึกษาก่อนหน้านี้ ไปหน่วยทหารหรือกองตั้งมั่นเฝ้าระวังต่างได้ตำแหน่งขุนพลผู้บัญชาการ ผมไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขา ทำไมถึงทำได้แค่ห้อยตำแหน่งล่ะ?”
ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะนำกองกำลังเท่านั้น แต่อย่างน้อยให้ตำแหน่งที่ทำให้เขารู้สึกถึงความสำคัญหน่อยเถอะ
ตอนนี้แทบไม่อาจรู้สึกถึงได้!
ฟางผิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “อย่าให้ทุกข์แก่คนอื่นเลย ถ้าเป็นฉัน ห้อยตำแหน่งก็เพียงพอแล้ว นายยังต้องการนำกำลังทหารเฝ้าประจำการจริงๆ?”
“ห้อยตำแหน่งกับตำแหน่งจริงๆ การตอบแทนต่างกันมาก!”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าไม่ยินดี ใครจะสนใจเรื่องได้นำกำลังทหารหรือเปล่า ประเด็นอยู่ที่สองอย่างนี้ให้ค่าตอบแทนที่ต่างกันมาก
ห้อยตำแหน่งหมายความว่าจะได้รับเงินอุดหนุนขั้นพื้นฐานเล็กน้อยเท่านั้น
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นั่นก็ถูก ถ้านายเข้าสู่ขั้นหก ฉันกลับสามารถพิจารณาให้นายอยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้”
“เหอะ!”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียง ตีให้ตายฉันก็ไม่อยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้หรอก ถึงจะให้ตำแหน่งเสริมก็ตาม!
“นับวันมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้กลับไปค่าตอบแทนของอาจารย์จะเพิ่มขึ้น ฉันครุ่นคิดไว้แล้ว ภายหลังห้องแหล่งพลังงานจะเปิดให้ภายนอกใช้ฟรี ไม่เก็บเงิน ลงถ้ำใต้ดินไปขุดแร่ ยังไงก็มีหินพลังงานเต็มไปหมดอยู่แล้ว”
ฉินเฟิ่งชิงทำเป็นหูทวนลม ฉันไม่เชื่อหรอก
“น้ำแร่พลังงาน ของดีแบบนี้ อาจจะปรากฏขึ้นในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ได้ น่าเสียดายที่มีน้อยเกินไป ทำได้แค่มอบให้ตัวเองเท่านั้น”
“…”
คล้อยหลังจากที่ฟางผิงพูดออกมาไม่หยุดหย่อน ฉินเฟิ่งชิงก็เผยสีหน้าขัดแย้งขึ้นมา ไม่เชื่อหรอก นายจงใจล่อลวงฉัน อยากให้รั้งอยู่ต่อ ไม่มีหวังซะหรอก!
————————