ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 389 ไม่เหมือนที่คิด (1)
ตอนที่ 389 ไม่เหมือนที่คิด (1)
“เปลี่ยนแปลง!”
พึมพำประโยคในใจ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย!
“ระบบ เปลี่ยนแปลง!”
ยังไม่มีปฏิกิริยาอีก!
ฟางผิงแทบจะหลุดด่ามารดาออกมาแล้ว!
มันเรื่องอะไรกัน?
“หรือต้องพูดว่าเปลี่ยนเป็นอะไรออกไป? ฉันจะรู้ได้ไงว่าค่าทรัพย์สินสามารถเปลี่ยนเป็นอะไรได้”
ค่าทรัพย์สินสามารถเปลี่ยนเป็นพลังปราณ เปลี่ยนเป็นพลังจิตใจ นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว งั้นยังเปลี่ยนเป็นอะไรได้อีก?
ฟางผิงจมดิ่งในความคิดอยู่พักหนึ่ง ค่าทรัพย์สินเกี่ยวข้องกับพลัง
ไม่ว่าจะเป็นพลังจิตใจหรือพลังปราณต่างเป็นพลังประเภทเดียวกัน หรือจะพูดว่าเป็นพลังอย่างหนึ่ง
“หรือว่าจะเป็น…พลังแห่งฟ้าดิน?”
หลังจากหลอมรวมพลังปราณและพลังจิตใจก็เป็นพลังแห่งฟ้าดิน
ในใจครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ ฟางผิงก็เริ่มเพ่งสมาธิ
ครู่ต่อมาเงาหลายร่างที่ราวกับภูตผีกลับใกล้เข้ามาในชั่วพริบตา!
อู๋ชวนและจ้าวซิ่งอู่ทำท่าราวกับเจอศัตรู สำรวจรอบๆ ก่อนจะทยอยมองไปทางฟางผิง…ไม่สิ พูดให้ถูกคือ มองมือของฟางผิง!
“พลังจิตใจและปราณรวมเป็นหนึ่ง?”
ทั้งสองคนอดมองไปทางฟางผิงไม่ได้ ฟางผิงทำหน้างุนงง โบกมือเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “รุ่นพี่อู๋ ผู้อาวุโสจ้าว เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
อู๋ชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองมือของเขาด้วยความเงียบ
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แค่ลองประสิทธิภาพการหลอมรวมของพลังปราณและจิตใจ ครั้งก่อนผมบีบอัดสะพานฟ้าดินไปเล็กน้อย ค้นพบว่าสามารถหลอมรวมพลังจากสะพานฟ้าดินได้ นึกไม่ถึงว่าเมื่อกี้ลองดูจะเปลี่ยนได้อย่างง่ายดาย”
“เธอ…เธออย่าทำอะไรมั่วซั่ว!”
อู๋ชวนจ้องมองมือเขาต่อ ตอนนี้มือของฟางผิงมีพลังงานรวมตัวเป็นก้อนเล็กๆ
ไม่ใช่พลังปราณเพียงอย่างเดียว ทั้งไม่ใช่พลังงานของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ แต่เป็นพลังแห่งฟ้าดินหลังจากที่หลอมรวมพลังปราณและจิตใจแล้ว!
พลังแห่งฟ้าดิน นั่นเป็นพลังที่ระดับสูงใช้ได้
ฟางผิงความสามารถไม่พอ เสี่ยงรวมรวบพลังแห่งฟ้าดิน นั่นเป็นอันตรายอย่างมาก
ครั้งก่อนหมอนี้เกือบจะบีบสะพานฟ้าดินของตัวเองจนระเบิดแล้ว
“ครับ เข้าใจแล้ว”
ฟางผิงไม่มากความ โยนก้อนพลังงานนั้นทิ้งไปอย่างส่งๆ
‘เปรี้ยง!’
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ข้างหน้าถูกระเบิดจนเป็นหลุมขนาดใหญ่
ฟางผิงเผยสีหน้ามึนงง อานุภาพร้ายแรงจริงๆ!
ไม่สิ สิ้นเปลืองเยอะเหมือนกัน!
ก้อนพลังงานลูกใหญ่แค่นั้น สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินของเขาไปนับล้านแล้ว!
นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ฟางผิงมองแขนของตัวเอง ตอนนี้มีร่องรอยการปริแตกอยู่บ้าง
“เปลี่ยนเป็นพลังแห่งฟ้าดินนี่เอง…แต่รู้สึกว่าประโยชน์ไม่ได้มากมายเท่าไหร่”
ฟางผิงไม่พอใจอยู่บ้าง ใช่ พลังแห่งฟ้าดินมีอานุภาพทำลายล้างไม่น้อย
แต่ของสิ่งนี้เป็นการนำพลังงานมาใช้ระเบิด
หรือตอนที่ต่อสู้ เขาก็ต้องใช้พลังแห่งฟ้าดิน?
งั้นก็อย่าสู่เลย สู้แล้ว เขากลัวว่าตัวเองจะระเบิดไปเหมือนกัน
แน่นอนว่าไม่ได้ไร้ประโยชน์เลยทีเดียว พลังแห่งฟ้าดินเป็นพลังของระดับสูง ตอนนี้แม้เขาจะเปลี่ยนอาชีพเป็นนักมายากลก็คงจะดูเท่ไม่น้อย
อู๋ชวนกลับเอ่ยด้วยความแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด “เธอยังปล่อยออกไปได้อีก?”
“มันแปลกเหรอครับ?”
ฟางผิงทำหน้างงๆ รวบรวมพลังก็ต้องปล่อยออกไปสิ!
อู๋ชวนขมวดคิ้วว่า “ไม่ได้แปลก แต่ว่า…จะพูดยังไงดีล่ะ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดทั่วไปยังยากที่จะทำได้ถึงขั้นปล่อยออกไปข้างนอก เข้าใจความหมายฉันหรือเปล่า?”
“ไม่ค่อยเข้าใจ”
“โง่!” อู๋ชวนด่าออกไป อธิบายว่า “หมายความว่าตอนที่พวกเราต่อสู้กัน อย่ามองว่าพลังแห่งฟ้าดินแข็งแกร่งมาก ในความเป็นจริงล้วนมีที่มาทั้งนั้น อย่างเช่นพลังจิตใจขยายถึงขอบเขตไหน พลังแห่งฟ้าดินของพวกเขาถึงจะสามารถแตะถึงขอบเขตนั้นได้
เธอเคยเห็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดจู่โจมออกไปเกิดขอบเขต ล่วงล้ำออกไปจากเขตที่พลังจิตใจของตัวเองปกคลุมอยู่หรือเปล่าล่ะ? หากออกจากขอบเขตนั้นจะกระจัดกระจาย พลังแห่งฟ้าดินเป็นพลังที่หลอมรวมระหว่างพลังปราณและพลังจิตใจ ออกจากขอบเขตของพลังจิตใจไป นั่นจะเป็นแค่พลังปราณเพียงอย่างเดียวแล้ว”
ฟางผิงกระจ่างใจขึ้นมาทันที เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “หมายความว่าขอแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดปล่อยพลังภายในขอบเขตของพลังจิตใจของเขา เขาจะปล่อยพลังแห่งฟ้าดินออกมาได้แล้ว?”
“ถูกต้อง”
ระหว่างที่พูดอู๋ชวนก็ขมวดคิ้ว “แล้วเธอนับเป็นเรื่องอะไรกัน?”
เมื่อกี้พลังจิตใจของฟางผิงไม่ได้ขยายออกมา พลังแห่งฟ้าดินรวมตัวไม่กระจาย กลับปล่อยออกไปได้
นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปสามารถทำได้ แน่นอนว่ายอดฝีมือขั้นเจ็ดบางส่วน พลังจิตใจของพวกเขาทำถึงขั้นจับต้องได้ เวลานี้จะสามารถแยกพลังจิตใจออกมาบางส่วน ปล่อยพลังออกไปได้เหมือนกัน
แต่ไม่ได้ความจำเป็นต้องทำแบบนั้น
แม้ฟางผิงจะเข้าใจแค่เล็กน้อย แต่ตอนนี้ดึงสติกลับมาแล้ว ไอแห้งๆ ว่า “ผมแยกพลังจิตใจออกมาตรงๆ เอามารวมกับพลังปราณเลยปล่อยออกไปได้”
“แยก?”
ฟางผิงได้ยินแบบนั้นจึงปล่อยพลังจิตใจของตัวเองทันที ส่วนเล็กๆ นั้นถูกเขาแยกออกมา นี่ทำให้ฟางผิงใบหน้าซีดเล็กน้อย
เธอไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ด ทำลายพลังจิตใจตัวเอง ไม่ใช่รนหาที่ตายหรือไง?
ฟื้นฟูพลังจิตใจเป็นเรื่องยากอย่างมาก!
ฟางผิงเผยสีหน้าไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไรมั้งครับ ผมระเบิดพลังจิตใจตัวเองใส่คนอื่นบ่อยๆ…”
“ฉัน…”
ขั้นเก้าทั้งสองคนแทบอยากด่าถึงมารดา!
นายแม่งเก่งจริงๆ!
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่ง ไม่สิ ก่อนหน้านี้ยังอยู่แค่ขั้นสี่ ระเบิดพลังจิตใจตัวเองใส่คนอื่นบ่อยๆ?
จนถึงตอนนี้เธอยังไม่กลายเป็นคนปัญญาก่อน สมองไม่ตาย เธอรู้หรือเปล่าว่าถือว่าสร้างปาฏิหาริย์มากแล้ว!
อู๋ชวนสูดลมหายใจเข้าลึก ฝืนข่มความปรารถนาที่จะซัดฝ่ามือใส่เขาเอาไว้ ไอ้เวรที่เอะอะก็ฉีกพลังจิตใจตัวเองออกมาทำให้เขารู้สึกปวดใจจริงๆ
“เธอฉีกพลังจิตใจของตัวเอง นานเท่าไหร่จะสามารถฟื้นฟูได้?”
“แป๊บเดียว”
ครั้งนี้ฟางผิงช้าลงเล็กน้อย ค่อยๆ เพิ่มพลังจิตใจให้ขั้นเก้าสองคนเปิดหูเปิดตาว่าอะไรคือแป๊ปเดียว
ใช้เวลาประมาณห้านาที ฟางผิงก็เติมเต็มสำเร็จ
อันที่จริงเขาสามารถใช้เวลาแค่หนึ่งวินาทีเท่านั้น
แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ก็ทำให้ขั้นเก้าสองคนตกตะลึงอยู่ดี เร็วขนาดนี้เลย!
จ้าวซิ่งอู่จ้องสมองของเขาอยู่พักหนึ่ง ฟางผิงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที แม่งเหอะ ฉันไม่อยากตาย ใครจะรู้ว่าพวกคุณจะมาเร็วขนาดนี้
ตอนนี้ผมถือว่าฟื้นฟูช้าแล้ว พวกคุณยังจะชำแหละสมองผมอีก?
อู๋ชวนขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง “เธอเคยตรวจสมองอย่างละเอียดหรือยัง?”
ระหว่างที่พูดยังมองไปทางจ้าวซิ่งอู่ “นายว่าเขาหลอมรวมแกนสมองหรือเปล่า?”
จ้าวซิ่งอู่จมดิ่มในความคิดเช่นกัน ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “มีโอกาสสูง อาจจะหลอมรวมแกนสมองจริงๆ”
“แกนสมอง?”
ฟางผิงเผยสีหน้าสงสัย สองคนนี้ช่วยจินตนาการคลี่คลายเรื่องระบบของเขาแล้ว?
อู๋ชวนอธิบายต่อว่า “แกนสมองเป็นการรวมตัวศูนย์กลางในสมองอย่างหนึ่งของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขึ้นไป เป็นเรื่องเดียวกับแกนหัวใจเช่นกัน ที่มาพลังจิตใจของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ด อันที่จริงมีความเกี่ยวข้องกับแกนสมอง แน่นอนว่าอาจจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงเสมอไป การวิจัยด้านนี้ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ว่ามีแกนสมองอยู่จริงๆ ตอนที่เธอสังหารผู้ฝึกยุทธ์สูงกว่าขั้นเจ็ดขึ้นไป รวบรวมแกนหัวใจและแกนสมองของเขา จะสามารถจำลองการปลดปล่อยพลังจิตใจได้…”
ฟางผิงเอ่ยทันที “ห้องคุมพลังงานของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้!”
“ถูกต้อง”
อู๋ชวนพยักหน้า “แกนสมองน่าจะมีคุณสมบัติเพิ่มพลังจิตใจ พลังจิตใจเธอฟื้นฟูได้รวดเร็ว มีโอกาสสูงที่หลอมรวมแกนสมองล่วงหน้า นี่สามารถอธิบายได้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงใช้พลังจิตใจได้นานแล้ว และการกลายพันธุ์ของไขกระดูกเธอ…บางทีอาจเพราะแกนสมองปรากฏล่วงหน้า ทำให้ไขกระดูกเกิดการกลายพันธุ์…”
ฟางผิงเอ่ยอย่าง ‘กระจ่างแจ้ง’ ขึ้นมา “ที่แท้การกลายพันธุ์ของสมองก็เป็นเพราะมีแกนสมองเพิ่มขึ้นมา ของสิ่งนี้มีประโยชน์หรือเปล่าครับ?”
อู๋ชวนหมดคำจะพูด ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเอ่ยอีกครั้งว่า “แต่ยังมีบางเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ น่าเสียดายที่แกนสมองไม่สามารถตรวจสอบ เหมือนกับพวกประตูซานเจียว อยู่ระหว่างความเป็นจริงและความว่างเปล่า นอกจากฉันจะฆ่าเธอ แกนสมองถึงจะมีโอกาสหลอมรวมเป็นรูปร่าง…”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนทันที ทั้งสองคนคงไม่มีความคิดนี้สินะ?
อู๋ชวนถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ ขมวดคิ้วว่า “แกนสมองของเธอไม่มีประโยชน์กับพวกฉัน ตัวเธอเป็นๆ ถึงจะมีประโยชน์มากกว่า”
ฟางผิงเผยสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ถามมากอีก นี่คงไม่มีข้อสงสัยแล้วสินะ?
อู๋ชวนกลับนึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “ไม่สิ สิ่งที่ฉันอยากถามไม่ใช่เรื่องนี้ เธอหลอมรวมพลังแห่งฟ้าดินได้ยังไงกัน?”
ครั้งนี้ฟางผิงไม่ร้อนตัวอีก เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ง่ายๆ บีบอัดสะพานฟ้าดินหน่อยก็ใช้ได้แล้ว กรอกพลังปราณและพลังจิตใจเข้าไปจะสามารถบีบอัดสะพานฟ้าดินได้ ทั้งสองคนคงไม่ได้ดูการแข่งขันสินะครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยทำมาก่อน”
ทั้งสองคนไม่ได้ดูจริงๆ การแข่งขันของพวกระดับกลาง ทั้งสองคนต่างงานล้นมือ จะเอาเวลาไหนไปดูกัน
ได้ฟังฟางผิงพูดแบบนี้ อู๋ชวนขมวดคิ้วว่า “ได้น่ะได้ แต่จะเป็นการทำลายสะพานฟ้าดินเกินไป ทำให้สะพานฟ้าดินแตกสลายได้ง่าย เธออย่าทำอะไรมั่วซั่ว!”
“ผมไม่ได้ทำมั่วซั่ว สะพานฟ้าดินของผมมีความทนทานสูง ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”
ฟางผิงมีความคิดอยากลองอีกครั้งให้ขั้นเก้าทั้งสองคนได้เปิดหูเปิดตา ผลปรากฏว่าเพิ่งอยากลอง จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “ช่างเถอะครับ วันนี้ไม่ลองแล้ว”
สะพานฟ้าดินของฉันน่าเกลียดเกินไป!
ของคนอื่นกลมเกลี้ยง ของฉันเหมือนกับหมั่นโถว น่าอายเกินไป ไม่ลองแล้ว
ข้างหลังนั้นตาเฒ่าหลี่หาวหวอดว่า “ลองดูสิ ให้ทุกคนได้เปิดหูเปิดตาหน่อย”
“ไม่ลองแล้ว”
“ไม่ลองก็แปลกๆ แล้ว พวกนายชำแหละเขาเลย!”
———————–