ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 392-2 ควรหาภรรยาสักคนแล้ว (2)
ตอนที่ 392 ควรหาภรรยาสักคนแล้ว (2)
ถังเฟิงกระตือรือร้นอยากลองเช่นเดียวกัน “งั้นให้ฉันลงไปด้วยดีหรือเปล่า…”
“อาจารย์ถังไม่ต้องหรอกครับ เป้าหมายของคุณ ตอนนี้ยังต้องทะลวงด่านเป็นหลัก”
ถังเฟิงทำถึงขั้นรวมพลังจิตใจและปราณเป็นหนึ่งแล้ว ระยะห่างจากขั้นเจ็ดอยู่ห่างแค่เอื้อม ฟางผิงไม่กล้าให้เขาลงไปตอนนี้ ทำสงครามตายขึ้นมา มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะมีปรมาจารย์น้อยไปอีกคน
แม้จะดูโหดร้าย แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
เดิมทีขั้นหกพวกนั้นที่เข้าไป ปกติจะไม่หวังทะลวงด่านแล้ว หากมีหวังจะทะลวงด่านอย่างแท้จริงคงไม่เข้าไปเป็นกลุ่มแรกหรอก
“พวกนายระวังตัวกันด้วย มองความปลอดภัยเป็นหลัก!”
ฟางผิงมองไปทางพวกนักศึกษา ตอนนี้ทางเดินถือว่าปลอดภัยแล้ว บางทีครั้งหน้าเสถียรแล้ว คนพวกนี้ก็อาจจะเข้าไป
ฟางผิงไม่ได้คิดให้พวกเขากลับไปทั้งหมด ไม่มีความจำเป็น ผู้ฝึกยุทธ์ต้องคว้าโอกาสด้วยตัวเอง
ตอนนี้ถ้ำใต้ดินเพิ่งอุบัติ โอกาสมีไม่น้อยจริงๆ
เมืองจู้หลิวยังสูญเสียอย่างหนัก ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่อาจบุ่มบ่ามออกจู่โจม ความแตกต่างในช่วงเวลานี้ บางทีอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเคลื่อนไหวของพวกเขา
ทุกคนพยักหน้า ฟางผิงเหลือบหางตามองเฉินอวิ๋นซีแวบหนึ่ง กลับไม่พูดอะไรอีก
—
ในเวลาเดียวกับที่ฟางผิงกำลังวางแผนให้ทุกคน
เซี่ยงไฮ้
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
หลู่เฟิ่งโหรวกลับมาถึงมหาวิทยาลัยด้วยบาดแผลเต็มตัว
เพิ่งจะกลับมาถึงบ้านพัก เหลียงเฟิงหวาที่เฝ้าอยู่ก็วิ่งเข้ามาอย่างดีใจ ตะโกนว่า “อาจารย์ ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้ว! มีข่าวดี!”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“รุ่นน้องฟางออกมาจากถ้ำใต้ดินหนานเจียงแล้ว ทะลวงถึงขั้นห้า! อีกอย่างยังช่วยอาจารย์หลี่ทะลวงถึงขั้นแปดด้วย!”
“…”
หลู่เฟิ่งโหรวเหนื่อยใจขึ้นมาอยู่บ้าง เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นสินะ?
ฉันต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายในถ้ำใต้ดิน ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นเจ็ดด้วยซ้ำ!
“หลี่ฉางเซิง ขั้นแปดแล้ว?”
“อื้ม!”
“ใครบอกมา?”
“พูดกันให้ทั่ว! อีกอย่างตอนที่ออกมาจากถ้ำใต้ดิน อาจารย์หลี่ยังเปิดเผยร่างทองด้วย โลกของผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียงรู้กันหมดแล้ว! เมิ่งเหยาบอกว่าเพราะรุ่นน้องฟางขโมยน้ำแร่พลังงานมาจากเมืองราชาถ้ำใต้ดินให้อาจารย์หลี่ดูดกลืนหลายร้อยจิน จากนั้นก็ทะลวงด่านแล้ว…”
“เดี๋ยวนะ? อะไรนะ?”
“น้ำแร่พลังงาน เป็นน้ำแร่พลังงาน…”
หลู่เฟิ่งโหรวสีหน้าเปลี่ยน เอ่ยทันที “เท่าไหร่?”
“หลายร้อยจิน…”
จู่ๆ หลู่เฟิ่งโหรวก็กัดฟันแน่น โมโหอย่างถึงที่สุด “หลี่ฉางเซิงตัวดี! เจ้าฟางผิงตัวดี! ฉัน…”
ไม่ได้หลุดคำหยาบออกมา แต่หลู่เฟิ่งโหรวอดไม่ไหวอยู่บ้าง!
ไอ้เวรนี้ ตกลงนายเป็นลูกศิษย์ใครกันแน่?
ฉันเกือบถูกคนซัดตายในถ้ำใต้ดินก็เพราะคิดจะไปหาแร่พลังงาน อยากเข้าไปดูดกลืนพลังงานระดับสูงสักหน่อย น้ำแร่พลังงานเธอไม่กล้านึกถึงด้วยซ้ำ
ผลลัพธ์กลับแล้วใหญ่ ลูกศิษย์ของเธอคนนั้น วิ่งไปเอาน้ำแร่พลังงานให้หลี่ฉางเซิง โมโหจนตับแทบจะระเบิดแล้ว!
หากจะทำก็ควรทำอย่างเท่าเทียมหรือเปล่า!
ฟางผิงไม่ได้ทำเรื่องนี้ก็แล้วไป หลู่เฟิ่งโหรวไม่อะไรอยู่แล้ว ฝึกวิชาต้องพึ่งตัวเอง จะให้พึ่งลูกศิษย์หรือไง?
ยังเอาไปให้ไอ้เวรหลี่ฉางเซิงนั่นอีก!
หลู่เฟิ่งโหรวรู้สึกว่าอยากฆ่าคน ขั้นเจ็ด…ฉันปรารถนามาตั้งหลายปี ไอ้เวรสองคนนี้ไม่รู้จักเหลือไว้ให้เธอบ้างหรือไง?
หลู่เฟิ่งโหรวรู้สึกว่าหัวใจตัวเองแทบรับไม่ไหวแล้ว ทำร้ายจิตใจกันเกินไป
ใจแตกสลายหมดแล้ว!
ฟางผิงคว้าน้ำแร่พลังงานมาได้จริงๆ งั้นเหรอ?
“ไม่ได้การ…”
จู่ๆ หลู่เฟิ่งโหรวก็ไม่มีจิตใจจะพักผ่อนอีกแล้ว ต้องไปหนานเจียง จับเจ้าสองคนนั้นไว้ คนอื่นไม่พูดถึง ไอ้เวรหลี่ฉางเซิงนั่น จะปล่อยให้เขาคว้าผลประโยชน์ไปแบบนี้ไม่ได้!
สิ้นเสียงนั้นหลู่เฟิ่งโหรวก็ไม่สนใจเหลียงเฟิงหวาอีก หมุนตัวออกไปทันที ไปหนานเจียง!
เหลียงเฟิงหวาเผยสีหน้ามึนงง นี่อาจารย์เป็นอะไรไป?
—
วันนี้พวกผู้ฝึกยุทธ์ของรุ่ยอันต่างอยู่ในช่วงเวลาของความสุข
แม้แต่รัฐบาลกลางยังตั้งใจเปิดประชุมใหญ่เพราะเรื่องนี้
ถ้ำใต้ดินหนานเจียงครองฐานที่มั่นไว้ได้แล้ว
ไม่ใช่แค่นี้ยังระเบิดเมืองราชาเกือบพังทลาย ชื่อของฟางผิง ปรากฏในสายตาของผู้มีอำนาจเป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านี้แม้ฟางผิงจะเป็นอัจฉริยะ ทั้งยังเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ไม่นับว่าเป็นบุคคลระดับล่าง
แต่ต่อให้โดดเด่นยังไงก็เป็นแค่เด็กรุ่นใหม่คนหนึ่ง ผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่งเข้าสู่ระดับกลาง
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ต่างมีอัจฉริยะปรากฏขึ้นมาทั้งนั้น
พวกผู้มีอำนาจยังจะมีเวลาว่างมาสนใจพวกเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งโดดเด่นขึ้นมาได้หรือไง
แต่ตอนนี้มีคนให้ความสนใจแล้ว
ระดับกลางคนหนึ่งที่บุกเมืองราชา ทำลายผู้ฝึกยุทธ์ในเมืองราชาไปกว่าครึ่งใหญ่ ควรค่าให้ความสำคัญ!
แน่นอน จำแค่ชื่อของฟางผิงเอาไว้ นอกจากนี้ยังจำว่าเขามีวิชาเก็บงำลมหายใจ ตอนนี้รัฐบาลกลางส่งคนมาตรวจสอบเรื่องนี้เช่นกัน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก สำคัญยิ่งกว่าเรื่องที่หลี่ฉางเซิงทะลวงขั้นแปดได้เสียอีก
อย่าพูดว่าไม่ใช่ขั้นแปดอย่างแท้จริงเลย แม้จะเป็นขั้นแปดอย่างแท้จริงก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อสถานการณ์ต่อสู้มากมายขนาดนั้น
กลับเป็นวิชาเก็บงำลมหายใจ นั่นสามารถเกิดผลกระทบที่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้โดยแท้
—
หลู่เฟิ่งโหรวรีบเร่งเข้ามา รัฐบาลกลางก็มียอดฝีมือมาถึงเช่นกัน เรื่องพวกนี้ฟางผิงไม่รู้
หลังจากฟางผิงส่งคนอื่นไปแล้ว เห็นเฉินอวิ๋นซีที่ถูกทุกคนตั้งใจทิ้งไว้ที่นี่ก็ปวดหัวอย่างเห็นได้ชัด
เห็นผู้หญิงคนนี้ก้มหน้าก็ไม่พูดอะไร รู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง ฟางผิงปวดหัวไม่น้อย ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเรามีวันนี้ไม่มีพรุ่งนี้ โดยเฉพาะคนอย่างฉัน ใครก็ไม่อาจพูดได้ชัดเจนว่าจะตายในถ้ำใต้ดินวันไหน ถ้ำใต้ดินไม่สงบสุข น่าเป็นกังวล อยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน แทนที่จะเป็นกังวลทุกค่ำคืนหลังจากที่ฉันเข้าถ้ำใต้ดิน ยังไม่สู้ตัดความคิดพวกนี้ไปให้เร็วๆ! ฉันก็เหมือนกัน เธอเข้าไปในถ้ำใต้ดิน วันไหนตายในถ้ำใต้ดิน สำหรับฉันก็เป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจ อวิ๋นซี แม้เธอจะมีปู่เป็นปรมาจารย์ แต่ปู่ของเธอไม่สามารถคุ้มครองเธอไปชั่วชีวิต ตอนที่เธอยังไม่มีความสามารถดูแลตัวเองได้ พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนี้…”
เฉินอวิ๋นซีเงยหน้ามองเขา ไม่เสียใจเช่นกัน เอ่ยเบาๆ ว่า “ฉันรู้แล้ว ฉันจะพยายามฝึกวิชา พยายามเพื่อคู่ควรกับนาย!”
ฟางผิงหน้าเสียในชั่วพริบตา!
ฉันพูดขนาดนี้แล้ว เธอควรจะปวดร้าวเสียใจ จากนั้นก็หมุนตัวไปร้องไห้สิ พอหลังจากนี้เห็นฉันก็จะแค่นเสียงใส่ ไม่แม้แต่จะหันมามอง?
ประโยคที่เธอบอกว่า ‘พยายามให้คู่ควรกับนาย’ มันหมายความว่ายังไงกัน!
เด็กผู้หญิงควรจะหยิ่งในศักดิ์ศรีหน่อย!
ฟางผิงหัวโตขึ้นมา ผ่านไปเนิ่นนานค่อยเอ่ยว่า “ไว้ค่อยพูดกันเถอะ ครั้งหน้าอย่าทำเรื่องโง่อีก ยืนอยู่ห้าวัน มีประโยชน์หรือไง มีเวลาห้าวันนี้เอาไปฝึกวิชาให้มากหน่อย อาจจะทะลวงถึงขั้นสามสูงสุดไปแล้วก็ได้ ในช่วงเวลานี้ควรฝึกวิชา พัฒนาฝีมือให้แข็งแกร่งขึ้นถึงจะเป็นเรื่องที่เธอควรทำเป็นอันดับแรก อย่างอื่นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เธอยืนนิ่งแบบนั้น หากฉันต้องตายในถ้ำใต้ดินก็ตายอยู่ดี หรือจะทำให้คนฟื้นขึ้นมาได้? เข้าใจความหมายของฉันหรือเปล่า?”
เฉินอวิ๋นซีพยักหน้า เอ่ยเสียงแผ่วว่า “งั้นหลังจากนี้ฉันจะตั้งใจฝึกวิชา พยายามแข็งแกร่งขึ้น จะได้สามารถลงถ้ำใต้ดินไปพร้อมกับนายได้!”
ฟางผิงถอนหายใจ เป็นเด็กผู้หญิงทระนงในศักดิ์ศรีตัวเองหน่อยเถอะ!
ดีที่ปู่เธอไม่อยู่ที่นี่ ถ้าอยู่ไม่ใช่จะฟันฉันตายหรือไง?
เห็นเฉินอวิ๋นซีจะไปแล้ว ฟางผิงก็ปวดใจอยู่บ้าง จู่ๆ ก็ซัดฝ่ามือใส่เธอไปหนึ่งที ก่อนจะเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ไปเถอะ ฉันจะพักผ่อนแล้ว!”
เฉินอวิ๋นซีงุนงงเป็นอันดับแรก ก่อนจะเผยรอยยิ้มอย่างเบิกบาน เอ่ยอย่างดีใจว่า “นายซัดน้ำแร่แห่งชีวิตเข้ามาในร่างกายฉันใช่หรือเปล่า? ใช่หรือไม่ใช่?”
ฟางผิงหน้าดำคล้ำ เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “น้ำแร่พลังงาน อย่าใช้คำศัพท์มั่วซั่ว เอาเถอะ ฉันจะพักผ่อนแล้ว!”
“อืม งั้นนายพักผ่อนเถอะ ฉันไปก่อนล่ะ!” เฉินอวิ๋นซีเผยสีหน้าลิงโลดขึ้นมา ไม่ได้พูดขอบคุณอีก ออกไปอย่างเบิกบานใจ
ฟางผิงถอนหายใจอีกครั้ง ทำการค้าขาดทุนอีกแล้ว!
ไม่ควรหลอกขายยาบำรุงกับผู้หญิงบื้อคนนี้ตั้งแต่แรกเลย นี่หลอกจนเกิดความรู้สึกขึ้นมาจริงๆ แล้ว ผู้หญิงช่างซับซ้อนจริงๆ!
“ยังคงเป็นฉันที่เก่งเกินไป คนก็หล่ออีก เหมือนนกกระเรียนที่ยืนอยู่กลางฝูงไก่ ใครเห็นก็หวั่นไหวทั้งนั้น ต้องสงวนท่าทีสักหน่อยแล้ว”
ฟางผิงส่ายหัว บุรุษที่เก่งกาจเกินไปทำให้คนหงุดหงิดใจจริงๆ
ยุคสมัยนี้แทบจะหาผู้ชายดีๆ ที่เทียบเคียงกับตัวเองไม่ได้แล้ว
“หากวันไหนฉันตาย เกรงว่าจะมีผู้หญิงทั่วโลกร้องไห้เพื่อฉัน แค่คิดก็รับไม่ไหวแล้ว”
คำพูดนี้พึมพำกับตัวเอง
ตาเฒ่าหลี่ที่เตรียมจะผลักบานประตูเข้ามา จู่ๆ ก็ชะงักการเคลื่อนไหว คำพูดนี้แทงใจจริงๆ!
รังแกตาเฒ่าที่เป็นโสดงั้นเหรอ?
เห็นเฉินอวิ๋นซีเดินออกไปไม่ไกลด้วยท่าทีชื่นมื่น ตาเฒ่าหลี่ก็รู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไป เข้าไปก็ถูกแทงใจเปล่าๆ
“บางที…”
“บางทีฉันอาจต้องหาภรรยาสักคนแล้ว!”
ตาเฒ่าหลี่ผุดความคิดนี้ขึ้นมาในใจทันที ก่อนหน้านี้เอาแต่มุ่งในเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ หลังจากนั้นก็ไม่อยากถ่วงรั้งคนอื่น กำลังใจท้อแท้
วันนี้เขาฟื้นฟูขึ้นมาแล้ว กำลังจะขั้นแปด
ถึงเวลาที่ควรจะหาภรรยาสักคนแล้วหรือเปล่า?
“หาใครล่ะ?”
ตาเฒ่าหลี่หมุนตัวออกไป ในใจครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ ในหัวปรากฏใบหน้าของใครหลายคนขึ้นมา
สุดท้ายจู่ๆ ก็ปรากฏใบหน้าที่คุ้นเคย ตาเฒ่าหลี่ตัวแข็งไปทันที ฉันกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย?
อู๋ขุยซานตาแก่นั่นจะตีเขาตายน่ะสิ!
“นึกไปได้ไงเนี่ย ภรรยาดุอย่างนั้นให้เขาดูแลเถอะ ฉันไม่เอาหรอก…”
ตาเฒ่าหลี่เสียวสันหลังวาบ ผู้หญิงคนนี้บ้าคลั่งขึ้นมา กระทั่งสามีตัวเองยังฟันได้ นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะนึกถึงเธอได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว!
——————