ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 393 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิรูป (2)
ตอนที่ 393 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิรูป (2)
หลัวอี้ชวนขมวดคิ้วว่า “ผู้ว่าจาง สิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้อาจารย์และนักศึกษาของพวกเราแทบไม่พอใช้ด้วยซ้ำ…”
การร่วมมือที่จางติ้งหนานพูดถึง รวมถึงเปิดสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ต่อหนานเจียงด้วย
หนานเจียงไม่มีสิ่งเหล่านี้
นี่ไม่ใช่เงินน้อยๆ!
ทุกปีมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ได้รับงบประมาณนับหมื่นล้าน อันที่จริงใช้ไปกับการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้ไม่น้อย
อย่างอื่นไม่พูดถึง ห้องแหล่งพลังงานดูเหมือนง่าย เผาไหม้หินพลังงานนิดหน่อยก็ให้พลังงานเข้มข้นอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ช่วยทุกคนในการฝึกวิชา
อันที่จริงฟางผิงให้ความสนใจกับหินพลังงานมาโดยตลอด กลับไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำให้ราคาสูงลิ่วแท้จริงแล้วเป็นตัวของห้องแหล่งพลังงาน!
ทุกห้องแหล่งพลังงานจะสามารถให้พลังงานไม่ขาดสาย แค่สร้างห้องแหล่งพลังงานแบบนี้ ราคาก็สูงลิ่วจนถึงขีดจำกัดแล้ว
กำแพงสี่ด้านรอบทิศทาง วัสดุที่ใช้ไม่ใช่วัสดุทั่วไป วัสดุก่อสร้างที่สามารถป้องกันการปลดปล่อยของพลังงาน แค่ต้นทุนอย่างเดียวก็มูลค่าไม่ต่ำไปกว่าโลหะผสมระดับ B แล้ว
นั่นสร้างจากผลึกพลังงานจำนวนมากที่ปลดปล่อยพลังงานจนหมดแล้วรวมกับโลหะที่หายากบางส่วน
ฟางผิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ นั่นเป็นเพราะสายตาคับแคบอยู่บ้าง ในความเป็นจริงมูลค่าการสร้างห้องแหล่งพลังงานของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อย่างต่ำที่สุดอยู่ที่หนึ่งหมื่นล้านขึ้นไป! นี่ยังไม่รวมกับค่าบำรุงรักษาทุกปี รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ล้ำสมัยบางส่วน อย่างเช่นอุปกรณ์ปลดปล่อยพลังงาน ล้วนเป็นของที่มีมูลค่าสูงลิ่วทั้งนั้น
ก่อนหน้านี้หนานเจียงไม่มีถ้ำใต้ดิน รัฐบาลจึงไม่ได้พิจารณาจะสร้างห้องพวกนี้ขึ้น แพงเกินไป
ราคานับหมื่นล้าน ทั้งยังต้องใช้หินพลังงานจำนวนมาก สร้างขึ้นมาแล้ว พวกเขาก็ไม่มีหินพลังงานให้ใช้เยอะขนาดนั้น
ตอนนี้ในมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และหน่วยทหาร มีแค่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยปักกิ่งและโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งเท่านั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งอื่น รวมถึงมหาวิทยาลัยระดับสอง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกพวกนี้
สระปราณก็เหมือนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจับยอดฝีมือถ้ำใต้ดินนำมาเป็นวัตถุดิบจัดสรรพลังงาน
สำหรับคำพูดของหลัวอี้ชวน จางติ้งหนานไม่แปลกใจเช่นกัน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “คณบดีหลัว หินพลังงานของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีอย่างจำกัด สิ่งอำนวยความสะดวกพวกนั้นไม่ใช่ว่าเปิดตลอดหรือห้องแน่นขนัดไม่ขาดสาย หินพลังงานที่สิ้นเปลืองและวัตถุดิบอื่นๆ ทางหนานเจียงจะเป็นคนจัดสรรให้ ไม่ได้ให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ลงทุน ทั้งหากการร่วมมือครั้งนี้สำเร็จผล หลังจากนี้ผลผลิตของถ้ำใต้ดินหนานเจียงทุกปี ทางหน่วยทหารไม่พูดถึง แต่ผลผลิตของผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียง ส่วนหนึ่งจะนำไปเป็นค่าเล่าเรียนและค่าใช้สถานที่ พูดตามตรง นี่เป็นเรื่องที่ได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่หนานเจียงได้รับประโยชน์เพียงผู้เดียว ในความเป็นจริงพวกเราก็สามารถร่ววมือกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งหรือองค์กรอื่นได้…รวมถึงสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเอง…”
ฟางผิงรับบทสนทนาด้วยรอยยิ้ม “ผู้ว่า ไม่พูดถึงการขาดแคลนงบประมาณของหนานเจียงตอนนี้ จะนำเงินทุนมากขนาดนี้ไปสร้างเองได้หรือเปล่า แม้จะได้ ทั้งราคาอาจไม่สูงมาก แต่ร่วมมือกับองค์กรอย่างพวกมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ผู้ว่าคิดว่ามีโอกาสสูงเหรอครับ? แน่นอนว่ารัฐบาลกลางมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบนี้ไม่น้อย แต่รัฐบาลกลางก็ต้องบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน ผู้ฝึกยุทธ์ในสังคมของหนานเจียงอยากเข้าไป เกรงว่าจะยากเป็นอย่างมาก…”
จางติ้งหนานเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนพูดอย่างตรงไปตรงมากันดีกว่า มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีเงื่อนไขอะไรสามารถเอ่ยได้”
“งั้นผมขอพูดตรงๆ ละกัน”
ฟางผิงไม่เกรงใจเช่นกัน เอ่ยว่า “อย่างแรกมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เปิดคลาสฝึกพิเศษ ไม่มีปัญหา แต่ต้องจำกัดจำนวนคน ทุกปีไม่เกินสามร้อยคน ต่ำกว่าระดับสองไม่จำเป็นต้องมา สิ้นเปลืองทรัพยากรที่มีจำกัดของหนานเจียง”
“อย่างที่สอง สิ่งอำนวยความสะดวกของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สามารถเปิดสาธารณะต่อผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียงได้ แต่ว่าค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องจัดการเอง รวมถึงค่าใช้สถานที่ด้วย”
“อย่างที่สามค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงค่าเล่าเรียน ค่าสถานที่ ค่าฝึกฝน ค่าวัสดุอุปกรณ์…มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่รับเป็นเงินสด ไม่รับอย่างอื่น ทุกอย่างต้องใช้วัตถุดิบยาบำรุง หินพลังงาน โลหะหายากมาสนับสนุนแทน รับซื้อด้วยราคามาตราฐานของบริษัทใหญ่พวกนั้น”
“อย่างที่สี่ สมาชิกที่เข้าสู่คลาสฝึกพิเศษของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ รวมถึงนักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้สามารถใช้เว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ซื้อยาบำรุงและอาวุธของพวกเราได้ ไม่ได้ใช้เงินสดจ่าย แต่จ่ายเป็นวัตถุดิบพวกนั้นเหมือนกัน นี่นับว่าเป็นสวัสดิการที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มอบให้หนานเจียง แน่นอนว่าราคาไม่อาจเท่ากับนักศึกษาของเซี่ยงไฮ้อยู่แล้ว”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “แค่ไม่กี่อย่างนี้ อันที่จริงไม่นับว่ายาก นี่ก็เป็นเพราะบ้านเกิดของผมคือหนานเจียงเช่นกัน ผมไม่อาจทนดูผู้ฝึกยุทธ์บ้านเกิด…”
“ฟางผิง!”
หวังจินหยางตัดบทสนทนาของเขาอย่างจนใจอยู่บ้าง ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “เป็นคนหนานเจียงเหมือนกันทั้งนั้น ตอนนี้หนานเจียงสถานการณ์คลอนแคลน นี่นาย…จะเป็นการซ้ำเติมกันอยู่บ้างแล้ว…”
“ประธานหวัง!”
ฟางผิงเปลี่ยนคำเรียกเป็นทางการ ส่ายหัวว่า “นายผิดแล้ว นี่คือมอบน้ำใจในช่วงยากลำบากต่างหาก! พูดในมุมมองธุรกิจ…แน่นอน นี่ไม่นับว่าเป็นการร่วมมือทางธุรกิจ แต่สุดท้ายพวกเรายังต้องแบ่งแยกผลประโยชน์ส่วนรวมและส่วนตัวให้ชัดเจน มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ใช่องค์กรที่ขึ้นตรงต่อหนานเจียงเพียงอย่างเดียว มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เช่นกัน ทั้งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังไม่ได้มีแค่ฉันที่ตัดสินใจคนเดียวได้ ฉันเป็นแค่นักศึกษา ทุกอย่างที่ฉันทำทั้งหมดในตอนนี้ อันที่จริงล้วนเพื่อช่วงชิงผลประโยชน์ให้กับหนานเจียง นี่ถือว่าลำเอียงอยู่บ้างแล้ว”
“เดิมทีอธิการหลายคน รวมถึงคณบดีหลายคนก็มีความหมายไม่เห็นด้วย จุดนี้ อันที่จริงทุกมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ต่างมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้ามหาวิทยาลัยหนานเจียงมีเงื่อนไขแบบนี้จะเปิดต่อสาธารณะหรือเปล่า ไม่ใช่พวกเราใจแคบ แต่เงื่อนไขมีจำกัดจริงๆ เติมเต็มความต้องการของตัวเองยังติดขัดแล้ว ยังเปิดต่อภายนอกเป็นพิเศษอีกส่วนหนึ่ง นี่สร้างผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ แล้ว ผู้ว่าน่าจะเข้าใจ เรื่องพวกนี้ที่ผมพูด อันที่จริงไม่ได้มีความหมายจะสร้างความลำบากใจให้หนานเจียง…”
จางติ้งหนานจนใจอย่างเห็นได้ชัด แม้จะเป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือ ตอนนี้ก็มีความรู้สึกอยู่ใต้ชายคาคนอื่นจำเป็นต้องก้มหัวอยู่บ้าง
สิ่งที่ฟางผิงพูดมา ไม่นับว่าโหดร้ายจริงๆ
แต่ใช้วัตถุดิบของถ้ำใต้ดินเป็นมาตรฐานในการจ่ายทั้งหมด แค่จุดนี้ก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว นี่เป็นการช่วงชิงธุรกิจของบริษัทใหญ่อย่างโจ่งแจ้ง ทั้งความหมายของฟางผิงก็ชัดเจน ปัญหานี้ ต้องให้หนานเจียงมาจัดการเอง ผู้ฝึกยุทธ์ของหนานเจียงจะใช้ของพวกนี้มาหักเงินเอง ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเอาแบบนี้ให้ได้
คนอื่นเขาให้แล้ว พวกเราคงไม่อาจปฏิเสธได้หรอกสินะ?
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่อื่น แต่เป็นจางติ้งหนาน จะจัดการปัญหาพวกนี้อย่างไรให้การร่วมมือสำเร็จผล
ผลผลิตของผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียง ภายหลังอาจจะเข้าสู่คลังสินค้าของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ทั้งหมด นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก
เดิมทีความหมายของจางติ้งหนานคือใช้วัตถุดิบสนับสนุนการสิ้นเปลืองของห้องแหล่งพลังงานและสระปราณ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ยิ่งไม่รวมถึงมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เปิดระบบแลกเปลี่ยนต่อภายนอกของตัวเอง อันที่จริงนี่เป็นการที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ขายผลผลิตพวกนี้กลายๆ แล้ว
ยอดฝีมือคนอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต่างไม่เปิดปาก เห็นได้ชัดว่ายอมรับความคิดของฟางผิงโดยปริยาย
หากรับซื้อผลผลิตที่ผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียงได้มาทั้งหมดจริงๆ รวมทั้งขายผลผลิตออกไป อย่าลืมว่ายาบำรุงและอาวุธต่างเป็นธุรกิจที่มีกำไรมหาศาล!
แม้จะขายต่ำกว่าบริษัทใหญ่พวกนั้นหน่อยก็ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำอยู่ดี
ไม่ต้องการเงิน ขอแค่วัตถุดิบ นี่เป็นเงื่อนไขเดียวของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ทั้งเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดด้วย
จางติ้งหนานเคาะโต๊ะเบาๆ ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “อันที่จริงบริษัทยาบำรุงและอาวุธ พวกเขาก็มีองค์กรฝึกฝนและสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกวิชาที่อยู่ภายใต้สังกัดเหมือนกัน…”
———————–