ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (2)
- Home
- ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน
- ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (2)
ตอนที่ 396 ตั้งแต่วันนี้ไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องเปลี่ยนเป็นแซ่ฟาง (2)
ด้านหลังเวทีเกิดความเงียบอยู่พักใหญ่
ผ่านไปสักพัก อาจารย์คนหนึ่งก็เอ่ยว่า “ถ้าในอนาคตพวกเราอยากจะออกจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ จะโดนจำกัดอะไรหรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์เฉิน คุณพูดเล่นแล้ว ทุกคนต่างมีอิสระ ไม่ใครจำกัดใครได้ ในยุคสมัยนี้คุณคิดว่ายังจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้เหรอครับ? หากเป็นแบบนั้นจริงๆ คุณตะโกนออกไป ยอดฝีมือขั้นเก้าพวกนั้นก็สามารถฆ่าพวกเราได้แล้ว ยังจะทำเรื่องจำกัดอิสระของใครได้หรือไง?”
มีคนเอ่ยขึ้นว่า “งั้นหลังจากนี้เธอจะนับว่าเป็นผู้มีอำนาจของมหาวิทยาลัยหรือเป็นนักศึกษาล่ะ?”
“ผมยังเรียนไม่จบ ต้องเป็นนักศึกษาอยู่แล้ว!” ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่ไม่ได้ขัดแย้งอะไร หรือนักศึกษาไม่ควรลงแรงเพื่อมหาวิทยาลัยอย่างนั้นเหรอครับ?”
“หลังจากนี้ของทุกอย่างที่พวกเราได้จากถ้ำใต้ดินต้องมอบให้มหาวิทยาลัยหรือเปล่า?”
“อาจารย์พูดเล่นแล้ว นี่เป็นของที่คุณเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อได้มา ต้องเป็นของคุณอยู่แล้ว แน่นอนว่าแม้จะขายให้มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยก็ไม่อาจรับซื้อต่ำกว่าราคาพวกบริษัทใหญ่เหล่านั้น ตอนนี้มหาวิทยาลัยขยายฐานการผลิตแล้ว ต้องการวัตถุดิบอย่างเร่งด่วน”
มีคนเอ่ยขึ้นอีกว่า “ฉันมีลูกศิษย์หลายคนที่เรียนจบไปแล้ว ตอนนี้อยากกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยยังรับอยู่หรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้ายินดี “รับอยู่แล้วครับ แต่ว่า…ตอนนี้มหาวิทยาลัยรับแค่อาจารย์ระดับกลางเท่านั้น แน่นอนว่าถ้าเป็นขั้นสามตอนปลายขึ้นไป อายุไม่มาก มหาวิทยาลัยก็รับเหมือนกัน”
“มหาวิทยาลัยจะลดความยากในการได้คะแนนลงอีกหรือเปล่า?”
“ไม่ตัดความเป็นไปได้นี้ออก ทั้งยังมีโอกาสสูงมาก!”
“ได้รับบาดเจ็บหนักหรือตายในถ้ำใต้ดิน ระบบค่าทำขวัญจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “สิ่งที่ผมหวังจะได้เห็นคือในอนาคตการบาดเจ็บล้มตายน้อยลง แน่นอนว่าถ้ำใต้ดินอันตรายเกินไป ใครก็ไม่อาจรับประกันเรื่องพวกนี้ได้ สำหรับอาจารย์และนักศึกษาที่บาดเจ็บหนักหรือสละชีพ มหาวิทยาลัยจะเพิ่มการดูแลยิ่งขึ้น ไม่อาจประหยัดเงินด้านนี้อยู่แล้ว! ลูกหลานของอาจารย์ที่สละชีวิตในสนามรบ มหาวิทยาลัยจะเพิ่มการดูแลอีกเท่าตัว รับเป็นกรณีพิเศษหรือให้ข้อยกเว้นกับนักศึกษากลุ่มนี้ ทั้งในอนาคตผมแนะนำว่านักศึกษาที่ไม่ถึงขั้นสามตอนปลาย อย่าลงถ้ำใต้ดินจะดีกว่า แน่นอนว่าคลาสฝึกพิเศษทั่วไปไม่อาจน้อยลงอยู่แล้ว อีกอย่างเพื่อให้นักศึกษาตระหนักได้ถึงวิกฤต ผมวางแผนว่าปีหน้าเป็นต้นไป ใครที่เป็นผู้ฝึกยุทธ์จะถูกแจ้งให้ทราบความจริงเรื่องของถ้ำใต้ดิน! ถึงกระทั่งอนุญาตให้นักศึกษาบางส่วนลาออกได้! ถ้ารู้สึกว่าไม่สามารถรับความจริงที่ต้องลงถ้ำใต้ดินในอนาคตได้ งั้นก็ลาออกไปซะ!”
ด้านล่างเวทีเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง
ผ่านไปพักหนึ่ง อู๋ขุยซานที่เงียบมาโดยตลอดก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ได้ยินว่าเธอวางแผนจะเปิดระบบเชื่อมต่อกับเครือข่ายของแต่ละมหาวิทยาลัย ถ้ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ต้องการแลกเปลี่ยนทรัพยากรของหมาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะกำหนดราคายังไง ถ้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่พอใจควรต้องจัดการยังไง?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องราคา ผมวางแผนหารือและตกลงกับแต่ละมหาวิยาลัยแล้ว ใช้ระบบคะแนนเดียวกัน! ความยากของการได้คะแนนเหมือนกัน มูลค่าเดียวกัน แน่นอนว่ามหาวิทยาลัยอื่นอยากแลกเปลี่ยนทรัพยากรของเซี่ยงไฮ้ ต้องเป็นสองเท่าของมหาวิทยาลัยพวกเรา!”
อู๋ขุยซานขมวดคิ้วว่า “แม้จะเป็นสองเท่า อันที่จริงก็เป็นมูลค่าของคะแนนพวกเราก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่านั้น งั้นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คงต้องเกิดการผลิตที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ!”
“ช่วงแรกจะใช้ระบบแลกเปลี่ยนวัตถุดิบ”
“บริษัทยาบำรุงและอาวุธพวกนั้นไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่ เธอจะรับคู่ต่อสู้ที่ไม่จำเป็นมาให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มากมาย”
“ความสามารถของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงบริษัทพวกนี้!”
“เธอคิดว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อื่นจะพยายามอย่างเต็มที่?”
“แน่นอน ได้รับประโยชน์กันทั้งนั้น กลายเป็นสังคมแห่งผลประโยชน์ร่วมกัน ทำไมจะไม่ทุ่มเทเต็มที่ล่ะ? ทั้งผมไม่ได้จะรวมเข้าไปในครั้งเดียว ช่วงแรกมีแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะมีแรงกดดันมาก”
“ไม่มีแรงกดดันจะมีแรงกระตุ้นได้ยังไง? มัวพะวงหน้าพะวงหลัง งั้นเรื่องอะไรคงไม่อาจทำสำเร็จ แน่นอนว่าผมก็เข้าใจความกังวลของอธิการ หากช่วงเวลาจำเป็นมาถึงจริงๆ ผมจะออกมาแบกความรับผิดชอบเอง อย่างมากผมก็แค่เข้าไปหลบในถ้ำใต้ดิน ออกมาอีกครั้ง ผมกลับอยากเห็นว่าใครจะมาถามหาความรับผิดชอบจากผม!”
ฟางผิงพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หลายคนที่ได้ยินรู้สึกเลือดพลุกพล่านไม่น้อย
ตอนนี้อู๋ขุยซานไม่พูดอะไรอีก
หยุดไปพักหนึ่ง ก่อนหวงจิ่งจะเอ่ยว่า “ทุกคนยังเห็นต่างอะไรหรือเปล่า?”
ด้านล่างเวทีไม่มีสุ้มเสียง
“ในเมื่อไม่มีก็ตัดสินกันตามนี้เถอะ!”
หวงจิ่งยืนขึ้น เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนวางใจเถอะ ฉันและอธิการรวมถึงอธิการหลิวจะจับตามองอยู่ตลอด มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเช่นกัน “ยังต้องขอให้อาจารย์ทุกคนช่วยดูแล ไม่ว่าจะมีข้อคิดเห็นอะไร สามารถเอ่ยออกมาได้ทุกเมื่อ ถ้ามีข้อผิดพลาดก็จะได้แก้ไข ไม่มีก็ถือเป็นข้อเตือนใจ ยังไงผมก็ยังเด็ก บางเรื่องก็อาจมีจุดที่คำนึงไม่รอบคอบ”
ด้านล่างตาเฒ่าหลี่หาวหวอดว่า “เรื่องเล็กน้อยไม่สลักสำคัญ จะร่ำรี้ร่ำไรกับเรื่องพวกนี้เพื่ออะไร ห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดินอะไรนั่น พยายามทำออกมาให้เร็วหน่อยเถอะ”
หลู่เฟิ่งโหรวก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่งเช่นกัน “ใครจะดูแลมหาวิทยาลัยฉันไม่สนใจหรอก ขอแค่ไม่หักสวัสดิการของพวกเราพอ อย่างอื่นจะทำอะไรก็ตามใจ”
ถังเฟิงเอ่ยปากเช่นกัน “ขอแค่พวกนักศึกษาฝีมือแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โอกาสตายลดต่ำลง ฉันก็ไม่คัดค้านอะไรแล้ว”
“หวังว่ามหาวิทยาลัยจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกสาขาสังคมศาสตร์ของพวกเรา”
“สาขาศึกษาวิจัยก็ขอแค่เงื่อนไขนี้เหมือนกัน”
“หวังว่าจะพยายามเพิ่มโควตาอาจารย์ให้เร็วที่สุด ตอนนี้การเรียนการสอนของพวกเรามีความกดดันอย่างมาก”
“…”
คณบดีแต่ละสาขาและอาจารย์ขั้นหกพากันทยอยเอ่ยปาก
อาจารย์ระดับอื่นๆ แทบไม่พูดอะไรอีก ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครควบคุมมหาวิทยาลัย ขอแค่ไม่กระทบกับสวัสดิการตัวเอง พวกนักศึกษามีโอกาสมากขึ้น นั่นก็ไม่มีปัญหาแล้ว
ฟางผิงเอ่ยรับปากทีละคน เผยใบหน้าแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม ไม่นานก็ประกาศสลายการประชุม
เรื่องราวง่ายดายกว่าที่คิดไว้
รอคนอื่นๆ ไปแล้ว ครู่ต่อมาฟางผิงก็นอนราบอยู่บนพื้นทันที!
อู๋ขุยซานมองเขาอย่างเยือกเย็น แค่นเสียงว่า “ไอ้หนู มหาวิทยาลัยนายควบคุมได้ แต่ว่า…จำเอาไว้ หากมหาวิทยาลัยเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไร เธอต้องแบกรับความผิดชอบทั้งหมด!”
ตาเฒ่าหลี่ยังทำเป็นมองไม่เห็น ตอนนี้อู๋ขุยซานน่าจะโทสะสุมอก
หากไม่ให้เขาระบายความโกรธ ขั้นแปดคนหนึ่งบ้าคลั่งขึ้นมาจะทำยังไง?
ส่วนฟางผิง…ถูกอัดสักครั้งจะเป็นไรไป
ฟางผิงไม่สนใจเช่นกัน นอนราบอยู่บนพื้นอย่างหมดสิ้นภาพลักษณ์ ฉีกยิ้มว่า “อธิการวางใจเถอะครับ เรื่องความรับผิดชอบผมมีอยู่แล้ว หากมหาวิทยาลัยเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ ผมจะรับไว้ทั้งหมด! แต่ว่า…ก็เหมือนที่ผมพูดก่อนหน้านี้ ผมจะเข้าไปหลบภัยในถ้ำใต้ดินก่อน ผมออกมาอีกครั้ง คนที่รังแกผม จะทำให้พวกเขาได้เห็นดีกัน!”
ประโยคนี้แทบจะกัดฟันพูดออกมา!
เหล่าอู๋ วันนี้นายกดฉันราบกับพื้นจนเงยหน้าไม่ขึ้น ในอนาคตฉันจะอัดนายให้หน้าบวมเป่ง!
อู๋ขุยซานมุมปากกระตุกเล็กน้อย เพิ่มพลังจิตใจมากขึ้นไปอีก กดใครบางคนค่อยๆ จมลงไปในใต้ดิน
เอาเรื่องดีนี่ ไอ้หนูใจกล้าจริงๆ เวลานี้ยังจะข่มขู่เขาอีก
อีกอย่างฟังจากความหมายของเด็กนี่ ถ้ำใต้ดินราวกับเป็นบ้านของเขาซะงั้น คนอื่นมองถ้ำใต้ดินเป็นสถานที่อันตราย เขากลับมองถ้ำใต้ดินเป็นที่หลบภัย เอาเรื่องจริงๆ!
อู๋ขุยซานไม่มากความอีก หมุนกายเดินจากไป
เขาเพิ่งไป ฟางผิงก็กระโดดขึ้นมาจากพื้นดิน แยกเขี้ยวยิงฟันว่า “หลังจากวันนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเปลี่ยนเป็นแซ่ฟางแล้ว!”
พวกตาเฒ่าหลี่ทำเป็นไม่ได้ยิน ถังเฟิงที่เพิ่งจะเตรียมออกไปมุมปากกระตุกทันที มักรู้สึกว่าครั้งนี้ตัวเองอาจไม่ได้ทำเรื่องดีเสมอไปยังไงไม่รู้
ไอ้เด็กเวรนี่จะสามารถทำให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดีขึ้นได้จริงๆ งั้นเหรอ?
ทุกคนทยอยออกไป ในใจนั้นซับซ้อนจนไม่อาจเอ่ยออกมาอยู่บ้าง
บอกว่าร่วมดูแลระหว่างสมาคมผู้ฝึกยุทธ์และคณะกรรมการมหาวิทยาลัย…แต่ในความเป็นจริง คณะกรรมการมหาวิทยาลัยคนอื่นๆ ตอนนี้แทบจะละทิ้งความคิดควบคุมดูแลมหาวิทยาลัยไปแล้ว มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ในตอนนี้มีฟางผิงเป็นผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียวแล้วจริงๆ
“หวังว่าพวกเราจะเลือกถูกทาง”
เสี้ยวนาทีนี้ในใจของหลายคนก็ผุดความคิดนี้ขึ้นมา
แม้จะเป็นตาเฒ่าหลี่ที่ได้เห็นใบหน้าแยกเขี้ยวยิงฟันของฟางผิง ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยวางใจอยู่บ้าง เพิ่งจะอายุสิบเก้าปีเอง…ยังไงก็เป็นแค่เด็กหนุ่ม!
“หวังว่าหลังจากนี้ตายไปแล้ว อาจารย์จะไม่ซ้อมฉัน”
ตาเฒ่าหลี่ไม่มั่นใจอยู่บ้าง หลังจากนี้ตายแล้วจะถูกอธิการเฒ่าซ้อมหรือเปล่า?
คิดดูแล้ว…โอกาสไม่ได้น้อยเลย
———————