ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 400 รัชศกราชาปีศาจ เขตแดนเจ็ดทางใต้ (1)
ตอนที่ 400 รัชศกราชาปีศาจ เขตแดนเจ็ดทางใต้ (1)
……………………………………………………………………..
สองวันต่อมา มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใหญ่โตอะไร
ฟางผิงไปสถาบันวิจัยครั้งหนึ่ง ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดออกมา รัฐบาลเซี่ยงไฮ้และหน่วยทหารของเซี่ยงไฮ้ต่างส่งคนมาเช่นกัน อันที่จริงคนส่วนมากล้วนยอมรับต่อคำอธิบายของฟางผิง
หากใช้กับมนุษย์ทั้งหมดได้จริงๆ ฟางผิงคงไม่มีความจำเป็นต้องปิดบัง
ถ้าอยากปิดบัง เขาคงไม่ใช้ให้เห็นหรอก
เรื่องนี้เซี่ยงไฮ้ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียงจนเกินไป จึงนับว่าพอจะผ่านไปได้
—
วันที่ 31 ธันวาคม ฟางผิงได้รับข่าวหลายเรื่อง
เรื่องแรก พวกเฉินอวิ๋นซีเข้าสู่ถ้ำใต้ดินหนานเจียงแล้ว!
เรื่องที่สอง มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนานเจียง รองอธิการบดีที่อยู่ขั้นหกสูงสุดรับช่วงต่อตำแหน่งอธิการบดี คณบดีสาขายุทโธปกรณ์ขั้นหกสูงสุดคนนั้นรับตำแหน่งรองอธิการบดี
คณบดีสี่สาขาใหญ่ เป็นครั้งแรกที่ไม่มียอดฝีมือขั้นหกสูงสุดอยู่เลย
หวังจินหยาง ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง แต่ได้รับตำแหน่งลอยเป็นรองผู้บัญชาการหนานเจียง!
เรื่องนี้ดึงดูดความสนใจผู้คนไม่น้อย
หนานเจียงยังไงก็เป็นมณฑลใหญ่ แม้หวังจินหยางจะได้รับตำแหน่งลอย ไม่ได้ทำงานจริงๆ ที่ทำเนียบผู้ว่าหนานเจียง แต่เด็กหนุ่มที่เพิ่งจะอายุครบยี่สิบเอ็ดปีได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการของมณฑล เป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้เช่นกัน!
เทียบกับเรื่องนี้แล้ว อีกเรื่องหนึ่งแทบจะไม่มีค่าพอให้หยิบมาพูดถึง
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยปักกิ่งก่อตั้งคลาสฝึกพิเศษขึ้นมา
คลาสฝึกพิเศษนี้ ก่อตั้งเพื่ออะไร โลกข้างนอกไม่ค่อยมีคนรู้
แต่ฟางผิงกลับรู้ดี…หลักๆ ก่อตั้งเพื่อปรับตัวให้คุ้นชินกับถ้ำใต้ดิน
สรุปง่ายๆ คือสอนเคล็ดวิชาฝีเท้าและทักษะขุดเจาะ แน่นอนว่าทักษะขุดเจาะไม่มีค่าที่จะหยิบยกมาพูดได้ จากคำบอกเล่าทางโทรศัพท์ของหลี่หานซง เป็นวิชาขุดเจาะเพื่อเอาตัวรอดในถ้ำใต้ดิน
ครั้งนี้เจ้าหลี่หัวเหล็กได้รับแรงกระตุ้นจริงๆ แล้ว!
กลับมาก็ประกาศก่อตั้งคลาสฝึกพิเศษทันที
เบื้องบนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ตอบรับ…ไม่ตอบรับ เจ้าหลี่หัวเหล็กจึงยื่นคำขาดไปว่า ไม่ตอบรับเขาจะพานักศึกษาบางส่วนไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้!
แน่นอนว่าไม่ได้ย้ายมหาวิทยาลัย แค่จะพาคนไปเรียนรู้ทักษะเอาตัวรอดที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เท่านั้น
เมื่อคำพูดนี้ออกมา เบื้องบนของมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็โมโหแทบตาย จำเป็นต้องฝืนตอบรับไป
หากให้เจ้าเวรนั่นพาคนไปมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ จะยังพากลับมาจริงๆ หรือไง?
ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งจึงมีคลาสฝึกพิเศษขึ้นมา
—
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์
ฟางผิงขำต่อการกระทำของหลี่หานซงจนปวดหัว
เจ้าหลี่หัวเหล็กเอาเรื่องจริงๆ!
เขาคิดอะไรกัน?
หรือเจ้าหลี่หัวเหล็กคิดว่านักศึกษาขั้นสามขั้นสี่พวกนี้มีโอกาสจะเข้าไปลึกในถ้ำใต้ดิน ทั้งอาจถูกยอดฝีมือจำนวนมากไล่ฆ่าจริงๆ?
หรือคิดว่าเจ้าพวกนี้มีโอกาสที่จะขุดแร่พลังงานได้?
เรื่องของถ้ำใต้ดินหนานเจียงเป็นกรณีพิเศษจริงๆ หากเจ้าหลี่หัวเหล็กไม่ตามพวกฟางผิงเข้าไปกับกลุ่มแรก แต่เข้าไปทีหลัง แทบจะไม่อาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้
ยอดฝีมือขั้นห้าขั้นหกจำนวนมากไล่ฆ่า ท้ายที่สุดยังกระตุ้นระดับสูงออกมาอีก
เหมือนพวกเฉินอวิ๋นซี ครั้งนี้เข้าสู่ถ้ำใต้ดิน ไม่สามารถเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเช่นกัน เรื่องที่ถูกยอดฝีมือจำนวนมากไล่ฆ่า ไม่อาจกลายเป็นสถานการณ์ทั่วไปได้
หากแรงกดดันมากเกินไป พวกเขาคงถอนตัวออกมาล่วงหน้าเช่นกัน
สายจากหลี่หานซงทำให้ฟางผิงคลายความกังวลต่อคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ที่เข้าสู่ถ้ำใต้ดินเช่นกัน
พวกคนจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เข้าสู่ถ้ำใต้ดิน ฟางผิงก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะมีคนตายหรือเปล่า
แม้หลัวอี้ชวนจะเป็นยอดฝีมือขั้นหกสูงสุด ทั้งยังพาอาจารย์ระดับกลางหลายคนเข้าไปพร้อมกัน แต่ถ้ำใต้ดินมีเหตุไม่คาดฝันอยู่ทุกหนทุกแห่งอยู่แล้ว
ในถ้ำใต้ดินไม่ได้มีแต่ยอดฝีมือถ้ำที่เป็นภัยคุกคาม
สัตว์ประหลาดและสถานที่อันตรายต่างเป็นภัยคุกคามของมนุษย์
ฟางผิงเจอแค่ไม่กี่ครั้ง นั่นเพราะว่าเขาลงไปถ้ำใต้ดินไม่บ่อย รวมทั้งหมดแล้วแค่สามครั้งเท่านั้น แต่ก็ยังคงเจอเจี่ยวที่อยู่ขั้นแปดได้
กำลังนึกถึงเรื่องนี้ ฉินเฟิ่งชิงก็ผลักประตูเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ ทิ้งตัวกับโซฟาแล้วก็ไขว่ห้างว่า “ของล่ะ?”
ฟางผิงชำเลืองตามองเขา ขมวดคิ้วว่า “ยังไม่ส่งมา”
“ช้าขนาดนี้เลย? ทำงานกันยังไง?”
ฟางผิงขมวดคิ้วอีกครั้ง เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นายกำลังบอกว่าฉันทำเรื่องไม่ราบรื่น?”
ฉินเฟิ่งชิงราวกับฟังน้ำเสียงไม่พอใจจากเขาออก ไอแห้งๆ ก่อนจะหัวเราะว่า “ไม่ได้หมายถึงนาย ฉันหมายถึงหน่วยทหารดำเนินการยังไง ไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิด ส่งหนังสือไปตั้งนานแล้ว จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผลลัพธ์ออกมาอีก!”
“ใกล้แล้วล่ะ วันนี้น่าจะมาถึง”
ระหว่างที่พูด ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “อีกนานแค่ไหนกว่านายจะถึงขั้นสี่สูงสุด?”
ฉินเฟิ่งชิงแลมองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย “ก่อนสิ้นปี”
ฟางผิงเคาะโต๊ะเบาๆ ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “เอาแบบนี้ รอนายถึงขั้นสี่สูงสุด พวกเราไปขุดแร่พลังงานที่นั่นด้วยกัน…”
“ไม่ทำ!”
ฉินเฟิ่งชิงปฏิเสธทันที!
ไม่ทำเด็ดขาด!
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นายคิดว่าฉันสนใจแร่พลังงานเล็กน้อยนี้? หินพลังงานที่ฉันเห็นมา เยอะกว่าที่นายเคยเห็นมาชั่วชีวิตซะอีก ฉันทำเพราะนึกถึงมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปห้องแหล่งพลังงานจะเปิดต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ มหาวิทยาลัยจะจ่ายให้ล่วงหน้า แต่หินพลังงานมากขนาดนั้น เสียเงินอาจซื้อไม่ได้เยอะขนาดนั้นเสมอไป แม้ในมือฉันจะมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่พอ ฉันคนนี้จะทำเพื่อตัวเองหรือไง? หากไม่ใช่เพื่อมหาวิทยาลัยฉันจำเป็นต้องขอร้องนายด้วย? ฉินเฟิ่งชิง เป็นคนอย่าได้เห็นแก่ตัวจนเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นถ้าฉันไม่ไป นายมั่นใจนะว่าจะสามารถขุดแร่พลังงานพวกนี้ไปได้? มีระดับสูงครองอาณาเขตอยู่ แม้จะเป็นแค่ขั้นเจ็ด นายก็ต้องตายเหมือนกัน!”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม “ฉันไม่สน นายก็หยุดหลอกลวงฉันได้แล้ว ฉันต้องฝึกวิชาเหมือนกัน นายมีทรัพยากรฝึกวิชาแทบใช้ไม่หมด ฉันไม่เหมือนกัน คนอื่นฝึกวิชาก็ต้องแย่งชิงเอง หรือฉันไม่ต้องเสี่ยงชีวิตไปชิงทรัพยากรมาฝึกวิชา? หยุดหลอกฉันได้แล้ว ฉันไม่ใช่ทึ่มทื่อเหมือนพวกนั้น หัวสิงโตยังโดนนายหลอกจนโง่ไปแล้ว”
“อาจารย์ถัง คุณมาแล้ว”
ฟางผิงหยัดกายขึ้น เอ่ยทักทาย
ฉินเฟิ่งชิงแทบไม่หันหัวไป แค่นเสียงว่า “ไม่ต้องมาไม้นี้ เอาหัวสิงโตมาขู่ฉัน? มีประโยชน์หรือไง? ถึงนายจะใช้อาจารย์มาขู่ฉันก็ไม่มีประโยชน์!”
“ไม่กล้าหรอก ใครจะขู่เธอได้ฉินเฟิ่งชิง?”
ข้างหลังนั้น ถังเฟิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง
ฉินเฟิ่งชิงใบหน้าแข็งทื่อในชั่วพริบตา!
แม่งเหอะ ล้อกันเล่นแล้ว?
มาจริงๆ!
นี่คือสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ หัวสิงโตมาที่นี่ทำไม?
ฟางผิงมองฉินเฟิ่งชิงด้วยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม หัวเราะว่า “อาจารย์ถัง ยังต้องรบกวนคุณมาส่งหนังสือพวกนี้ด้วยตัวเองอีก ให้ใครสักคนมาส่งแทนก็เพียงพอแล้วครับ”
“ผ่านทางมาพอดี ข้อมูลบางอย่างไม่สะดวกที่จะเผยแพร่ให้คนอื่นด้วย”
ถังเฟิงหัวเราะ ก่อนจะมองไปทางฉินเฟิ่งชิง แค่นเสียงว่า “ฉินเฟิ่งชิง ตอนนี้วางมาดใหญ่โตจริงๆ ไม่คิดจะทักทายกันสักหน่อย?”
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงชะงักการเคลื่อนไหว ยังนั่งอยู่ที่โซฟา
ได้ยินคำพูดนี้ก็ค่อยๆ ยืนขึ้น เงยหน้าด้วยรอยยิ้ม เอ่ยอย่างเสแสร้งว่า “อาจารย์ถัง คุณมาแล้ว รีบนั่งก่อนครับ!”
“ไม่ต้อง เรียกฉันว่าหัวสิงโต อาจารย์ถังห่างเหินกันเกินไป”
ฉินเฟิ่งชิงใบหน้าแข็งทื่อขึ้นอีกครั้ง เอ่ยกระอึกกระอัก “ได้ที่ไหนกันล่ะครับ ผมว่าฉายาราชสีห์คลั่งของคุณโด่งดังจนเป็นที่รู้กันไปทั่วแล้ว ไม่ช้าก็เร็วคงต้องเติมราชาเข้าไปเป็นราชาราชสีห์คลั่ง…ไม่สิ ราชาราชสีห์ถึงจะถูก!”
ถังเฟิงถลึงตามองเขาอีกครั้ง เผยแววตาไม่พอใจ
เมื่อก่อนเป็นฟางผิงที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่ เป็นตัวก่อเรื่องของมหาวิทยาลัย ถังเฟิงจึงเพ่งเล็งไปที่ฟางผิงเป็นพิเศษ
ตอนนี้…ฉินเฟิ่งชิง เจ้าเด็กนี้กลับก่อเรื่องมากกว่า ทั้งยังกำเริบเสิบสาน!
ประเด็นยังไม่ได้อยู่ที่เรื่องพวกนี้ เจ้าเด็กนี้ไม่คิดมีน้ำใจอะไรเลยหรือไง?
ไม่ว่าจะพูดยังไง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เป็นผู้บ่มเพาะอัจฉริยะออกมา ไม่เคยจะคิคทำอะไรเพื่อมหาวิทยาลัยเลย?
แน่นอนว่าฉินเฟิ่งชิงครอบครองแหล่งแร่พลังงานขนาดเล็กๆ นั้นได้เพราะความสามารถของเขาเอง ถังเฟิงไม่ได้คิดจะบังคับให้เขาพูดอะไร แต่คนกลัวการเปรียบเทียบกันอยู่แล้ว
ดูอย่างฟางผิง หินพลังงานของตัวเอง บอกว่าจะควักออกมาก็ควักออกมาทันที
แม้จะบอกว่าไม่ได้ให้ฟรีๆ แต่ก็ไม่คิดจะเก็บเงินตอนนี้
ให้เวลาทุกคนฝึกวิชา มีเวลาเตรียมตัวสักหน่อย ไม่ช้าก็เร็วต้องได้คืนอยู่แล้ว
ฉินเฟิ่งชิงถูกถังเฟิงจับจ้อง แทบจะก่นด่ามารดาในใจ!
ผมไม่ได้ทำอะไรคุณสักหน่อย?
รังแกกันอีกแล้ว!
หัวสิงโตผมไม่ได้เรียกเป็นคนแรกสักหน่อย ตอนที่ฟางผิงยังไม่มาก็ไม่เคยมีใครเรียกหัวสิงโต พอฟางผิงเป็นตัวเปิด ทุกคนถึงได้เรียกตามกันว่าหัวสิงโตเถอะ
หัวสิงโตคงถูกหลอกจนโง่ไปแล้วสินะ ไม่คิดบ้างว่าผู้ริเริ่มคนแรกก็อยู่ตรงหน้านายนั่นแหละ!
ฉินเฟิ่งชิงคิดว่าสภาพแวดล้อมของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เลวร้ายลงเรื่อยๆ แล้ว
นับวันก็ใช้ชีวิตยากขึ้นเรื่อยๆ
นึกถึงตอนแรกที่ตัวเองอยากรังแกใครก็รังแกได้ ตอนนี้ใครคิดจะรังแกตัวเองกลับรังแกได้ทั้งนั้น
ในใจเกิดความเศร้าโศกเล็กน้อย ฉันใช้ชีวิตได้น่าอนาถขนาดนี้เลย!
ฟางผิงเลวกว่าฉันร้อยเท่า แค่เสแสร้งเก่ง หลอกคนเป็น ผลปรากฏว่ากลับใช้ชีวิตได้อย่างดี เป็นระดับสูงของมหาวิทยาลัยไปแล้ว
ดูท่าเขายังต้องเรียนรู้เอาไว้ จุดนี้ยังควรค่าให้เรียนรู้จริงๆ