ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 403 ฉันคือราชาแห่งสวรรค์ (1)
ตอนที่ 403 ฉันคือราชาแห่งสวรรค์ (1)
……………………………………………………………………..
‘เปรี้ยง’
วันนี้เขตทางใต้ของมหาวิทยาลัยเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวหลายครั้ง
ทั่วร่างของฟางผิงเปล่งแสงสีทองอร่าม เดินอวดตัวมาตลอดทาง วางท่าอย่างถึงที่สุด
คนของฝ่ายตรวจสอบจากสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ต่างตกตะลึงไป!
อีกแล้ว!
ทั้งยังยิ่งกว่าครั้งก่อนอีก นี่ตกลงเดินเหยียบมากี่ที่แล้ว?
อีกอย่าง…ทำไมประธานถึงเปล่งแสงสีทองได้?
ข้างหลังนั้น ตาเฒ่าหลี่ไม่ปริปาก อันที่จริงเขาอยากจะพาฟางผิงลอยกลับไป แต่ฟางผิงไม่ยินยอม จะไปด้วยตัวเองให้ได้ บอกว่าต้องการจะควบคุมพลัง
แต่ไม่ว่าจะมองยังไง…ก็เหมือนกำลังอวดตัวอยู่ดี!
—
เดินอยู่พักใหญ่ จู่ๆ ฟางผิงก็ตะโกนว่า “ฉินเฟิ่งชิง อย่าขยับ!”
ครู่ต่อมาในแววตาของฟางผิงก็มีแสงสีทองปรากฏออกมา ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ข้างหน้าตกใจจนรีบกระโดดหลบออกไป อ้าปากค้างอยู่พักใหญ่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
พระเจ้า!
ใครบอกฉันได้บ้าง ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เจ้าหมอนี่เปล่งแสงสีทองได้ยังไง?
แสงสีทองในดวงตาฟางผิงสาดส่องออกมาไกลนับเมตร ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างเหนื่อยใจขึ้นมาอีกครั้ง คุ้มค่าหรือไง?
ปล่อยแสง นั่นต้องสิ้นเปลืองพลังปราณมากมาย!
ตอนนี้ฟางผิงกลับไม่สนใจ ศีรษะข้างหลังเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าเช่นเดียวกัน มองไปทางฉินเฟิ่งชิงว่า “เห็นยอดฝีมือร่างทองยังไม่รู้จักทำความเคารพอีก?”
ฉินเฟิ่งชิงมองเขา ก่อนจะมองตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้าง ผ่านไปสักพักก็เอ่ยอย่างตกตะลึง “ร่างทองที่นายพูดถึง…คือ…คือใคร?”
ตาเฒ่าหลี่ไม่ได้เปล่งแสง!
“นายเดาดูสิ?”
เดาหาบรรพบุรุษแกสิ!
เวลานี้ฉินเฟิ่งชิงอยากจะด่าคนจริงๆ จะให้ฉันเดาเพื่ออะไร!
เจ้าหมอนี่ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
เขาจะอกแตกตายแล้วจริงๆ!
อย่าพูดถึงฉินเฟิ่งชิงเลย ซ่งอิ๋งจี๋ที่เพิ่งออกมาจากห้องแหล่งพลังงานเพื่อดูความครึกครื้นยังแววตาชะงักนิ่ง รู้สึกราวกับตัวเองฝันไป
ตกลงมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมฟางผิงถึงเปล่งแสงสีทองได้!
ไม่ใช่แค่พวกเขา คนที่เห็นแทบจะตกตะลึงกันทั้งนั้น กระทั่งความคิดยังถูกหยุดชะงักไปด้วย
ผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามไม่เข้าใจอะไร นั่นยังดี
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง โดยทั่วไปแล้วรู้ว่านี่หมายความว่าอะไร
ในเวลาเดียวกันยอดฝีมือจำนวนมากก็ทะยานเข้ามา
แม้จะเป็นอู๋ขุยซานที่กำลังรักษาตัวอยู่ ยังถูกหวงจิ่งพยุงออกมาเช่นกัน
เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
ฟางผิงออกมาจากเขตทางใต้ ทั่วร่างก็เปล่งแสงแล้ว!
ตอนที่ได้ยินข่าวนี้ หวงจิ่งแทบจะอกแตกตาย
ไม่กี่วันก่อนเขายังพูดเล่นกับอู๋ขุยซานว่าฟางผิงอาจจะกลายเป็นขั้นแปดขั้นเก้าในเร็วๆ นี้!
ผลปรากฏว่า…เจ้าหมอนี่หลอมร่างทองแล้วจริงๆ!
—
กลางอากาศนั้นอู๋ขุยซานและหวงจิ่งกระโดดลงมาทันที
เพิ่งจะลงไป หลังจากนั้นไม่นานพวกหลู่เฟิ่งโหรวและถังเฟิงก็ทะยานลงมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
นอกจากหลิวพั่วหลู่ที่ยังรักษาตัว เบื้องบนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แทบอยู่ที่นี่ทั้งหมด
เห็นทั่วร่างของฟางผิงเปล่งแสงสีทองอร่าม แววตาของหลู่เฟิ่งโหรวนิ่งค้างเป็นอันดับแรก ก่อนจะไม่พูดพร่ำทำเพลงเข้าไปหิ้วคอฟางผิงพาทะยานไปในอากาศทันที!
คนอื่นๆ ต่างตกตะลึง พวกเขายังไม่ทันพูดอะไรเลย เธอพาคนไปแบบนี้นับเป็นเรื่องอะไรกัน?
กลางอากาศ ร่างของฟางผิงเปล่งแสงเข้มข้นกว่าเดิม บาดตาทุกคนข้างล่างจนมองสถานการณ์ไม่ออกอยู่บ้าง
ช่วยไม่ได้ ถูกคนเห็นคงขายหน้าแย่
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด ทำแบบนี้แทบทุกครั้ง ทำจนตาเฒ่าหลี่เลียนแบบบ่อยๆ น่าหงุดหงิดจะตายไป!
เขาเปล่งแสงสีทองอร่าม หลู่เฟิ่งโหรวกลับกัดฟันแน่น กดเสียงว่า “เก็บเข้าไป!”
“เก็บไม่ได้”
ฟางผิงทำสีหน้าไร้เดียงสา เขาไม่ได้ถึงขั้นเก็บเข้าไปไม่ได้เลย แต่เสียการควบคุมไปอยู่บ้างจริงๆ ตอนนี้แสงสีทองที่เปล่งออกมา แม้จะเก็บไปแล้วก็ยังคงมีอยู่
หลู่เฟิ่งโหรวสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่พูดพล่ามอีก พาเขาไปในบ้านพักหมายเลขแปดอย่างรวดเร็ว
เพิ่งจะตกสู่พื้น ฟางผิงไม่ทันระวังเท้า เหยียบบันไดหน้าประตูจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟางผิงเอ่ยทันที “ผมจะตามคนมาซ่อม!”
ส่วนชดใช้หรือปรับเงินนั้น…เป็นเรื่องช่วยไม่ได้อยู่แล้ว
ตอนนี้เขามีเงินเป็นหมื่นล้าน ใครจะสนใจเรื่องนี้กัน?
มหาวิทยาลัยยังติดเขาเป็นหมื่นล้าน หักไปเถอะ รอดูว่าเมื่อไหร่ถึงจะหักหมดกัน
ตอนนี้หุ้นของบริษัทยาบำรุงยังไม่ได้ขายออกไป บริษัทยาบำรุงก็ไม่ได้เข้าสู่ตลาดเช่นกัน ไม่รู้ว่าระบบไม่สามารถคำนวณออกมาได้ หรือยากจะประเมินมูลค่าหุ้นออกมาจึงไม่ได้เพิ่มค่าทรัพย์สินให้เขามาโดยตลอด
ฟางผิงไม่รีบเช่นกัน หลายวันนี้มหาวิทยาลัยเริ่มเจรจาต่อรองกับสองบริษัทใหญ่แล้ว
หลังจากนี้ขายออกไป เงินก็จะเข้าบัญชีหลายพันล้าน เงิน…เป็นเรื่องเล็กเท่านั้น!
หลู่เฟิ่งโหรวไม่พูดอะไร เห็นเขายังจะเหยียบพื้นก็หิ้วตัวเขาเดินเข้าไปในห้องอีกครั้ง เอ่ยไปพลาง “ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ผมแลกเปลี่ยนพลังฟ้าดินได้นี่ครับ? วันนี้ลองหลอมกะโหลกดู จากนั้นก็หลอมไปไม่น้อย…”
หลู่เฟิ่งโหรวหันไปมองเขา เผยแววตาอันตราย “เธอคิดว่าฉันปัญญาอ่อน?”
ต่อให้เธอเก่งแค่ไหน มีพลังฟ้าดินมากเพียงไหน แต่วันเดียวกลับหลอมกะโหลกได้ถึงขนาดนี้เนี่ยนะ?
งั้นปรมาจารย์ขั้นเจ็ดคงเข้าสู่ขั้นแปดได้ในสามวันกันแล้ว!
ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าบริสุทธิ์ว่า “จริงๆ นะครับ ผมสงสัยว่ากะโหลกของผมอาจจะหลอมโดยกำเนิดเหมือนกัน แค่ก่อนหน้านี้ไม่ชัดเจนอยู่บ้าง ตอนนี้พอหลอมเล็กน้อยก็ฟื้นฟูขึ้นมาทันที”
จู่ๆ หลู่เฟิ่งโหรวก็ไร้คำจะโต้ตอบ
เรื่องนี้มีความเป็นไปได้…งั้นเหรอ?
เป็นไปได้?
เป็นไปได้จริงๆ!
แต่ว่านี่เป็นไปได้ยังไง!
เรื่องดีๆ ของโลกใบนี้ไปอยู่ที่ฟางผิงทั้งหมด?
เขานับว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์งั้นเหรอ?
ไม่นับ!
แววตาของหลู่เฟิ่งโหรวซับซ้อนอย่างถึงที่สุด เอ่ยอย่างคลุมเครือว่า “ตอนนี้ฉันสงสัยว่าเธอเป็นยอดฝีมือร่างทองขั้นแปดที่ตายแล้วคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ฟางผิงก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย
คนอื่นๆ ที่เพิ่งตามเข้ามาต่างตะลึงไปเช่นกัน!
อู๋ขุยซานเผยสีหน้าตกใจ จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “เป็นไปได้!”
หวงจิ่งกลืนน้ำลาย เอ่ยทุ้มลึกว่า “ขั้นแปดคืนชีพ ตกลงต้องใช้เวลานานเท่าไหร่? เขาเป็นยอดฝีมือของยุคสมัยไหนกันแน่?”
ร่างทองขั้นแปดตายในสงคราม ไม่ทำลายสสารไม่แตกดับก็มีโอกาสคืนชีพได้
ตกลงต้องใช้เวลานานกี่ปี ไม่มีใครรู้
เพราะเป็นแค่ทฤษฏี ไม่มีใครรู้ว่าขั้นแปดคืนชีพได้จริงๆ หรือเปล่า
แต่ตอนนี้ฟางผิง…จะสอดคล้องกับเรื่องทั้งหมดนี่เกินไปแล้ว!
ถ้าเขาเป็นร่างทองขั้นแปดที่ตายไปแล้วเหลือสสารไม่แตกดับไว้ หลังจากเข้าสู่ร่างกายของมารดาฟางผิงแล้ว เกิดใหม่ด้วยสาเหตุนั้น ตอนนี้กำลังฟื้นตัว งั้นทั้งหมดก็มีคำอธิบายแล้ว!
พลังจิตใจกลายพันธุ์ ไขกระดูกกลายพันธุ์ กะโหลกกลายพันธุ์ ถึงกระทั่งเกิดแกนสมองออกมาล่วงหน้า ล้วนเป็นคำอธิบายที่สมบูรณ์แบบแล้ว!
ไม่มีคำอธิบายไหนจะเหมาะสมเท่าอีกแล้ว!
ครู่ต่อมาตาเฒ่าหลี่ก็เอ่ยว่า “ผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์…เป็นแบบนี้เหมือนกันหมดหรือเปล่า!”
เมื่อก่อนทุกคนไม่เคยครุ่นคิดเรื่องนี้ เพราะคนอื่นที่กลายพันธุ์มีแค่บางส่วน ทั้งยังจำนวนน้อยเกินไป
แต่ตอนนี้ฟางผิงปรากฏตัวขึ้น จู่ๆ ก็ทำให้ทุกคนตระหนักถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
“การคืนชีพของยอดฝีมือสมัยโบราณ!”
“จะมีความทรงจำเดิมหลงเหลืออยู่หรือเปล่า?”
“ยอดฝีมือประเภทนี้ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่?”
“…”
พวกยอดฝีมือต่างเผยท่าทีตกใจ แทบจะยอมรับการคาดคะเนแบบนี้
มีแค่อย่างนี้ถึงจะสามารถอธิบายเรื่องทั้งหมดได้!
บางทีฟางผิงอาจเป็นยอดฝีมือขั้นแปดหรือกระทั่งสูงกว่าขั้นแปดเมื่อหลายร้อยหลายพันปีก่อน เวลานั้นสสารไม่แตกดับไม่ได้สูญสลาย คล้อยตามเวลาที่เปลี่ยนผ่าน พลังงานของโลกเข้มข้นมากขึ้น เขาจึงคืนชีพอีกครั้ง!
คนอื่นตกตะลึง ฟางผิงก็ตกตะลึงเช่นกัน!
โอ้โห!
ความคิดแหวกไปนอกโลกแล้ว!
หากเขาไม่มีระบบ คงเชื่อแบบนั้นเหมือนกัน!
ยังจะมีอะไรอธิบายได้ดีกว่านี้อีก?
ขั้นแปดฟื้นคืนชีพหลังจากตายไป…สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว!
ความคิดแหวกแนวของหลู่เฟิ่งโหรวนี้แทบจะทะลุจักรวาลไปแล้ว เธอคิดแบบนี้ได้ยังไงกัน?
หลู่เฟิ่งโหรวสีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุดหย่อน มองไปทางฟางผิงว่า “เธอมีความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยบ้างหรือเปล่า? ความทรงจำอาจจะตามการเกิดใหม่มา?”
เห็นได้ชัดว่าเหล่าหลู่ยอมรับว่าเขาเป็นยอดฝีมือร่างทองขั้นแปดที่กลับมาเกิดใหม่แล้ว
ฟางผิงเผยสีหน้าเหยเก มีสิ ผมมีความทรงจำของชาติก่อน แต่ชาติก่อนของผมไม่มีผู้ฝึกยุทธ์ คุณเชื่อหรือเปล่า?
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “ฟางผิง เธอยังจำเรื่องในอดีตได้หรือเปล่า?”
ฟางผิงทำสีหน้าไร้เดียงสา ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “ผมจำได้ ในยุคของพวกเรา มีขั้นเก้าเยอะอย่างกับสุนัข ขั้นสุดยอดเดินกันกลาดเกลื่อน พวกเรายังสร้างสวรรค์ขึ้นมาด้วย ผมน่าจะเป็นราชาคนแรกของสวรรค์…”
‘ผัวะ!’
หลู่เฟิ่งโหรวซัดฝ่ามือใส่เขาจนจมลงไปในใต้ดิน เอ่ยด้วยใบหน้าโมโหว่า “ถึงเธอจะเป็นยอดฝีมือเกิดใหม่ก็อาจจะไม่มีความทรงจำในชาติก่อน ยอดฝีมือที่ไหนจะไม่เอาถ่านเหมือนเธอบ้าง!”
คนอื่นๆ ต่างใบหน้าดำคล้ำ
แม่งล้อกันเล่นแล้ว?
สวรรค์?
ราชาแห่งสวรรค์?
ฟางผิงเผยท่าทีใสซื่อ เอ่ยอย่างอัดอั้นตันใจว่า “พวกคุณจ้องผมอย่างกับผมเป็นยอดฝีมือยุคก่อน ผมจะทำอะไรได้? ผมแทบจะสงสัยตัวเองขึ้นมาแล้วว่าตัวเองเป็นยอดฝีมือสมัยโบราณที่กลับมาเกิดใหม่จริงๆ? พวกคุณพูดมาแบบนี้ ผมเตรียมจะกลับบ้านชวนพ่อแม่ไปโรงพยาบาลตรวจดีเอ็นเอแล้ว…”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ตรวจดีเอ็นเออาจไม่ได้ผลเสมอไป เธอมาถึงขั้นถอดเอ็นเปลี่ยนกระดูก อันที่จริงเปลี่ยนแปลงเนื้อหนังร่างกายเดิมของเธอไปตั้งนานแล้ว”
ฟางผิงตกตะลึงไปอีกครั้ง ยังมีเรื่องแบบนี้ด้วย?