ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 413 เผยกระดูกทอง ฆ่าขั้นหก (1)
ตอนที่ 413 เผยกระดูกทอง ฆ่าขั้นหก (1)
……….
ริมระเบียง
ฟางผิงถือดาบยาวปรับลมหายใจเล็กน้อย
ตอนที่รับรู้ได้ถึงลมหายใจสองสายค่อยๆ เข้ามาใกล้
ครู่ต่อมาฟางผิงก็ไม่รออีก ต่อสู้ใกล้แหล่งอาศัยของคนทั่วไป หากสิ่งก่อสร้างพังทลาย ทั้งตึกคงไม่มีคนรอดชีวิต
‘ตายซะ!’
เสียงคำรามอย่างโมโหนี้ ฟางผิงไม่ได้ตะโกนออกมา แต่คำรามอยู่ในใจ เขาราวกับก้อนหินที่ไม่มีชีวิตไร้ลมหายใจ ทะลวงกระจกริมระเบียงออกไปฆ่าในชั่วพริบตา!
ประกายแสงเจิดจ้าฝ่าทะลวงอากาศสะท้อนกับความมืด!
ชายชราที่เพิ่งทะยานมา รอจนรับรู้ถึงประกายดาบที่เข้ามาใกล้ ใบหน้าก็ซีดเผือดทันที
“ช่วย…”
คำว่าช่วยด้วยยังไม่ทันตะโกนออกมา ประกายดาบก็ระเบิดในอากาศ ประชิดร่างของเขาแล้ว
‘ปัง!’
ครู่ต่อมา กลางอากาศก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ชายชราไม่ทันป้องกันตัวด้วยซ้ำ ถูกฟางผิงลอบโจมตีด้วยดาบเดียวไปเต็มๆ
เสี้ยวนาทีที่เกิดเสียงระเบิดขึ้น ฟางผิงก็สัมผัสได้ถึงวิกฤตร้ายแรงทันที คำรามเสียงดังก่อนทั่วร่างจะเปล่งแสงสีทองอร่าม
‘เปรี้ยง!’
ในตอนที่ฟางผิงถลาออกจากห้อง ชายกลางคนที่เดิมทีวางแผนจะซุ่มโจมตีจากอีกฝั่ง ก็พุ่งเข้ามาทันที ชกหมัดไปหาฟางผิง
ม่านพลังจิตใจถูกทำลายในชั่วพริบตา
ครู่ต่อมาพลังหมัดก็ทะลุเข้ามา หน้าอกของฟางผิงถูกโจมตีอย่างรุนแรง
ระหว่างขั้นหกและขั้นหกยังคงมีความแตกต่างจริงๆ!
ฟางผิงไม่เคยประมือกับยอดฝีมือขั้นหกสูงสุดอย่างแท้จริงมาก่อน แม้จะถูกไล่ฆ่าก็ไม่เคยเหมือนกัน
เขาและพวกหวังจินหยางเคยร่วมมือกันสังหารขั้นหก แต่ขั้นหกสูงสุดแทบเป็นคนละเรื่องเลย
ตอนที่ปิดผนึกประตูซานเจียวแล้ว เวลานี้ถึงจะเป็นขั้นหกสูงสุด ยอดฝีมือแบบนี้ถึงจะเคลื่อนไหวหลายกระบวนท่าได้อย่างเต็มกำลัง ไม่ได้เหมือนขั้นหกที่ไม่ได้ปิดผนึกประตูซานเจียว นอกจากจะถึงทางตันจริงๆ ไม่งั้นน้อยคนที่จะระเบิดเต็มกำลังทำให้ประตูซานเจียวเปิดออก
ปัง!
เนื้อหนังชั้นนอกของฟางผิงปริแตก กลับไม่คิดชักช้าแม้แต่น้อย อาศัยพลังนั้นลอยออกไปทันที
กระดูกเผยสีทองอร่าม แม้เนื้อหนังจะปริแตก กระดูกกลับไม่เป็นอะไร
ฟางผิงไม่ได้มองผู้ฝึกยุทธ์ที่ถูกตัวเองฟันโดนคนนั้น อีกฝ่ายฝีมือไม่ได้แข็งแกร่งมาก ไม่ตายเกรงว่าจะบาดเจ็บหนักอยู่ดี ไม่อาจสู้ได้อีกแล้ว
เรื่องจริงก็ไม่ได้เหนือจากที่คาด ฟางผิงลอบโจมตีด้วยดาบเดียวเต็มกำลัง ชายชราแทบจะไม่มีเวลาตั้งตัว เวลานี้ประกายดาบดับลงแล้ว กลางอากาศเหลือแค่ศพที่ถูกแยกเป็นสองส่วน แหลกเหลวไม่เป็นรูปร่าง ร่วงลงมาในชั่วพริบตา
แววตาของชายชรายังนิ่งค้าง
เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกฟันขาดในดาบเดียว
—
สีหน้าของชายกลางคนแทบจะดูไม่ได้!
แม้เขาจะไม่พอใจกับผู้คุมกฎเหมยอยู่บ้าง ถึงกระทั่งมีความคิดอยากจะฆ่า แต่ยังไงผู้คุมกฎเหมยก็เป็นยอดฝีมือขั้นหก ทั้งเป็นลูกน้องที่เขาใช้ประโยชน์ได้
นึกไม่ถึงว่าเพิ่งจะเข้ามาใกล้ก็ถูกฟางผิงฟันตายด้วยดาบเดียวแล้ว
ชายวัยกลางคนตื่นกลัวในใจอยู่บ้าง ฟางผิงแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ แข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก!
ดาบเดียวฟันขั้นหกได้!
แต่ตอนนี้เขาไม่อาจสนใจมากมายขนาดนั้นได้แล้ว
ฟางผิงเตรียมการป้องกันไว้ล่วงหน้า นี่เป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง
ชั่วพริบตาที่ฟางผิงกระเด็นลอยออกไป ชายกลางคนก็ไล่ตามเข้าไปทันที
แต่ฟางผิงกลับลอยไปทางนอกชุมชน
ยังไม่ทันลอยไปไกลเท่าไหร่ ลมหายใจของขั้นหกก็ปรากฏขึ้นแถวรอบนอก อีกคนไล่ตามเข้ามาแล้ว
“ฟางผิง นายหนีไม่พ้นหรอก!”
ชายกลางคนคำราม ชกหมัดฝ่าอากาศออกไป เกิดระเบิดขึ้นทันที อากาศถูกสะท้อนเป็นแสงสีแดง
“หนีปู่แกสิ ฉันจะฟันนาย!”
ฟางผิงระเบิดเสียงคำราม ร่างทองประกายอย่างเจิดจ้า บนดาบยาวนั้นปรากฏพลังอย่างหลากหลาย มีทั้งพลังปราณและพลังฟ้าดิน
เวลานี้เขาถูกโจมตีขนาบทั้งหน้าและหลัง คนข้างหลังนั้นได้ขวางทางไปของเขาแล้ว
ด้านข้าง…นั่นเป็นตึกพักอาศัยแห่งอื่น หากเขาไปทางนั้น ประมือกันขึ้นมา จะทำให้เกิดความสูญเสียได้ง่าย
“ระยำ!”
ฟางผิงตะโกนอย่างโมโห คนพวกนี้แทบไม่สนใจความเป็นความตายของคนอื่น ต้องไม่ใช่คนของสองบริษัทใหญ่อย่างแน่นอน เป็นคนของลัทธินอกรีต!
ต่อให้สองบริษัทใหญ่จะเกลียดชังฟางผิงขนาดไหนก็ไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้หรอก หากถูกตรวจสอบขึ้นมา ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหมดคงถูกโทษประหารชีวิต!
มีแค่ผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตเท่านั้นที่ไม่เกรงกลัวอะไรแบบนี้!
ฟางผิงคำรามอย่างโมโห ดาบยาวทะลวงอากาศอีกครั้ง ดาบราวกับสายฟ้าฟาด แหวกฝ่าความมืด ปะทะเข้ากับหมัดของอีกฝ่ายทันที
‘เปรี้ยง!’
เกิดเสียงดังสนั่นออกมาอีกครั้ง แทบจะกลบเสียงประทัดทั้งหมดในชุมชนใกล้เคียง
ฟางผิงฟันดาบออกไป กลับยังถูกโจมตีจนกระเด็นอีกครั้ง ข้างหลัง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางคนนั้นก็ถือดาบไม่พูดไม่จา ฟันเข้ามาหาฟางผิงเช่นกัน
“เวรเอ้ย!”
ฟางผิงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว หมุนกลับไปฟันดาบ
‘เปรี้ยงๆๆ…’
เวลานี้ฟางผิงต่อสู้อย่างเต็มกำลัง กระดูกทองสะท้อนกับราตรีจนกลายเป็นสีทอง
ดาบผิงล่วนโจมตีอย่างรวดเร็ว มือของฟางผิงเนื้อหนังปริแตกอีกครั้ง เหลือเพียงกระดูกสีทองอร่าม
ผู้คุมกฎเจิ้งที่ประมือกับเขา สีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุดเช่นกัน บนหัวนั้นปรากฏประตูสามบานไร้รูปร่าง ประตูหนึ่งในนั้นถูกปิดผนึกไปแล้ว
พอบานประตูปรากฏ ฝีมือของผู้คุมกฎเจิ้งก็เพิ่มขึ้น ปะทะตัวต่อตัว ฟันฟางผิงไปนับสิบครั้ง
แสงเปลวเพลิง แสงสีแดง และแสงสีทองปรากฏระยิบระยับระหว่างทั้งสองคนไม่ขาดสาย
ฟางผิงฟันออกไปอย่างบ้าคลั่งนับสิบดาบ ไม่แม้แต่จะหันมอง ครู่ต่อมาก็กระโดดตัวขึ้น ทะยานไปบนฟ้า
‘เปรี้ยง!’
บนหัวมีร่างชายกลางคนปรากฏขึ้น พุ่งหมัดต้านลงมาทันที ตะเบ็งเสียงว่า “นายกล้าหนี ฉันจะสังหารหมู่ทั้งเมืองหยางเฉิง!”
“เกี่ยวอะไรกับฉัน! มีฝีมือก็ฆ่าดูสิ!”
ฟางผิงตะโกนออกไปเช่นกัน ร่างนั้นถอยหลบไม่หยุดหย่อน
ปะทะกับคนเดียว เขายังพอหนีได้ แต่ตอนนี้สองคนล้อมโจมตีเขา เขายากที่จะฝ่าการทะลวงออกไปจริงๆ
—
กลางอากาศ เวลานี้เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเสียงโลหะผสมปะทะกัน สั่นสะเทือนในความว่างเปล่าเช่นกัน
ยอดฝีมือขั้นหกสองคนแสดงศักยภาพเต็มที่ ชั่วพริบตาก็เกิดแรงกดดันมหาศาล ทำให้ทั่วทั้งชุมชนย่านกวนหูหยวนโกลาหลวุ่นวายอยู่บ้าง
ตอนแรกที่พวกเขาปะทะกัน ทุกคนยังคิดว่าเป็นเสียงประทัด ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายประมือกันไม่หยุดยั้ง ความรู้สึกกดดันแบบนั้นก็ทำให้ทุกคนตื่นตระหนกขึ้นมา
นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของขั้นเจ็ด ไม่งั้นภายใต้การปะทะของพลังจิตใจ เกรงว่าชุมชนเล็กๆ คงจะมีคนตายกลาดเกลื่อนแล้ว
ชั้นที่ครอบครัวของฟางผิงอาศัยอยู่
เวลานี้กำแพงข้างนอกถูกควันหลง ปรากฏรอยแตกร้าวเช่นกัน
ในความวุ่นวายนั้น ร่างของหวังจินหยางหายวับไปในชั่วพริบตา ไม่นานก็รู้ที่อยู่ของครอบครัวตระกูลฟาง
หวังจินหยางเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ครู่ต่อมาก็ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูบันไดที่ครอบครัวของฟางผิงอยู่
เพิ่งจะปรากฏ ฟางหยวนก็เตะเท้าออกมาทันที
หวังจินหยางจับข้อเท้าเธอไว้ด้วยมือเดียว กดเสียงว่า “ฉันเอง หวังจินหยาง ฟางผิงให้ผมมาพาพวกคุณออกไป!”
ได้ยินเสียงนี้ฟางหยวนก็ละล่ำละลักว่า “ช่วยพี่หนูด้วย!”
เวลานี้พวกเขาอยู่ที่หน้าต่างทางเดินตรงบันได เห็นสถานการณ์ข้างนอกเช่นกัน
ตอนนี้เงาไร้รูปร่างที่ปรากฏสามสายบนท้องฟ้าเปล่งแสงระยิบระยับไม่หยุด
เงาประกายสีทองที่อยู่ตรงกลางนั้น เดี๋ยวปรากฏขึ้นทางซ้ายเดี๋ยวไปโผล่ทางขวา กลับไม่สามารถทะลวงวงล้อมออกไปได้ ในแสงสีทองยังระเบิดประกายสีแดงอย่างเจิดจ้าออกมา
หวังจินหยางเผยสีหน้าตึงเครียดขึ้นมา ฟางผิงประมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนกลางคนนั้นอาจจะไม่ถูกฆ่าเสมอไป แต่ยอดฝีมือขั้นหกสูงสุดคนนั้น ฝีมือแทบจะบดขยี้ฟางผิงได้
หากยืดเวลาออกไป ฟางผิงไม่สามารถฝ่าวงล้อมได้ เกรงว่าจะถูกฆ่าตายจริงๆ แล้ว
สูดลมหายใจเข้าลึก หวังจินหยางไม่พูดมากอีก คว้าคนไว้ทั้งสองมือ หันไปพูดกับฟางหยวนว่า “จับฉันไว้ ส่งพวกคุณออกไปแล้ว ผมจะกลับเข้ามาอีกที!”
ฟางหยวนหันไปมองนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง น้ำตาไหลไม่ขาดสาย ไม่พูดมากอีกเช่นกัน รีบจับหวังจินหยางไว้
ฟางหมิงหรงเงียบไม่ปริปาก หลี่อวี้อิงสะอึกสะอื้นไม่หยุด เวลานี้แทบไม่ได้เปิดปากพูด
หวังจินหยางไม่คิดชักช้า คว้าพ่อแม่ของฟางผิงลงไปข้างล่างตึกอย่างรวดเร็ว
ไม่นานหวังจินหยางก็พาทุกคนออกมาจากชุมชน ตะโกนว่า “ไป ไปให้ไกลหน่อย!”
ทิ้งคำพูดนี้แล้ว หวังจินหยางก็ทะยานขึ้นบนฟ้า คนยังอยู่กลางอากาศกลับน้าวคันศรออกมาแล้ว พลังไขกระดูกแทรกซึมออกมาชั่วพริบตา บนคันศรมีธนูที่เต็มไปด้วยพลังปราณ ชั่วพริบตาก็รวมตัวกันก่อนลูกธนูสีแดงจะฝ่าอากาศออกไป พุ่งไปหายอดฝีมือขั้นหกตอนกลางคนนั้น
กลางอากาศ ตอนนี้ฟางผิงแทบจะมีบาดแผลเต็มตัว เห็นแบบนั้นก็ไม่ทักทายหวังจินหยางอีก ตะโกนว่า “ถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุดได้เท่าไหร่?”
“สามสิบวินาที!”
“ได้!”
ฟางผิงคำรามอย่างโมโห ระเบิดพลังฟ้าดินออกไปชั่วพริบตา ทำให้ขั้นหกสูงสุดคนนั้นถอยออกไประยะหนึ่ง
หวังจินหยางเคลื่อนที่อย่างว่องไว เข้ามาสกัดอีกฝ่ายทันที
ชายกลางคนเผยแววตาเยือกเย็น ตะโกนว่า “หวังจินหยาง นายกำลังรนหาที่ตาย!”
หวังจินหยางไม่คิดจะต่อบทสนทนา ครู่ต่อมาก็เก็บคันศรเปลี่ยนเป็นดาบ พลังไขกระดูกแทรกซึมออกมาอีกครั้ง ดาบประกายแสงสีแดงฟันลงมาทันที!
‘เปรี้ยง!’
ชายกลางคนเดือดจนถึงขีดสุด คำรามก่อนจะชกหมัดเข้ามา!
ตู้ม!
เสียงดังสนั่นแพร่กระจายออกมา ดาบยาวสั่นสะเทือน แขนของหวังจินหยางเนื้อหนังแหลกในชั่วพริบตา พลังปราณสีแดงที่ปกคลุมร่างอย่างเข้มข้นก็หม่นแสงลงไปมากเช่นกัน
—
อีกด้านหนึ่ง
ฟางผิงที่ทิ้งขั้นหกสูงสุดให้หวังจินหยางแล้ว แทบไม่มองอีกฝ่ายอีก สามสิบวิ นี่เป็นคำสัญญาที่หวังจินหยางให้ไว้ ไม่ถึงเวลานี้ เขาไม่จำเป็นต้องสนใจ!
ผู้คุมกฎเจิ้งเผยสีหน้าเยือกเย็น “นายคิดจะฆ่าฉัน?”
“ต้องฆ่านายอยู่แล้ว!”
ฟางผิงเดือดพล่าน นึกไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะซุ่มโจมตีเขา ถ้าเขาไม่จับสัมผัสได้ล่วงหน้า เกรงว่าคงเกิดเรื่องกับคนที่บ้านแล้ว
สิ้นเสียงนี้ดาบยาวของฟางผิงก็ปรากฏพลังฟ้าดินที่รวบรวมจนถึงขีดจำกัดแล้ว
ส่วนเขา บนร่างก็เนื้อหนังปริแตกไม่ขาดสายเช่นกัน ตอนนี้ฟางผิงแทบไม่สนใจอาการบาดเจ็บใดใด คนพวกนี้แม้จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่มากกว่านี้ เขาก็ต้องฆ่าพวกเขาให้ได้!
“ตายซะ!”
เสี้ยวนาทีที่พลังฟ้าดินถูกรวบรวมนั้น ฟางผิงก็ฟันดาบออกไป
ผู้คุมกฎเหมยเผยสีหน้ามืดครึ้ม กลับไม่หวาดกลัวฟางผิง ดาบที่ฟางผิงฟันออกมามีอานุภาพแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้เขามีการเตรียมพร้อมแล้ว เป้าหมายแค่สกัดฟางผิงเท่านั้น ฟางผิงอยากฆ่าเขา…ฝันไปเถอะ!
——————————
……….