ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 414-2 ระเบิดนายให้ตาย (2)
ตอนที่ 414 ระเบิดนายให้ตาย (2)
……….
ในเวลาเดียวกับที่พวกฟางหมิงหรงออกไป เรื่องที่หยางเฉิงถูกจู่โจมก็เผยแพร่อยู่ในสังคมอินเทอร์เน็ต
ถึงกระทั่งมีคลิปวิดีโอที่พวกเขาต่อสู้กันกลางอากาศออกมา
คลิปวิดีโอยังนับว่ามองเห็นชัดเจน
คืนส่งท้ายปีในวันนี้ บางคนกำลังเตรียมถ่ายคลิปประทัดดอกไม้ไฟ ผลปรากฏว่ากลับถ่ายฉากต่อสู้กลางอากาศได้พอดี
แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน ทั้งระยะยังค่อนข้างไกล ถ่ายรูปร่างลักษณะคร่าวๆ ไม่ได้ แต่ลำแสงหลายสายกลางอากาศปะทะกันไม่หยุดหย่อน รวมถึงประกายดาบที่สะท้อนท้องฟ้ายังถ่ายออกมาได้ชัดเจน
คลิปวิดีโอพวกนั้น…ไม่นานก็ถูกลบทิ้ง
เวลานี้รัฐบาลไม่ต้องการให้เผยแพร่ข้อมูลพวกนี้
การต่อสู้ของหยางเฉิงยังไม่รู้ถึงผลลัพธ์
พวกฟางผิงมีชีวิตอยู่ถือเป็นเรื่องดี แต่หากถูกสังหารในเมืองหยางเฉิงจริงๆ นั่นจะสร้างผลกระทบอันใหญ่หลวงแล้ว!
อัจฉริยะรุ่นใหม่ทั้งสองคนถูกผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตสังหารในบ้านเกิดตัวเอง งั้นการประกาศจัดอันดับที่ปล่อยออกมาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้มนุษย์คงไม่มีประโยชน์อีกแล้ว
เวลานี้ยอดฝีมือระดับสุดยอดแต่ละแห่งหนก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้วเช่นกัน ทยอยมุ่งหน้ามายังหยางเฉิง
ไม่ใช่แค่รัฐบาล ตอนนี้คนของเซี่ยงไฮ้ก็มุ่งหน้ามาทางหยางเฉิง ยอดฝีมือจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวในอากาศ ไอสังหารพลุกพล่าน ลอยมายังทิศทางของหยางเฉิงอย่างรวดเร็ว
—
แรงสนับสนุนกำลังมา ฟางผิงและหวังจินหยางกลับแทบจะหมดแรงกายแรงใจไปแล้ว
ทั้งสองคนต่างบาดเจ็บอย่างหนัก!
หวังจินหยางเกือบถูกฆ่าตายแล้ว อาการบาดเจ็บที่หนักที่สุดของฟางผิงไม่ใช่ฝีมือของผู้ฝึกยุทธ์นอกรีต แต่เป็นเขาที่สร้างความเสียหายโดยการระเบิดตัวเอง
ระเบิดพลังฟ้าดินทำให้เนื้อหนังเขาถูกทำลาย
ระเบิดพลังจิตใจตัวเองก็ทำให้จิตใจของเขาสั่นคลอน ความรู้สึกนึกคิดช้าไปอยู่บ้าง
หลังจากนั้นยังใช้กระดูกทอง ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักไปอีก
เวลานี้ร่างกระดูกทองของฟางผิงแทบจะเละเทะไม่เป็นชิ้นดี แต่ไม่ถึงขั้นร่างทอง เนื้อหนังถูกทำลาย เป็นอาการบาดเจ็บที่ถึงชีวิตได้เช่นกัน
ใช้กระดูกทอง ไม่ได้หมายความว่าฟางผิงมีร่างกายอมตะแล้วจริงๆ
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกข้างหลังนั้นอาจไม่สามารถทำลายกระดูกทองเขาได้เสมอไป แต่กระดูกเก็บรักษาไว้ได้ ไม่ได้หมายถึงว่ายังมีชีวิตรอด
สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคืออีกฝ่ายฆ่าฟางผิงแล้วยังสามารถได้กระดูกทองไปฟรีๆ เพิ่มผลประโยชน์ให้ตัวเอง
กลางอากาศ ฟางผิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กลับยากที่จะทิ้งห่างชายกลางคนข้างหลังอยู่ดี
ที่นี่ไม่ใช่เมืองราชาถ้ำใต้ดิน ถ้าเป็นเมืองถ้ำใต้ดิน ฟางผิงปะปนกับผู้คน แทรกลงไปใต้ดิน อีกฝ่ายอาจหาเขาไม่เจอแล้ว
แต่นี่เป็นโลกมนุษย์ เมืองหยางเฉิง!
ข้างล่างนั้นล้วนเป็นเพื่อนร่วมชาติของเขา
หากฟางผิงปะปนไปในฝูงชน แทบไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคงจะสังหารหมู่คนข้างล่างโดยไม่สนใจอะไรได้
ยิ่งไปกว่านั้นยังพาหวังจินหยางที่บาดเจ็บหนักมาด้วย แม้ฟางผิงจะหนีลงพื้นก็หาเจอได้ง่ายอยู่ดี
เห็นว่าลมหายใจของหวังจินหยางเริ่มสะเปะสะปะราวกับจะตายได้ทุกเมื่อ ฟางผิงแล่นฉิวอย่างว่องไวพร้อมก่นด่าไปพลาง “แม่งเหอะ พวกเราอยู่ในถ้ำใต้ดินยังไม่เคยน่าอนาถถึงขนาดนี้มาก่อน ตายในมือพวกเดรัจฉานนี้ ไม่คุ้มค่าพอจริงๆ!”
หวังจินหยางใบหน้าซีดเผือด กลับยังเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “แม้จะตายก็ไม่อาจตายระหว่างหนีได้ รอถึงเขตที่ไร้คนอาศัยแล้ว อย่าหนีอีกเลย พวกเรายังมีพลังต่อสู้เหลืออยู่ ทุ่มกันสักตั้งเถอะ! ฆ่าเขาไม่ได้ก็ต้องสกัดไว้ รอผู้บัญชาการทหารมาถึง!”
ฟางผิงกวาดสายตามองเขา เอ่ยว่า “นายยังสู้ได้อีก?”
“เอาน้ำแร่พลังงานให้ฉัน น่าจะพอไหว”
“ไม่มีแล้ว”
ฟางผิงส่ายหัว ในมือปรากฏหินพลังงานระดับสูงหลายก้อน ยัดใส่มือเขาว่า “มีแค่ของพวกนี้ รีบใช้เถอะ”
“กระเป๋าหนักจริงๆ ด้วย”
เวลานี้หวังจินหยางยังมีอารมณ์มาหยอกล้อฟางผิง แต่ฟางผิงมีทรัพย์สินไม่น้อยเลยจริงๆ หินพลังงานระดับสูงไม่ใช่ของที่ใครก็ควักออกมาได้
หวังจินหยางดูดกลืนอย่างรวดเร็ว หันไปมองชายกลางคนข้างหลังที่ตามเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “ฉันจะถ่วงเวลาเขาไว้ นายน่าจะพอหนีรอดได้…”
“หุบปากไปเลย!”
ฟางผิงก่นด่าออกมา กัดฟันว่า “นายเห็นฉันเป็นคนยังไง คิดว่าฟางผิงคนนี้เป็นคนยังไง?”
หากหวังจินหยางไม่เข้าร่วมการต่อสู้ เวลานี้คงนั่งกินข้าวฉลองปีใหม่อย่างสบายใจเฉิบอยู่ที่บ้านได้ด้วยซ้ำ
ตอนนี้เพราะช่วยเหลือเขาจึงได้รับบาดเจ็บหนัก หากฟางผิงทิ้งเขาไว้ หวังจินหยางถ่วงเวลาอีกฝ่ายพักหนึ่ง ฟางผิงหนีไปคงไม่ใช่เรื่องยาก
แต่หากเป็นแบบนั้นจริงๆ กระทั่งพื้นฐานของความเป็นคนยังไม่มี
คนแบบนี้ถึงจะมีชีวิตรอด ถึงวันหน้าจะกลายเป็นปรมาจารย์…ไม่สิ คนแบบนี้ไม่คู่ควรพอให้เรียกปรมาจารย์ด้วยซ้ำ แตกต่างอะไรกับพวกนอกรีตกัน?
ฟางผิงด่าออกไปแล้ว ก็เอ่ยอย่างร้อนใจอยู่บ้าง “ระดับสูงยังฆ่าฉันไม่ได้ ขั้นหกนับเป็นตัวอะไร! ในเมื่อไอ้เวรนี้ไม่ยอมแพ้ งั้นก็อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจละกัน! เดี๋ยวนายถ่วงเวลาเขาไว้พักหนึ่ง ฉันจะระเบิดเขาให้ตายเอง!”
รวบรวมพลังฟ้าดินก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน
ฟางผิงคิดดีแล้ว ยังไงก็มาถึงขั้นนี้ ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อีกเดี๋ยวจะรวบรวมพลังฟ้าดินก้อนใหญ่ออกมา ขอเวลาให้เขาแป๊บหนึ่ง จะระเบิดไอ้เวรนี่ให้ตาย!
ระเบิดพลังฟ้าดินห้าร้อยหลุน ตาเฒ่าหลี่ฆ่าได้กระทั่งขั้นแปด
เขาไม่จำเป็นต้องมากขนาดนั้น รวบรวมหนึ่งร้อยหลุนเทียบได้กับขั้นเจ็ดโจมตีเต็มกำลัง เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะสามารถต้านได้
ระหว่างที่พูด ฟางผิงก็กระซิบว่า “ตอนที่ฉันระเบิดเขา นายรีบหนีให้เร็วหน่อย ไม่งั้นถูกระเบิดตาย นั่นคงช่วยไม่ได้”
หวังจินหยางเอ่ยด้วยหน้าไร้สีเลือด “นายไหวแน่นะ?”
“ถึงตายก็ไม่ปล่อยให้เขาได้ใช้ชีวิตดีๆ หรอก!”
ขณะที่พูดประโยคนี้ในมือฟางผิงก็รวบรวมพลังฟ้าดินแล้ว ตอนนี้เขาเก็บงำลมหายใจทั้งหมด ใช้ร่างของหวังจินหยางบังไว้
เห็นว่าหมัดของชายกลางคนฝ่าอากาศเข้ามาแล้ว ฟางผิงไม่คิดแม้แต่จะหันไปมอง ลอยไปข้างหน้าต่อทันที
เวลานี้ฟางผิงเริ่มเหมือนโครงกระดูกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เนื้อหนังบนร่างกายแทบจะหลุดร่วงทั้งหมด
หวังจินหยางเห็นฉากนี้ก็ถอนหายใจเบาๆ ขั้นห้ารวบรวมพลังฟ้าดิน ไม่ใช่ว่าไม่ต้องเสียค่าตอบแทนอะไร
ฟางผิงอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ทุกครั้งอย่างมากก็รวบรวมพลังฟ้าดินประมาณห้าหลุนเท่านั้น กรอกลงไปห้าสิบหลุนยังต้องแบ่งเป็นหลายรอบ เพราะว่าร่างกายไม่สามารถรองรับพลังของฟ้าดินได้
เวลานี้คิดจะระเบิดคนข้างหลัง ฟางผิงต้องรองรับแรงต้านกลับกว่าปกติหลายสิบเท่า
แม้อีกฝ่ายจะถูกระเบิดตาย ฟางผิงก็อาจปางตายด้วยเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจนถึงตอนนี้เป็นเวลาแค่ห้าหกนาทีเท่านั้น
ยอดฝีมือปะทะกัน ใช้เวลารวดเร็วอย่างมาก
กว่าผู้บัญชาการทหารจะมาถึง เกรงว่ายังต้องใช้เวลาอีกห้าหกนาที ผู้บัญชาการทหารอาจตามมาไม่ทันเสมอไป
เห็นฟางผิงไม่คิดสนใจอะไรแล้ว หวังจินหยางก็เผยแววตาลึกล้ำ ผ่านไปสักพักร่างกายก็มีเสียงเลือดไหลเวียนดังจากร่างกาย
กระดูกที่เผยออกมาข้างนอก พลังปราณที่คล้ายกับน้ำเลือดแทรกซึมออกมาจากกระดูก
ฟางผิงที่เนื้อหนังปริแตกหยีตาเล็กน้อย นี่คือปลดปล่อยพลังไขกระดูกเต็มกำลังแล้วสินะ เหล่าหวังกำลังใช้พลังเกินขีดจำกัดตัวเองเหมือนกัน
ครั้งนี้แม้จะสามารถมีชีวิตรอด ทั้งสองคนก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างหนักอยู่ดี ฟางผิงมองแขนที่ประกายแสงสีทองอร่ามของตัวเอง ลอบถอนหายใจ นึกถึงเรื่องพวกนี้ไม่มีประโยชน์ สภาพตัวเองในตอนนี้…อย่ามองว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรเลย ผ่านไปอีกสักพัก เกรงว่าคงจะตกถึงขั้นที่ไร้เรี่ยวแรงต่อสู้อีกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงเขาชางซาน
หยางเฉิงมีเทือกเขาย่อยของเขาชางซาน ตอนแรกที่หวังจินหยางไล่ฆ่าหวงปินก็เคยเข้ามาในเขาชางซาน
ปากทางเข้าของรุ่ยอันก็อยู่ในเขาชางซานเช่นกัน
ฟางผิงหนีมาถึงที่นี่ อันที่จริงก็เพราะจะมุ่งหน้าไปยังรุ่ยอัน
ครู่ต่อมา จู่ๆ ก็ตะโกนว่า “ปรมาจารย์ของรุ่ยอันใกล้จะมาถึงแล้ว นายมั่นใจนะว่าจะใช้ชีวิตแลกชีวิต?”
“ขอแค่พวกเราถ่วงเวลานายได้พักหนึ่ง นายก็จะตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
ชายกลางคนที่ตามเข้ามาใกล้เผยสีหน้าดูไม่ได้ เอ่ยอย่างเยือกเย็นว่า “งั้นนายก็ต้องถ่วงเวลาฉันให้ได้ก่อน!”
สิ้นเสียงอีกฝ่ายก็พุ่งหมัดเข้ามาอีกครั้ง
เงาหมัดประกายแสงสีแดง แหวกฝ่าอากาศเข้ามาชั่วพริบตา พุ่งหาทั้งสองคน
หวังจินหยางหันหลังให้ฟางผิง ฟางผิงจับไหล่เขาไว้ เขากลับถือดาบด้วยสองมือ ฟันดาบออกไปทำลายเงาหมัดนั้น
“อึก!”
เงาหมัดถูกทำลาย หวังจินหยางก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน กระอักเลือดออกมาไม่หยุด
ชายกลางคนรู้ว่าที่นี่อยู่ใกล้กับรุ่ยอัน เกรงว่าอีกไม่นานปรมาจารย์จะตามมาถึงจริงๆ แล้ว ภายในเวลาสามนาที ต้องฆ่าสองคนนี้ให้ได้ เขาถึงจะมีโอกาสหนีรอด
ไม่ชักช้าอีก บนหัวของชายกลางคนปรากฏประตูซานเจียวที่ปิดสนิททั้งสามบานขึ้นมาทันที
———————-
……….