ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 416 ยังจำเรื่องในอดีตได้หรือเปล่า (1)
ตอนที่ 416 ยังจำเรื่องในอดีตได้หรือเปล่า (1)
……….
สสารไม่แตกดับ ฟางผิงอาศัยบารมีหวังจินหยางได้มาเล็กน้อยเท่านั้น
น่าเสียดายที่ไม่เยอะ ไม่เยอะเลยจริงๆ!
ตอนนี้ฟางผิงมีแสงสีแดงปกคลุมบนกระดูกหนึ่งชั้น ยิ่งขับเน้นให้แปลกประหลาดมากขึ้นไปอีก
ส่วนหวังจินหยาง อาการบาดเจ็บฟื้นฟูขึ้นไม่น้อยเช่นกัน
รูใหญ่ตรงหน้าอกถูกซ่อมแซมกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ก็หยุดถึงแค่นี้เท่านั้น ไม่นานสสารไม่แตกดับก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ตอนมาก็มาอย่างเงียบๆ ตอนไปก็ไปอย่างไร้ร่องรอย
ฟางผิงตั้งใจตรวจสอบอยู่พักหนึ่ง กลับไม่สามารถสัมผัสได้ว่าสสารไม่แตกดับพวกนี้มาจากไหน
อู๋ชวนที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วมุ่น ผ่านไปสักพักก็กดเสียงว่า “ผนึกไว้ภายในประตูซานเจียว! น่าสนใจ!”
ประตูซานเจียวเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นจริงและเสมือนจริง
บอกว่ามีการคงอยู่จริงๆ แต่ความเป็นจริงกลับไม่มี
บอกว่าไม่มีการคงอยู่ อันที่จริงภายในประตูซานเจียวกลับเก็บซ่อนความลับไว้มากมาย อย่างเช่นพลังงานและปราณ เมื่อถึงขั้นหกสูงสุดล้วนจะรับรู้ได้ ภายในประตูซานเจียวเก็บงำพลังงานและปราณไว้จำนวนมาก
มีเพียบพร้อมในร่างกายอยู่แล้ว?
หรือเพราะการฝึกวิชามาหลายปีจึงสะสมเอาไว้?
เรื่องพวกนี้ปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ได้
อู๋ชวนที่อยู่ขั้นเก้าย่อมมีสสารไม่แตกดับเช่นกัน แต่สสารไม่แตกดับของเขา ไม่ได้อยู่ภายในประตูซานเจียว แต่แฝงอยู่ในร่างกายต่างหาก
ในร่างกายของหวังจินหยางไม่มีสสารประเภทนี้
อู๋ชวนมองฟางผิงแวบหนึ่ง…ฟางผิง…เหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง
ตอนนี้อันที่จริงอู๋ชวนก็เดาถึงอะไรบางอย่างได้เหมือนกัน
คนแบบไหนที่จะมีสสารไม่แตกดับได้?
ขั้นแปดและสูงกว่าขั้นแปดขึ้นไป!
ไม่แตกดับ…ไม่แตกดับ…คำเรียกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ แต่มีมาแต่โบราณกาลแล้ว
รวมกับตำนานเรื่องเล่าบางอย่าง อู๋ชวนย่อมคิดเชื่อมโยงไปมากมาย
ไม่ใช่แค่อู๋ชวน คนอื่นๆ ก็จมดิ่งในความคิดเช่นกัน
การต่อสู้ครั้งนี้ แม้จะเป็นการต่อสู้ของผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางไม่กี่คน แต่สิ่งที่เปิดเผยออกมามีมากมายเกินไป
ไม่นานหวังจินหยางก็ลืมตาขึ้น เห็นบาดแผลของตัวเองฟื้นฟูกว่าครึ่งใหญ่ก็ไม่พูดอะไร เผยเพียงสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะผลักฟางผิงที่ยังกอดเขาออกไป คำพูดที่เจ้าหมอนี่ตะโกน อันที่จริงเขาก็ได้ยินเหมือนกัน
ผลักฟางผิงออกไปแล้ว หวังจินหยางก็มองเขาพักหนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “นายล่ะ?”
“อะไร?”
“สสารไม่แตกดับของนายไปไหนแล้ว?”
ฟางผิงเผยสีหน้าจนใจ ฉันจะเอาของแบบนั้นมาจากไหนกันล่ะ!
เห็นได้ชัดว่าเหล่าหวังคิดเลยเถิดไปไกลแล้ว!
แต่หวังจินหยางพูดแบบนี้ออกมา คนอื่นๆ ก็ทยอยมองไปทางฟางผิงทันที อู๋ชวนสีหน้าเปลี่ยนอยู่พักใหญ่ แค่นเสียงในลำคอ
เกรงว่าบางคนก็มีอยู่แล้วสินะ!
ผลปรากฏว่าไม่ใช้ของตัวเอง มาอาศัยของคนอื่น เห็นเป็นเรื่องสนุกหรือไง?
ของแบบนี้เป็นสิ่งล้ำค่าอย่างมาก
หากรู้มาก่อนหน้านี้ เขาคงไม่สิ้นเปลืองของตัวเองแล้ว แม้ว่าเขาจะใช้ไปไม่เยอะ แต่ฝึกวิชาไม่ถึงสี่ห้าเดือน นั่นก็อย่าคิดว่าจะซ่อมแซมกลับมาได้ง่ายๆ เลย
ฟางผิงอัดอั้นตันใจอยู่บ้าง ผมบอกว่าไม่มี พวกคุณจะเชื่อหรือเปล่า?
เอาเถอะ เขาคิดว่าคนพวกนี้น่าจะไม่เชื่อ
ไม่คิดวกวนเรื่องพวกนี้อีก ฟางผิงกำลังจะอ้าปากพูด โพรงข้างบนกลับมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
ฟางผิงกลับขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะทะยานขึ้นไปจากหลุมอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทันที
คนอื่นๆ เห็นแบบนั้นก็เตรียมจะออกไปเช่นกัน ปรากฏว่าครู่ต่อมาฟางผิงกลับลอยลงมาอีกครั้ง คลำอยู่บนร่างศพที่อยู่ไม่ไกลพักหนึ่ง จู่ๆ ก็ขมวดคิ้ว บ่นขมุบขมิบไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไร
ก่นด่าเสร็จแล้ว ฟางผิงก็มองไปยังทุกคนว่า “พวกคุณมีใครให้ผมยืมชุดได้บ้าง?”
พวกปรมาจารย์มองหน้ากัน ทุกคนก็สวมชุดคนละตัว ให้เธอยืมแล้ว พวกเราจะใส่อะไรล่ะ?
“ข้างบนเป็นครอบครัวของผม ผมออกไปสภาพนี้น่าจะทำคนตกใจแล้ว”
ผู้บัญชาการทหารไป๋ได้ฟังก็ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะถอดเสื้อคลุมทหารของตัวเองออกมา ในกลุ่มคนพวกนี้มีแค่เขาที่ใส่เยอะกว่าคนอื่นหน่อย
ฟางผิงรับเสื้อคลุมมา รีบกล่าวขอบคุณ สวมให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว ปิดบังแขนสองข้างที่มีสภาพน่ากลัวเอาไว้
มองส่วนขาไปอีกทีก็มีเนื้อหนังปริแตกขนาดใหญ่ ฟางผิงมองไปทางพวกปรมาจารย์อีกครั้ง
พวกเขาเผยสีหน้าจนใจ ท่อนบนยังพอว่า จะให้ถอดกางเกงให้เธอ เธอจะให้พวกเราเปลือยล่อนจ้อนไปเจอคนอื่นหรือไง?
ฟางผิงมองอู๋ชวน ก่อนจะหัวเราะแห้งๆ ว่า “รุ่นพี่อู๋ ชุดคลุมของพี่ไม่เลวจริงๆ…ขอผมยืมสักหน่อยได้หรือเปล่า?”
อู๋ชวนจนใจ ครุ่นคิดแล้วยังคงถอดชุดคลุมของตัวเองออก
ฟางผิงรีบรับมา ห่อส่วนขาเอาไว้ ถอนหายใจว่า “หลังจากนี้ถ้าต้องเป็นแบบนี้จริงๆ คงไม่มีหน้าไปเจอใครแล้ว หวังว่ารัฐบาลจะให้น้ำแร่พลังงานสักเล็กน้อยเพื่อซ่อมแซมเนื้อหนังได้ ครั้งนี้คนของสองบริษัทใหญ่จะทำเกินไปแล้ว!”
“เธอว่าอะไรนะ?”
อู๋ชวนหน้าเปลี่ยนสีในชั่วพริบตา!
ปรมาจารย์คนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน
ฟางผิงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “คาดเดา คาดเดาเท่านั้น แต่ว่า…โอกาสที่เป็นคนของสองบริษัทใหญ่มีไม่น้อยเลยจริงๆ แน่นอนว่านี่เป็นการคาดเดาของผมคนเดียว ไม่ช้าก็เร็วผมจะไปเผชิญหน้ากับคนของสองบริษัทใหญ่! หากถูกพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือของพวกเขาจริงๆ! งั้นแม้ว่าจะมีคนคัดค้าน ผมก็จะล้างแค้นบัญชีครั้งนี้อยู่ดี เพื่อฆ่าผม คนพวกนี้กลับบ้าคลั่งไร้สติไปแล้ว”
หวังจินหยางที่อยู่ด้านข้างแววตาวูบไหวเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
ฟางผิงจงใจบอกว่าเป็นคนของสองบริษัทใหญ่ เกรงว่าจะมีแผนในใจ
เรื่องนี้สองบริษัทใหญ่สามารถออกมาแก้ต่างได้ ทั้งคนอื่นๆ คงยากที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของสองบริษัทเช่นกัน
แต่คิดเชื่อมโยงถึงก่อนหน้านี้ คนๆ นั้นที่ตายไปเปิดเผยชื่อของยอดฝีมือคนหนึ่งออกมา…หวังจินหยางลอบถอนหายใจ ครั้งนี้หากถูกพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง เกรงว่าสองบริษัทใหญ่จะซวยจริงๆ แล้ว
ฟางผิงอาจไม่คิดทำอะไรเสมอไป แต่นึกโยงไปถึงการเคลื่อนไหวทั้งหมดที่ฟางผิงทำในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ บางเรื่องก็มีจุดที่ต้องพูดคุยกันแล้ว
หวังจินหยางไม่พูดอะไร สีหน้าอู๋ชวนแทบดูไม่ได้ เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ฟางผิง จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ แม้ครั้งนี้เธอจะถูกลอบโจมตี เป็นผู้เคราะห์ร้าย แต่ก่อนที่เรื่องราวยังไม่ถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ทางที่ดีสุดหุบปากเอาไว้ดีกว่า!”
นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ!
หากเผยแพร่ออกไป นั่นเป็นปัญหาที่รุนแรงทีเดียว
สองบริษัทเกี่ยวพันกับหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป หากถูกเผยแพร่ออกไปว่าเพื่อลอบฆ่าผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และมหาวิทยาลัยหนานเจียงกลับไม่คิดสนใจชีวิตของคนธรรมดา นั่นคงเกิดการต่อต้านจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทุกแห่งแล้ว
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เก้าสิบเก้าแห่ง ปรมาจารย์ยอดฝีมือไม่ได้น้อยๆ
รวมกับยอดฝีมือแวดวงการเมืองและทหารจำนวนมาก ทั้งรวมถึงยอดฝีมือแวดวงธุรกิจ หลายคนต่างเรียนจบมาจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
แม้ว่าตอนนี้ทุกคนจะจบการศึกษาไปหลายปีแล้ว ไม่อาจจะคิดในมุมมองของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้
แต่การลอบสังหารผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะตรงๆ แบบนี้ รวมถึงเรื่องที่เกิดกับตระกูลฟาง นั่นไม่ได้เรื่องที่สามารถรับได้
ถ้าหากทุกคนเป็นแบบนี้กันหมด สังคมคงวุ่นวายไปนานแล้ว
ต่อให้คุณแข็งแกร่งแค่ไหน เว้นแต่ว่าจะเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบจริงๆ ไม่งั้นเพื่อนพ้องญาติพี่น้องของคุณต้องมีคนเป็นคนธรรมดาบ้างอยู่แล้ว
นอกจากผู้ฝึกยุทธ์ลัทธินอกรีต ก็ไม่มีผู้ฝึกยุทธ์จากฝ่ายไหนกล้าลงมือกับครอบครัวของผู้ฝึกยุทธ์อีกแล้ว
ตรวจสอบไม่เจอยังพอว่า ถ้าหากตรวจพบ ไม่ว่าจะเป็นใคร ถึงกระทั่งเป็นยอดฝีมือขั้นเก้า ยังแบกความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ไหวด้วยซ้ำ
ทั้งทุ่มกำลังตรวจสอบอย่างเต็มที่ น้อยนักที่จะมีคนปิดบังได้
หากสองบริษัทใหญ่ทำแบบนั้นจริงๆ นั่นก็โง่เหลือทนแล้ว ท้ายที่สุดเรื่องแดงออกมา เกรงว่าคงมีหลายคนหัวหลุดออกจากบ่า!
ในความคิดของอู๋ชวน หากฟางผิงถูกมนุษย์ไล่ฆ่าในถ้ำใต้ดิน นั่นมีโอกาสสูงที่จะเป็นสองบริษัทใหญ่
แต่บนพื้นโลก ต้องเป็นฝีมือลัทธินอกรีตอย่างแน่นอน!
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “รุ่นพี่อู๋ จะรีบยืนยันแบบนี้ไม่ได้ ถ้าผมไม่มีความมั่นใจเลยจะกล้าพูดออกมางั้นเหรอครับ? แน่นอนว่าเรื่องนี้ผมจะตรวจสอบลงไป รอปรมาจารย์เซี่ยงไฮ้มาถึง ผมจะพูดอย่างละเอียดอีกที!”
อู๋ชวนขมวดคิ้วจนหน้าย่น ฟางผิง…มีความมั่นใจมากจริงๆ
ทั้งปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะมาเหมือนกัน ใครจะเป็นคนมา?
ยังไงเขาก็เรียนจบจากเซี่ยงไฮ้ แต่หากเรื่องนี้ถูกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เขาควรจะจัดการตัวเองยังไง?
ปรมาจารย์คนอื่นๆ ต่างเผยสีหน้ามืดครึ้มจนน่ากลัว
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของระดับกลางอย่างเดียวแล้ว
ถึงกระทั่งอาจไม่ใช่เรื่องของฟางผิงอีก หากจัดการไม่ระวัง อาจจะเกิดความขัดแย้งภายในเป็นวงกว้างได้!
ฟางผิงเห็นแบบนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอน พวกคุณวางใจเถอะครับ หากยังไม่มีหลักฐานอะไรพิสูจน์ ผมคงไม่อาจพูดอย่างส่งเดช ป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ปรมาจารย์คนไหนสนิทกับคนของสองบริษัท ทางที่ดีบอกกล่าวพวกเขาสักหน่อย พยายามมาหนานเจียงให้เร็วที่สุด พูดกันส่วนตัวได้ชัดเจน นั่นจะดีที่สุด พูดกันไม่เข้าใจ พูดได้ไม่กระจ่าง ผมไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะไม่มีที่ไหนตัดสินใจแทนผมได้! หากทุกคนทำแบบนี้กันหมด เว้นเสียแต่จะฆ่าปิดปากผมตอนนี้ ไม่งั้นใครยังจะต่อสู้เพื่อมนุษย์ชาติอีก?”
พูดจบ ฟางผิงก็ยกแขนของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ยิ้มอย่างเยือกเย็นว่า “ผมลงถ้ำใต้ดินนับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมกล้าพูดว่าผมไม่เคยทำเรื่องล่วงเกินใคร ระดับกลางที่เทียบกับผมได้ก็มีไม่กี่คน ตอนแรกที่ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ เมืองเยาขุยลอบโจมตีก็เป็นผมที่นำข่าวมารายงาน ในถ้ำใต้ดินหนานเจียงก็เป็นผมที่ถ่วงเวลาขั้นเก้า ทำให้สถานการณ์พลิกเปลี่ยน! ตอนนี้มีคนภายในลงมือกับผม ทั้งยังดึงครอบครัวเข้ามาเกี่ยว หากผมไม่ตาย รอดูต่อไปก็แล้วกัน!”
“ฟางผิง!”
อู๋ชวนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ฟางผิงตัดบทว่า “รุ่นพี่อู๋…ไม่สิ ผู้บังคับการอู๋! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกองตั้งมั่นเฝ้าระวังและหน่วยทหาร ทั้งตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด ไม่อาจพูดเรื่องพวกนี้ได้ รอผมตรวจสอบกระจ่างแล้ว ผมจะถามหาความเป็นธรรมอีกที!”
อู๋ชวนไม่เอ่ยปากอีก เผยสีหน้าหนักอึ้งอย่างถึงที่สุด ไม่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่
คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ล้วนเผยสีหน้าตึงเครียด
เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ทั้งตอนนี้ยังลุกลามใหญ่โตแล้ว มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็มีปรมาจารย์หลายคนเหมือนกัน ไม่อาจให้คำตอบได้ เรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆ
ฟางผิงไม่ได้พูดต่ออีก ทะยานขึ้นอากาศ ลอยไปข้างบนอีกครั้ง
———————
……….