ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 419-3 หลอกคนเป็นความถนัดของฉัน (3)
ตอนที่ 419 หลอกคนเป็นความถนัดของฉัน (3)
……….
เจิ้งหมิงหงครุ่นคิด จู่ๆ ก็คว้ามือถือขึ้นมากดโทรออกไป หลังจากนั้นสักพักก็ตัดสาย เอ่ยว่า “สามสิบสี่ปี”
“นานขนาดนี้ถึงก้าวสู่ขั้นประธานบริษัทยาระดับมณฑล…ผมคิดว่าเข้าสู่ลัทธินอกรีตในช่วงเวลาที่อ่อนแอมีโอกาสไม่มาก มีความเป็นไปได้ที่เข้าร่วมหลังจากเข้าสู่ขั้นหกหรือขั้นหกสูงสุดแล้วมากกว่า เพราะไม่สามารถก้าวไปต่อได้ ประธานจ้าวจึงถูกล่อลวง ไม่งั้นจากฐานะตำแหน่งของประธานจ้าว เติมเต็มความต้องการในการฝึกวิชาในชีวิตประจำวันยังคงเพียงพออยู่แล้ว”
เจิ้งหมิงหงพยักหน้าว่า “นั่นแน่นอน จากฐานะของจ้าวอวี่ ทั้งยังเป็นคนของบริษัทยาบำรุง ต้องเติมเต็มความต้องการในการฝึกวิชาได้อยู่แล้ว”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คำพูดนี้ประธานเจิ้งมั่นใจดีจริงๆ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ที่มีคนเยอะอย่างพวกเรา ยังเติมเต็มความต้องการไม่เพียงพอด้วยซ้ำ”
เจิ้งหมิงหงเผยสีหน้าดำคล้ำ ฉันแค่จะอธิบายว่ามีโอกาสน้อยที่จ้าวอวี่จะทรยศเท่านั้น
อยากจะล่อจ้าวอวี่เข้าสู่ลัทธินอกรีต เว้นแต่ว่าลัทธินอกรีตจะรับปากช่วยให้เขากลายเป็นขั้นเจ็ด ไม่งั้นคงเป็นไปไม่ได้
ฟางผิงเอ่ยต่อว่า “ประธานจ้าวเข้าสู่ขั้นหกสูงสุดมานานเท่าไหร่แล้ว?”
“แปดปี”
เรื่องนี้เจิ้งหมิงหงยังคงทราบดี
“แปดปี ยังทำไม่ถึงขั้นหลอมรวมปราณและจิตใจเป็นหนึ่ง หมายความว่าก้าวเข้าสู่ขั้นเจ็ดเป็นเรื่องยากอย่างมกก ยังไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานอีกเท่าไหร่ เวลานี้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือระดับสูง ทำเรื่องบางอย่างออกมาก็สามารถเข้าใจได้เหมือนกัน”
“ฟางผิง พูดอะไรต้องมีหลักฐาน หรือขั้นหกสูงสุดถูกล่อลวงกันหมดทุกคน?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นกลับไม่ใช่ ผมอยากถามประธานจ้าวว่าปราณคุณเติมเต็มสมบูรณ์หรือยัง?”
จ้าวอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย พยักหน้าว่า “สมบูรณ์แล้ว”
“พลังจิตใจล่ะครับ?”
“ปกติ”
“งั้นก็หมายความว่าสิ่งที่ประธานจ้าวต้องการไม่ใช่ทรัพยากรปราณ แต่เป็นของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจ ของพวกนี้ยากที่จะได้มาอย่างยิ่ง!”
ฟางผิงถอนหายใจว่า “อยากให้คุณกลายเป็นระดับสูง ถึงกระทั่งหลอมปราณและจิตใจเป็นหนึ่ง นั่นจำเป็นต้องใช้สิ่งของพวกนี้มาล่อลวงคุณ ยอดฝีมือขั้นหกคนหนึ่งคงไม่อาจใช้แค่คำพูดเลื่อนลอยก็สามารถล่อลวงได้ ต้องมีผลประโยชน์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง จับต้องได้จริงจึงทำถึงขั้นนั้นได้ ประธานจ้าว ผมขอถามคุณอีกประโยค หลายปีมานี้คุณเคยได้รับของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจได้หรือเปล่า? ถ้าเคยได้รับ เอามาจากไหน คุณสามารถบอกรายละเอียดได้หรือเปล่า?”
จ้าวอวี่ส่ายหัวว่า “ไม่มี”
ของพวกนี้ไม่ใช่ว่าพบเห็นได้กลาดเกลื่อน จะได้มาง่ายๆ ขนาดนั้นที่ไหน
ฟางผิงได้ฟัง จู่ๆ ก็หัวเราะว่า “ทุกคนที่อยู่ที่นี่ มีใครได้รับของล้ำค่าแบบนี้หรือเคยใช้ของแบบนี้บ้าง?”
ทุกคนมองหน้ากัน ผ่านไปสักพักก็ส่ายหัวกันหมด
ของพวกนี้ทุกคนยังไม่เคยใช้มาก่อนจริงๆ
“งั้นทุกคนรู้หรือเปล่าว่าของล้ำค่าประเภทนี้ แม้จะดูดซึมหมดไปแล้ว อันที่จริงยังจะเหลือกลิ่นอายบางส่วนไว้ในร่างกาย?”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา จ้าวอวี่ก็แววตาวูบไหวเล็กน้อย
ฟางผิงไม่ใส่ใจ มองไปทางหลี่ฉางเซิงด้วยรอยยิ้ม “คณบดีหลี่ คุณเคยดูดกลืนน้ำแร่พลังงานมาก่อน จนถึงตอนนี้ยังมีกลิ่นอายของพลังแห่งชีวิตอยู่…”
ตาเฒ่าหลี่ครุ่นคิดเล็กน้อย เอ่ยว่า “ฉันดูดกลืนในระยะเวลาสั้นเกินไป”
ฟางผิงส่ายหัวว่า “ต่อให้นานกว่านี้ก็ยังคงมี จุดนี้อันที่จริงสามารถสังเกตได้ง่าย แค่ปกติทุกคนไม่ค่อยให้ความสนใจเท่านั้น ประธานจ้าวบอกว่าตัวเองไม่เคยใช้ของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจมาก่อน แต่จากการคาดเดาของผม ถ้าเขาเข้าร่วมกับลัทธินอกรีตเพื่อต้องทะลวงถึงระดับสูง งั้นทางลัทธินอกรีตต้องควักของล้ำค่าออกมาทำให้เขาหวั่นไหวอย่างแน่นอน! สำหรับประธานจ้าว ของอะไรที่ไม่อาจได้มาง่ายๆ? มีแค่ของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจได้ ของประเภทนี้ สำหรับยอดฝีมือที่ปรารถนาจะทะลวงถึงขั้นเจ็ด ไม่มีใครปฏิเสธได้หรอกมั้งครับ? อาศัยแค่ลมปาก ประธานจ้าวไม่อาจเชื่ออีกฝ่ายอยู่แล้ว อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องโยนเหยื่อล่อออกมาเล็กน้อยทำให้ประธานจ้าวติดกับ”
“หากประธานจ้าวเคยใช้มาก่อน นั่นก็ต้องมีกลิ่นอายหลงเหลืออยู่ กลิ่นอายที่หลงเหลือในพลังจิตใจ เขารับรู้ไม่ได้ แต่พวกปรมาจารย์ยังคงสัมผัสได้ ตอนนี้ผมอยากให้ปรมาจารย์ทุกคนใช้จุดนี้เป็นเป้าหมายหลักเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด ถ้าไม่มีกลิ่นอายที่พิเศษหลงเหลืออยู่ นั่นหมายความว่าก่อนหน้านี้ผมคาดการณ์ผิดไป ทำได้แค่รอการตรวจสอบหลังจากนี้…แต่ถ้ามี…”
พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆ จ้าวอวี่ก็เอ่ยว่า “หลายปีมานี้ฉันลงถ้ำใต้ดินหลายครั้ง ใช้สมุนไพรและผลพลังงานที่ไม่รู้ชื่อไปมากมาย ไม่รู้ว่ามีของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจได้หรือเปล่า ยังไงฉันก็ไม่สามารถปลดปล่อยพลังจิตใจได้ การรับรู้ต่อพลังจิตใจของตัวเองที่แข็งแกร่งขึ้นจึงไม่ชัดเจนนัก”
ระหว่างที่พูด จ้าวอวี่ก็เอ่ยต่อว่า “จุดนี้ฉันคิดว่าไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการคาดเดาของเธอได้”
ฟางผิงเผยรอยยิ้มขึ้นมาทันที เอ่ยหยอกว่า “จุๆ ผมเพิ่งจะพูด ประธานจ้าวก็รีบพูดแล้วว่าอาจจะเคยกินของแบบนี้เหมือนกัน ของที่เพิ่มพลังจิตใจหาได้ง่ายๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่? มีอยู่ทุกหนทุกแห่งงั้นเหรอครับ? ทั้งหากมีของล้ำค่าแบบนี้จริงๆ ผมคิดว่าแม้จะไม่มีความสามารถในการรับรู้เท่าไหร่ แต่ผู้ฝึกยุทธ์ก็น่าจะสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตัวเองได้อย่างกระจ่างชัดอยู่ดี”
จ้าวอวี่เอ่ยทุ้มลึกว่า “ฉันแค่คาดเดา ไม่แน่ใจว่าตัวเองเคยกินหรือเปล่าเท่านั้น”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มีเหตุผล แน่นอนว่าผมเชื่อประธานจ้าว แต่คนอื่นเชื่อหรือไม่เชื่อ นั่นพูดยากแล้ว”
ฟางผิงมองเจิ้งหมิงหงด้วยรอยยิ้ม “ประธานเจิ้ง คุณเชื่อหรือเปล่า?”
เจิ้งหมิงหงเผยสีหน้าเรียบนิ่งไม่เอ่ยอะไร
ความน่าสงสัยของจ้าวอวี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
ฟางผิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “อันที่จริงยังมีหลายวิธีให้พิสูจน์ ในเมื่อลัทธินอกรีตให้ผลประโยชน์ งั้นก็ต้องมีเรื่องร้องขอ อย่างเช่นตำรับยาบางอย่างหรือเทคนิคเฉพาะของบริษัทยาบำรุง ช่วงนี้ลัทธินอกรีตเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรือเปล่า? อย่างเช่นพกยาบำรุงติดตัวกันมากขึ้น? โดยเฉพาะแถบของหนานเจียง สามารถตรวจสอบผ่านหน่วยสืบสวนและหน่วยทหารได้ ช่วงนี้กวาดรังพวกสาวกนอกรีต มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า แน่นอนว่านี่ไม่อาจพิสูจน์อะไรได้ชัดเจนเหมือนกัน ไม่เป็นไร เรื่องนี้ค่อยๆ ตรวจสอบได้ จริงหรือไม่จริง ต้องมีผลลัพธ์ออกมาเร็วๆ นี้แน่นอน”
“รวมถึงประธานจ้าวบอกว่ากินสมุนไพรและผลพลังงานที่ไม่รู้ชื่อไปไม่น้อย อธิบายออกมาทีละอย่าง พวกเราค้นหาข้อมูลตามรูปภาพ ดูว่าสามารถเพิ่มพลังจิตใจได้หรือไม่ อีกอย่างได้มาจากไหนด้วย ของบางอย่างไม่ใช่ว่าถ้ำใต้ดินหนึ่งแห่งจะมีทั้งหมด ประธานจ้าวเข้าสู่ถ้ำใต้ดินไหน อยู่นานเท่าไหร่ ต้องมีการบันทึกไว้ทั้งหมด ถ้าลัทธินอกรีตจัดสรรของบางอย่างที่เพิ่มพลังจิตใจ ประธานจ้าวคงบรรยายอย่างชัดเจนได้ แต่ประธานจ้าวระวังหน่อย อย่าบอกแหล่งกำเนิดผิด ของแบบนี้ค่อนข้างหายาก ไม่ได้มีทุกหนทุกแห่งจริงๆ คุณเพิ่งจะขั้นหก รู้ไม่มาก แต่ยอดฝีมือขั้นเก้ามีประสบการณ์มากมาย ผมว่าผู้บังคับการอู๋น่าจะพอรู้แหล่งกำเนิดจากถ้ำใต้ดินบางส่วน โดยเฉพาะของที่เพิ่มพลังงานจิตใจแบบนี้ ใช่ไหมครับผู้บังคับการอู๋?”
อู๋ชวนมองเขาแวบหนึ่ง พยักหน้าเบาๆ เขาไม่ได้พูดโกหก ของแบบนี้บางคนไม่รู้เรื่อง แต่ขั้นเก้ารู้ดีแก่ใจ
จ้าวอวี่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่อู๋ชวนสำรวจเขาอยู่ตลอด สัมผัสได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์เล็กน้อย
ลอบถอนหายใจแล้ว อู๋ชวนไม่พูดอะไรอีก
ตรวจสอบลงไป ไม่ช้าก็เร็วต้องมีผลลัพธ์ออกมาแน่นอน
เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยให้คลุมเครือแบบนี้ได้เช่นกัน
ส่วนกลิ่นอายหลงเหลือที่ฟางผิงพูดถึงนั้น…เอาเถอะ อู๋ชวนสามารถบอกตามตรงกับทุกคนได้ เป็นเรื่องโกหก
ตรรกะบ้าบออะไรกัน!
เวลานานเข้าก็สลายไปหมดแล้ว จะหลงเหลือได้ยังไงอีก
แต่คนทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้ อย่าพูดว่าจ้าวอวี่เลย แม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นแปดก็รู้เรื่องนี้ไม่เยอะเช่นกัน
เพราะทุกคนไม่เคยใช้มาก่อน!
ทั้งคนที่ใช้มาก่อน โดยเฉพาะของล้ำค่าที่เพิ่มพลังจิตใจ จ้าวอวี่ไม่ถึงขั้นปลดปล่อยพลังจิตใจได้ ย่อมไม่รู้อยู่แล้ว ทั้งสัมผัสไม่ได้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าฟางผิงกำลังหลอกคน!
แต่ฟางผิงหลอกจนสมจริงอยู่บ้าง อู๋ชวนกล้ามั่นใจว่าปรมาจารย์ที่อยู่ตรงนี้เชื่อคำพูดของเขาไปไม่น้อย เกรงว่าบางคนน่าจะสงสัยอยู่บ้างเช่นกัน
ส่วนจ้าวอวี่ ตอนนี้มีโอกาสถูกซื้อตัวสูงมาก
อู๋ชวนไม่เปิดเผยเรื่องของฟางผิง ใช้วิธีนี้บางทีอาจหลอกอะไรออกมาได้
การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั้นของจ้าวอวี่ เจิ้งหมิงหงสัมผัสได้เช่นกัน
เวลานี้เจิ้งหมิงหงหน้าเปลี่ยนสีอยู่บ้าง แทบจะดูไม่ได้
มีปัญหาจริงๆ แล้ว!
———————–
……….