ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 424 อันดับหนึ่งของขั้นห้า (1)
ตอนที่ 424 อันดับหนึ่งของขั้นห้า (1)
……….
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันแรกของปีใหม่จีน
วันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ผู้ว่าหนานเจียงก็เปิดงานแถลงข่าวอธิบายเหตุกการณ์เมื่อคืนอย่างง่ายๆ
สาเหตุเกิดจากสาวกลัทธินอกรีตกำแหงอย่างที่คาด จงใจทำลายความสงบสร้างความวุ่นวายในคืนขึ้นปีใหม่…
ฟางผิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และหวังจินหยางจากมหาวิทยาลัยหนานเจียงยืดอกเผชิญหน้า สังหารสาวกนอกรีตพวกนี้
—
ในเวลาเดียวกัน วันนี้การจัดอันดับขั้นห้าในประเทศจีนก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
อันดับหนึ่ง ฟางผิง!
วันนี้เพิ่งข้ามปีใหม่พอดี แต่ฟางผิงก็ยังอายุยี่สิบปีเท่านั้น!
“ฟางผิงอายุยี่สิบปี นักศึกษาปีสองของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ พ่วงด้วยตำแหน่งรองผู้บัญชาการหยางเฉิงกิตติมศักดิ์ ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และเลขาธิการกรรมการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้…”
พวกนี้คือข้อมูลตำแหน่งของฟางผิง
“ผลการรบ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2010 สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดหนึ่งคน ขั้นหกตอนกลางหนึ่งคน ขั้นหกตอนต้นอีกหนึ่งคน”
ทั้งหวังจินหยางก็เข้าสู่การจัดอันดับเหมือนกัน ขึ้นไปอยู่ที่อันดับสองทันที
“หวังจินหยาง อายุยี่สิบเอ็ดปี นักศึกษาปีสามมหาวิทยาลัยหนานเจียง ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์หนานเจียง ตำแหน่งรองผู้บัญชาการหนานเจียงกิตติมศักดิ์…ผลการรบ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 ประมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด มีชีวิตรอด”
ผลการรบของเหล่าหวัง เทียบกับฟางผิงแล้วยังแตกต่างกันอย่างมาก
แต่คนที่อยู่ในแวดวงต่างรู้ว่าผลการรบแบบนี้น่าหวาดกลัวขนาดไหน
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าตอนต้นคนหนึ่งประมือกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุด มีชีวิตรอดกลับมา นี่เป็นเรื่องปาฏิหาริย์สุดๆ แล้ว
ประมือไม่ได้หมายความว่าวิ่งหนี
หากวิ่งหนีจริงๆ นั่นกลับไม่คุ้มค่าให้พรรณนายืดยาว
อัจฉริยะสมัยใหม่ทั้งสองคน ครั้งนี้ได้แสดงความสามารถไร้คู่ต่อสู้อย่างแท้จริง
ขั้นห้าต่อสู้กับขั้นหก!
ทั้งยังต่อสู้กับขั้นหกสูงสุด แม้ว่าผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตเดิมทีก็อ่อนแอไปบ้าง แต่ถึงขั้นหกสูงสุดแล้ว ต่อให้อ่อนแอแค่ไหนก็ไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้น อัจฉริยะก็เป็นคนเหมือนกัน ยากที่จะมีคนทำถึงขั้นฆ่าอีกฝ่ายข้ามขั้นเช่นนี้
เวลานี้ฟางผิงแสดงความสามารถแบบนี้ในขั้นห้าตอนกลาง และหวังจินหยางก็อยู่แค่ขั้นห้าตอนต้นเท่านั้น
—
ปักกิ่ง
“ฆ่าขั้นหกสูงสุด!”
ตอนที่หลี่หานซงเห็นการจัดอันดับฉบับนี้ก็มีเพียงความคิดเดียว เจ้าพวกบ้าระห่ำนี้ได้บ้าระห่ำจนถึงขีดสุดแล้ว
“ปักกิ่ง…สบายเกินไปจริงๆ ด้วย! ไม่สิ ฉันก็สบายเกินไปอยู่บ้างจริงๆ!”
หลี่หานซงแทบไม่กล้าจินตนาการ ตัวเองเจอกับขั้นหกสูงสุดจะสามารถรักษาชีวิตไว้ได้หรือเปล่า?
อย่าพูดว่าฆ่าเลย เขาไม่ตายก็ถือว่าโชคดีอย่างยิ่งแล้ว
“เจ้าพวกน่ากลัว!”
หลี่หานซงพึมพำเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
จะถูกทิ้งห่างขึ้นเรื่อยๆ!
ดังนั้นหลี่หานซงที่เพิ่งฉลองข้ามปีใหม่ วันนั้นก็สวมสนับมือลงถ้ำใต้ดินทันที
สาเหตุที่ยอดฝีมือเป็นยอดฝีมือไม่ใช่แค่พึ่งพรสวรรค์อย่างเดียวอยู่แล้ว
ต่อให้มีพรสวรรค์แค่ไหนก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถกลายเป็นยอดฝีมือได้จริงๆ
จะมีสักกี่คนที่เหมือนกับหลี่หานซง เห็นการจัดอันดับก็อยากไล่ตามขึ้นไปทันที ไม่อาจถูกทิ้งห่างได้ ลงไปฆ่าพวกถ้ำใต้ดินโดยไม่มีความลังเล
คนที่เหมือนกันก็มีอยู่แล้ว
ยอดฝีมือขั้นสี่ขั้นห้าของแต่ละมหาวิทยาลัยต่างทยอยออกจากบ้าน ปีใหม่นี้ไม่อาจฉลองได้แล้ว!
นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ บางทีต่ำกว่าสามระดับล่างอาจไม่แข็งแกร่ง แต่สามระดับกลางถือเป็นอัจฉริยะแล้ว ต่อให้อ่อนแอก็ไม่อ่อนแอไปกว่ากันเท่าไหร่
แม้ผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารที่สังหารคนเป็นประจำพวกนั้นก็อาจจะไม่แข็งแกร่งกว่าพวกเขาเสมอไป
ผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะหนุ่มสาวพวกนี้ก็ฝ่าทะลวงโดดเด่นขึ้นมาจากคนธรรมดานับหมื่นนับพันคนเช่นกัน ลงถ้ำใต้ดินสู้รบแทบไม่น้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารพวกนั้นด้วยซ้ำ
—
คนอื่นๆ ต่างมุ่งสู่ถ้ำใต้ดิน แต่ก็มีบางคนไม่ได้รับข่าวเช่นกัน
เซี่ยงไฮ้
สถานที่บางแห่งแถวชานเมือง
ฉินเฟิ่งชิงนอนอาบแดดอย่างเกียจคร้าน วันนี้แดดดีจริงๆ
ฉลองปีใหม่ให้ดูหนังเอย เล่นเว็บไซต์อะไรเอย เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก
ขั้นสี่สูงสุดแล้ว กลับไปหาวิธีขุดหินพลังงานสักหน่อย ทำให้สะพานฟ้าดินของตัวเองกลายพันธุ์แล้วเข้าสู่ขั้นห้า พวกฟางผิงแทบไม่มีเหตุผลให้ทิ้งห่างเขาได้ไกลอีกแล้ว
ส่วนมือถือ ตอนนี้เขาปิดไว้
ไม่ปิดมือถือ วันๆ คงจะมีคนแต่คนก่อกวน
ทางมหาวิทยาลัย เขาก็ไม่ได้รีบกลับไป พวกหัวสิงโตไม่รู้ว่ายังอยู่ที่มหาวิทยาลัยหรือเปล่า ถ้าพวกเขายังอยู่ ไปก็เท่ากับหาเรื่องให้ตัวเอง
“อยู่พักที่บ้านสักสองสามวัน พักผ่อนหย่อนใจสักหน่อย หลังจากนี้ค่อยไปหาฟางผิงลงไปขุดแร่ด้วยกัน”
—
คนพวกนี้วิ่งวุ่นกับการไล่ตาม บางคนยุ่งกับการเลื่อนขั้น ส่วนฟางผิงก็ยุ่งเหมือนกัน
ชั่วพริบตาที่การจัดอันดับออกมา ฟางผิงก็ยุ่งตัวเป็นเกลียว
“ตั้งฉายาให้ฉันหน่อย ราชาสวรรค์ เทพสงครามหรือราชาดาบ พวกนายว่าอะไรดี?”
สมาชิกสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ที่รับโทรศัพท์แทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว
ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ได้รับสายจากฟางผิง เมื่อวานคนๆ นี้เพิ่งจะฆ่ายอดฝีมือขั้นหกสูงสุดไปหนึ่งคน การติดต่อสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
ผู้ดูแลที่เฝ้าอยู่ในสมาพันธ์ มารับสายโทรศัพท์นี้ด้วยตัวเอง
ผลปรากฏว่าพอรู้จุดประสงค์ที่ชัดเจนของฟางผิง อีกฝ่ายก็คิดอยากตายอยู่บ้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่หลังจากมีการจัดอันดับออกมาก็มียอดฝีมืออันดับหนึ่งเป็นฝ่ายโทรมาขอตั้งฉายาให้
ประเด็นอยู่ที่ของพวกนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาตั้งได้
อันที่จริงการจัดอันดับเป็นฝีมือของรัฐบาล
สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์แค่รับผิดชอบปรับปรุง ให้บริการ รวมถึงแก้ไขข้อผิดพลาดบางส่วนเท่านั้น
ฉายาไม่ได้ตั้งให้ตามใจได้
ของสิ่งนี้เหมือนจะมีประโยชน์ อันที่จริงก็ไม่ได้มีประโยชน์
แต่ไม่ว่ายอดฝีมือคนไหนที่ได้ฉายาล้วนจะเป็นยอดฝีมือที่สูงกว่าระดับเดียวกันทั้งนั้น
ตอนนี้ฟางผิงเป็นอันดับหนึ่งของขั้นห้า ตามหลักแล้วจะตั้งขึ้นมาก็ได้
แต่เขาตั้งขึ้นเองได้ที่ไหน!
ของแบบนี้ต้องถูกยอมรับโดยทั่วกัน มีคนเรียกเยอะ นั่นถึงจะถูกยอมรับ
อีกฝ่ายพูดอ้อมแอ้มอยู่ครึ่งวัน ให้ตายยังไงก็ไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน ท้ายที่สุดฟางผิงก็วางโทรศัพท์ไปอย่างจนใจ ทั้งเขาวางสายไปแล้ว ทางสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ก็ดีใจแทบจะร้องไห้
หากถูกฟางผิงรังควาญต่อไป เขาต้องอกแตกตายเหมือนกัน
เรื่องที่ฟางผิงอยากได้ฉายา คนอื่นๆ แทบไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกแล้ว
ตอนนี้ทุกคนต่างอยู่ใต้ตึกของตระกูลฟาง
อู๋ขุยซานรอเขาตัดสายแล้ว ก็ไม่ยุ่งเรื่องนี้ต่อ เอ่ยว่า “พวกเราขอตัวกลับก่อน เรื่องของเธอ ฉันจะพยายามเชิญผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดมาแก้ไขให้เร็วที่สุด แต่หากเป็นแบบนี้ ของที่เธอได้มาครั้งนี้ น่าจะถูกแลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว”
ฟางผิงถอนหายใจ เอ่ยอย่างอับจนหนทาง “ราคาต้นทุนห้าพันล้าน อย่างน้อยๆ คงขายได้หนึ่งหมื่นสองพันล้านถึงหนึ่งหมื่นห้าพันล้านสินะครับ? ราคาตลาดอาจจะเกินสองหมื่นล้าน นี่ก็หมดเกลี้ยงแล้ว?”
อู๋ขุยซานเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “น้ำแร่พลังงานอย่างน้อยเตรียมสองร้อยกรัมอาจไม่พอเสมอไป สามร้อยกรัมน่าจะพอดี เธออยากแลกเปลี่ยนสิ่งนี้กับรัฐบาล หุ้นห้าพันล้านของเธอ อย่างน้อยต้องควักออกไปครึ่งหนึ่ง! ที่เหลือก็จ้างขั้นแปดมาบางส่วนก็แทบจะไม่เหลือแล้ว”
ฟางผิงไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง พยักหน้าว่า “งั้นก็ได้ครับ อีกนานแค่ไหนสองบริษัทถึงจะส่งของมาให้พวกเรา?”
“น่าจะประมาณสามวัน รวมกับหาขั้นแปดต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง อย่างน้อยห้าวัน หลังจากห้าวันเธอกลับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาสร้างกล้ามเนื้อ”
“ห้าวัน…”
ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย ช่วงเวลานี้เขาทำได้แค่อาศัยค่าทรัพย์สินในการฟื้นฟูปราณเพื่อประคองอาการ
อย่างน้อยต้องสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินหนึ่งพันถึงสองพันล้าน!
คิดดูแล้วฟางผิงก็รู้สึกปวดใจอย่างยิ่ง
ครั้งนี้ขาดทุนหนักจริงๆ แล้ว
หากไม่ใช่ว่าลัทธินอกรีตก่อความวุ่นวาย จากแผนเดิมของเขาคือลงถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ขุดแร่ สะสมพลังรอเข้าสู่ขั้นห้าสูงสุดแล้วค่อยหลอมกระดูกทองสามชิ้นสุดท้าย
เป็นแบบนี้เขาน่าจะสามารถรองรับการใช้กระดูกทองได้
ผลปรากฏว่าคนวางแผนก็สู้ลิขิตฟ้าไม่ได้
ตอนนี้มาเกิดเรื่องวุ่น แม้เขาจะสามารถเข้าสู่ขั้นห้าสูงสุดได้ล่วงหน้า แต่ก็สิ้นเปลืองมากเกินไป
“ช่างเถอะ ไม่เข้าถ้ำเสือคงไม่ได้ลูกเสือ!”
ฟางผิงถอนหายใจ มีเงินนำมาใช้แลกเปลี่ยนเวลาและความสามารถก็คุ้มค่าแล้ว
แต่มากเกินไปจริงๆ
เงินเยอะขนาดนี้ ขั้นเจ็ดขั้นแปดยังจ่ายไม่ไหวด้วยซ้ำ ไม่งั้นขั้นแปดคงไม่รับจ้างหรอก
ขั้นเก้าน่าจะจ่ายไม่ไหวเหมือนกัน
อู๋ชวนยาจกนั่น เขามีทรัพย์สินถึงหนึ่งหมื่นล้านหรือไง?
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะขายอาวุธวิเศษของตัวเอง ดูว่าจะสามารถรวบรวมเงินขนาดนี้ได้หรือไม่
อู๋ขุยซานไม่พูดมากเช่นกัน ครู่ต่อมาก็ทะยานขึ้นฟ้า หายวับไปทันที
คนอื่นๆ ทยอยกระโดดขึ้นไปเช่นกัน
พวกเขามาถึงขั้นนี้แล้ว ขับรถนั่งเครื่องบินต่างเป็นเรื่องยุ่งยากทั้งนั้น บินกลับไปให้จบๆ ก็สิ้นเรื่อง
“ไว้เจอกันนะครับ ผมจะคิดถึงพวกคุณแน่นอน!”
ฟางผิงพูดเป็นมารยาท คนพวกนั้นทำเป็นหูทวนลม คิดถึงกับผีน่ะสิ ทุกครั้งที่เจ้าเด็กนี้คิดถึงพวกเขาล้วนไม่ใช่เรื่องดีทั้งนั้น
——————
……….