ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 425-2 สร้างกล้ามเนื้อใหม่ (2)
ตอนที่ 425 สร้างกล้ามเนื้อใหม่ (2)
…………….
คนประหยัดอย่างฟางผิง ไม่เป็นอะไรจะหาเรื่องเสียเงินมากมายเพื่อจ้างคนมารักษาหรือไง
หากบาดเจ็บเล็กน้อย มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แทบไม่จำเป็นต้องหาคนนอกมาด้วยซ้ำ
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็มีขั้นแปดเหมือนกัน ทั้งยังมีสายพานการผลิตยาบำรุงของตัวเอง ยารักษาบาดแผลมีตั้งมากมาย
ฟางผิงกระแอมไอเบาๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ปัญหาของอาการบาดเจ็บ ฉันเตรียมตัวจะหลอมกึ่งร่างทอง เข้าสู่ขั้นห้าสูงสุดล่วงหน้า ผ่านครั้งนี้ไปแล้วฉันก็จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าสูงสุดแล้ว เสียเงินนิดหน่อยให้ตัวเองฝึกวิชาเร็วขึ้น คุ้มค่าอยู่แล้ว ไม่งั้นเข้าสู่ขั้นห้าสูงสุดยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง หลังจากวันนี้ไปฉันก็เข้าใกล้ขั้นหกแล้ว ขั้นเจ็ดขั้นแปดขั้นเก้าก็ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนกัน เธอว่าเสียเงินเล็กน้อยแค่นี้ให้ฉันได้กลายเป็นปรมาจารย์เร็วขึ้น คุ้มค่าพอหรือเปล่าล่ะ?”
“จริงเหรอ?”
เฉินอวิ๋นซีดีใจเป็นอย่างแรก ก่อนจะทำหน้าขัดแย้งอยู่บ้าง
ขั้นห้าสูงสุดแล้ว?
เธอเพิ่งจะขั้นสามสูงสุด ขั้นสี่ยังต้องใช้เวลาอีกช่วงใหญ่ แม้ตอนนี้จะขั้นสี่ก็ช้าเกินไปอยู่ดี
อย่าพูดถึงเฉินอวิ๋นซีเลย เวลานี้ซ่งอิ๋งจี๋ที่อยู่ด้านข้างยังเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างล่องลอยแล้ว
ขั้นห้าสูงสุด!
แม่งเหอะ!
จะให้ใช้ชีวิตผ่านไปเป็นวันๆ อีกได้ยังไง
เขาพยายามอย่างยากลำบากมาหลายสิบปี อายุห้าสิบปีเข้าสู่ขั้นหก แม้จะเพิ่งเข้าสู่ขั้นหกได้ไม่นาน เขาก็นับว่าเป็นบุคคลอัจฉริยะในรุ่นเดียวกันอยู่ดี
ยอดฝีมือปรมาจารย์รุ่นก่อนในปัจจุบันนี้ อายุห้าสิบปีกลายเป็นปรมาจารย์ เพิ่งจะมีบางส่วนในช่วงไม่กี่ปีนี้เท่านั้น
เมื่อก่อนอายุเจ็ดสิบแปดสิบเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ นั่นถือว่าโชคดีแล้ว
อธิการเฒ่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ขั้นแปดอายุแปดสิบ ถูกผู้อาวุโสหลายคนมองว่าอายุน้อยด้วยซ้ำ…
ฟางผิงอายุเท่าไหร่เอง?
ยี่สิบปี!
ยี่สิบปีขั้นห้าสูงสุด บางทียี่สิบปีอาจจะสามารถเข้าสู่ขั้นหกได้เหมือนกัน
เขากลายเป็นปรมาจารย์ ยังต้องใช้เวลานานเท่าไหร่?
แม้ว่าจะเสียเวลาในขั้นหกไปบ้าง ก่อนอายุยี่สิบห้า ฟางผิงก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นปรมาจารย์
ผ่านไปอีกห้าปี ซ่งอิ๋งจี๋จะสามารถเข้าสู่ขั้นหกตอนปลายได้หรือเปล่า?
คิดดูแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดในใจ
“ขั้นห้าสูงสุดแล้ว…”
ทุกคนต่างเผยสีหน้าซับซ้อน รู้สึกยากจะรับได้จริงๆ
อัจฉริยะอย่างพวกเขา ตอนนี้จะมองตัวเองเป็นอัจฉริยะได้ยังไงอีก เทียบกับฟางผิงแล้ว พวกเขาก็คือขยะชัดๆ
เห็นคนพวกนี้ถูกกระทบกระเทือนอย่างหนัก ฟางผิงก็ยิ้มตาหยีไม่พูดอะไร หวงจิ่งกลับปลอบใจว่า “เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ จุดสำคัญอยู่ที่เวลา การฝึกวิชาไม่ใช่เรื่องที่สำเร็จแค่วันสองวัน…”
ซ่งอิ๋งจี๋โอดครวญว่า “อธิการ รอเขาล้ำหน้าคุณแล้ว คุณค่อยมาปลอบใจพวกเรา…”
หวงจิ่งสีหน้าแข็งทื่อ ถลึงตาใส่เขา ผ่านไปพักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “ฝ่ายรักษาความสะอาดไม่มีคนควบคุมนานแล้ว เสี่ยวซ่ง อีกไม่กี่วันนายไปรายงานตัวซะสิ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมสักหน่อย”
ซ่งอิ๋งจี๋หน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด ปากพาซวย!
เขาไม่ได้พูดอะไร ทั้งไม่รับบทสนทนาด้วย ไม่นานเหล่าหวงก็จะลืมเรื่องนี้เอง
แม้จะไม่ลืม เขาก็ไม่ไปหรอก ตีให้ตายยังไงก็ไม่ไป
หวงจิ่งชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง แค่นเสียงในใจ จัดการนายไม่ได้จริงๆ
ฟางผิงมองซ่งอิ๋งจี๋ด้วยความเห็นใจอยู่บ้าง ครั้งนี้ผมไม่ได้ให้คุณไปฝ่ายดูแลความสะอาด พวกปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยโหดเหี้ยมจะตายไป รอถูกจัดการหลังจากนี้ไปเถอะ
พูดคุยกันอยู่สักพัก หวงจิ่งก็เผยสีหน้าจริงจังขึ้นมา กดเสียงว่า “คนมาถึงแล้ว!”
ยอดฝีมือขั้นแปดเยอะขนาดนี้ แม้จะเป็นฟางผิงก็ถือเป็นครั้งแรกเช่นกัน ต้องไปเปิดประสบการณ์สักหน่อย
—
นอกห้องแหล่งพลังงาน
อู๋ขุยซานและพวกยอดฝีมือกำลังพูดคุยอย่างสบายอารมณ์ หนึ่งในนั้นมีชายชราผิวดำคล้ำอยู่บ้าง เดินมาถึงหน้าห้องแหล่งพลังงาน จู่ๆ ก็เอ่ยเป็นภาษาจีนสำเนียงแปร่งๆ อยู่บ้าง “แวดวงผู้ฝึกยุทธ์ประเทศจีนไม่ได้สิ่งที่พวกเราเทียบได้จริงๆ ห้องฝึกวิชาแหล่งพลังงาน…เทียบกับห้องฝึกวิชาของราชาฉันยังขนาดใหญ่กว่าอีก!”
ชายชราเผยสีหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา!
นี่เป็นแค่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แห่งหนึ่งในประเทศจีนเท่านั้น!
แต่ห้องฝึกวิชาแหล่งพลังงานขนาดมหึมานี้กลับใหญ่กว่าห้องฝึกวิชาของราชาพวกเขาซะอีก
ห้องฝึกวิชาที่รองรับคนได้นับร้อย ไม่ใช่ว่าทุกประเทศจะมีของแบบนี้
ประเทศเล็กๆ บางแห่ง ไม่พูดว่าสามารถสร้างไหวหรือเปล่า แม้จะสร้างไหว แต่หินพลังงานไม่มากพอ สร้างไปก็เปล่าประโยชน์
ชายชราผิวดำพูดจบ ชายกลางคนที่ไม่สูงมากคนหนึ่งก็ถอนหายใจเบาๆ “ห้องราชาสยามของนายยังสร้างห้องพลังงานฝึกวิชาไว้ ห้องราชาเขมรของฉันมีแค่ห้องฝึกวิชาห้องเดียว จัดสรรให้องค์ชายและองค์หญิงฝึกวิชา…”
คำพูดนี้ฟังดูแล้วน่าเศร้าจริงๆ
แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง
ยอดฝีมือร่างทองขั้นแปดสองคนนี้ ในประเทศของพวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับขั้นสุดยอด
ประเทศสยาม ขั้นเก้ามีแค่หนึ่งคน ขั้นแปดสามคน ขั้นเจ็ดมีแค่ไม่กี่สิบคน
แต่ถ้ำใต้ดินที่พวกเขาต้องเฝ้าระวังก็มีน้อยเช่นกัน แค่หนึ่งแห่ง
ทางประเทศเขมรยิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีกระทั่งขั้นเก้า
แน่นอนว่าประเทศพวกเขาก็เล็กเช่นกัน ประชากรไม่กี่สิบล้าน ในเขตแดนไม่มีทางเข้าถ้ำใต้ดิน แต่ยังร่วมกับอีกสองประเทศ เฝ้าระวังทางเข้าถ้ำใต้ดินแห่งเดียวกัน สามประเทศเฝ้าระวังด้วยกัน แรงกดดันน้อย แต่ก็หมายความว่าผลผลิตน้อยเช่นกัน
ผลผลิตจากปากทางเข้าถ้ำหนึ่งแห่ง ยาบำรุงแทบไม่อาจเพียงพอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหินพลังงานระดับสูง
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นสถานศึกษาสายศิลปะการต่อสู้ในระดับต้นๆ รวบรวมบุคลากรอัจฉริยะของประเทศจีนไว้จำนวนมาก สิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกวิชาพวกนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเทียบได้
อย่าพูดถึงยอดฝีมือประเทศเล็กๆ พวกนี้เลย กระทั่งยอดฝีมือหลายคนจากประเทศจีนเองก็อิจฉาอยู่บ้างเหมือนกัน
ในนั้นมียอดฝีมือผู้หญิงวัยกลางคนเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อธิการอู๋ ได้ยินมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังสร้างห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน?”
อู๋ขุยซานหัวเราะ “มีน่ะมี แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกทั้งหมดเหมือนกัน แค่ดีกว่าไม่มีอะไรเท่านั้น”
คำพูดนี้คนที่ได้ยินแทบไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกยังไง
มีก็ไม่เลวแล้ว ยังจะต้องเพียงพอต่อการฝึกวิชาของคนทั้งหมด นี่เรียกว่าอะไร?
คนที่กินอิ่มไม่อาจรู้ถึงความลำบากของคนอดอยาก!
พวกเขากำลังพูดคุยกัน พวกหวงจิ่งก็เดินออกมา
หวงจิ่งน่าจะรู้จักยอดฝีมือพวกนี้ เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มแล้ว พวกฟางผิงก็รีบค้อมกายแสดงความเคารพ
รวมกับอู๋ขุยซาน ตอนนี้มีขั้นแปดอยู่ที่นี่เก้าคน ขั้นเจ็ดอีกหนึ่งคน
ไม่ไกลนั้น ตาเฒ่าหลี่ก็เดินโซซัดโซเซเข้ามาเช่นกัน นับเขาที่เป็นร่างแปดปลอมๆ ก็เป็นขั้นแปดสิบคนพอดี
ความสามารถนี้สามารถสังหารขั้นเก้าทั่วไปได้ด้วยซ้ำ
พวกยอดฝีมือขั้นแปดไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกับหวงจิ่งก่อนจะย้ายสายตาไปอยู่ที่ฟางผิง!
อัจฉริยะรุ่นใหม่อันดับหนึ่งของประเทศจีน
ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขั้นห้า!
โดยเฉพาะตอนที่ยอดฝีมือขั้นแปดพวกนั้นรับรู้ถึงกลิ่นอายบางอย่างจากร่างกายของฟางผิงก็ม่านตาหดเกร็งทันที
กลิ่นอายของยอดฝีมือร่างทอง!
ทุกคนต่างทยอยจับจ้องไปที่ร่างของเขา ก่อนจะเผยสีหน้าถามเป็นนัยกับอู๋ขุยซาน
เวลานี้อู๋ขุยซานไม่คิดปิดบังเช่นกัน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฟางผิงหลอมกระดูกทองล่วงหน้า แต่พื้นฐานร่างกายเขาไม่เพียงพอ ทำให้เนื้อหนังถูกทำลาย ภายใต้สภาวะจนใจฉันจึงเชิญทุกท่านมาช่วยเหลือ ใช้สสารไม่แตกดับรวมกับน้ำแร่พลังงาน ทำให้เขาสามารถสร้างเนื้อหนังที่รองรับกระดูกทองขึ้นมาได้”
ก่อนหน้านี้พวกขั้นแปดยังคิดว่าเป็นการรักษาเท่านั้น จนถึงเวลานี้ค่อยเข้าใจว่าไม่ใช่การรักษา แต่เพื่อหลอมร่างทองให้ฟางผิง
พวกเขาสีหน้าเปลี่ยนไปมาไม่หยุด หลอมกระดูกทองล่วงหน้า เรื่องนี้คนส่วนมากยังไม่ค่อยรู้
ชายชราผิวคล้ำที่มาจากประเทศสยามอดเอ่ยไม่ได้ “อธิการอู๋ ขั้นห้าหลอมกระดูกทองได้ยังไง?”
อู๋ขุยซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้แล้ว ทุกท่านวางใจเถอะ ขอแค่จัดสรรตามที่ตกลงกันก็เพียงพอแล้ว ไม่อาจทำให้ทุกคนบาดเจ็บถึงพลังชีวิตได้”
พวกเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยกลับไม่ถามอะไรอีก
———————
…………….