ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 428-2 ฉินเฟิ่งชิงกลับมหาวิทยาลัย (2)
ตอนที่ 428 ฉินเฟิ่งชิงกลับมหาวิทยาลัย (2)
…………….
หวงจิ่งเผยสีหน้าอึมครึม เอ่ยต่อว่า “สุดท้ายรัฐมนตรีจางจึงลงมือ เรื่องราวหลักๆ ไม่แน่ชัด แต่รัฐมนตรีจางบุกฝ่าไปถึงส่วนลึกของถ้ำใต้ดิน ส่วนลึกของถ้ำใต้ดินเกิดความปั่นป่วน หลังจากเรื่องนั้นรัฐมนตรีจางก็กลับมาพร้อมอาการบาดเจ็บ ประกาศสงบศึกทั้งสองฝ่าย”
ฟางผิงขมวดคิ้วมุ่น “ขั้นเก้าขั้นสุดยอดยังเปิดฉากสงครามอย่างนั้นเหรอครับ?”
“อืม”
หวงจิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยอย่างหนักอึ้งว่า “ถ้ำใต้ดินปักกิ่งเป็นถ้ำใต้ดินที่มีการป้องกันของมนุษย์แข็งแกร่งที่สุด ก่อนหน้านี้สงบสุขมาหลายปี ครั้งนี้จู่ๆ ก็ปะทุสงครามใหญ่ขึ้นมาจึงเหนือความคาดหมายของทุกคน แม้หลังจากนั้นกองการศึกษาหลายแห่งจะบอกว่าคลี่คลายปัญหาแล้ว แต่ตอนนี้ทุกคนไม่ได้วางใจขนาดนั้น นี่คือถ้ำใต้ดินปักกิ่งถึงสามารถต้านการร่วมมือจากหกเมืองได้ หากเป็นถ้ำใต้ดินที่อื่นล่ะ? แม้จะเป็นถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ ถ้าปะทุสงครามที่หกเมืองร่วมมือกันขึ้นมา ก็ทำได้แค่ขอแรงสนับสนุนจากปักกิ่งเท่านั้น ตอนนี้ทางเซี่ยงไฮ้มีขั้นเก้านั่งรักษาการณ์ทั้งนอกและในแค่สามคนเท่านั้น แต่ขั้นเก้าขั้นสุดยอด…ฉันไม่รู้ว่าเซี่ยงไฮ้มีหรือเปล่า”
ปักกิ่งยังมียอดฝีมือขั้นเก้าขั้นสุดยอดที่เห็นได้อย่างชัดเจน
ผู้บัญชาการหลี่ รัฐมนตรีจางคนพวกนี้ล้วนเป็นขั้นเก้าขั้นสุดยอด พวกเขาอยู่ที่ปักกิ่งสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
เซี่ยงไฮ้กลับไม่มีบุคคลเช่นนี้ให้เห็นอย่างชัดเจน
ระเบิดสงครามใหญ่แบบนั้นขึ้นมา ไม่มียอดฝีมือขั้นสุดยอดแบบนี้ลงมือ เกรงว่ายากจะแก้ไขแล้ว
ฟางผิงสูดลมหายใจเข้าลึก พยักหน้าว่า “งั้นมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่อาจจะรอต่อไปแบบนี้ได้แล้ว อธิการ ของพวกนี้จัดสรรออกไปเถอะครับ! ก่อนที่สงครามใหญ่ใกล้จะเข้ามา ให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้นหน่อย อย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสรักษาชีวิตให้ตัวเอง”
“อืม ฉันก็คิดแบบนั้น”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็เอ่ยต่อ “แน่นอนว่าจะให้ฟรีไม่ได้ พวกเราช่วงชิงสวัสดิการเพื่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ท้ายที่สุดให้คนอื่นเป็นฝ่ายได้เปรียบนั่นไม่ได้ แม้ว่าทุกคนจะมีเป้าหมายเดียวกันก็ตาม เซ็นสัญญากู้ยืมและสัญญาทำงานเป็นเรื่องที่สมควรเหมือนกัน”
หวงจิ่งหัวเราะว่า “แบบนี้ใจของทุกคนอาจไม่อยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เสมอไป”
“ผมไม่สน”
ฟางผิงส่ายหัวว่า “ดูจากสถานการณ์นี้ สงครามใหญ่ปะทุขึ้น การต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ บางทีอาจเกิดภายในสี่ห้าปีนี้ หลังจากนั้นคนพวกนี้เติบโตขึ้น ผมไม่คิดว่าถึงเวลานั้นพวกเขาจะเข้าหน่วยทหารหรือไปฝ่ายอื่นๆ ทั้งหมด ไม่พูดถึงจะรั้งตัวอยู่ทุกคน อย่างน้อยรั้งอยู่กว่าครึ่งหนึ่งถึงจะพอ อีกอย่างแม้ว่าจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบ ผมคิดว่าพวกเราก็ไม่ถึงกับล่มสลายในชั่วพริบตา บางทียังอาจประคองสงครามได้ระยะหนึ่ง ทางเซี่ยงไฮ้ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ต้องลงแรงเหมือนกัน คนหนีไปแล้ว หากสิบสามเมืองของเซี่ยงไฮ้มาโจมตีหมด หรือยังจะเรียกคนกลับมาได้อีก?”
หวงจิ่งหัวเราะ ไม่พูดต่อ แล้วแต่ฟางผิงเถอะ
ฟางผิงดูภายในคลังสินค้าต่อ ของที่สองบริษัทใหญ่ส่งเข้ามาก็เริ่มเข้าสู่คลังสินค้าแล้ว
มองยาบำรุงและอาวุธ รวมถึงหินพลังงาน ฟางผิงก็ตาเป็นประกายอยู่บ้าง
ของพวกนี้ถ้ามอบให้เขา บางทีเขาอาจจะเพิ่มค่าทรัพย์สินเป็นล้านล้านได้!
แม้จะไม่ถึง อย่างน้อยก็คงไม่ต่ำกว่าห้าแสนล้าน
ครบหนึ่งแสนล้านระบบน่าจะสามารถอัปเกรดได้อีกครั้ง น่าเสียดาย นี่เป็นคลังสะสมของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ไม่ใช่ของเขา
ไม่ใช่ของของตัวเอง ยิ่งดูก็ยิ่งขัดตา
ฟางผิงมองดูคร่าวๆ เท่านั้น ไม่นานก็ออกมาจากคลังสินค้า เอ่ยเสียงเบาว่า “อาการบาดเจ็บของอธิการหลิวฟื้นฟูหรือยังครับ?”
หวงจิ่งพยักหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงเอ่ยว่า “กะโหลกยังมีรอยแตกอยู่บ้าง ร้ายแรงไม่น้อย ไม่มีผลกระทบกับตอนนี้เท่าไหร่ แต่หากคิดจะเข้าขั้นแปด นั่นก็ยากแล้ว”
พูดจบ หวงจิ่งก็มองเขาแวบหนึ่ง ถอนหายใจว่า “อันที่จริงมหาวิทยาลัยเตรียมจะซื้อน้ำแร่แห่งชีวิตส่วนหนึ่งให้ผู้เฒ่าหลิวเพื่อช่วยให้เขาฟื้นฟู แต่ผู้เฒ่าหลิวปฏิเสธ เขาคิดว่าตัวเองไม่มีหวังจะเข้าขั้นแปด ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรพวกนี้”
หลิวพั่วหลู่เข้าสู่ขั้นเจ็ดมาหลายปีแล้ว เป็นบุคคลสำคัญรุ่นเดียวกับอธิการเฒ่า
แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ทะลวงขั้นแปด จึงไม่ได้คิดคาดหวังอะไรมากมายแล้ว
ครั้งนี้กะโหลกได้รับความเสียหาย คิดจะเข้าขั้นแปดอีก ยิ่งเป็นเรื่องยาก
ฟางผิงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “ไว้ค่อยหาโอกาสเถอะครับ ถ้าซื้อ ผู้เฒ่าหลิวอาจจะไม่ต้องการ แต่ถ้าพวกเราช่วงชิงมา นั่นก็พูดง่ายแล้ว อธิการ อาจารย์ผมเป็นยังไงบ้าง?”
“ยังเข้าด่าน ครั้งนี้เข้าด่านนานขนาดนี้ น่าจะขั้นเจ็ดอีกไม่นานนี้แล้ว”
“อาจารย์ถังล่ะครับ?”
“ช่วงนี้เขาอยู่ในห้องคุมอานุภาพไม่ออกมาโดยตลอด…” หวงจิ่งครุ่นคิดเล็กน้อย “หลังจากนี้เธอไปถ่ายทอดพลังฟ้าดินที่ห้องคุมอานุภาพสักหน่อย หากใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กัน เขาจะฝึกวิชาได้เร็วกว่าเดิม ดูว่าจะสามารถเข้าสู่ขั้นเจ็ดในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ได้หรือเปล่า”
หลังจากถังเฟิงแตะถึงขั้นหลอมจิตใจและปราณเป็นหนึ่ง พลังจิตใจก็เพิ่มขึ้นไม่น้อย แต่ยังไม่เพียงพอ
ยึดจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ ภายในสี่ห้าปีถังเฟิงน่าจะสามารถทะลวงด่านได้แล้ว
แต่เวลาสี่ห้าปียังคงนานเกินไป
“ได้ ผมเข้าใจแล้ว”
ฟางผิงพยักหน้า ทำให้ถังเฟิงเข้าสู่ขั้นเจ็ดเร็วขึ้นได้ เป็นเป้าหมายของเขาเหมือนกัน
ท้ายที่สุด หวงจิ่งจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “อีกอย่างก่อนหน้านี้อธิการและยอดฝีมือขั้นแปดพวกนั้นออกไปด้วยกันมา สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดสามคน ระดับล่างและระดับกลางนับไม่ถ้วน ครั้งนี้ลัทธินอกรีตเสียเปรียบขนาดนี้ ฉันว่าพวกเขาคงไม่กล้าโผล่หัวออกมาอีกแล้ว!”
ก่อนหน้านี้อู๋ขุยซานไม่ได้เชิญขั้นแปดพวกนี้มาเพื่อช่วยรักษาฟางผิงเพียงอย่างเดียว
เหล่าอู๋ถือโอกาสยืมแรงจากพวกเขา ทั้งยังรวบรวมปรมาจารย์สิบกว่าคนจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มาอีกด้วย ยอดฝีมือขั้นเจ็ดขั้นแปดยี่สิบกว่าคน สองวันนี้เผยความเกรงขามสะท้านฟ้า กวาดล้างทั่วทั้งประเทศ
ไม่ใช่แค่ลงมือภายในประเทศจีน ยังรวมถึงประเทศสยามพวกนี้ด้วย คนพวกนี้ถือโอกาสกวาดล้างรวดเดียวเลยเช่นกัน
สุดท้ายผู้ฝึกยุทธ์นอกรีตขั้นเจ็ดสามคนเปิดเผยร่องรอย ไม่นานก็ถูกสังหาร
แม้ลัทธินอกรีตจะมีขั้นเก้า ตอนนี้ก็ไม่กล้าโผล่หัวออกมา หากเปิดเผยเบาะแสร่องรอย บางทีอาจถูกฆ่าเหมือนกัน
พวกอู๋ขุยซานทิ้งคำพูดไว้อย่างโหดเหี้ยม หากสาวกลัทธินอกรีตกล้าจู่โจมนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อีก จะรวบรวมระดับสูงหนึ่งร้อยคนขึ้นมา ไม่ตายไม่เลิกรา!
ส่วนในการทำภารกิจ หากเจอสาวกนอกรีต ทั้งสองฝ่ายประมือกัน บาดเจ็บล้มตายต้องรับผิดชอบเอง
ชั่วขณะนั้นฟางผิงก็สุขใจขึ้นไม่น้อย แต่ยังคงขมวดคิ้วว่า “ระดับสูงของลัทธินอกรีต ช่วงนี้เจ็บตายไปเกือบสิบคนแล้ว ระดับสูงของพวกเขามีเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ?”
ครั้งก่อนก็ถูกฆ่าไปหลายคน รวมถึงยอดฝีมือขั้นแปดคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้หนานเจียงทำสงครามกวาดล้างก็ฆ่าไปหลายคนเช่นกัน
จากนั้นจ้าวซิ่งอู่ก็ฆ่าไปอีกหนึ่งคน
ตอนนี้ถูกฆ่าไปสามคนแล้ว
คำนวณดู เกรงว่าจะสิบคนขึ้นไปแล้ว
หวงจิ่งเอ่ยเสียงเบา “อย่าลืมว่าสาวกนอกรีตไม่ได้มีแค่ประเทศจีน ทั้งยอดฝีมือก็ไม่ได้มีแค่ประเทศจีน ยอดฝีมือต่างประเทศก็มีเหมือนกัน เธอคิดดูเถอะ แต่ละประเทศในโลก ประกาศระดับสูงออกมาเกินกว่าสองพันคน! อิทธิพลของลัทธินอกรีตไม่ถือว่าน้อยเช่นกัน มากกว่านี้ไม่กล้าพูดแล้ว แต่ละแห่งในโลก ระดับสูงสี่สิบห้าสิบคนน่าจะถึงอยู่ แน่นอนว่าครั้งนี้พวกเขาบาดเจ็บถึงรากฐานเช่นกัน ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่อาจเคลื่อนไหวอะไรได้อีก”
ฟางผิงเอ่ยอย่างกระจ่างแจ้งว่า “แบบนี้นี่เอง ผมยังคิดว่าลัทธินอกรีตเป็นสินค้าพื้นเมืองที่มีแค่ประเทศจีนซะอีก”
หวงจิ่งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นั่นกลับไม่ใช่ คนพวกนี้เคลื่อนไหวอยู่ในวงกว้าง มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง สาเหตุที่ประเทศจีนมีภาพจำแบบนี้ หลักๆ เป็นเพราะว่าช่วงนี้พวกเขาเคลื่อนไหวในประเทศจีนค่อนข้างมาก มีส่วนเกี่ยวข้องกับถ้ำใต้ดินที่อุบัติใหม่ในประเทศจีนเหมือนกัน”
ฟางผิงไม่ถามมากอีก มองเวลาแล้วก็เอ่ยว่า “อธิการ งั้นผมขอตัวไปฝึกวิชาก่อน หลายวันนี้การควบคุมร่างกายดีขึ้นเยอะแล้ว ไม่นานน่าจะสามารถปล่อยพลังอย่างเต็มที่ได้”
“ไม่ต้องรีบเกินไป อย่ารีบค้นหาประตูซานเจียวด้วย เรื่องที่สำคัญในตอนนี้คือควบคุมพลังของตัวเองให้ดี อย่าเอาแต่ใช้พลังฟ้าดินไประเบิดคน เธอสามารถระเบิดคนในตอนนี้ได้ แต่พอถึงระดับสูง เธอยังทำแบบนี้อีก นั่นก็ไม่เหมาะสมแล้ว”
“ครับ ผมเข้าใจแล้ว”
—
ในขณะที่ฟางผิงพูดคุยกับหวงจิ่ง
หน้าประตูใหญ่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
ฉินเฟิ่งชิงแบกดาบยาวเข้ามาในมหาวิทยาลัยอย่างวางท่า คนอื่นๆ เห็นเขา หลายคนรีบหลบหลีกทันที
ฉินเฟิ่งชิงไม่สนใจเช่นกัน คว้าตัวนักศึกษาระดับล่างคนหนึ่งมาถามว่า “ฟางผิงอยู่ที่ไหน?”
“ประธานอยู่เขตทางใต้…”
“กลับมาเร็วกว่าฉันซะอีก”
ฉินเฟิ่งชิงพึมพำ ก่อนจะเอ่ยอีกว่า “คณบดีถังและคณบดีหลัวล่ะ?”
“คณบดีถังยังไม่เห็น คณบดีหลัวเหมือนจะกลับบ้านยังไม่กลับมา…”
ฉินเฟิ่งชิงถอนหายใจอีกครั้ง ไม่กลับมาก็ดีแล้ว
ไม่ถามต่ออีก ฉินเฟิ่งชิงเดินโยกเยกไปเขตทางใต้
ระหว่างที่เดินก็ขยับหูเล็กน้อย จู่ๆ กลับเคลื่อนร่างไปอยู่ข้างหน้านักศึกษาสองคนที่กำลังพูดคุยกัน ถามขึ้นว่า “พวกนายบอกว่าฟางผิงโกนหัวจนเกลี้ยง?”
ทั้งสองคนเห็นอันธพาลอย่างฉินเฟิ่งชิงก็หวาดหวั่นอยู่บ้าง ละล่ำละลักว่า “ประธานฟางโกนหัวแล้ว…”
“ฮ่าๆๆ!”
จู่ๆ ฉินเฟิ่งชิงก็หัวเราะเสียงดัง ไม่ถามต่ออีก วิ่งไปเขตทางใต้อย่างรวดเร็ว นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะโกนผม น่าสนุกแล้ว
ครั้งนี้ตัวเองจะได้หัวเราะเยาะเขาสักที!
เห็นเขาวิ่งไปจนไม่เห็นเงา นักศึกษาทั้งสองคนก็มองหน้ากัน สักพักหนึ่งในนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา “เหมือนประธานฟางจะเกลียดที่คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์หัวล้านของเขาที่สุด ฉินเฟิ่งชิงไปแล้ว…คงไม่ถูกอัดหรอกนะ?”
อีกคนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ละล่ำละลักว่า “พวกเราไปก่อนเถอะ ไม่งั้นถูกฉินเฟิ่งชิงเรียกออกไป พวกเราก็ซวยกันแล้ว”
ทั้งสองคนไม่พูดมากอีก รีบออกไปทันที
ฉินเฟิ่งชิงไม่รอดแน่!
หากเจ้าหมอนั่นไปหัวเราะเยาะฟางผิงจริงๆ ต้องถูกซ้อมตายอย่างแน่นอน
———————-
…………….