ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 436 สหายเก่ามาแล้ว (1)
ตอนที่ 436 สหายเก่ามาแล้ว (1)
…………….
สัตว์ปีศาจที่ประมือกับหวงจิ่งคือปีศาจสุนัขเม่น
ลักษณะภายนอกมีหนามแหลมคมเหมือนกับเม่น เห่าหอนออกมากลับเป็นเสียงสุนัข
สาเหตุที่เรียกว่าเขาสุนัขเม่นก็เป็นเพราะมีสัตว์ปีศาจชนิดนี้อาศัยอยู่
ตอนนี้เพราะว่าแร่ชีวิตของปีศาจสุนัขเม่นถูกขโมยจึงเดือดดาลอย่างถึงที่สุด คำรามเสียงแหบพร่า ไม่สนใจจะฆ่าหวงจิ่งอีก หมุนตัววิ่งไปทางรังทันที
หวงจิ่งสีหน้าเปลี่ยน พลังฟ้าดินรอบร่างกายเชื่อมต่อกันราวกับตาข่ายฝืนรั้งปีศาจสุนัขเม่นให้กลับมา
“ถอย!”
หวงจิ่งตะโกนเสียงดัง น้ำเสียงแพร่กระจายไปไกล นี่ก็คือการให้สัญญาณฟางผิง
ปีศาจสุนัขเม่นอยู่ขั้นเจ็ดตอนกลาง ความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่
เวลานี้ปีศาจสุนัขเม่นมีโทสะอย่างยิ่ง หวงจิ่งไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถสกัดอีกฝ่ายไว้ได้หรือเปล่า หากถูกปีศาจสุนัขเม่นฝ่าออกไปได้ ฟางผิงก็แย่แล้ว
หวงจิ่งไม่ได้กังวลแค่เรื่องนี้ เสียงที่ปีศาจสุนัขเม่นคำรามออกไปเมื่อครู่ เหมือนว่า…กำลังขอความช่วยเหลือ!
ป่าร้อยอสูรอยู่ห่างจากที่นี่สองร้อยกว่าลี้ ตามหลักแล้วเสียงตะโกนของปีศาจสุนัขเม่นไม่อาจแพร่กระจายไปถึง สองร้อยลี้ไม่ใช่ระยะทางสั้นๆ สัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดทำไม่ถึงขั้นนี้
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะประมือกัน เกิดคลื่นพลังงานรุนแรง แต่อย่างมากยอดฝีมือก็รับรู้ได้แค่ระยะยี่สิบสามสิบลี้เท่านั้น
ขั้นเจ็ดประมือกัน ไม่นับว่าแข็งแกร่งจนเกินไป มีแค่ขั้นเก้าขั้นสุดยอดเท่านั้นถึงจะสามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังงานไกลถึงขนาดนี้
แม้ในใจจะคิดอย่างนั้น หวงจิ่งยังคงไม่กล้าประมาท
เขาสุนัขเม่น ยังมีสัตว์ปีศาจระดับกลางอยู่บางส่วน
สัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดตัวนี้น่าจะเป็นราชาของเขาสุนัขเม่น ตอนนี้แม้จะไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากป่าร้อยอสูรได้ แต่หากมีสัตว์ปีศาจระดับกลางจากเขาสุนัขเม่นมาเยอะก็สร้างปัญหาไม่น้อยเหมือนกัน
“สัตว์ปีศาจนี้…ฆ่ายากชะมัด!”
สังหารสัตว์ปีศาจที่อยู่ระดับเดียวกันเป็นเรื่องยากอย่างมาก!
ปรมาจารย์ยอดฝีมือของมนุษย์ อันที่จริงความสามารถไม่อ่อนด้อย คนพวกนี้ทำสงครามมาทั่วสารทิศ ผ่านการต่อสู้นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ถึงกับกลัวสัตว์ปีศาจในระดับเดียวกัน หวงจิ่งมั่นใจว่าเอาชนะอีกฝ่ายได้ไม่มีปัญหา…ประเด็นอยู่ที่ว่าเอาชนะกับฆ่าเป็นคนละเรื่องกัน
“เจ้าฟางผิงหนีไปหรือยัง?”
หวงจิ่งสกัดปีศาจสุนัขเม่นสุดแรงเกิด ครุ่นคิดเรื่องนี้ไปพลาง
หวงจิ่งที่ตอนแรกคิดจะสกัดต่ออีกสักพัก จู่ๆ ก็หน้าเปลี่ยนสี เอ็ดด่าออกมาทันที “ไม่ใช่เรื่องดีอย่างที่คิด ฉันจะตายกับพวกนายจริงๆ แล้ว!”
ในเวลานี้ฟางผิงยื่นหัวออกมาจากใต้ดิน ตะโกนเสียงดังว่า “ยังขุดไม่เสร็จเลย!”
“ขุดกะผีน่ะสิ!”
“วิ่ง!”
หวงจิ่งตะเบ็งเสียง ก่อนจะเอ่ยว่า “อย่าโผล่หน้าออกมา รีบหนีไป!”
ฟางผิงงุนงงอยู่บ้าง หวงจิ่งไม่ได้ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ สัตว์ปีศาจตัวนั้นเหมือนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ตอนนี้ถูกเขาสกัดจนไปไหนไม่ได้แล้ว
“มีสัตว์ปีศาจขั้นแปดกำลังมา…ไม่สิ!”
หวงจิ่งหน้าเปลี่ยนสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า เวลานี้หน้าซีดเป็นกระดาษจริงๆ แล้ว เอ่ยอย่างตื่นตระหนก “ขั้นแปดสองตัว ขั้นเจ็ดอีกตัว รีบหนีไป เจ้าโง่!”
เขาแทบจะบ้าตายกับฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงแล้ว!
แม่งเหอะ บอกว่ามีสัตว์ปีศาจแค่ตัวเดียว!
บอกว่าปัญหาไม่ใหญ่?
ฟางผิงที่อยู่ด้านล่าง ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีอย่างหนัก ในเวลานี้ส่วนลึกของเขาสุนัขเม่น มีแรงกดดันพวยพุ่งขึ้นมา ลำแสงสีทองที่อยู่ไกลหลายสิบลี้ ลอยมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ไม่ใช่สัตว์ปีศาจจากป่าร้อยอสูร นึกไม่ถึงว่าเขาสุนัขเม่นยังจะมีสัตว์ปีศาจขั้นแปดอีกหนึ่งตัว!
ฟางผิงแทบจะกระอักเลือดแล้ว ฉินเฟิ่งชิงไอ้เวรนี่ ไหนบอกว่าเขาสุนัขเม่นไม่มีสัตว์ปีศาจระดับสูง?
แม้จะมี อย่างมากก็มีสัตว์ปีศาจหนึ่งตัวเฝ้าอยู่เท่านั้น!
ไม่ใช่แค่ฉินเฟิ่งชิง อันที่จริงมนุษย์ชาติก็มีการบันทึกเขาสุนัขเม่นไว้แบบนั้นเหมือนกัน ไม่พบระดับสูง ระดับหกกลับมีหลายตัว
แต่ตอนนี้ล่ะ?
ตอนนี้ขั้นเจ็ดที่เฝ้าแหล่งแร่ออกมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าส่วนลึกยังจะมีสัตว์ปีศาจขั้นแปด!
ทั้งหวงจิ่งยังพูดว่าไม่ใช่แค่ตัวเดียว ยังมีขั้นแปดและขั้นเจ็ดอีกตัวไล่ตามมา ฟางผิงอาจไม่รับรู้เสมอไป แต่เขาเชื่อว่าหวงจิ่งไม่พูดโกหกแน่นอน
“อธิการ คุณก็ต้องหนีเหมือนกัน!”
ฟางผิงตะโกนเสียงดัง ก่อนจะสับขาวิ่งอย่างรวดเร็ว
แร่ระดับต่ำที่เหลือพวกนั้น ยังจะขุดอะไรอีก หนีก่อนค่อยว่ากัน
เขาไม่ไป เกรงว่าหวงจิ่งจะปลีกตัวยากเช่นกัน
เขาไปแล้ว หวงจิ่งถึงจะมีโอกาสหนีได้
ฟางผิงเพิ่งหนีออกไป หวงจิ่งที่อยู่กลางอากาศก็เผยสีหน้าดูไม่ได้อย่างถึงที่สุด
เมื่อกี้เขาเขาสกัดสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดตัวนี้ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายรับรู้ว่ากองหนุนกำลังมา จึงเป็นเป็นฝ่ายรั้งหวงจิ่งไว้แทน ไม่ยอมให้จากไป
สัตว์ปีศาจมีสติปัญญาจริงๆ ด้วย
สัตว์ปีศาจตัวนี้เคียดแค้นโจรที่มาขโมยแร่ชีวิตของมัน แต่อีกฝ่ายเพิ่งโผล่หัวออกมา เขาก็แทบสัมผัสถึงตำแหน่งของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็จะสกัดคนที่ล่อตัวเองออกมาแทน สังหารเขาแล้วค่อยไปตามหาหัวขโมยคนนั้น!
หวงจิ่งเห็นลำแสงสีทองนั้นเข้ามาใกล้เขาสุนัขเม่นขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจของสัตว์ปีศาจขั้นแปดตัวนั้นก็ค่อยๆ ใกล้เข้ามาเช่นกัน เวลานี้จึงกัดฟันว่า “นายรนหาที่ตายเองนะ!”
สัตว์ปีศาจตัวนี้วางแผนจะรั้งตัวเขาไว้ หากไม่ปลีกตัวออกไป เขาก็เป็นปัญหาแล้ว
ตอนแรกตั้งใจจะหาโอกาสฆ่าอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว แต่หาโอกาสไม่ได้มาโดยตลอด เวลานี้หวงจิ่งไม่สนใจว่าจะฆ่าอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียวได้แล้วอีกหรือไม่ แม้จะทำได้ เกรงว่าคงจะพาศพไปไม่ได้อยู่ดี
นึกมาถึงตรงนี้ หวงจิ่งไม่คิดลังเลอีก จู่ๆ ก็คำรามเสียงดัง
ในเวลานั้นแววตาของปีศาจสุนัขเม่นที่โรมรันกับเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา ครู่ต่อมาร่างมันก็สั่นไหวเล็กน้อย หนามยาวจำนวนมากทะลวงผ่านอากาศ พุ่งเข้าหาหวงจิ่งทันที
หนามยาวพวกนี้ถึงจะเป็นไพ่ตายที่รักษาชีวิตของมัน
หนามแต่ละเส้นผ่านการหลอมมานับครั้งไม่ถ้วน ความแหลมคมแทบไม่ด้อยไปกว่าดาบผิงล่วน ตอนนี้หนามนับร้อยเส้นระเบิดออกจากร่างทันที!
หนามยาวที่ปะปนด้วยพลังฟ้าดิน ทุกเส้นเพียงพอที่จะสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกได้
ในเวลาเดียวกับที่หนามนับร้อยเส้นพุ่งเข้ามาโจมตี แม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นเจ็ดก็ต้องระวังไม่ให้บาดเจ็บหนัก หวงจิ่งกลับแค่นเสียงในลำคอ เวลานี้ต่างหากคือโอกาสที่เขารอคอยมาโดยตลอด
น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายไม่ได้แสดงฝีมือเลย ตอนนี้…ก็เหมือนกัน!
สาเหตุที่ปีศาจสุนัขเม่นระเบิดพลังอย่างกะทันหัน ไม่ได้ทำเพื่อสังหารหวงจิ่ง แต่เพราะรับรู้ถึงภัยคุกคาม
ในขณะที่มันระเบิดหนามออกมา ข้างหน้าหวงจิ่งก็ปรากฏกระบี่สั้นสีทองกลางอากาศ
กระบี่สั้นยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร กลับเหมือนกระบี่ที่ไม่มีด้ามจับมากกว่า
เสี้ยวพริบตาที่กระบี่สั้นปรากฏ อากาศก็สั่นสะเทือนเบาๆ หวงจิ่งหน้าซีดเผือดเช่นกัน พลังฟ้าดินนับไม่ถ้วนพรั่งพรูเข้าสู่กระบี่สั้น ก่อนจะสลายไปในชั่วพริบตา
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เร็วจนกระทั่งหนามยาวยังไม่ทันจู่โจม ครู่ต่อมาพลังที่แข็งแกร่งบนกระบี่สั้นก็ระเบิดออกมาแล้ว
ไกลๆ นั้นลำแสงสีทองที่ห่างออกไปกว่าสิบลี้ สั่นไหวเล็กน้อย ชั่วพริบตานั้นก็เคลื่อนไหวช้าลง ราวกับกำลังลังเลอยู่
หวงจิ่งไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ตะโกนเสียงดังทันที!
“ตายซะ!”
ชั่วพริบตาที่กระบี่สั้นพุ่งออกไป กลางทาง หนามยาวนับร้อยที่เดิมทีแข็งแกร่งไร้เทียบเทียม พอกระบี่สั้นเคลื่อนผ่านกลับแหลกสลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา ส่วนที่เหลืออยู่ก็สูญเสียพลังไปหมดแล้ว ร่วงลงจากกลางอากาศ
ปีศาจสุนัขเม่นแผดร้องเสียงดัง มันรับรู้ถึงวิกฤตร้ายแรง!
‘ฉึก!’
ในตอนที่ปีศาจสุนัขเม่นคิดจะลอยหนีไป กระบี่สั้นก็ทะลวงผ่านความว่างเปล่าแทงเข้าที่หัวมันโดยตรง!
หวงจิ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามสีหน้าซีดเผือด กัดฟันแน่น ใช้พลังจิตใจเหนี่ยวนำ ไม่นานกระบี่สั้นก็ลอยกลับมาร่วงตกตรงหน้าเขา ก่อนจะหายวับไปจากที่เดิม
“เหล่าอู๋หลอมได้แข็งแกร่งจริงๆ ไม่ใช่อาวุธวิเศษของฉันเหมือนกัน ทำได้แค่แสดงพลังโจมตีในครั้งเดียวเท่านั้น!”
หวงจิ่งก่นด่าในใจ ตอนแรกวางแผนทั้งหมดไว้ดิบดีแล้ว ความมั่นใจที่จะฆ่าสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดก็มาจากเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ตอนนี้…ครั้งหน้าตีให้ตายยังไงก็จะไม่เชื่อเจ้าสองคนนั่นอีกแล้ว!
เขาเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะเชื่อคำพูดของฟางผิงและฉินเฟิ่งชิง สมองละลายกับน้ำไปแล้วหรือไง?
ตอนนี้ไม่อาจมาคิดเรื่องด่าคนได้แล้ว เห็นหัวของปีศาจสุนัขเม่นปรากฏเป็นรูเล็กๆ หวงจิ่งอยากจะควักแกนสมองและแกนหัวใจออกมาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไกลๆ นั้นลำแสงสีทองราวกับตระหนักอะไรได้ กำลังจะถลามาทางนี้แล้ว
หวงจิ่งไม่สบอารมณ์อยู่บ้าง แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาเก็บแล้วจริงๆ
“หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ระเบิดพลังตั้งแต่ทีแรกเลยดีกว่า…”
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่เวลานั้นปีศาจสุนัขเม่นยังมีพลังอย่างเต็มเปี่ยม อาจไม่สามารถฆ่าด้วยกระบวนท่าเดียวได้เสมอไป หากฆ่าไม่ตาย สถานการณ์คงเลวร้ายมากกว่าตอนนี้
อีกอย่างหากล่อสัตว์ปีศาจขั้นแปดออกมาจากส่วนลึกตั้งแต่แรก ฟางผิงอาจไม่สามารถขุดหินพลังงานอะไรได้ด้วยซ้ำ
ยังไงหวงจิ่งก็ไม่ใช่วัยรุ่นเลือดร้อนพวกนั้น ตอนนี้ทำได้แค่คิดเท่านั้น การเคลื่อนไหวกลับไม่ได้หยุดชะงัก
เสี้ยวนาทีที่กระบี่สั้นถูกเก็บกลับไป หวงจิ่งไม่แม้แต่จะหันหน้ามองปีศาจสุนัขเม่นที่อยู่ตรงหน้า หนีไปทางใต้อย่างรวดเร็ว!
เวลานี้ทางตะวันออกคือป่าร้อยอสูร ทางเหนือมีสัตว์ปีศาจขั้นแปดจากส่วนลึกของเขาสุนัขเม่น ทางตะวันตกก็มีลมหายใจของขั้นแปดแพร่กระจายออกมา มีแค่ทางใต้ที่เป็นทางรอดเดียว!
“เจ้าสองคนนั่น…อธิษฐานกันเอาเถอะ!”
หวงจิ่งแทบไม่อาจสนใจสองคนนั่นได้แล้ว ทั้งเขาอยู่ในที่แจ้ง หากสัตว์ปีศาจระดับสูงพวกนี้จะไล่ฆ่า น่าจะไล่ฆ่าเขามากกว่า
หวังว่าเจ้าสองคนนั่นจะหาโอกาสออกไปได้ ไม่งั้นก็จบเห่แล้ว!
——————
…………….