ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 438-2 ถูกจับได้แล้ว (2)
ตอนที่ 438 ถูกจับได้แล้ว (2)
…………….
เจี่ยวทำลายอย่างบ้าคลั่งอยู่พักใหญ่ ดินรอบๆ พังถล่มลงไปทั้งหมด
จู่ๆ ก็คล้ายตระหนักอะไรบางอย่างได้ ไม่ทำลายอีกแล้ว บนเขาสีทองมีพลังปราณบางๆ กำลังถูกแยกออกมาไม่ขาดสาย
สำหรับพ่อครัวที่ชอบหนีคนนี้ มันยังคงมีแผนเตรียมพร้อมรับมือ
ครู่ต่อมา พลังปราณที่แผ่วเบาก็ลอยขึ้นกลางอากาศ
พลังปราณสายนี้ราวกับมีชีวิต แกว่งไปมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มล่องลอยไปข้างหน้า
—
ใต้ดิน
ฟางผิงใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เขาสงสัยว่าครั้งก่อนตัวเองไปขุดหลุมฝังศพบรรพบุรุษของเจี่ยวหรือไง ไม่งั้นทำไมมันเอาแต่หาเขาแบบนี้?
หากเป็นเขา เจอกับผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำขั้นสามคนหนึ่ง อีกฝ่ายหนีไปหรือหลบซ่อนตัว หาไม่เจอแล้ว เขาคงไม่ตามฆ่าอีกฝ่ายอยู่ตลอดอย่างแน่นอน
มีเวลาขนาดนั้น เขาไปฆ่าขั้นสี่ขั้นห้าไม่ดีกว่าหรือไง
สัตว์ปีศาจระดับสูงน้อยครั้งที่จะทำเรื่องแบบนี้!
ทำไมสัตว์ปีศาจที่เขาเจอถึงผิดแปลกขนาดนี้?
“อย่าหาฉันสิ! จะหาฉันไปเพื่ออะไร?”
ฟางผิงร้องไห้ไม่ออกอยู่บ้าง หวงจิ่งก็หายไปแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นยังไง ไม่งั้นมีคนดึงดูดความสนใจของเจี่ยว เขาคงสามารถหาโอกาสออกไปได้แล้ว
ตอนนี้เขาสุนัขเม่นที่กว้างใหญ่กลับคล้ายว่ามีตัวเองอยู่แค่คนเดียว จะหนียังเป็นเรื่องยาก
ในระหว่างที่ฟางผิงฝังตัวเองราวกับหินก้อนหนึ่งในโพรงเล็กๆ ชั่วพริบตานั้นดวงตาเขาก็ขยับเล็กน้อย
“นี่มันอะไรกัน?”
เขาเห็นเส้นบางๆ สีแดง แทรกซึมออกมาจากดิน กำลังพุ่งมาหาร่างของเขา!
“นี่คืออะไรเนี่ย?”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยน ตอนที่เส้นสีแดงบางๆ เข้าสู่ร่าง ยิ่งหน้าซีดเผือดกว่าเดิม!
พลังปราณ!
พลังปราณที่คุ้นเคย!
“พลังปราณของฉันเอง”
ในขณะที่ฟางผิงตระหนักขึ้นมาได้ จู่ๆ เบื้องหน้าเขาก็สว่างจ้า ดินข้างบนถูกพลิกเปิดออกมา!
หัวสีทองขนาดใหญ่กำลังมองเขาอยู่
ฟางผิงหน้าซีดราวกับกระดาษ เอ่ยด้วยรอยยิ้มอึกอักว่า “ราชาเจี่ยว ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!”
เจี่ยวตัวนี้บ้าไปแล้วจริงๆ!
นึกไม่ถึงว่ามันจะยังเก็บรักษาปราณของเขาเอาไว้!
นี่เป็นเรื่องที่ฟางผิงคาดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิง!
ดวงตาขนาดใหญ่ของเจี่ยวมองมาที่เขา เผยท่าทีเย้ยหยัน
ฟางผิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ปีนขึ้นมาจากใต้ดิน หัวเราะแห้งๆ ว่า “ราชาเจี่ยว ท่านหิวหรือเปล่า? กินข้าวไหม?”
เจี่ยวไม่ตอบ ตอนนี้มันไม่มีใจจะกินข้าว
ครู่ต่อมา ฟางผิงก็ลอยขึ้นมา ไม่นานก็ถูกดึงไปข้างหน้าสัตว์ปีศาจที่ตายไปแล้วตัวนั้น
เจี่ยวมองสัตว์ปีศาจ ก่อนจะมองฟางผิงอีกที ฟางผิงไม่เข้าใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเบาว่า “ราชาอยากให้ฉันเก็บของรางวัลพวกนี้ไว้?”
เขาเพิ่งจะพูดจบ กรงเล็บสีทองขนาดใหญ่ของเจี่ยวก็ตบลงมา!
ฟางผิงถูกตบจนจมลงไปใต้ดิน ใบหน้าแดงเถือก แม่งเหอะ จู่ๆ นายก็พาฉันมาที่นี่ ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าให้ทำอะไร?
ดูท่าจะไม่ได้มอบรางวัลให้เขา?
เจี่ยวตบกรงเล็บใส่เขาแล้ว ไม่นานเบื้องหน้าก็มีหนามยาวที่แตกหักเส้นหนึ่งลอยขึ้นมา ฟางผิงจำได้ทันที นี่คือหนาวยาวบนร่างปีศาจสุนัขเม่นก่อนหน้านี้
เจี่ยวเห็นเขาไม่เข้าใจจึงทำลายหนามยาวทิ้ง ก่อนจะมองไปยังที่ไกลๆ อีกครั้ง ครุ่นคิดแล้ว จู่ๆ บนอากาศก็ก็ปรากฏกระบี่สั้นที่ไร้รูปร่างจากพลังจิตใจ ทั้งเสี้ยวนาทีที่กระบี่สั้นปรากฏก็มีเงาคนที่ไม่ค่อยชัดเจนปรากฏขึ้นด้วย
ฟางผิงจ้องมองอยู่พักหนึ่ง นี่นับว่าดูภาพเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาสินะ?
“มีคนใช้กระบี่สั้นฆ่าปีศาจสุนัขเม่น นายอยากได้กระบี่สั้น?”
อันที่จริงฟางผิงเดาได้แล้วว่านั่นคือหวงจิ่ง ถึงเจี่ยวจะแสดงเงาที่เลือนรางให้เห็นก็ตาม
เห็นเจี่ยวจ้องตัวเอง ฟางผิงก็เอ่ยอึกอักว่า “คะ…คะ…คนนี้ฉันรู้จัก แต่ไม่สนิทกับเขาเท่าไหร่…”
“อะไรกัน? หาคนไม่เจอก็จะกินฉันแทน? อย่าทำแบบนี้สิ…”
ฟางผงครุ่นคิดในใจ พาเจี่ยวไปหาหวงจิ่งอย่างนั้นเหรอ?
แต่เจี่ยวคิดจะทำอะไร?
อยากกลืนกินหวงจิ่ง?
ไม่สิ มันอยากได้กระบี่สั้น กระบี่สั้น…อาวุธวิเศษ?
มันอยากได้อาวุธวิเศษ?
เห็นเจี่ยวใช้กรงเล็บทำท่ากรีดบนร่างตัวเอง ฟางผิงก็เอ่ยอย่างลังเล “ราชา ท่านอยากใช้กระบี่สั้นแทงตัวเอง?”
“…”
“เอ่อ…ใช้ดาบของฉันแทงดีกว่าไหม?”
เห็นเจี่ยวเริ่มจะโมโหขึ้นมา ฟางผิงก็รีบหุบปาก สมองกลับแล่นปราดอย่างรวดเร็ว
เจี่ยวคิดจะทำอะไร?
ให้หวงจิ่งใช้กระบี่สั้นแทงมัน?
นี่คือใช้ชีวิตจนเบื่อแล้ว?
แม้จะไม่สามารถเข้าใจได้ แต่ฟางผิงยังคงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ราชา เอาแบบนี้ดีหรือเปล่า ฉันจะไปหาคน หาเจอแล้วจะเอากระบี่สั้นกลับมาให้ท่านแทงสักสองสามที?”
ส่วนพาอีกฝ่ายไปหาหวงจิ่ง เขาไม่กล้าจริงๆ
เกิดฆ่าหวงจิ่งขึ้นมาจะทำยังไง?
อีกอย่าง ตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์ของหวงจิ่งเลย
“ใช่สิ อธิการกำลังถูกสัตว์ปีศาจไล่ฆ่า หรือว่า…จะล่อเจี่ยวเข้าไปดี?”
ฟางผิงอดผุดความคิดขึ้นในใจไม่ได้ ผลปรากฏว่ายังไม่ทันคิดเสร็จ เจี่ยวกลับตบกรงเล็บบนพื้นอย่างทนไม่ไหว
ครู่ต่อมาฟางผิงก็ลอยขึ้นในอากาศ เจี่ยวพาเขามุ่งหน้าไปทิศทางที่หวงจิ่งหนีไปก่อนหน้านี้
“ไปหาอธิการงั้นเหรอ? ตกลงมันคิดจะทำอะไรกันแน่?”
นึกเรื่องพวกนี้แล้ว ฟางผิงก็มองศพของสัตว์ปีศาจที่เขาห่างไกลออกมาเรื่อยๆ ไม่พอใจอยู่บ้าง ยังไงก็ให้ฉันคว้านแกนหัวใจและแกนสมองก่อนได้หรือเปล่า!
เจี่ยวจะสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว!
ราวกับว่าฟางผิงเผยแววตาลุกโชนเกินไป เจี่ยวจึงคำรามเบาๆ แฝงความหมายเตือน
ฟางผิงเข้าใจครึ่งเดาครึ่ง “แตะต้องไม่ได้? ราชาเจี่ยว ท่านเป็นคนฆ่าสินะ? ทำไมไม่กินซะล่ะ?”
“…”
“กินไม่ได้? ต้องทิ้งเอาไว้?”
“…”
ฟางผิงคาดเดาออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า รอจนถูกเจี่ยวพามาระยะหนึ่ง จู่ๆ ฟางผิงก็ตระหนักอะไรบางอย่างได้…ฉันเหมือนว่าไม่ได้สวมเสื้อผ้า!
แต่ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว น่าจะไม่มีคนมองเห็นสินะ?
เจี่ยวต้องการให้หวงจิ่งใช้อาวุธวิเศษแทงมัน ทั้งทิ้งศพสัตว์ปีศาจนั้นไว้ไม่แตะต้อง สัตว์ปีศาจจากเขาสุนัขเม่นหายไปทั้งหมด หรือจะถูกเจี่ยวฆ่าปิดปาก?
“เจ้านี้คงไม่ใช่ว่าจะให้หวงจิ่งเป็นแพะรับบาปแทนมันหรอกนะ?”
ฟางผิงรู้สึกคุ้นเคยกับการกระทำแบบนี้อยู่บ้าง “ร่างสัตว์ปีศาจที่ตายไปนั้น บางทีอาจเหลือไว้เพื่อเป็นหลักฐาน…หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเหล่าหวง ดังนั้นเจี่ยวจึงไม่แตะต้องศพ…หนามยาวก่อนหน้านี้…กลิ่นอายของอาวุธวิเศษ หรือบนร่างสัตว์ปีศาจที่ตายมีกลิ่นอายของอาวุธวิเศษหลงเหลืออยู่?”
“เจี่ยวและเจ้าตัวนั้นเป็นพวกเดียวกัน เกิดขัดแย้งภายในฆ่าอีกฝ่ายกะทันหัน จากนั้นเลยคิดจะโยนความผิดให้เหล่าหวงแทน”
“แต่มันกังวลว่าคนอื่นจะไม่เชื่อ…ไม่ก็ปีศาจตนอื่นจะไม่เชื่อ ดังนั้นเลยคิดให้เหล่าหวงใช้กระบี่สั้นแทงมัน เหลือกลิ่นอายของอาวุธวิเศษเอาไว้?”
“เจี่ยวต้องการความเชื่อมั่นจากใคร?”
“สัตว์ปีศาจก็มีกลุ่มองค์กรของมันอย่างนั้นเหรอ?”
“ไม่สิ ประเด็นอยู่ที่…สัตว์ปีศาจตัวนี้ แม่งจะหัวแหลมเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังคิดจะให้คนเป็นแพะรับบาปแทน!”
ฟางผิงยังกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ ครู่ต่อมาฉากที่ทำให้เขาต้องอกแตกตายก็เกิดขึ้น!
แสงสีทองวิบวับกำลังสาดส่องบนร่างของเขา!
ท่ามกลางความมืดมิดของราตรี ฟางผิงที่ถูกสาดด้วยแสงสีทองจึงดูเตะตาเป็นพิเศษ…ประเด็นอยู่ที่เขาเปลือยล่อนจ้อน!
ฟางผิงกล้ามั่นใจว่าหากรอบๆ นี้มีคน ต้องมองเห็นตัวเองอย่างแน่นอน
“ฉันต้องฆ่านายให้ได้!”
ฟางผิงตะโกนอยู่ในใจ เจี่ยวตัวนี้บ้าคลั่งไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะคิดใช้เขาล่อหวงจิ่งออกมา!
นี่แทบจะเป็นการเหยียบย้ำศักดิ์ศรีของตัวเอง!
ฟางผิงโมโหจนอยากกระอักเลือด บนหัวปรากฏแสงสีทองอำพรางหน้าตัวเองเอาไว้ ท่อนล่างก็มีแสงสีทองบางๆ เกิดขึ้นเช่นกัน คลุมไม่ให้เห็นน้องชายของเขา
น่าอายเกินไปแล้ว!
“บัญชีแค้นนี้ฉันจะจำไว้! รอก่อนเถอะ! จะฆ่านายทิ้งเร็วๆ นี้แหละ!”
ฟางผิงโมโหแทบบ้า เจี่ยวกลับเผยความสงสัยในแววตา นี่คือสสารไม่แตกดับ?
ไม่สนใจว่าฟางผิงจะโมโหหรือเปล่า เจี่ยวพาฟางผิงบินว่อนไปรอบๆ ฟางผิงที่เปล่งแสงสีทอง ดูสะดุดตาเป็นพิเศษ
วิธีนี้ได้ผลจริงๆ
ไกลๆ นั้น หวงจิ่งที่กำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่กลางป่า เห็นแสงสีทองเตะตา หน้าก็เปลี่ยนสีอีกครั้ง
ฟางผิงถูกจับได้แล้ว!
เขานึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเจี่ยวตัวนั้นจะจับคนมาข่มขู่เขา!
ตอนนี้เขาไม่สามารถกลับเมืองความหวังได้ ฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงยังอยู่ที่เขาสุนัขเม่น ปีศาจสุนัขเม่นสองตัวนั้นตายหมดแล้ว เขาวางแผนจะรอให้เจี่ยวออกไปก่อนแล้วค่อยไปหาคน
นึกไม่ถึงว่านอกจากเจี่ยวจะไม่ไปแล้ว ยังเป็นฝ่ายมาหาด้วยตัวเอง
ตกลงเจี่ยวตัวนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?
หวงจิ่งสีหน้ามืดครึ้ม เขาควรจะปรากฏตัวดีหรือเปล่า?
เขาต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่อีกฝ่ายยังกลืนกินสัตว์ปีศาจขั้นแปดไปแล้วหนึ่งตัว ตอนนี้เกรงว่าจะน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ซะอีก
หากปรากฏตัว นั่นก็อันตรายแล้ว
แต่ฟางผิงถูกจับไว้ เขาไม่ปรากฏตัว ถ้าฟางผิงถูกฆ่า…
หวงจิ่งเผยสีหน้าขัดแย้ง ผู้ฝึกยุทธ์ไม่มีการผ่อนปรน!
แม้เรื่องนี้จะถูกเผยแพร่ออกไป ฟางผิงถูกเจี่ยวฆ่า ก็ไม่มีใครคิดว่าเขาทำเรื่องผิด ใช้ชีวิตของขั้นเจ็ดอย่างเขา ไปพนันให้เจี่ยวปล่อยตัวฟางผิง ความเป็นไปได้แบบนี้แทบจะโยนทิ้งไปได้เลย ไม่มีความจำเป็นต้องเสี่ยง
แต่จะให้มองฟางผิงถูกฆ่าจริงๆ งั้นเหรอ?
ในตอนที่หวงจิ่งกำลังกดกลิ่นอาย ซ่อนตัวอย่างรวดเร็ว คิดขัดแย้งในใจอยู่นั้น กลางอากาศจู่ๆ ฟางผิงก็ใช้ภาษาถ้ำตะโกนว่า “ถ้าอยู่ที่นี่ ทิ้งกระบี่ไว้ให้ใช้หน่อย คนไม่จำเป็นต้องออกมา!”
หวงจิ่งสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก กระบี่?
เจี่ยวมาเพื่ออาวุธวิเศษ?
ใช้อาวุธวิเศษแลกเปลี่ยนกับโอกาสปล่อยตัวของฟางผิง…นี่…
ถ้าฟางผิงสามารถมีชีวิตรอด หากต้องแลกจริงๆ อู๋ขุยซานไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ยังไงฟางผิงก็มีหวังจะทะลวงขั้นเก้า
แต่ว่าหากต้องเสียทั้งคนและกระบี่ล่ะ?
จู่ๆ หวงจิ่งก็ถอนหายใจ ช่างเถอะ มาถึงตอนนี้แล้ว ทำได้แค่พนันกันสักตั้ง
เวลานี้แทบไม่อาจคิดอะไรได้แล้ว หากฟางผิงถูกฆ่าจริงๆ นั่นคงไม่อาจให้คำตอบกับพวกหลี่ฉางเซิงและหลู่เฟิ่งโหรวได้
ในมือปรากฏกระบี่สั้นเล่มหนึ่งขึ้น
หวงจิ่งเผยแววตาเป็นกังวล ก่อนจะทิ้งกระบี่สั้นเอาไว้ ตัวเองรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งกระบี่ไว้แล้ว หากทิ้งชีวิตตัวเองอีก คงไม่คุ้มค่า
ครู่ต่อมา หวงจิ่งที่อยู่ห่างจากที่เดิมหลายสิบลี้ก็ซ่อนตัวอย่างว่องไว แต่กระบี่สั้นที่ทิ้งไว้ที่เดิม ปะทุแสงสีทองขึ้นมาอย่างเบาบาง
กลางอากาศ แสงสีทองที่วูบวาบ กระโดดลงมาอย่างรวดเร็ว
เสี้ยวพริบตาที่ฟางผิงร่วงสู่พื้นก็วิ่งไปยังจุดที่มีประกายแสงสีทองทันที อาวุธวิเศษจะให้เจี่ยวเอาไปไม่ได้ มันแค่อยากให้แทงไม่ใช่หรือไง?
สัตว์ปีศาจตัวนี้คงไม่ผิดคำพูด แย่งไปหรอกนะ?
เจี่ยวกลับไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ลงสู่พื้นแล้วก็ยืนอยู่กับที่ ปล่อยให้ฟางผิงพุ่งไปคว้ากระบี่สั้นมา
ดวงตาขนาดใหญ่ของเจี่ยวมองไปยังกระบี่ สัมผัสกลิ่นอายที่แผ่ออกมาจากกระบี่สั้นอย่างละเอียด
เป็นกลิ่นอายของเจ้าต้นไม้โง่นั่นจริงๆ!
เข้มข้นอย่างมาก!
เจี่ยวคล้ายจะตระหนักอะไรได้ กระบี่เล่มนี้…เป็นของคนผู้นั้นที่ฝ่าทะลวงเข้าไปในเมืองเยามู่!
ไม่น่าล่ะ!
———————-