ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 440 เข้าไปก็จัดการเลย (1)
ตอนที่ 440 เข้าไปก็จัดการเลย (1)
…………….
ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้
แรงกดดันของขั้นเก้าพวยพุ่งนับพันลี้!
ส่วนลึกที่ไกลแสนไกล เขาต้านสมุทร
ยอดฝีมือคนหนึ่งเผยลมหายใจบางส่วนออกไป กดดันจนเขาต้านสมุทรเงียบสงบไร้สุ้มเสียง
เจ้าของลมหายใจที่แข็งแกร่งพวกนี้ไม่ได้มีการเคลื่อนไหว กลับเคลื่อนย้ายสายตาไปทางเขตแดนเจ็ดทางใต้
เขตแดนเจ็ดทางใต้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?
เขาต้านสมุทร หุบเขาต้องห้าม
ทางเดินพลังงานที่คล้ายกับทางเดินถ้ำใต้ดินเปิดขึ้นเบาๆ หลังจากนั้นสักพักเงาหลายร่างก็ทะยานขึ้นฟ้า มุ่งไปทางป่าร้อยอสูร
แรงกดดันของขั้นเก้ามาจากป่าร้อยอสูร ป่าร้อยอสูรเกิดอะไรขึ้น ทั้งคิดจะทำอะไร?
ส่วนลึกของเขาต้านสมุทร เงาเลือนรางสะท้านฟ้าหลายร่างไม่ได้เคลื่อนไหว ทั้งไม่ได้ขัดขวาง
เขตแดนเจ็ดทางใต้เกิดแรงกดดันหลายสาย น่าจะไม่เกี่ยวข้องกับเมืองความหวัง เมืองความหวังไม่มียอดฝีมือเข้ามา ไม่ถึงกับก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ได้
ทั้งสองฝ่ายยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดสงครามอย่างเต็มรูปแบบ!
—
น้ำผึ้งหยดเดียวเป็นเหตุ ตอนนี้ได้แสดงประสิทธิภาพให้เห็นอย่างชัดเจน
ป่าร้อยอสูรเป็นอันดับแรก ต่อด้วยหลายเมืองรอบๆ ไม่นานการเคลื่อนไหวเช่นนี้ก็ยืดขยายไปทั่วทั้งเขตแดนเจ็ดทางใต้
เมืองถ้ำใต้ดินสิบสามแห่งต่างมีการเคลื่อนไหว
ทางตะวันตก บนอากาศเมืองเยาเฟิ่ง สัตว์ปีศาจคล้ายกับนกเฟิ่งหวงขนาดใหญ่กำลังสยายปีกคู่บดบังแสงอาทิตย์ แผดเสียงร้องดังไกลถึงร้อยลี้!
ไปทางตะวันตกของเมืองเยาเฟิ่งอีก สัตว์ปีศาจที่คล้ายกับพยัคฆ์ขาวตัวหนึ่ง เงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า สั่นสะเทือนทั่วทั้งปฐพี
ทะเลทรายหมื่นมด พายุทะเลทรายสีทองถูกหอบขึ้นมากวาดไปทั่วทั้งทะเลทราย เงาหลายร่างสั่นสะเทือนทั่วทิศทาง
คลื่นพลังจิตใจของยอดฝีมือแพร่กระจายไปทั่วถ้ำใต้ดิน!
จะเปิดสงครามแล้วงั้นเหรอ?
ยอดฝีมือหลายคนผุดความคิดแบบนี้ขึ้นมา!
ครั้งนี้จะเปิดสงครามกับใคร?
เขาต้านสมุทร
หลังจากพวกขั้นเก้าออกไปแล้ว ทางเดินที่เปิดขึ้นก็หายวับไปในความว่างเปล่า เพิ่งจะหายไป เทือกเขาขนาดใหญ่ที่เงียบเชียบนี้ จู่ๆ ก็ปรากฏเงายอดฝีมือที่ทรงพลังกว่าสิบสาย!
เขาต้านสมุทรถูกขนานนามว่าเป็นพื้นที่หวงห้ามแห่งที่สอง เป็นรองจากทะเลหวงห้าม จะไม่มียอดฝีมือได้ยังไง!
—
เมืองความหวัง
กลางอากาศ ชายชราผมขาวคนหนึ่งเผยใบหน้าหนักอึ้งอย่างถึงที่สุด!
“ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ผู้เฒ่าฟ่านผุดความคิดขึ้นในใจไม่ขาดสาย ตอนนี้เขากังวลใจอย่างมาก
กำลังสนับสนุนจากจีนไม่ได้มาเร็วขนาดนั้น แม้ยอดฝีมือใกล้ๆ เมืองเซี่ยงไฮ้จะไล่ตามมา แต่ครั้งนี้มียอดฝีมือถูกดึงมาเกี่ยวพันมากเกินไป!
ตอนนี้แต่ละเมืองใหญ่ รวมถึงพื้นที่หวงห้ามพวกนั้นและพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพรที่ไร้ผู้คนบางส่วน ตอนนี้ต่างมีแรงกดดันของขั้นเก้าปรากฏ สั่นสะเทือนไปทั่วสารทิศ ทั่วถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้มีขั้นเก้าเข้ามาพัวพันกว่าสามสิบคนแล้ว!
นี่ยังไม่นับรวมยอดฝีมือส่วนลึกของเขาต้านสมุทร หากนับรวมกันคงจะเทียบได้กับขั้นเก้าทั่วประเทศจีนแล้ว
เป็นแค่ถ้ำใต้ดินของเซี่ยงไฮ้ หรือถ้ำใต้ดินทุกทีเป็นแบบนี้ทั้งหมด?
เวลานี้ยอดฝีมือขั้นเจ็ดขั้นแปดต่างไม่มีคุณสมบัติและความสามารถปลดปล่อยแรงกดดันประชันกับยอดฝีมือขั้นสุดยอดพวกนี้
รอบข้างผู้เฒ่าฟ่าน เถียนมู่และโค่วเปียนเจียงยอดฝีมือพวกนี้ต่างสีหน้ามืดครึ้มอย่างถึงที่สุด
—
จุดที่ห่างจากเมืองความหวังสามร้อยลี้
ฟางผิงเร่งเร้าว่า “อธิการ รีบหน่อย! จะไม่ทันแล้ว!”
ไกลออกไปนั้น แรงกดดันสองสายจากขั้นเก้าที่เขาสุนัขเม่นกำลังมุ่งไปยังทิศทางที่เจี่ยวต่อสู้กับปีศาจสุนัขเม่นขั้นแปดก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หากสถานที่พวกนี้ถูกตรวจสอบ ไม่นานอีกฝ่ายอาจจะไล่ตามมายังเมืองเทียนเหมิน
ถึงเวลานั้น ยังไม่ทันให้ความช่วยเหลือ ฟางผิงกังวลว่าท้ายที่สุดอาจทำให้มนุษยชาติกลายเป็นแพะรับบาปแทน!
ใครจะเชื่อว่าเป็นฝีมือของเจี่ยวกัน?
เรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ฟางผิงยังไม่เชื่อเลย ส่วนสัตว์ปีศาจถ้ำใต้ดินพวกนี้จะเชื่อหรือเปล่า ใครจะไปรู้
หน้าผากของหวงจิ่งมีเหงื่อผุดพรายขึ้นแล้ว หอบหายใจว่า “ฉินเฟิ่งชิง เธอแบกอะไรมา หนักเกินไปแล้ว!”
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะแห้งๆ “ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่โลหะผสมที่ไม่มีราคาอะไร”
ฟางผิงชำเลืองมองเขา ขมวดคิ้วว่า “ก่อนหน้านี้เธอไปไหนมา?”
“แค่กๆ ไม่ได้ไปไหน แค่สำรวจรอบๆ แล้วเจอแหล่งแร่โลหะขนาดเล็กเลยขุดแร่ดิบมาเล็กน้อยเท่านั้น”
แร่โลหะมีมูลค่า แต่ไม่ได้ราคาเท่าไหร่ ปกติไม่ได้แพงจนเกินไป
เทียบกับหินพลังงานยังแตกต่างอย่างมาก
ฟางผิงสงสัยอยู่บ้าง เอ่ยขึ้นว่า “สัตว์ปีศาจขั้นแปดตัวนั้นจู่ๆ ก็ลอยออกมา นายเห็นหรือเปล่า?”
“หา?”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้างุนงง “นายพูดเรื่องอะไร?”
สัตว์ปีศาจขั้นแปดลอยออกไป เขาเห็นอยู่แล้ว แต่จะให้เขาพูดอย่างนั้นเหรอ?
จะให้เขาบอกฟางผิงว่าไปกวาดรังของอีกฝ่ายมา?
จะให้เขาบอกฟางผิงว่ารังของอีกฝ่ายมีของดีมากมาย?
จะให้เขาบอกฟางผิงว่าแม้ตอนนี้ตัวเองจะไม่มีแร่พลังงานพวกนั้น เขาก็สามารถทะลวงขั้นห้าได้อย่างสบายๆ งั้นเหรอ?
นอกจากจะทะลวงขั้นอย่างไม่มีปัญหาแล้ว เขายังวางแผนจะแลกเปลี่ยนหินพลังงานจำนวนมาก ทำให้เป็นของเหลวพลังงาน แช่อาบในนั้น เรื่องนี้บอกฟางผิงได้หรือไง?
เห็นได้ชัดว่าบอกไม่ได้!
ระหว่างที่ฉินเฟิ่งชิงพูดก็ละล่ำละลักว่า “จริงสิ ขุดแร่เป็นยังไงบ้าง?”
ฟางผิงมองเขาอย่างสงสัย ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “ซ่อนไว้แล้ว ขุดได้ไม่เยอะ เดี๋ยวรอถ้ำใต้ดินสงบค่อยกลับไปหาอีกที”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าจนใจ เจ้าหมอนี้ชะล่าใจเกินไปแล้ว!
เจอของดีแม้จะตาย ก็ต้องเอากลับมาก่อน ใครจะรู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น?
หวงจิ่งเอ่ยอย่างเสียดายเช่นกัน “ไม่ใช่แค่แร่พลังงาน ศพของสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดสองตัวก็ไม่สามารถเอากลับมาได้ อีกศพหนึ่ง…ไม่รู้ว่าถูกเจี่ยวหรือสัตว์ปีศาจขั้นแปดตัวนั้นกินไป น่าเสียดาย!”
น่าเสียดายจริงๆ!
ครั้งนี้มีสัตว์ปีศาจระดับสูงตายไปสามตัว แถมเป็นขั้นแปดอีกหนึ่งตัว
นี่หากเอากลับไปได้ หวงจิ่งคิดว่าตายก็คุ้มค่าแล้ว
อาวุธวิเศษสามชิ้น!
เขาแทบไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน สถานการณ์ที่แกนหัวใจและแกนสมองถูกเก็บรักษาอย่างสมบูรณ์พบเห็นได้น้อยจริงๆ
เขาฆ่าสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดในชั่วพริบตา อีกฝ่ายเลยไม่มีเวลาระเบิดตัวเอง
เจี่ยวฆ่าสองตัวนั้น สุนัขพันธุ์ปักกิ่งคิดไม่ถึงว่าเจี่ยวจะฆ่ามัน ปีศาจสุนัขเม่นก็นึกไม่ถึงว่าจะต้องทำถึงขั้นระเบิดตัวเอง มันแทบไม่ด้อยไปกว่าเจี่ยวเท่าไหร่ อาจมีโอกาสหนีรอดเหมือนกัน
สงครามครั้งเดียวมีสัตว์ปีศาจตายไปสามตัว สถานการณ์แบบนี้พบเห็นได้น้อยมาก
น่าเสียดายที่ไม่อาจเอากลับไปได้สักตัว
ฟางผิงไอแห้งๆ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เอ่อ..ผมคุยกับเจี่ยวแล้ว ปีศาจสุนัขเม่นตัวนั้นมันไม่ได้กิน แต่มันย้ายไปแล้ว เดี๋ยวผมจะกลับไปถามดูอีกทีว่าจะเอาให้ผมได้หรือเปล่า”
จู่ๆ หวงจิ่งก็เงียบไป เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไร
ฉินเฟิ่งชิงกลับหัวแล่นว่องไว ยังทำแบบนี้ได้ด้วย?
ลอยมาสักพัก จู่ๆ หวงจิ่งก็โยนฉินเฟิ่งชิงออกไป เอ็ดว่า “เธอคิดวิธีกลับเมืองเอง พวกเราจะไปก่อน!”
เจ้าหมอนี้หนักเกินไป!
เขาเป็นแค่ขั้นเจ็ดเท่านั้น ตอนนี้รีบจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาแบกฉินเฟิ่งชิง กินแรงอยู่บ้างจริงๆ
“อธิการ!”
ฉินเฟิ่งชิงที่ถูกทิ้งเผยสีหน้าโกรธเคือง ทิ้งกันแบบนี้เนี่ยนะ?
ยังไม่ถึงที่หมายเลย!
อีกเดี๋ยวหากเมืองเทียนเหมินเกิดสงครามใหญ่ เขายังอาจจะกอบโกยผลประโยชน์ได้อีก ตอนนี้มาถูกทิ้ง จะไปหาผลประโยชน์จากที่ไหน!
ฉินเฟิ่งชิงไล่ตามมาข้างหลังอย่างบ้าคลั่ง ฟางผิงหันไปเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เอาของมาให้ฉันสิ ฉันจะช่วยหาที่ซ่อนให้ แบ่งกันสามสิบเจ็ดสิบ…”
“ไสหัวไปซะ!”
ฉินเฟิ่งชิงด่าออกไป ฝันไปเถอะ!
แม้จะเหนื่อยตาย เขาก็ไม่แบ่งกับฟางผิงหรอก
หวงจิ่งไม่พาเขาไปด้วย ไม่เป็นไร ฉันวิ่งเองก็ได้!
ครู่ต่อมาฉินเฟิ่งชิงก็ร่วงสู่พื้น แบกกระสอบใหญ่มุ่งหน้าไปทางเมืองเทียนเหมิน เจ้าหมอนี้เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างมาก แม้จะช้ากว่าหวงจิ่งอยู่บ้าง แต่หวงจิ่งเก็บงำลมหายใจ ระวังไม่ให้ถูกขั้นเก้าจับสัมผัส จึงเร็วไปกว่าอีกฝ่ายไม่เท่าไหร่
หวงจิ่งมองฉินเฟิ่งชิงที่แบกกระสอบใหญ่หนักอึ้งกลับวิ่งได้ไวขนาดนั้นก็รู้สึกเสียหน้าอยู่บ้าง
ยังไม่ทันพูดอะไร ฟางผิงก็เอ่ยขึ้นก่อน “อธิการ คุณเก็บงำลมหายใจเลยวิ่งได้ช้า เอาแบบนี้ไหมครับ คุณจับผมไว้ ผมจะพาคุณวิ่งเอง!”
หวงจิ่งตะลึงไปเล็กน้อย เธอกำลังพูดอะไรอยู่?
เขายังไม่ทันคิดให้กระจ่าง กระดูกของฟางผิงก็เปล่งแสงสีทองอ่อนๆ ก่อนจะคำรามเสียงเบา คว้าตัวหวงจิ่งพุ่งออกไป!
หวงจิ่งที่อยู่ขั้นเจ็ดไม่กล้าทุ่มสุดกำลัง เพราะจะดึงดูดความสนใจคนอื่นได้ง่าย
ฟางผิงที่อยู่ขั้นห้าเก็บงำลมหายใจ วิ่งสุดชีวิตนึกไม่ถึงว่าจะไม่ช้าไปกว่าหวงจิ่งเลย
หวงจิ่งที่ถูกคว้าตัว จู่ๆ ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอยู่บ้าง สงสัยในตัวเอง
ฉันอยู่ขั้นเจ็ด!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?
ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ขั้นสี่เคลื่อนไหวช้ากว่าเขา แต่เจ้าเด็กนั้นไม่มีอะไรให้กังวล กำลังวิ่งอยู่ข้างล่างอย่างบ้าคลั่ง
ฟางผิงที่อยู่ขั้นห้า อันที่จริงเร็วสู้เขาไม่ได้ แต่เขาไม่กล้าทุ่มสุดกำลัง ระเบิดปราณเยอะเกินไป เวลานี้จะดึงดูดความสนใจอยู่บ้าง
ผลปรากฏว่าฟางผิงที่เก็บงำลมหายใจกลับยังวิ่งเร็วกว่าเขาซะอีก ทั้งยังดูไร้ความกังวล ไม่กลัวจะถูกคนพบ
หวงจิ่งเริ่มตั้งคำถามกับชีวิตแล้ว!
ถูกฟางผิงคว้าตัววิ่งอยู่สักพัก จู่ๆ หวงจิ่งก็เอ่ยว่า “ผิดทางแล้ว!”
ฟางผิงแทบไม่หันกลับไปตอบ “รู้แล้วครับ ทางลัด ฝั่งเมืองเยาขุยก็มีทางเข้าป่าราชันเจี่ยวเหมือนกัน”
หวงจิ่งไร้คำจะโต้ตอบ เจ้าเด็กนี้ใจกล้าจริงๆ
—
ระยะทางหลายร้อยลี้ ภายใต้การทุ่มสุดกำลังของฟางผิง ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เดินทางมาถึงทางเข้าป่าราชันเจี่ยวที่อยู่ทางเมืองเยาขุย
ตอนนี้กลางท้องฟ้าเมืองเยาขุย มีดอกทานตะวันขนาดใหญ่กำลังกวัดแกว่งในอากาศ
มองดอกทานตะวันที่ส่องแสงสีทองเจิดจ้าเป็นพิเศษ กลางดอกยังสามารถเห็นเมล็ดทานตะวันสีทองบางส่วน…ฟางผิงแทบมีความคิดอยากจะไปขโมยจากอีกฝ่ายอยู่บ้าง
หวงจิ่งกลับระวังจนไม่รู้จะระวังยังไงแล้ว พยายามเก็บงำลมหายใจของตัวเอง
แม้ระยะใกล้จะไม่สามารถปิดบังได้ แต่ตอนนี้ขั้นเก้าพวกนี้ต่างกำลังเฝ้าระวังจากขั้นเก้าคนอื่นๆ ไม่ได้จงใจจับสังเกตขั้นเจ็ดตัวเล็กๆ อย่างเขาเป็นพิเศษ
หวงจิ่งรู้สึกตื่นเต้นจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว!
ความรู้สึกที่บุกมาถึงหน้าประตูเมืองคนอื่น…ตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว!
——————–
…………….