ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 440-2 เข้าไปก็จัดการเลย (2)
ตอนที่ 440 เข้าไปก็จัดการเลย (2)
…………….
เห็นขั้นเก้าแถวๆ นี้ปลดปล่อยแรงกดดัน ตัวเองยังเคลื่อนไหวใกล้หูใกล้ตาคนอื่น นี่ยังไม่ตื่นเต้นพอหรือไง?
ตอนนี้หากถูกเจอตัว บางทีอาจถูกโจมตีอย่างรวดเร็ว
หวงจิ่งใจเต้นจนแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอก ฟางผิงกลับไม่สนใจมากมาย มองดอกทานตะวันแวบหนึ่ง ก่อนจะถลาไปยังป่าราชันเจี่ยวอย่างรวดเร็ว
หวงจิ่งถอนหายใจเบาๆ ชำเลืองมองฟางผิง บ้าดีเดือดจริงๆ!
ฟางผิงกลับไม่สนใจเขา วิ่งไปก็เอ่ยไปพลาง “ป่าราชันเจี่ยวครองอาณาเขตค่อนข้างกว้าง ยากที่จะทำลายทั้งหมดทิ้ง ทั้งยังจะถูกดึงความสนใจจากคนอื่นได้ง่าย อีกเดี๋ยวพวกเราลงมือตรงใจกลางไปเลย ถอนรากถอนโคนพื้นที่ใจกลางก็เพียงพอแล้ว”
พูดจบ ฟางผิงก็เอ่ยเสริมว่า “หลังจากนั้นอธิการก็กลับเมืองความหวังเลย เอาอาวุธวิเศษให้ผมก็พอแล้ว”
“ฟางผิง…”
หวงจิ่งไม่รู้ควรจะพูดอะไรอยู่บ้าง ผ่านไปสักพักจึงถอนหายใจว่า “งั้นเธอก็ระวังตัวด้วย!”
“วางใจเถอะครับ ปะปนเข้าไปในเมืองเยามู่ไม่ใช่เรื่องยาก”
แม้จะพูดอย่างนั้น ยิ่งเกิดความวุ่นวายเท่าไหร่ การตรวจสอบเข้าเมืองก็เข้มงวดขึ้นเท่านั้น
หากถูกค้นพบ ฟางผิงที่เพิ่งอยู่ขั้นห้า ในสถานการณ์ที่ขั้นเก้าฟื้นตัว หากไม่ระวังถูกจับสังเกต ขั้นเก้าลงมือกับเขา ในระยะขอบเขตโจมตี นั่นก็ตายในชั่วพริบตาแล้ว
หวงจิ่งอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ท้ายที่สุดกลับถอนหายใจแทน
ฟางผิงออกหน้าเหมาะสมกว่าเขา
อย่างน้อยเขาคิดจะแฝงตัวเข้าไปสร้างความวุ่นวาย ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น กลับจะทำให้มนุษย์ถูกมองเป็นศัตรูมากกว่า ก่อให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นไปอีก
ในความเงียบนั้นฟางผิงวิ่งอย่างรวดเร็วมาตลอดทาง มุ่งหน้าไปยังใจกลางของป่าราชันเจี่ยว
ทั่วทั้งป่าราชันเจี่ยว เงียบงันไร้สุ้มเสียงเช่นกัน
เจี่ยวอยู่ตัวคนเดียว รังของมันแทบไม่มีสัตว์ปีศาจตัวอื่น ส่วนมากจะถูกมันกินหมดแล้ว น้อยครั้งที่เจี่ยวจะออกไปหาอาหาร
สัตว์ปีศาจละแวกใกล้ๆ นี้ ต่างรู้ว่าราชาเขาทองของป่าราชันเจี่ยวไม่ใช่สิ่งดีงามอะไร พวกมันเห็นทางเข้าก็กลัวกันแล้ว ถูกจับมีแต่จะถูกกิน ปีศาจระดับกลางและระดับล่างที่ด้อยสติปัญญาล้วนรู้ว่าป่าราชันเจี่ยวเป็นสถานที่อันตราย อันตรายยิ่งกว่าพื้นที่หวงห้ามพวกนั้นอีก
นี่จึงเป็นสาเหตุที่ฟางผิงวิ่งมาตลอดทางแทบไม่มีสัตว์ปีศาจมาขัดขวางเลย
ผ่านไปอีกพักใหญ่ ฟางผิงก็มาถึงพื้นที่โล่งกว้าง
นี่ก็คือจุดที่เขาเคยเจอกับเจี่ยวก่อนหน้านี้
ฟางผิงหยุดลง สูดลมหายใจเข้าลึกว่า “อธิการ ลงมือเถอะครับ รีบหน่อย!”
หวงจิ่งมองไปยังที่ไกลๆ นั้นแวบหนึ่ง นั่นเป็นทิศทางของประตูเมืองเทียนเหมิน
ตอนนี้เมืองเทียนเหมินมีแรงกดดันพวยพุ่งออกมาเช่นกัน แต่มีแค่สายเดียว เยามู่ไม่ได้ปลดปล่อยแรงกดดันออกมา
หวงจิ่งไม่พูดมากเช่นกัน ชั่วพริบตากระบี่สั้นสีทองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
ครู่ต่อมา กระบี่สั้นก็พุ่งออกไป ระเบิดพลังทำลายล้างอย่างแข็งแกร่ง หักโค่นต้นไม้รอบทิศทางในรัศมีหลายสิบเมตรลงทันที ต้นไม้ทั้งหมดแทบจะระเบิดเปรี้ยงออกไป
หวงจิ่งเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระบี่สั้นราวกับงูน้ำ แหวกว่ายไปทั่วทั้งป่า ทุกที่ที่มันไปถึงแทบจะถูกทำลายอย่างราบคาบ!
ชั่วพริบตานั้นขอบเขตในรัศมีกว่าพันเมตรก็มีต้นไม้หักโค่นกระจัดกระจายเต็มไปหมด
เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่โตไม่น้อยเช่นกัน
ฝั่งเมืองเทียนเหมินเหมือนจะสัมผัสได้อยู่บ้าง
เวลานี้เจ้าเมืองเทียนเหมินไม่มีเวลามาสนใจว่าป่าราชันเจี่ยวเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ทั้งยังไม่ใช่อาณาเขตของเขา
แต่ความคิดของทุกคนล้วนไปทางเดียวกัน เวลานี้ขั้นเก้าไม่อาจจะเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ หากไม่ระวังจะก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างใหญ่หลวงได้
ไม่ว่าจะเมืองเทียนเหมินหรือเมืองความหวัง ตอนนี้ต่างอยู่ในช่วงอ่อนแอ ไม่กล้าจะเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริมอยู่แล้ว
หลักๆ เกิดอะไรขึ้น ทุกคนยังไม่รู้แน่ชัด
แต่ทางตะวันออก แรงกดดันที่ปะปนด้วยโทสะของขั้นเก้าสองสายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามสองตนของป่าร้อยอสูรได้ตรวจสอบเรื่องราวเสร็จสิ้นแล้ว
ผู้คุ้มกันขั้นแปดได้รับการยืนยันว่าถูกฆ่า หลงเหลือโครงกระดูกสีทองที่ไม่แตกสลายเพียงเล็กน้อย ร่องรอยบนกระดูกยังปะปนด้วยกลิ่นอายของเยามู่อย่างเข้มข้น
เวลานี้ราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามกำลังพาเจี่ยวบินมายังเมืองเยามู่เพื่อขอคำตอบจากเรื่องนี้
แต่ต้องผ่านทางมาหลายเมือง แม้จะเป็นราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามสองตนนี้ก็จำต้องพูดอธิบายออกไป ป้องกันการเกิดปัญหาลุกลามที่ไม่จำเป็น
ดังนั้นแม้ราชาจะเคลื่อนไหวเร็วขนาดไหน พอถูกถ่วงรั้งเวลา จนถึงตอนนี้จึงยังไม่ถึงที่หมาย
รวมทั้งยังมีเจี่ยวติดมาอีกตัว ความเร็วจึงช้าลงไม่น้อย
ในตอนที่เจี่ยวและสัตว์ปีศาจขั้นราชาสองตัวนี้ไล่ตามมา หวงจิ่งก็ควบคุมกระบี่ทำลายภายในรัศมีนับพันเมตรจนสิ้นซาก!
ป่าราชันเจี่ยวที่กว้างใหญ่ราวกับกลายเป็นป่ารกร้าง พื้นที่ใจกลางโล่งเกลี้ยงเป็นแถบกว้าง
ตอนนี้หวงจิ่งถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน
การต่อสู้ก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รักษาบาดแผลให้หายดี
ฟางผิงกลับต้องการกระบี่สั้นไว้ ไม่ให้หวงจิ่งทำลายล้างต่อ เอ่ยอย่างรวดเร็วว่า “อธิการ ทำยังไงถึงจะให้กระบี่สั้นระเบิดกลิ่นอายที่รุนแรงได้ เหมือนว่าผมจะไม่สามารถควบคุม ทำได้แค่ใช้เป็นอาวุธธรรมดาเท่านั้น…”
“อาวุธที่ไม่ใช่ของตัวเอง หากไม่ได้บ่มเพาะในมือมาหลายปี ก็เป็นเรื่องยากที่จะควบคุม ก่อนหน้านี้ฉันสามารถระเบิดเต็มกำลังได้ในครั้งเดียว นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้กระบี่สั้นสะสมพลังจิตใจและพลังฟ้าดินของเจ้าของเป็นจำนวนมาก…”
หวงจิ่งอธิบายง่ายๆ หนึ่งประโยค ก่อนจะเอ่ยต่อว่า “เธออยากระเบิดกลิ่นอายที่แข็งแกร่งกว่านี้…กรอกพลังฟ้าดินและพลังจิตใจเข้าไปให้มากหน่อย ชักนำให้เกิดการระเบิด”
ระหว่างที่พูด หวงจิ่งก็เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ฟางผิง หากสถานการณ์ตกเป็นรอง จำไว้ว่าต้องรักษาชีวิตเป็นอันดับแรก!”
ตอนนี้เขาไม่คิดห้ามให้ฟางผิงไปเมืองเทียนเหมินอีกแล้ว
ตอนที่เด็ดขาดก็ต้องเด็ดขาด เขาทำได้แค่ภาวนาให้ฟางผิงอย่าเกิดเรื่องจะดีที่สุด สงครามที่พัวพันถึงการต่อสู้ของขั้นเก้า หากปะทุขึ้นมา ฟางผิงอาจถอนตัวกลับมาอย่างปลอดภัยไม่ได้เสมอไป
“อธิการวางใจเถอะครับ…คุณกลับไปก่อนเถอะ!”
ฟางผิงรับรู้ถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งสองสายเคลื่อนย้ายมาทางนี้แล้ว ถอนหายใจว่า “คุณกลับไปอย่าเพิ่งพูดเรื่องของผม ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องลุกลามใหญ่โต”
หวงจิ่งพยักหน้าเบาๆ มองออกไปไกลๆ นั้น ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว เขาจำเป็นต้องไปสักที
“งั้นฉันขอตัวก่อน!”
หวงจิ่งไม่พูดมากอีก ออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ออกไปยังนึกถึงฉินเฟิ่งชิง เจ้าเด็กนั่นกลับเมืองความหวังแล้ว หรือว่าตามมา? อย่าก่อเรื่องวุ่นก็แล้วกัน
—
ฟางผิงคร้านจะสนใจฉินเฟิ่งชิง
ได้อาวุธวิเศษมาแล้ว เขาก็มุ่งหน้าไปเมืองเทียนเหมินทันที ระหว่างทางก็ใช้อาวุธวิเศษตัดต้นไม้บริเวณที่ผ่านทาง
เวลานี้จากป่าราชันเจี่ยวไปยังทิศทางเมืองเทียนเหมินปรากฎเป็นทางเดินเส้นหนึ่งที่ชัดเจนขึ้นมา
รอจนเข้าใกล้เมืองเทียนเหมิน ฟางผิงก็เคลื่อนที่ช้าลง หยิบพลั่วออกมาอย่างรวดเร็ว เริ่มขุดทางเดิน เขาไม่กล้าวิ่งเข้าไปอย่างโจ่งแจ้ง ตอนนี้เมืองเทียนเหมินมียอดฝีมือนับไม่ถ้วนกำลังลอยลาดตระเวนอยู่ข้างบน
เจ้าเมืองเทียนเหมินขั้นเก้ายิ่งปะทุพลังออกมาอย่างถึงที่สุด!
แรงกดดันของขั้นเก้าสองสายใกล้เข้ามาประชิดเมืองเทียนเหมินแล้ว
เจ้าเมืองเทียนเหมินไม่รู้ว่าตกลงอีกฝ่ายผ่านทางมาหรือว่าอะไร แต่ไม่ว่าจะยังไง เวลานี้ต้องเตือนไว้ก่อน แม้ระหว่างพื้นที่หวงห้ามและเมืองราชาจะไม่ได้เปิดสงครามกันมานาน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เคยขัดแย้งกันมาก่อน
ใครจะรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
—
ในตอนที่ฟางผิงขุดทางเดิน เจ้าเมืองเทียนเหมินยังอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
เจี่ยวที่ติดตามราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามทั้งสองเพื่อมาขอคำตอบก็กำลังวางแผนในใจเช่นกัน จะเข้าไปจัดการตรงๆ ยังไงดี
หากถูกต้นไม้โง่นั่นและราชามู่แก้ตัวอธิบายขึ้นมา งั้นตัวเองก็ลงแรงเสียเปล่าแล้ว
ถึงเวลานี้อาจจะสงสัยว่ามันแฝงเจตนาไม่ซื่ออยู่ก็ได้
หากเรื่องที่สังหารผู้ส่งสารและผู้คุ้มกันถูกเปิดเผยออกมา งั้นมันต้องจบเห่แน่
เจี่ยวร้อนใจอย่างยิ่ง เรื่องนี้ไม่อาจให้ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดได้ จนถึงตอนนี้มันยังไม่ได้ย่อยสลายสสารไม่แตกดับของผู้ส่งสารเลย ราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามยังไม่ทันได้ตรวจสอบลงลึก ไม่งั้นคงจะถูกค้นพบไปแล้ว
เจี่ยวกระวนกระวายอยู่บ้าง
พกพาความกระวนกระวายแบบนี้ไว้ ตอนที่เข้ามาใกล้รังของตัวเอง จู่ๆ ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด
มันเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง!
อาณาเขตของมันเหมือนจะถูกรุกราน!
รอจนมาถึงป่าราชันเจี่ยว เจี่ยวก็คำรามขึ้นฟ้าอย่างโมโหทันที!
รังของตัวเองถูกคนทำลายแล้ว!
ต้นไม้ที่ปลูกมานับร้อยปีอย่างยากลำบาก นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนตัดโค่นไปนับไม่ถ้วน!
“โฮก!”
เจี่ยวมีโทสะอย่างถึงที่สุด ในหัวของมันปรากฏเงาคนๆ หนึ่งขึ้นในชั่วพริบตา กลับไม่อาจสนใจคิดได้มากมาย ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว!
รังของมันถูกทำลายจนราบคาบ ยังจะพูดอะไรได้อีก เข้าไปก็จัดการเลยละกัน!
ครู่ต่อมาเจี่ยวก็แทบไม่สนใจรอราชาสองตนนี้แล้ว แสงสีทองประกายวูบวาบ คำรามกึกก้องบินไปยังเมืองเยามู่ พวกนายนั่นแหละ!
สัตว์ปีศาจขนาดมหึมาสองตัวที่ตามมาข้างหลังก็เห็นสถานการณ์ของเจี่ยวเช่นกัน
ยังไม่ทันตรวจสอบอย่างละเอียดก็เห็นปีศาจเขาทองถลาไปทางเมืองเยามู่แล้ว
สัตว์ปีศาจสองตัวคำรามออกไปหลายประโยค ก่อนจะตามไปอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้เยามู่ต้องมีคำตอบให้พวกมัน!
ในตอนที่พวกมันยังคิดจะขอคำตอบ เจี่ยวที่พุ่งเข้าไปแทบจะไปประชิดเมืองเยามู่ในชั่วพริบตา
ตอนนี้เจ้าเมืองเยามู่ทะยานในอากาศมาอยู่ที่ประตูเมืองด้วยใบหน้าดูไม่ได้อย่างยิ่ง
สัตว์ปีศาจเขาทองเข้ามาอย่างกราดเกรี้ยว ยังพาราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามสองตนเข้ามาด้วย คิดอยากจะทำอะไรก็ทำงั้นเหรอ?
เจ้าเมืองเทียนมู่ยังกำลังครุ่นคิดในใจว่าตกลงมันเป็นเรื่องอะไร ผลประโยชน์อะไรงั้นหรือ…
เจี่ยวที่อยู่ไกลออกไปแผดเสียงคำรามขึ้นมา เดิมทีก็ไม่มีความคิดจะสื่อสารพูดคุยกัน บนเขาสีทองมีพลังฟ้าดินเตรียมพร้อมอยู่นานแล้ว ชั่วพริบตานั้นก็ระเบิดเปรี้ยงพลังที่ราวกับเสาสูงเสียดฟ้าลงไปยังเมืองเยามู่!
“บังอาจ!”
เสียงโมโหดังสะท้านไปทั่วฟ้า!
เจ้าเมืองเทียนเหมินมีโทสะถึงขีดสุด ปีศาจเขาทองกำลังจะกระตุ้นสงคราม!
——————
…………….