ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 442 ปล้นรังเป็นความถนัดของพวกเรา (1)
ตอนที่ 442 ปล้นรังเป็นความถนัดของพวกเรา (1)
………………..
กลางอากาศ พวกขั้นเก้าเริ่มต่อสู้เดิมพันชีวิตแล้ว! ปล่อยพลังอย่างเต็มที่
คลื่นพลังงานที่แข็งแกร่ง ตอนนี้ห่างออกไปหลายร้อยลี้แทบจะรับรู้ได้อย่างชัดเจน
—
เมืองความหวัง
หวงจิ่งกลับมาถึงในเมืองแล้ว เผยสีหน้าเป็นกังวล!
ต่อสู้กันขึ้นมาแล้วจริงๆ!
ตอนนี้เขาแทบไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเป็นกังวลดี
ครั้งนี้เข้าถ้ำใต้ดินด้วยอารมณ์ที่เหมือนขึ้นรถไฟเหาะ ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ คงไม่ต้องพูดแล้วว่าตื่นเต้นถึงขนาดไหน
ฟางผิงจะสามารถช่วยมนุษย์ชาติสลัดพ้นข้อกล่าวหาได้หรือเปล่า?
ระหว่างมนุษย์และเมืองถ้ำใต้ดิน นั่นไม่เป็นไร ฟางผิงสามารถทะลวงเข้าไปในเมืองถ้ำใต้ดิน นั่นเป็นความสามารถของเขา
หลักๆ ที่หวงจิ่งกังวลคือลากสัตว์ปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้อง
ยอดฝีมือของสัตว์ปีศาจและมนุษย์ชาติทำสงครามกันไม่เยอะ
ส่วนมากจะเป็นพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจผู้พิทักษ์มากกว่า สัตว์ปีศาจจากป่าร้อยอสูรพวกนี้แทบไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์มาก่อน
ครั้งนี้จัดการเรื่องได้ไม่ดี อาจจะเพิ่มสัตว์ปีศาจเป็นศัตรูให้ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ก็ได้
เรื่องนี้เขาแทบไม่อาจพูดได้
พูดออกไป…เกรงว่าจะพาปัญหาบางอย่างมาให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้แล้ว
นอกเสียจากว่าจะสามารถคลี่คลายเรื่องได้อย่างเหมาะสม ทางสัตว์ปีศาจถึงจะไม่พัวพันมาถึงมนุษย์
ในตอนที่หวงจิ่งกระวนกระวายใจ จู่ๆ เถียนมู่ที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยว่า “เหล่าหวง ฟางผิงกับฉินเฟิ่งชิงล่ะ?”
หวงจิ่งเอ่ยด้วยท่าทีปกติ “ยังฝึกประสบการณ์อยู่ข้างนอก”
เถียนมู่ถอนหายใจ ผู้เฒ่าฟ่านที่ผมขาวกลับเอ่ยอย่างหนักอึ้งว่า “เมืองเทียนเหมิน…ผิดปกติอยู่บ้าง!”
“หืม?”
“ฉันรับรู้ได้ว่าเจ้าเมืองเทียนเหมินกำลังประมือกับสัตว์ปีศาจสองตัว…”
ผู้เฒ่าฟ่านชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ต่อสู้หนึ่งต่อสอง!”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ทุกคนต่างตกใจ!
เจ้าเมืองเทียนเหมินในสายตาของใครหลายคน นั่นเป็นขั้นเก้าที่อ่อนแอที่สุด แค่ขยะไร้ประโยชน์คนหนึ่ง เวลานั้นยังไม่สามารถฆ่าอู๋ขุยซานที่อยู่ขั้นเจ็ดได้เลย
หลายปีมานี้ผู้เฒ่าฟ่านประมือกับอีกฝ่ายหลายครั้งเหมือนกัน แทบจะกดดันอีกฝ่ายได้สบายๆ
หากไม่ใช่ว่ากังวลบางอย่าง รวมถึงไม่อาจฆ่าเขา คงจัดการอีกฝ่ายไปนานแล้ว
แต่ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าผู้เฒ่าฟ่านจะบอกว่าเจ้าเมืองเทียนเหมินสู้หนึ่งต่อสอง ทั้งยังเป็นราชาสัตว์ปีศาจสองตัว!
ยอดฝีมือของสัตว์ปีศาจ ฝีมือต่างแข็งแกร่งเช่นกัน
ในระดับเดียวกัน ยอดฝีมือมนุษย์ประมือกับอีกฝ่าย มีโอกาสแพ้ชนะห้าสิบห้าสิบ
แต่ยอดฝีมือมนุษย์ อันที่จริงจะแข็งแกร่งกว่ายอดฝีมือถ้ำอยู่เล็กน้อย
ผู้เฒ่าฟ่านเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หนึ่งต่อสองจริงๆ ทั้งยังไม่ได้เป็นฝ่ายเพลี้ยพล้ำด้วย!”
เวลานี้ผู้เฒ่าฟ่านหันไปมองแวบหนึ่ง ไม่นานเงาร่างหนึ่งก็ถลาเข้ามา ชายกลางคนหน้าตาเย็นชาคนหนึ่งยืนตรงกลางอากาศ เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “กลิ่นอายของอาวุธวิเศษ! เจ้าเมืองเทียนเหมินใช้อาวุธวิเศษ!”
นอกจากผู้เฒ่าฟ่าน คนอื่นๆ ต่างค้อมกายเล็กน้อยให้กับผู้ที่มา “ผู้บังคับการ!”
ผู้ที่มาไม่ใช่อู๋ชวน แต่เป็นจางเว่ยอวี่ผู้บังคับการกองตั้งมั่นเฝ้าระวังทางตะวันตก
กองตั้งมั่นเฝ้าระวังทั้งสี่ของประเทศจีน ผู้บังคับการทางตะวันออกและทางเหนือล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นสุดยอดที่ถูกจัดในอันดับสามและสี่ของประเทศจีน อยู่ในสิบอันดับแรกของขั้นเก้าทั่วโลก เป็นบุคคลที่อยู่ในขั้นเก้าขั้นสุดยอดอย่างแท้จริง!
เทียบกับจ้าวซิ่งอู่ จางเว่ยอวี่อยู่ในลำดับที่สูงกว่าเล็กน้อย จ้าวซิ่งอู่อยู่ในอันดับที่สี่สิบแปดจากทั่วโลก ส่วนอู๋ชวนที่อยู่หนึ่งในสี่กองตั้งมั่นถูกจัดในอันดับที่เก้าสิบแปด ไม่เอ่ยถึงยังได้เลย
จางเว่ยอวี่ถูกจัดในยี่สิบอันดับแรกของทั่วโลก ฝีมือย่อมไม่อ่อนด้อย เทียบกับผู้เฒ่าฟ่านแล้วยังแข็งแกร่งกว่า
ย้ายสายตาไปทางเมืองเทียนเหมินที่อยู่ไกลๆ นั้น จางเว่ยอวี่เผยสีหน้าเรียบนิ่ง ครั้งนี้ขั้นเก้าประเทศจีนมีแค่เขาคนเดียวที่มาสนับสนุน!
แต่จางเว่ยอวี่ไม่ได้หวั่นเกรง มองอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยว่า “เป็นอาวุธวิเศษ ทั้งยังไม่ใช่อาวุธวิเศษทั่วไป อาวุธวิเศษของขั้นเก้า เจ้าหมอนี่เก็บซ่อนอย่างมิดชิด น่าสนใจอยู่บ้าง…ฉันแค่อยากรู้ว่าใครเป็นคนสอนวิธีหลอมอาวุธวิเศษให้เขา?”
เสี้ยวพริบตานั้นทุกคนเพิ่งจะตระหนักได้ ทยอยหน้าเปลี่ยนสี!
“เขามีอาวุธวิเศษแค่คนเดียว หรือว่ายอดฝีมือถ้ำใต้ดินมีทั้งหมด?”
จางเว่ยอวี่เอ่ยอย่างครุ่นคิด “ไม่ต้องเคร่งเครียดไป อาจไม่ได้เกิดปัญหาจากคนของพวกเราเสมอไป อันที่จริง…หลายปีมานี้พวกเราถึงกระทั่งเป็นฝ่ายเปิดเผยวิธีหลอมออกไป ฉันแค่อยากรู้ว่ามีเพียงเขตแดนเจ็ดทางใต้ที่รู้หรือว่าเผยแพร่มาจากเขตหวงห้ามกันแน่? ถ้าเขามีแค่คนเดียว นั่นไม่เป็นไร หากเขตหวงห้ามเป็นผู้เผยแพร่…นั่นถึงจะน่าสนใจ!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ผู้เฒ่าฟ่านที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่า…”
“ใช่ ถ้าเป็นฝีมือของเขตหวงห้ามจริงๆ งั้นภายในก็แฝงความลับไว้มากมายแล้ว สังหารสัตว์ปีศาจและพืชปีศาจงั้นเหรอ? ไม่กลัวว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจจะเกิดการต่อต้าน?”
ระหว่างที่จางเว่ยอวี่พูด จู่ๆ ก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นี่คือความวุ่นวายภายในเขตแดนเจ็ดทางใต้ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ยังไม่ถึงเวลาทำสงครามใหญ่!”
เขาเพิ่งพูดจบ หวงจิ่งที่อยู่ด้านข้างกลับเผยสีหน้าร้อนใจอยู่บ้าง
จางเว่ยอวี่ชำเลืองตามองเขาแวบหนึ่ง หวงจิ่งรีบเอ่ยว่า “ฉันกลัวว่าเมืองความหวังของพวกเราจะถูกพัวพันด้วย…”
จางเว่ยอวี่เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจ ระดับสุดยอดของราชายังไม่ออกมา พวกเขาไม่อาจโหมคลื่นเป็นวงกว้างได้หรอก! หากพัวพันถึงเมืองความหวัง สังหารขั้นเก้าพวกนั้นก็จบเรื่องได้แล้ว!”
จางเว่ยอวี่เอ่ยอย่างเหิมเกริมไม่น้อย ทุกคนกลับไม่ได้วางใจแต่อย่างใด
ผู้บังคับกองตั้งมั่นทางตะวันตกแข็งแกร่งมาก แต่นั่นหมายถึงการสู้ตัวต่อตัว ตอนนี้ขั้นเก้าเยอะถึงขนาดนี้ แม้เขาจะสามารภฆ่าอีกฝ่ายได้ ยังจะสามารถฆ่าได้อีกเท่าไหร่?
หนานอวิ๋นเยวี่ยเป็นผู้อำนวยการหน่วยสืบสวน อยู่อันดับหนึ่งถัดจากอันดับขั้นเก้าขั้นสุดยอดของประเทศจีน!
ทั้งเป็นยอดฝีมือหญิงขั้นเก้าเพียงคนเดียวที่เข้าสู่สิบอันดับแรกของประเทศจีน ฝีมือยังแข็งแกร่งกว่าจางเว่ยอวี่อยู่บ้าง
ภายใต้การร่วมมือของสองยอดฝีมือ แม้ตอนนี้สถานการณ์จะตึงเครียดก็ไม่ได้ถึงขั้นไร้ทางต่อกร
ยอดฝีมือขั้นสุดยอด พวกเขาสู้ไม่ได้ แต่ระยะห่างจากขั้นสุดยอดไม่ไกลแล้ว ภายใต้การร่วมมือถึงกระทั่งสามารถทำลายเมืองหลายแห่งสิ้นซากได้อย่างง่ายดาย
ได้ยินเขาพูดว่าผู้อำนวยการหนานจะมา เวลานี้ทุกคนค่อยโล่งใจขึ้นมา
แม้รวมกับผู้อำนวยการหนานจะมีแค่ขั้นเก้าสามคน แต่ขั้นเก้าสองคนที่แข็งแกร่งที่สุดในอันดับต้นๆ ของประเทศจีนตามมา นั่นไม่จำเป็นต้องกลัวเกินไปแล้ว
ในใจโล่งอกแล้ว จู่ๆ หวงจิ่งกลับตระหนักอะไรได้ เอ่ยว่า “ผู้บังคับจาง เจ้าเมืองเทียนเหมินมีอาวุธวิเศษ?”
นี่เป็นเรื่องใหญ่!
“อืม”
หวงจิ่งสีหน้าเปลี่ยนจนแทบดูไม่ได้!
เจ้าเมืองเทียนเหมินมีอาวุธวิเศษ!
หรือว่าเป็นอาวุธวิเศษของขั้นเก้า!
เหล่าอู่ยังคิดจะซ่อนเร้นความสามารถ ทะลวงถึงขั้นเก้าแล้วไปสังหารอีกฝ่าย…
โชคดีที่อีกฝ่ายเปิดเผยออกมาล่วงหน้า ไม่งั้นหากอู๋ขุยซานโอบกอดความคิดจะฆ่าอีกฝ่ายจริงๆ ไม่มีการเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้ บางทีอาจต้องเอาชีวิตไปทิ้ง
ต่อให้เจ้าเมืองเทียนเหมินอ่อนแอแค่ไหน แต่ก็อยู่ขั้นเก้ามาหลายปีแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น อ่อนแอจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?
อีกฝ่ายอาจจะเก็บงำความสามารถมาโดยตลอดเช่นกัน?
หรืออาจจะออกแรงแต่ไม่เอาผลงาน?
ตอนนี้หวงจิ่งไม่คิดอีกแล้วว่าฟางผิงจะทำให้เกิดสงครามใหญ่ระหว่างมนุษย์และสัตว์ปีศาจขึ้นมาหรือเปล่า
เรื่องนี้วุ่นวายอยู่บ้าง
แม้สัตว์ปีศาจจะพบว่ามนุษย์เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่เจ้าเมืองเทียนเหมินควักอาวุธวิเศษออกมา เรื่องนี้ก็มีเหตุให้ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันแล้ว
เวลานี้สัตว์ปีศาจอาจไม่สนใจความเป็นความตายของสัตว์ปีศาจขั้นแปดตัวหนึ่งเสมอไป
เทียบกับเรื่องนี้ สิ่งที่สำคัญกว่ายังคงเป็นยอดฝีมือถ้ำหลอมอาวุธวิเศษไว้ใช้
อย่าลืมว่าเขตแดนเจ็ดทางใต้ก็มียอดฝีมือที่เป็นเจ้าเมืองสิบสามคน ทุกคนต่างมีอาวุธวิเศษหนึ่งชิ้น นั่นหมายความว่าอย่างน้อยต้องสังหารพืชปีศาจหรือสัตว์ปีศาจสิบสามตัว
เทียบกับเรื่องที่มนุษย์ชักใยแล้ว ทำสัตว์ปีศาจขั้นแปดตายไปหนึ่งตัวนับเป็นเรื่องอะไร?
ราชาแห่งพื้นที่หวงห้ามกังวลความเป็นความตายของตัวเองมากกว่า!
พวกมันก็มีขั้นเก้า!
มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง วันนี้แอบสังหารขั้นเก้าตัวหนึ่ง ใครจะรู้ว่าครั้งหน้าจะเป็นพวกมันหรือเปล่า?
“เจ้าเด็กนี้…ครั้งนี้ก่อความเคลื่อนไหวใหญ่โตแล้วจริงๆ…”
หวงจิ่งลอบพึมพำในใจ เรื่องนี้มีแนวโน้มจะพัฒนาไปทางที่ดี
บีบให้เจ้าเมืองเทียนเหมินเผยอาวุธวิเศษ นอกจากจะป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียกับอู๋ขุยซานแล้ว ยังทำให้เกิดความวุ่นวายระหว่างถ้ำใต้ดินเอง นี่เป็นเรื่องดี
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องกังวลคือฟางผิงจะสามารถเอาชีวิตรอดกลับมาได้หรือเปล่า?
เมืองเทียนเหมินต่อสู้กันถึงขนาดนี้แล้ว หากไม่ระวัง เขาก็อาจเอาชีวิตไปทิ้งได้
———————