ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 442-2 ปล้นรังเป็นความถนัดของพวกเรา (2)
ตอนที่ 442 ปล้นรังเป็นความถนัดของพวกเรา (2)
………………..
เมืองเทียนเหมิน
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้อย่างดุเดือด!
สัตว์ปีศาจสองตัวกำลังต่อสู้เอาเป็นเอาตาย เจ้าเมืองเทียนเหมินประกายแววตาเย็นเยียบ โต้กลับสุดกำลัง!
เยามู่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ ทั้งไม่ได้ค้นหาฟางผิงต่อ แต่คอยป้องกันเมืองเอาไว้
ภายใต้ขั้นเก้าทั้งสามที่ต่อสู้โรมรัมอย่างไม่สนใจอะไร ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เมืองต้องถูกทำลายแน่!
ที่นี่ยังมีชาวเมืองนับล้านคน เทียบกับราชามู่ ที่นี่นับเป็นรังของเยามู่มากกว่า ชาวเมืองพวกนี้ก็เป็นประชากรของมัน
รากและกิ่งก้านของเยามู่ขยายยืดยาว ขยับเข้าไปทางในเมือง สร้างม่านพลังฟ้าดินขึ้นมาหนึ่งสาย ร่างของเยามู่สั่นคลอนในอากาศ ต่อต้านควันหลงที่จะล่วงล้ำเข้ามาในเมืองพวกนั้น
นอกเมืองถูกทำลายยังพอว่า ภายในเมืองพังทลาย น้ำแร่ของเมืองเยามู่คงจะสูญสลายจนหมดสิ้น
ต่อสู้มาจนถึงขั้นนี้ เจี่ยวก็ไม่กังวลว่าทั้งสองฝ่ายจะประนีประนอมกันแล้ว
ตั้งแต่ราชามู่ควักอาวุธวิเศษออกมา ในขณะที่เจี่ยวหวาดกลัวก็รู้สึกเบาใจด้วยเช่นกัน
ในเวลานี้ปล่อยให้ราชามู่ดิ้นรนไป ป่าร้อยอสูรไม่อาจเลิกราง่ายๆ อยู่แล้ว รวมถึงพื้นที่ต้องห้ามอื่นๆ ด้วย ไม่อาจปล่อยให้จบง่ายดายเช่นกัน!
เจี่ยวฉวยโอกาสที่ยอดฝีมือทำสงครามค่อยๆ ถอยร่นไป
ครู่ต่อมาร่างของเจี่ยวก็หายไปจากที่เดิม
หลังจากนั้นสักพัก อีกทิศทางหนึ่งของเมืองเยามู่ เจี่ยวก็ปรากฏบนพื้นดินอย่างเงียบเชียบ
ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่เห็นมันเผยสีหน้าหวาดกลัว ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกพลังจิตใจของเจี่ยวสั่นสะเทือนจนตาย กลายเป็นโคลนแหลกเหลว!
ราชามู่ทำสงคราม ต้นไม้โง่นั่นปกป้องเมือง ขั้นเจ็ดขั้นแปดคนอื่นๆ ต่างตั้งรับอยู่รอบนอก
มันที่เป็นอารยะขั้นแปดยังมีอะไรให้ต้องกลัว?
กลืนหินแร่พวกนั้นแล้วค่อยว่ากันเถอะ!
ต่อสู้มาถึงขั้นนี้แล้ว แม้หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันได้ มันกลืนกินไปแล้ว หรือพื้นที่หวงห้ามยังจะให้มันคายออกมาได้อีก?
—
เจี่ยวเข้าไปในเมืองจากอีกทางหนึ่ง
ฟางผิงกลับไม่กล้าขยับเขยื้อน หลบอยู่ในทางเดินเหมืองอย่างระแวดระวัง
อันที่จริงเขาก็อยากขุดแร่เช่นกัน แต่ตอนนี้สายแร่ยังมีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากลาดตระเวนอยู่ แม้ข้างนอกจะต่อสู้จนสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ยอดฝีมือพวกนี้ก็ยังไม่ยอมห่างไปไหน
โดยเฉพาะหลังจากที่เยามู่ออกไปแล้ว ที่นี่ยังมียอดฝีมือขั้นเจ็ดอีกคนนั่งรักษาการณ์อยู่
นี่เป็นรากฐานของเมืองเยามู่ ไม่ถึงสถานการณ์ที่จำเป็นจริงๆ ไม่อาจถูกละทิ้งได้
ฟางผิงไม่กล้าปรากฏตัว หลักๆ เพราะกลัวว่าประมือกันแล้วจะก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวใหญ่โต ดึงดูดความสนใจคนได้
ยอดฝีมือขั้นเก้าข้างนอกพวกนั้น หากตระหนักได้ว่าที่นี่มีการต่อสู้เกิดขึ้น บางทีอาจจะหยุดสงครามลง
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันขึ้นมาได้ เวลานี้ฟางผิงไม่กล้าทำเสียการใหญ่เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย แร่พลังงานเป็นแค่เรื่องเล็กในตอนนี้จริงๆ สงครามพวกขั้นเก้าต่างหากที่เป็นเรื่องใหญ่!
ในตอนที่ฟางผิงซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง ไกลออกไปนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงสั่นสะเทือนอย่างแผ่วเบาดังขึ้นพักหนึ่ง
หลังจากนั้นฟางผิงก็ใบหน้าแข็งทื่อ!
มันไม่ได้ฆ่าคนเทียนเหมินอยู่ที่เมืองชั้นนอกหรือไง?
ทำไมล่ะ!
สัตว์ปีศาจตัวนี้ ตกลงแม่งเป็นสัตว์ปีศาจจริงๆ หรือเปล่า?
มันกระตุ้นให้เกิดสงครามขึ้น ผลปรากฏว่าตัวเองกลับบุกเข้ามาในแหล่งแร่อย่างสบายใจเฉิบ ขั้นเก้าข้างนอกนั่นยังสู้มะรุมมะตุ้มกันอยู่เลย!
ฟางผิงแทบจะแข็งทื่อเป็นหิน กลางทางเดินเหมืองไกลๆ นั้น เจี่ยวไม่ได้อยู่ในร่างทอง ทั้งไม่ได้เปล่งแสงสีทองออกมาเช่นกัน เกราะหนังดำคล้ำทำให้เจี่ยวดูเกรงขามน้อยลง กักขฬะขึ้นไม่น้อย
คนที่ถูกกลืนลงไปก็ถูกมันคายออกมาทั้งหมด เห็นได้ชัดว่ารู้สึกว่าคนพวกนี้สกปรกเกินไป หรือรสชาติไม่ถูกปากเท่าไหร่
ดูดกลืนอยู่พักใหญ่ เจี่ยวก็เดินลัดเลาะไปตามทางเดินเหมืองทั่วทิศทาง มันยังหาเขตใจกลางแหล่งแร่ไม่เจอ
แต่การสัมผัสพลังงานก็เป็นความสามารถของสัตว์ปีศาจเช่นกัน มันรับรู้ได้ถึงตำแหน่งใจกลางแล้ว กำลังเดินไปยังจุดนั้น
ระหว่างที่เดินไปจู่ๆ เจี่ยวก็หันกลับมามองแวบหนึ่ง
ในทางเดินเหมือง ฟางผิงซ่อนตัวอย่างเงียบๆ!
แม้มันจะร่วมมือกับเจี่ยวหลายครั้งแล้ว เจ้าตัวใหญ่นี่ไม่ได้กินเขา แต่ฟางผิงไม่คิดว่าคนกับสัตว์ปีศาจจะอยู่ร่วมกันได้ ใครจะรู้ว่าครู่ต่อมาตัวเองจะถูกมันกลืนในคำเดียวหรือเปล่า
หากไม่เจอกัน นั่นย่อมจะดีที่สุด
เห็นได้ชัดว่าเจี่ยวมองมาข้างหลังอย่างลังเล แต่ก็ไม่ได้หยุดนาน มันสาวเท้าไปอีกทางเดินหนึ่งอย่างรวดเร็ว
ฟางผิงรอมันเดินไปสักพักแล้วก็มุดออกมา ใบหน้าเผยท่าทีขัดแย้งอยู่บ้าง ก่อนจะกัดฟัน เขาก็จะไปเหมือนกัน!
เจ้าหมอนี่บางทีอาจจะเป็นผู้ช่วยให้เขาได้ ช่วยเป็นแพะให้เขา!
เขตใจกลางแหล่งแร่ต้องมีหินพลังงานจำนวนมากอยู่แล้ว ทั้งยังเป็นประเภทระดับสูง!
ความบริสุทธิ์หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์อาจจะมีเช่นกัน
หากขุดได้บางส่วน นั่นก็กอบโกยได้ไม่น้อยแล้ว
ฟางผิงเดินตามเจี่ยวอยู่ข้างหลังอย่างระมัดระวัง ข้างหน้ามีเสียงสั่นสะเทือนกระจายมาเป็นพักๆ เจี่ยวกำลังลงมืออย่างโหดเหี้ยม
เจ้านี่เป็นสัตว์ปีศาจขั้นแปด แม้จะได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง แต่มันเพิ่งกินสัตว์ปีศาจขั้นแปดไปหนึ่งตัว สสารไม่แตกดับมีเต็มเปี่ยม อย่ามองว่าสภาพภายนอกทุลักทุเล ในความเป็นจริงอาการบาดเจ็บฟื้นฟูขึ้นไม่น้อยแล้ว
ตอนนี้ยอดฝีมืออยู่ข้างนอกทั้งหมด เยามู่ก็ถอนรากออกไปจากที่นี่แล้ว ไม่มีใจจะสนใจมัน
เขตแร่แทบไม่มีศัตรูของเจ้าหมอนี่อยู่เลย
แรงสั่นสะเทืองแผ่กระจายมาเป็นครั้งคราว
ฟางผิงเห็นศพระหว่างทางมากมาย ทั้งยังเจออาวุธไม่น้อย
มันมองข้าม ฟางผิงกลับไม่คิดอย่างนั้น หินพลังงานถูกมันกลืนกินแล้ว กระทั่งระดับต่ำมันยังไม่เหลือไว้ จุดที่ฟางผิงเดินผ่าน พลังงานภายในทางเดินแทบจะหมดเกลี้ยง ไอ้เวรนี่ไม่เหลือให้เขาสักนิด
ฟางผิงเก็บอาวุธพวกนี้ไว้ เกราะ รวมถึงสิ่งของอื่นๆ อย่างเช่นป้ายสถานะ
ของพวกนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่
เอากลับไปแสดงในหอประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน ป้ายสถานะผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางจำนวนมากถูกเขารวบรวมเอาไว้ ช่วงนี้ฟางผิงเก็บไว้เยอะทีเดียว อย่างน้อยคงเกือบร้อยอันได้!
เขาอยู่แค่ขั้นห้า สังหารผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางนับร้อย ถูกเผยแพร่ออกไป นี่ก็เป็นผลงานใหญ่เช่นกัน
แม้จะเป็นหน่วยทหาร เขาใช้ป้ายสถานะที่สะสมยื่นเป็นผลงาน บางทีอาจจะได้ตำแหน่งแม่ทัพมาครองเหมือนกัน
—
ฟางผิงติดตามเจี่ยวไปใจกลางเขตแร่ ข้างนอกนั้นพวกขั้นเก้ากำลังทำสงครามอยู่
ไกลออกไปจากเมืองเทียนเหมินอีก
ป่าราชันเจี่ยว
ฉินเฟิ่งชิงกำลังขุดดินอย่างบ้าคลั่งในพื้นที่ที่ถูกหวงจิ่งทำลายก่อนหน้านี้ พึมพำว่า “จะไม่มีเลยหรือไง สัตว์ปีศาจขั้นแปดตัวหนึ่งไม่มีสมบัติล้ำค่าอะไรเลย ต่อให้จนขนาดไหนก็ต้องเหลือไว้หน่อยหรือเปล่า?”
ใช่แล้ว เขากำลังปล้นรังของเจี่ยว!
ตำแหน่งที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่กี่สิบลี้ ขั้นเก้าทั้งสามกำลังทำสงครามกันอยู่ ควันหลงแทบจะกระจายมาถึงทางนี้แล้ว
แต่ฉินเฟิ่งชิงไม่สนใจ ตัวเองอ่อนแอขนาดนี้ คนเขาไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก
ตอนนี้เขากำลังตั้งใจกวาดรังสัตว์ปีศาจ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เจี่ยวจะผละจากรัง เมืองเทียนเหมินเขาไปไม่ไหว นั่นเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ แต่ป่าราชันเจี่ยวกลับยังพอมาได้
ผลปรากฏว่าขุดอยู่ค่อนวัน ไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง
“ไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ!”
“ฟางผิงและเหล่าหวงขุดไปแล้ว?”
“ไม่สิ พวกเขาไม่เห็นขุดอะไร…”
เขาไม่เชื่อหรอก!
นึกมาถึงตรงนี้ฉินเฟิ่งชิงก็ขุดดินอย่างบ้าคลั่งต่อ เวลานี้ไม่ขุด หลังจากนี้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ไม่นานฉินเฟิ่งชิงก็เผยสีหน้าดีใจ ในนั้นมีอาวุธโลหะผสมอยู่ชิ้นหนึ่ง พึมพำว่า “มีจริงๆ ด้วย! ฉันว่าแล้วไง!”
แม้อาวุธชิ้นนี้จะไม่ได้ดีเท่าไหร่ ทั้งคล้ายจะเป็นโลหะผสมระดับ C แต่มีก็ดีกว่าไม่มีอะไรเลย
ปกติเจี่ยวฆ่าคนไม่กลืนของพวกนี้อยู่แล้ว ขุดไปมั่วๆ กระทั่งศพแห้งยังมีอาวุธติดอยู่ด้วย
ชั่วขณะนั้นฉินเฟิ่งชิงก็มีแรงกระตุ้นขึ้นมา ปากยังคงขมุบขมิบว่า “หนึ่งวันปล้นรังขั้นแปดสองที่ นอกจากฉันยังจะมีใครอีก?”
แต่นึกถึงฟางผิง ฉินเฟิ่งชิงก็เผยสีหน้าดูไม่ได้ เจ้าหมอนั่นไปกวาดรังขั้นเก้าด้วยซ้ำ!
“รอก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วฉันจะไปกวาดรังขั้นเก้าบ้าง!”
ฉินเฟิ่งชิงตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ตัวเอง จะว่าไปแล้ว…ทุกครั้งที่ลงถ้ำใต้ดินกับฟางผิงล้วนได้ของรางวัลอย่างคาดไม่ถึง ตกลงควรจะรั้งตัวอยู่ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดีหรือเปล่า?
———————