ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 444 แกล้งจนแต่จนจริงๆ (1)
ตอนที่ 444 แกล้งจนแต่จนจริงๆ (1)
………………..
การต่อสู้ของขั้นเก้าสิ้นสุดลง ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวจะจบลงแล้ว
ราชาปีศาจสองตัวหลบหนีไป ปีศาจจระเข้ยักษ์พาเจี่ยวมุ่งหน้าไปทางป่าร้อยอสูร ปีศาจสิงโตกลับห้อตะบึงไปยังทะเลทรายหมื่นมดทางตะวันตก!
พื้นที่หวงห้ามควรต้องแจ้งเตือนแล้ว!
บางทีเผ่าพันธุ์ผู้พิทักษ์อาจจะทรยศพวกมันแล้ว!
ยอดฝีมือถ้ำใต้ดินไม่ควรค่าพอให้เชื่อใจและร่วมมือกันอีกแล้ว
ยอดฝีมือขั้นเก้าพวกนี้เร่งเดินทางอย่างสุดกำลัง ไม่นานป่าร้อยอสูรก็มีแรงกดดันสะท้านฟ้า ขั้นเก้าปลดปล่อยแรงกดดันหลายสาย รวมถึงพืชปีศาจขั้นเจ็ดขั้นแปดอีกจำนวนมากก็แผดเสียงร้องก้องกังวานไปทั่วฟ้าเช่นกัน!
เมืองที่อยู่ใกล้ป่าร้อยอสูรแห่งหนึ่ง แรงกดดันของขั้นเก้าสองสายราวกับเทียนที่กำลังจะดับมอด ถูกกดขี่จนหดตัวอยู่ในอาณาเขตแค่เล็กๆ
ทางตะวันตก ทะเลสาบหมื่นมดก็ระเบิดพลังงานพวยพุ่งออกมาเป็นพักๆ
เสียงแผดร้องแสบหูดังขึ้นติดต่อกัน สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถ้ำใต้ดิน
พื้นที่ใจกลาง เขาต้านสมุทร ก็เริ่มมีเสียงสัตว์ปีศาจคำรามตอบกลับแล้วเช่นกัน
เวลานี้กระทั่งทะเลหวงห้ามที่เงียบงัน ส่วนลึกของมหาสมุทรราวกับเริ่มมีเผ่าพันธุ์ปีศาจโต้ตอบกลับเช่นกัน
เมืองเยามู่ ยอดฝีมือของเขตหวงห้ามเพิ่งจะนั่งลงคุยกันได้ไม่นานก็รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวอยู่บ้าง หัวหน้าขั้นเก้าคนนั้นสีหน้าดูแทบไม่ได้ ไม่นานก็ส่งคนหนึ่งในนั้นไปรายงานข้อมูลกับเขตหวงห้าม!
เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถจัดการได้แล้ว
เขตแดนเจ็ดทางใต้ พื้นที่หวงห้ามพวกนั้น รวมถึงเขาต้านสมุทรและทะเลหวงห้าม พื้นที่หวงห้ามพวกนี้มีปีศาจขั้นราชาเกือบสามสิบตัว!
หากไม่สามารถสยบโทสะปีศาจพวกนี้ได้ บางทีเขตแดนเจ็ดทางใต้อาจต้องเกิดการจลาจลครั้งใหญ่แล้ว
—
วันนี้ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้เกิดความโกลาหลวุ่นวาย
แต่ละเมืองต่างตกอยู่ในความหวาดผวาและตื่นกลัว รวมถึง…เป็นกังวลด้วย!
แม้จะเป็นเมืองเยาขุยที่ทำสงครามกับเมืองความหวังก็รีบเรียกกำลังทหารนอกเมืองกลับมาทันที
ในช่วงเวลาที่ยอดฝีมือสำแดงฤทธิ์เช่นนี้ หากทำให้ยอดฝีมือพวกนี้เกิดความไม่พอใจ ไม่ระวังตัวให้ดีอาจจะสูญเสียคนไปนับไม่ถ้วนได้
เมืองความหวังก็เรียกผู้ฝึกยุทธ์นอกเมืองกลับมาตั้งนานแล้ว
เวลานี้แม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นเจ็ดเคลื่อนไหวอยู่ข้างก็ยังเป็นอันตรายอย่างมากเช่นกัน
หากไม่ระวัง มีโอกาสที่จะกลายเป็นชนวนสงครามใหญ่ได้
—
เมืองความหวัง
ประตูเหนือ
คืนนี้เมืองความหวังไม่มีการหลับใหล
กำแพงประตูเมืองทางเหนือมียอดฝีมือระดับสูงรวมตัวกันสิบเจ็ดสิบแปดคน
ขั้นเก้าสามคน ขั้นแปดห้าหกคน ขั้นเจ็ดเกือบสิบคน
ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ปั่นป่วนไปทั่ว ยอดฝีมือรอบๆ บางส่วนเริ่มเข้ามาสนับสนุนแล้ว
บนกำแพงนั้น หนานอวิ๋นเยวี่ยเพิ่งตามมาได้ไม่นาน แม้ว่าจะเป็นผู้หญิง ใบหน้ากลับเยือกเย็นและมั่นคง มองไปยังทิศทางเมืองเทียนเหมินที่อยู่ไกลๆ หนานอวิ๋นเยวี่ยเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่าอยู่บ้าง “เตรียมตัวกับการอพยพให้พร้อม!”
จางเว่ยอวี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าว่า “กำลังทหารและผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางระดับล่างต่างเตรียมพร้อมถอยทัพทุกเมื่อแล้ว”
มาถึงเวลานี้อาจจะเกิดสงครามใหญ่ได้ตลอดเวลา
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เมืองความหวัง แต่เมืองเทียนเหมินอยู่ใกล้กับที่นี่เกินไป หากขั้นเก้าเยอะเกินไป ระเบิดสงครามใหญ่ เมืองความหวังก็ยากจะหลบเลี่ยงเช่นกัน
ยอดฝีมือระดับสูงยังพอว่า หากระดับกลางระดับล่างถูกควันหลง ต้องมีคนตายนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน
สวี่โม่ฟู่ที่ตามอยู่ข้างหลังเผยใบหน้าเคร่งขรึม พยักหน้าเล็กน้อย หมุนกายไปกำชับกับรองแม่ทัพ
พวกขั้นเก้ากำลังปรึกษาหารือกัน ด้านข้างนั้นอู๋ขุยซานเผยแววตาลึกล้ำมองหวงจิ่ง
อาวุธวิเศษของฉันล่ะ?
ฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงอยู่ที่ไหน?
ขั้นเก้าจะปะทุสงครามแล้ว เจ้าสองคนนี้ไปอยู่ไหนกัน?
อีกอย่าง อาวุธวิเศษที่เกี่ยวข้องกับตัวเองหายไปแล้ว!
อาวุธวิเศษล่ะ!
หวงจิ่งเผยท่าทีไม่สะทกสะท้าน หรือจะพูดว่าใบหน้าแข็งทื่อ ยังไงก็ไม่ยอมมองอู๋ขุยซาน
ขึ้นชื่อว่าเป็นอธิการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แม้อู๋ขุยซานจะเข้าด่าน ตอนนี้ก็ต้องไล่ตามมาเช่นกัน ไม่ใช่แค่เขา หลิวพั่วหลู่ที่เพิ่งฟื้นฟูอาการบาดเจ็บก็เร่งตามเข้ามา
หลังจากอู๋ขุยซานมาถึง หวงจิ่งก็แทบไม่พูดอะไร
อู๋ขุยซานแทบจะระเบิดโทสะแล้ว
พอเขามาก็รับรู้ถึงความผิดปกติ เขาสัมผัสถึงอาวุธวิเศษไม่ได้ นี่หมายความว่าอาวุธวิเศษไม่ได้อยู่กับหวงจิ่ง
อาวุธวิเศษประเภทนี้บ่มเพาะกับเจ้าของมาหลายปี จิตวิญญาณเชื่อมต่อกัน
อู๋ขุยซานอยู่บนพื้นโลกคงไม่อาจรับรู้ได้ แต่ตอนนี้อยู่ข้างหวงจิ่ง ไม่มีเหตุผลที่จะสัมผัสไม่ได้
ตอนนี้พวกขั้นเก้ายังอยู่ด้านข้าง อู๋ขุยซานไม่อาจเอ่ยปากถามได้
แต่แววตาเผยไอสังหารยังคงชัดเจนอย่างมาก
ตกลงหวงจิ่งกับพวกฟางผิงทำอะไรกัน?
ฆ่าสัตว์ปีศาจขั้นเจ็ดหนึ่งตัว มีอาวุธของเขาอยู่ โอกาสจังหวะเหมาะสม ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
ทำไมเจ้าพวกนี้เข้ามาวันแรกก็เกิดความวุ่นวายทั่วถ้ำใต้ดินแล้วล่ะ?
อาวุธวิเศษไปไหนแล้ว?
เวลานี้อู๋ขุยซานคร่ำครวญอยู่ในใจ ทำหาย…หรือว่าถูกเจ้าสองคนนั่นเอาไป?
เห็นหวงจิ่งตีหน้าซื่อ อู๋ขุยซานก็อยากฆ่าตาแก่นี้ให้ตายอยู่บ้าง จากนั้นก็เค้นถามเบาะแสอาวุธวิเศษของตัวเอง
ในตอนที่อู๋ขุยซานคับข้องใจอยู่นั้น จู่ๆ หนานอวิ๋นเยวี่ยก็มองไปข้างหน้า ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “ทางเมืองเทียนเหมินยังมีผู้ฝึกยุทธ์ไม่ได้ถอยทัพออกมาอีกเหรอ?”
หนานอวิ๋นเยวี่ยเพิ่งจะพูดจบ จางเว่ยอวี่ที่อยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ใจกล้าจริงๆ!”
มาถึงขั้นนี้แล้ว ก่อนหน้านี้เมืองเทียนเหมินยังระเบิดสงครามขั้นเก้าอีก นึกไม่ถึงว่าจะมีคนไม่ถอนตัวกลับมาอีก
สองคนนี้ฝีมือแข็งแกร่งมาก สัมผัสได้ไกลเช่นกัน
รอจนพวกเขาพูดกันสักพัก ผู้เฒ่าฟ่านที่อยู่ด้านข้างเพิ่งจะสัมผัสได้ จู่ๆ ก็หลุดหัวเราะว่า “เป็นเขา…เรื่องปกติแหละ”
“หืม?”
ยอดฝีมือขั้นเก้าขั้นสุดยอดสองคนยังอดมองเขาไม่ได้ นายรู้จัก?
ยอดฝีมือขั้นเก้าน้อยนักที่จะสนใจผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างระดับกลางพวกนี้
“ฉินเฟิ่งชิงจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้”
“ฉินเฟิ่งชิง?”
จางเว่ยอวี่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เขาเป็นผู้บังคับกองตั้งมั่นเฝ้าระวังทางตะวันตก ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้เ
กลับเป็นหนานอวิ๋นเยวี่ยที่เต็มไปด้วยความเกรงขาม ขมวดคิ้วขึ้นมา “ลูกชายของฉินหนานเซิง?”
“เป็นเขา”
“เคยได้ยินมาก่อน เจ้าเด็กที่ชอบยั่วยุสัตว์ปีศาจให้ก่อความวุ่นวาย…”
หนานอวิ๋นเยวี่ยเอ่ยออกไปลอยๆ ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของหน่วยสืบสวน ข้อมูลของผู้ฝึกยุทธ์อัจฉริยะพวกนี้ เธอยังพอรู้อยู่บ้าง
ส่วนเรื่องที่บอกว่ายั่วยุปีศาจให้ก่อความวุ่นวาย เธอไม่ได้ใส่ใจเช่นกัน
แม้ครั้งนี้สัตว์ปีศาจจะก่อความวุ่นวาย แต่ล้วนเป็นระดับสูงทั้งสิ้น รวมถึงขั้นเก้าบางส่วน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉินเฟิ่งชิงจะทำได้
คนพวกนี้กำลังพูดคุยกัน อู๋ขุยซานที่อยู่ด้านข้างก็ถอนหายใจเบาๆ ฉินเฟิ่งชิงกลับมาแล้ว ในเมื่อกลับมา นั่นแสดงว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ก่อปัญหา…สินะ?
อู๋ขุยซานไม่คิดมากมายอีก รอคอยต่อไป
ผ่านไปอีกพักใหญ่ บนกำแพงนั้น คนอื่นๆ ก็เห็นร่างของฉินเฟิ่งชิงแล้ว
ไกลๆ นั้นฉินเฟิ่งชิงแบกสัมภาระขนาดใหญ่กว่าตัวของเขาซะอีก กำลังวิ่งมาทางนี้อย่างบ้าคลั่ง
“ฉินเฟิ่งชิงกลับมาแล้ว!”
“เจ้าเด็กนี้ใจกล้าจริงๆ จนถึงตอนนี้เพิ่งจะกลับมา”
“แถมยังแบกสัมภาระมาใหญ่ขนาดนั้น ครั้งนี้เจ้าเด็กนี้ไปทำอะไรมา? คงไม่ได้ไปปล้นบ้านใครอีกหรอกนะ?”
“ไม่มั้ง?”
“…”
พวกเขาถกเถียงกัน เฉินอวิ๋นซีที่อยู่มุมหนึ่งบนกำแพงสอดส่องสายตาไปทั่ว เมื่อไม่เห็นฟางผิงจึงกระวนกระวายใจอยู่บ้าง กระโดดลงไปจากกำแพงตรงๆ
ยอดฝีมือปรมาจารย์หลายคนหันมองกันแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่มีใครพูดอะไร
เฉินอวิ๋นซีที่กระโดดจากกำแพง วิ่งเข้าไปหาฉินเฟิ่งชิงอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นสักพักเธอก็ขวางทางฉินเฟิ่งชิงเอาไว้ เอ่ยอย่างร้อนใจ “รุ่นพี่ฉิน ฟางผิงล่ะ?”
ฟางผิงออกไปกับฉินเฟิ่งชิง ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงกลับมาแล้ว ฟางผิงไปไหนกัน?
“เขายังไม่กลับมาเหรอ?”
ระหว่างที่ฉินเฟิ่งชิงพูดก็เห็นเฉินอวิ๋นซีเหมือนจะหมดความอดทนแล้ว รีบหัวเราะแห้งๆ ว่า “ไม่มีอะไร เขาตามมาข้างหลังล่ะมั้ง อะไรกัน ไม่ได้เปิดฉากสงครามเต็มรูปแบบซะหน่อย คนแข็งแรงแบบนั้นจะเกิดเรื่องอะไรได้?”
เฉินอวิ๋นซีเอ่ยอย่างกังวลว่า “ฟางผิงออกไปพร้อมรุ่นพี่ไม่ใช่หรือไง?”
“อ่อ ตอนที่กลับมาแยกทางกัน…”
“ฟางผิงได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
“ไม่นะ?”
ช่างเถอะ เขาไม่อาจพูดอะไรได้แล้ว แบกสัมภาระไปต่อ
เห็นเฉินอวิ๋นซียังอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน ฉินเฟิ่งชิงก็เดินไปพลางเอ่ยไปพลาง “กลับไปเถอะ หรือเธอคิดจะไปหาเขา? ตอนนี้เจ้าหมอนั่นอาจจะอยู่ไกลโพ้นที่ไหนสักแห่งก็ได้ ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะนับแร่จนลืมเวลาไปแล้ว ยังจะจำเวลากลับได้ยังไง”
“นับแร่?”
“แค่กๆ ยังไงเจ้านั่นก็ต้องกอบโกยผลประโยชน์ได้ไม่น้อย”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างคาดเดาออกไป เห็นเฉินอวิ๋นซียังไม่ยอมขยับก็พึมพำว่า “ผู้หญิงนี่ปัญหาเยอะจริงๆ เธอรอเองละกัน ฉันกลับก่อนล่ะ”
ยังไงนี่ก็อยู่แถวประตูเมือง เขาไม่กังวลความปลอดภัยของเฉินอวิ๋นซีเช่นกัน
แต่คิดดูแล้ว เขากลับมา นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีใครมารับเลย ฉินเฟิ่งชิงผิดหวังอยู่บ้าง แม่เสือร้ายไม่มาต้อนรับตัวเองสักหน่อยหรือไง คิดใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับหรือใจร้ายกันแน่?
ไม่มีน้ำใจสักนิดเลยหรือไง!
ไม่สนใจเฉินอวิ๋นซีอีก ฉินเฟิ่งชิงรีบเข้าไปในเมือง กลับไปก่อนค่อยว่ากัน ถึงในเมืองแล้วค่อยคำนวณกำไรของตัวเอง เขาแทบจะรอไม่ไหวแล้ว
ผลปรากฏว่าเพิ่งจะมาถึงกำแพงด้านล่าง ไม่ทันเข้าประตู ฉินเฟิ่งชิงก็ตัวลอยขึ้นมา ก่อนอู๋ขุยซานจะบีบคอเขาเอาไว้ ขมวดคิ้วว่า “เธอกลับมาแค่คนเดียว?”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าจนใจ เอ่ยอึกอักว่า “ผมและฟางผิงแยกทางกัน ฟางผิงและอธิการหวงไปด้วยกัน อธิการมาถามผมทำไม ถามอธิการหวงนู้นสิครับ”
——————-
………………..