ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 444-2 แกล้งจนแต่จนจริงๆ (2)
ตอนที่ 444 แกล้งจนแต่จนจริงๆ (2)
………………..
หวงจิ่งยังคงรักษาความเงียบ อู๋ขุยซานถลึงตาใส่เขา
ตกลงตาเฒ่าหวงเอาอาวุธวิเศษของเขาไปไว้ที่ไหน?
ตอนนี้ที่ฉินเฟิ่งชิงก็ไม่มี นั่นมีความเป็นไปได้สูงที่ฟางผิงจะเป็นคนเอาไป
นึกเชื่อมโยงไปถึงฟางผิงสามารถเก็บงำลมหายใจ…สงครามใหญ่เมืองเทียนเหมิน…
ในใจของอู๋ขุยซานผุดความคิดต่างๆ ขึ้นมาทันที เจ้าหมอนั่น…คงไม่ไปเมืองเทียนเหมินหรอกนะ?
อู๋ขุยซานกำลังจมดิ่งในความคิด เถียนมู่ที่อยู่ด้านข้างกลับหัวเราะขึ้นมา “เจ้าเด็กตระกูลฉิน ในสัมภาระนี้ของเธอคืออะไร เหมือนจะมีของดีอยู่บ้างสินะ?”
ฉินเฟิ่งชิงระแวดระวังขึ้นมาทันที ละล่ำละลักว่า “ไม่มีอะไร แค่เศษแร่นิดหน่อยเท่านั้น ผมเอากลับมาดูว่าพอจะสร้างอาวุธได้หรือเปล่า”
“เศษแร่?”
เถียนมู่หลุดขำ ไม่ถามมากอีก
เขาเป็นยอดฝีมือขั้นแปด กระสอบที่ถูกกั้นด้วยคริสตัลพลังงานเล็กน้อย ยังคงสัมผัสได้ถึงของดีมากมาย จะเป็นแค่เศษแร่ได้ยังไง เจ้าเด็กนี้ไปหลอกผีซะเถอะ คิดว่าตัวเองยังจะแย่งเขาได้หรือไง?
เถียนมู่สัมผัสได้ คงไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมือขั้นเก้าคนอื่นๆ
เวลานี้พวกเขากวาดสายตามองฉินเฟิ่งชิงอย่างแปลกๆ อยู่บ้าง เจ้าเด็กขั้นสี่คนนี้ ครั้งนี้กอบโกยได้ไม่น้อย!
แต่ฉินเฟิ่งชิงไม่อยากเปิดเผย พวกเขาจึงไม่พูดอะไรมาก
แม้ว่าจะมีของดี แต่ยังคงไม่เข้าตาขั้นเก้าพวกนั้น ทว่าสำหรับขั้นเจ็ดขั้นแปดนับว่าเป็นของดีไม่น้อยจริงๆ
ฉินเฟิ่งชิงเห็นทุกคนไม่ถามแล้วก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมา
ได้ของดีมาเยอะไม่เปิดเผยออกไป ถือโอกาสแกล้งเป็นคนจนด้วย รอฟางผิงกลับมาค่อยไปกอบโกยอีกที
เขามั่นใจว่าฟางผิงจะกลับมาแน่นอน ทั้งเอาของกลับมาไม่น้อยด้วย
นี่เพิ่งจะผ่านมาไม่นานเอง ทั้งขั้นเก้าก็ไม่ได้ไล่ฆ่าฟางผิงตรงๆ เจ้าหมอนั่นจะจบเห่ง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน
เห็นทุกคนไม่พูดอะไร เขาก็ไม่ได้เดินออกมา ยืนอยู่ข้างหลังหวงจิ่ง รออยู่เช่นกัน
เพิ่งจะยืนได้มั่นคง ด้านข้างก็มีคนหัวเราะอย่างดูแคลน “ไหนบอกว่าไปป่าร้อยอสูรไม่ใช่หรือไง? ฉันยังคิดว่านายจะเก่งกาจแค่ไหนกันเชียว ขุดเศษแร่กลับมาได้แค่นี้?”
ฉินเฟิ่งชิงเผยสีหน้าแข็งทื่อ เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เธอจะรู้อะไร!”
ผู้หญิงสนใจแต่เรื่องรักสวยรักงามเท่านั้น!
ผ้าขี้ริ้วห่อทองรู้จักหรือเปล่า?
“ใช่ ฉันไม่รู้ แต่ทุกครั้งที่นายกลับมาชอบอวดเบ่งป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ทั่วกันไม่ใช่หรือไง? ดูท่าครั้งนี้ขั้นเก้าทำสงครามใหญ่ก็ทำให้นายขวัญหนีดีฝ่อซะแล้ว?”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่โจวฉีเยวี่ยจะหาโอกาสล้างแค้นได้ ตอนนี้จึงพูดฉีกหน้าอย่างถึงที่สุด
ฉินเฟิ่งชิงเหิมเกริมไม่น้อย!
เจ้าหมอนี้ไม่ใช่คนถ่อมตัวอยู่แล้ว
ทุกครั้งที่ได้อะไรกลับมา แม้จะไม่เยอะเท่าไหร่ เขาก็จะโม้ว่าเยอะให้ได้
จากคำพูดของเจ้าหมอนี้ ทุกครั้งที่เขาลงถ้ำใต้ดินแทบจะฆ่าสัตว์ปีศาจตายนับไม่ถ้วน ประจันหน้ากับระดับสูง ล่อพวกระดับสูงเหมือนพาหมาไปเดินเล่น
เมื่อวานพูดดิบดีว่าจะไปป่าร้อยอสูร วันนี้ทำไมกลับมาซะแล้ว?
ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียงในลำคอ เธอจะรู้อะไร!
“ไม่อยากจะสนใจเธอแล้ว อย่ามาตีสนิทฉันซะให้ยาก!”
โจวฉีเยวี่ยหน้าดำเป็นก้นหม้อ เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “คนหัวแข็ง!”
“ฉันหัวแข็ง?”
จู่ๆ ฉินเฟิ่งชิงก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ควรถ่อมตัว นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนดูแคลนได้!
คนอื่นดูแคลนตัวเองไม่เป็นไร โจวฉีเยวี่ยแม่เสือร้ายนี้ เห็นได้ชัดว่าแอบชอบตัวเอง ยังจะทำเป็นปฏิปักษ์อีก นี่คิดจะทำอะไรกันแน่?
ทุกครั้งที่ฉินเฟิ่งชิงฆ่าศัตรู หรือเก็บป้ายสถานะได้ ก็จะเก็บไว้ติดตัวตลอด
ป้ายสถานะพวกนี้เป็นของที่เขาสะสมมาหลายปี
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าอวดดี แค่นเสียงว่า “เห็นหรือยัง? ป้ายสถานะหนึ่งร้อยสิบแปดอัน ระดับกลางมีกว่าสามสิบอัน ขั้นหกก็มีหลายอัน! ทั่วทั้งมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ มีกี่คนที่กล้าหัวเราะเยาะฉินเฟิ่งชิงคนนี้? ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางที่ฉันฆ่าเยอะกว่าที่พวกเธอเคยเจอซะอีก!”
ประโยคครึ่งแรกทุกคนยังคงเห็นด้วย เจ้าหมอนี้มีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ ไม่ว่าจะได้ป้ายสถานะพวกนี้มายังไงก็ตาม
แต่ประโยคครึ่งหลัง หลายคนแทบจะหมดคำพูด
ไม่อาจจะคุยโวถึงขนาดนี้ได้
ระดับกลางสามสิบกว่าคนเท่านั้น ถูกนายคุยโม้อย่างกับหลายพันหลายหมื่นคน คิดว่าทุกคนไม่มีประสบการณ์เลยหรือไง?
อย่าพูดว่าระดับกลางเลย ระดับสูงกว่าสามสิบคน คนพวกนี้ก็เคยเห็นเหมือนกัน ทั้งยังเยอะกว่านั้นด้วย
โจวฉีเยวี่ยเผยสีหน้าแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด แค่นเสียงในลำคอ กลับยังเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ว่า “ใครจะรู้ว่านายได้มายังไง มีคนชอบเก็บสะสมของพวกนี้เหมือนกัน เอามาขายก็เป็นไปได้…”
“โห เธอจะงัดข้อกับฉันต่อสินะ?”
ฉินเฟิ่งชิงคิดว่าจำเป็นต้องแสดงของรางวัลของตัวเองออกมาบ้างแล้ว ผู้หญิงกล้าต่อปากต่อคำกับผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่?
เสี้ยวนาทีต่อมา ฉินเฟิ่งชิงก็วางกระสอบขนาดใหญ่ที่หนักอึ้งของตัวเองลง เปิดปากถุงออก
เวลานี้คลื่นพลังงานเข้มข้นก็แผ่กระจายออกมา ดึงดูดระดับสูงหลายคนมองไปทางกระสอบนั้น
“หินพลังงาน ผลหลันชิง ผลจื่ออิง หญ้าทะลวงเส้น…หญ้าเจ็ดใบไม่แตกดับ?”
มีคนพึมพำเบาๆ ก่อนจะหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย รีบวิ่งเข้ามา “ฉินเฟิ่งชิง นายไปได้หญ้าเจ็ดใบไม่แตกดับมาจากไหน?”
“อะไรนะ?”
ฉินเฟิ่งชิงหันไปมองแวบหนึ่ง จำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นยอดฝีมือขั้นเจ็ดที่นั่งรักษาการณ์ในถ้ำใต้ดินคนหนึ่ง
เพิ่งจะถาม อีกฝ่ายกลับคว้าต้นหญ้าที่ใบเปล่งประกายสีทองขึ้นมาแล้ว
ฉินเฟิ่งชิงเห็นแบบนั้นก็เอ่ยอย่างร้อนใจทันที “อธิการ มีคนขโมยของผม!”
พวกขั้นเก้าต่างอยู่ที่นี่ เขาจะกล้าขโมยได้ยังไง?
แต่ว่า…หวั่นไหวอยู่บ้างจริงๆ
ตอนนี้อู๋ขุยซานเดินเข้ามาแล้ว มองหญ้าสีทองแวบหนึ่ง ก่อนจะมองฉินเฟิ่งชิงแปลกๆ ไปอีกที เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “หญ้าไม่แตกดับ เติบโตได้ในถิ่นที่ยอดฝีมือร่างทองอาศัยอยู่เป็นเวลานานเท่านั้น เพราะหญ้าชนิดนี้ อันที่จริงดูดกลืนสสารไม่แตกดับที่ยอดฝีมือร่างทองปลดปล่อยออกมาถึงเจริญเติบโตได้ สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดมีประโยชน์ไม่น้อย สามารถรับรู้ถึงความลับสสารไม่แตกดับได้ล่วงหน้า แน่นอนว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาที่แข็งแกร่ง เพราะดูดกลืนสสารไม่แตกดับไว้เยอะ ยกเว้นอาการบาดเจ็บที่ไม่อาจรักษาได้จริงๆ ไม่งั้นกลืนหญ้าไม่แตกดับประเภทนี้ลงไป ปกติแทบจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บทั้งภายนอกและภายในได้”
ระหว่างที่พูด อู๋ขุยซานก็เอ่ยอย่างเน้นหนัก “เติบโตบนถิ่นที่อยู่ของยอดฝีมือร่างทอง หรืออยู่เป็นเวลานานทำนองนั้น!”
ตกลงเจ้าเด็กนี้ไปทำอะไรมากันแน่?
ฉินเฟิ่งชิงยังไม่รู้จักของสิ่งนี้จริงๆ กลับแววตาสว่างวาบขึ้นมา “อธิการ มีมูลค่าหรือเปล่า?”
“หญ้าไม่แตกดับเติบโตตามรอบปีหรือจำนวนที่ดูดกลืนสสารไม่แตกดับ จำนวนใบหมายถึงรอบปีและประสิทธิภาพของยา เจ็ดใบ…อย่างน้อยมีมูลค่าหนึ่งถึงสองร้อยล้าน”
ฉินเฟิ่งชิงแววตาแทบจะเปล่งแสงได้ มีมูลค่าขนาดนี้เลย?
เจ้าสิ่งนี้เขาเจอที่รังของปีศาจสุนัขเม่นขั้นแปด เวลานั้นเขาเห็นแสงสีทองก็รู้ว่าต้องเป็นของดีแน่เลยเก็บมาก่อน
นึกไม่ถึงว่าจะมีมูลค่าขนาดนี้!
ฉินเฟิ่งชิงกลืนน้ำลาย อู๋ขุยซานกลับค้นในสัมภาระเขาอย่างลวกๆ ผ่านไปพักใหญ่จึงเอ่ยว่า “เธอไปปล้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดมา?”
สาเหตุที่เขาคิดแบบนี้เพราะของที่ฉินเฟิ่งชิงรวบรวมมาได้ แทบจะขั้นแปดเท่านั้นที่มีของพวกนี้ได้
นี่ไม่ใช่เรื่องที่โชคดีจะอธิบายได้!
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยใบหน้าไม่สะทกสะท้าน “ที่ไหนล่ะครับ ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ขั้นแปดสักหน่อย แค่บังเอิญไปเจอรังขั้นแปดเท่านั้นเลยถือโอกาสคว้าของติดมือกลับมา อธิการ ของดีเยอะขนาดนี้ พอจะได้เท่าไหร่เหรอครับ?”
อู๋ขุยซานชะงักไปเล็กน้อย ผ่านไปสักพักค่อยเอ่ยว่า “มูลค่าประมาณหนึ่งพันล้านล่ะมั้ง”
“แค่นี้เอง?”
ฉินเฟิ่งชิงตะลึงไปเล็กน้อย น้อยขนาดนี้เชียว?
อธิการไม่ได้หลอกฉันสินะ?
ฉินเฟิ่งชิงรีบคำนวณขึ้นมา หนึ่งพันล้านสามารถแลกหินพลังงานได้เท่าไหร่ จะเปลี่ยนเป็นของเหลวพลังงานทำให้สะพานฟ้าดินเขากลายพันธุ์ได้หรือเปล่า?
เหมือนว่า…อาจไม่พอเสมอไป!
เป็นไปได้ยังไง!
ในเวลานี้โจวฉีเยวี่ยเผยใบหน้านิ่งอึ้งไปแล้ว เจ้าหมอนี้…วิ่งไปปล้นสัตว์ปีศาจที่ป่าร้อยอสูรจริงๆ?
อย่าว่าแต่เธอเลย ยอดฝีมือขั้นเจ็ดขั้นแปดพวกนั้นต่างตกตะลึงอยู่บ้างเช่นกัน เจ้าหมอนี้ไปไหนมากันแน่?
ไปปล้นรังขั้นแปด?
ยอดฝีมือขั้นเก้าสามคนนั้นเผยแววตาแปลกไปอยู่บ้าง จางเว่ยอวี่มองผู้เฒ่าฟ่านอย่างเข้าใจขึ้นมา ไม่แปลกใจที่คุณรู้จัก เด็กขั้นสี่ที่กวาดรังขั้นแปดแบบนี้ควรค่าให้รู้จักอยู่บ้างจริงๆ
พวกเขานิ่งไป ฉินเฟิ่งชิงกลับทำหน้ากลัดกลุ้มว่า “นี่จะน้อยเกินไปแล้วมั้งครับ อธิการ คุณคงไม่ได้คำนวณผิดสินะ? ฟางผิงพริบตาเดียวยังทำเงินได้หลายหมื่นล้าน ครั้งนี้อาจจะได้กลับมาหลายหมื่นล้านอีกก็ได้ ผมได้แค่นี้เอง?”
ก่อนหน้านี้เขายังคิดจะแกล้งเป็นคนจน ตอนนี้พบว่า…ฉันจนจริงๆ แล้ว!
คำพูดนี้แทงใจไม่น้อย
จู่ๆ อู๋ขุยซานก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นกระตุกไปอยู่บ้าง เธอจงใจใช่หรือเปล่า?
เธอเพิ่งจะขั้นสี่ กอบโกยครั้งเดียวได้หลายพันล้านยังมีหน้ามาบอกกับฉันว่าได้แค่นี้?
อย่าพูดถึงตอนที่เขาอยู่ขั้นสี่เลย แม้จะเป็นตอนนี้ เขาเทียวออกไปทีหนึ่ง สังหารจนกลายเป็นทะเลเลือดอาจไม่ได้ของดีเยอะขนาดนี้เสมอไป พลังต่อสู้แข็งแกร่งไม่ได้หมายความว่าจะกอบโกยได้เยอะ
ฉินเฟิ่งชิงเจ้าเด็กนี้ เมื่อก่อนจนจะตายไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สายตากว้างไกลขนาดนี้?
อีกอย่างฟางผิงพริบตาเดียวก็ได้หลายหมื่นล้าน เธอคิดว่าได้มาง่ายดายจริงๆ หรือไง ครั้งก่อนที่ถ้ำใต้ดินหนานเจียง นั่นถือว่าโชคดี โอกาสประจวบเหมาะ ไหนเลยจะมีเรื่องดีขนาดนั้นรอเขาอยู่
กำลังครุ่นคิดเรื่องพวกนี้ จู่ๆ หนานอวิ๋นเยวี่ยก็ขมวดคิ้ว “ยังมีคนไม่ได้กลับมาอีก? ไม่…ไม่ถูก นั่นคืออะไร!”
ครู่ต่อมาจางเว่ยอวี่ก็ทะยานขึ้นในอากาศ มองออกไปไกลๆ นั้น ผ่านไปสักพักก็พึมพำว่า “อย่าบอกฉันนะว่านี่ก็เป็นคนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้…”
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เก่งกาจถึงขนาดนี้เลย?
———————
………………..