ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 450-2 ความเศร้าหลั่งไหลเป็นสายน้ำ (2)
ตอนที่ 450 ความเศร้าหลั่งไหลเป็นสายน้ำ (2)
………………..
หลู่เฟิ่งโหรวกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน พยักหน้าว่า “อาจมีโอกาสอยู่เหมือนกัน แน่นอนว่าน้ำแร่ชีวิตไม่สำคัญ จะมีหรือไม่มีก็ช่าง ไม่จำเปนต้องเสี่ยงอันตราย แต่ล่อผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขั้นแปดของพวกเขาออกมา กำจัดให้หมดยังคงทำได้! ตอนนี้ฉันทะลวงด่านแล้ว รวมกับอู๋ขุยซาน เรียกหลี่ฉางเซิงมาอีกคน พวกเราสามคนต่อกรกับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดขั้นแปดที่เหลือของพวกเขาก็เพียงพอแล้ว ส่วนไอ้เดรัจฉานนั่น…”
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างครุ่นคิด “เขามีอาวุธวิเศษ?”
“ครับ อาวุธวิเศษขั้นเก้า”
“ซ่อนไว้อย่างลึกล้ำ!”
หลู่เฟิ่งโหรววางแผนเล็กน้อย ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “อู๋ชวนยังติดหนี้น้ำใจของพ่อฉันอยู่ ขอเขาไปสกัดไว้ครู่หนึ่งคงไม่มีปัญหา แล้วค่อยหาโอกาสฆ่าระดับสูงคนอื่นๆ ของเมืองเทียนเหมิน!”
ตอนนี้เธอเข้าสู่ขั้นเจ็ดแล้ว ความสามารถพัฒนาขึ้น จึงเริ่มวางแผนการล้างแค้นแล้วเช่นกัน
แต่เธอไม่ได้คิดเหมือนกับฟางผิง ฟางผิงนั้นคิดเหมารวมทั้งมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
หลู่เฟิ่งโหรวกลับพิจารณาแค่คนที่เธอพูดถึงไม่กี่คน อู๋ขุยซานจำเป็นต้องไป หลี่ฉางเซิงก็มีความแค้นลึกล้ำกับอีกฝ่าย ส่วนหวงจิ่งและหลิวพั่วหลู่ เธอไม่คิดจะเรียกไปด้วย
เรื่องที่เกี่ยวกับความแค้นส่วนตัว เธอไม่คิดจะเรียกคนอื่นเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ฟางผิงไม่พูดมากเช่นกัน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องนี้ยังไม่รีบ อาจารย์ปรับสภาพร่างกายให้คุ้นชินก่อนเถอะครับ อีกอย่างตอนนี้ผมเข้าไปในถ้ำใต้ดินไม่ได้…”
“หืม?”
“ผมถูกคำสั่งห้าม”
ฟางผิงถอนหายใจ “หน่วยทหารไม่อนุญาตให้ผมเข้าถ้ำใต้ดิน”
หลู่เฟิ่งโหรวหางตากระตุกเล็กน้อย เรื่องนี้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่นซะอย่างนั้น หน่วยทหารไม่ให้ผู้ฝึกยุทธ์มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ลงถ้ำใต้ดิน? วันนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!
เอาเถอะ เธอพอจะเข้าใจได้ ความสามารก่อเรื่องของเจ้าเด็กนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถรับได้
ฟางผิงเอ่ยต่อ “จริงสิ อาจารย์ รอถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้จบเรื่องแล้ว พวกเราหาเวลาจัดงานเลี้ยงปรมาจารย์สักหน่อยเถอะครับ”
“ไม่จำเป็น”
“จำเป็นสิครับ!”
ฟางผิงเอ่ยทันที “นี่เป็นเรื่องน่ายิยดี ปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยตอนนี้รวมคุณและผู้เฒ่าหลี่แล้ว นั่นแตะถึงห้าคนอย่างเป็นทางการ เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แต่ดูจากภายนอก พวกเรามีขั้นแปดสองคน แข็งแกร่งกว่าพวกเขาอยู่บ้าง พวกเขามีแค่ขั้นแปดคนเดียว”
หลู่เฟิ่งโหรวชำเลืองตามองเขา ครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอ่ยว่า “เธอคิดว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเติบโตถึงขั้นนั้นได้จริงๆ?”
ตอนนี้ฟางผิงทุ่มเทลงแรงกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไปไม่น้อย
แต่หลู่เฟิ่งโหรวคิดว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่อาจช่วยฟางผิงได้เท่าไหร่
ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่แค่ขั้นหนึ่งขั้นสอง จะสามารถเติบโตไปถึงจุดนั้นได้งั้นเหรอ?
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ผมคิดว่าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ ตอนนี้ทุกคนเติบโตกันอย่างรวดเร็ว ยาบำรุงและหินพลังงานของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ตอนนี้มีการจัดสรรออกมาแล้ว หลังจากนี้หาน้ำแร่ชีวิตมาได้หรือผลไม้พลังงานอย่างผลไป๋ชุ่ย ทุกคนต้องก้าวหน้าขึ้นมาแน่ ลงถ้ำใต้ดินฝึกฝนเคล็ดวิชาต่อสู้และฝึกประสบการณ์ต่อสู้จริง แม้ว่าจะไม่สามารถเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ แต่ระดับกลางคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร หากจะบ่มเพาะยอดฝีมือระดับกลางออกมานับหมื่นคนจริงๆ กลับไปต้องสร้างอาวุธอย่างป้อมยิงเมืองขนาดใหญ่ประเภทนั้น ให้ระดับกลางเป็นตัวเติมพลังงาน ผมคิดว่าระดับสูงอาจถูกยิงตายได้เหมือนกัน ตอนนี้ทำไม่ได้ นั่นเพราะมีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางน้อยเกินไป หน่วยทหารไม่สามารถสิ้นเปลืองได้”
สงครามใหญ่ของยอดฝีมือ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางอาจใช้ประโยชน์ไม่ได้เสมอไป
แต่หากมีจำนวนมาก มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางหลายพันคนเป็นผู้เติมปราณ ใช้ธนูหน้าไม้ที่ทำจากโลหะผสมคุณภาพสูงอาจจะฆ่าระดับสูงตายเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นในสถานการณ์ที่มียอดฝีมือจำนวนเท่ากัน ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางพวกนั้นก็สามารถใช้ผลประโยชน์ได้มากเช่นกัน
ฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ของอีกฝ่ายเกลี้ยงแล้ว เหลือแค่ระดับสูงบางส่วนเอาไว้ หรือระดับสูงพวกนี้ยังจะต่อสู้ไปได้ตลอด?
ถึงเวลานั้นเกรงว่าต้องล่าถอยเหมือนกัน เพิ่มโอกาสเอาตัวรอดให้กับมนุษย์ชาติ
“แล้วแต่เธอเถอะ”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่พูดมาก ฟางผิงอยากทำอะไรก็ทำไป ส่วนงานเลี้ยงปรมาจารย์ หากเขาจะจัดก็จัด เธอไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
พูดคุยกับฟางผิงไม่กี่ประโยคแล้ว หลู่เฟิ่งโหรวก็คุยเรื่องปัญหาการฝึกวิชาของลูกศิษย์คนอื่นๆ
ผลปรากฏว่า…กลับแจกสัญญากู้ยืมให้คนละใบ ทำเอาหลู่เฟิ่งโหรวที่มองอยู่ถึงกับปวดขมับ
นี่จำเป็นด้วยหรือไง?
ฟางผิงคิดว่ายังคงจำเป็น ตอนที่แจกผลไม้ก็พูดออกไปอย่างชัดเจน “ติดหนี้ต้องคืน ไม่คืนงั้นก็ทำงานใช้หนี้”
จะคืนเมื่อไหร่ นั่นสามารถหารือกันได้
แต่ให้ฟรีกับยืม ฟางผิงคิดว่ายืมดีกว่าหน่อย
ตอนนี้เขามีสัญญากู้ยืมไม่น้อยแล้ว
พวกศิษย์พี่ศิษย์น้อง ฉินเฟิ่งชิง รวมถึงหลิวต้าลี่ พวกอู๋จื้อหาวต่างมีสัญญากู้ยืมอยู่ในมือเขา
รอจนรับสัญญากู้ยืมจากพวกเหลียงเฟิงหวามาแล้ว ฟางผิงก็หัวเราะว่า “กลับไปให้อาจารย์หลี่เขียนสัญญากู้ยืมด้วยดีกว่า ไม่ช้าก็เร็วต้องมีวันหนึ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนเป็นลูกหนี้ของฉัน”
ทุกคนต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความใฝ่ฝันของฟางผิง…ช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
ถึงเวลานั้นจริงๆ นายไม่กลัวว่าทุกคนจะเบี้ยวหนี้กันหมดหรือไง?
ราวกับอ่านความคิดของทุกคนออก ฟางผิงยิ้มตาหยีว่า “ไม่คืนไม่เป็นไร เอาชนะฉันได้ งั้นก็ไม่ต้องคืน แต่เอาชนะไม่ได้ นั่นจำเป็นต้องคืนแล้ว”
พูดคุยกันแล้ว ช่วงเย็นทุกคนก็กินข้าวด้วยกัน
พวกผู้ฝึกยุทธ์หญิง…นึกไม่ถึงว่าจะไม่มีใครทำอาหารเป็น รวมถึงเฉินอวิ๋นซีด้วย
ฟางผิงเสียใจอยู่บ้าง น่าเสียดายเกินไปแล้ว
แม้พวกเราจะไม่จำเป็นต้องกินข้าว แต่เวลาที่ควรทำก็ต้องทำสิ สุดท้ายเขาจึงทำได้แค่ให้โรงอาหารส่งกับข้าวเข้ามา
แต่สามารถเข้าใจได้ ผู้ฝึกยุทธ์ต่างยุ่งกันทั้งนั้น แค่ฝึกวิชายังแทบไม่ทัน ใครจะมาเสียเวลากับเรื่องนี้
—
วันที่ 8 มีนาคม หลู่เฟิ่งโหรวจากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ทะลวงถึงขั้นเจ็ด
เรื่องนี้ทำให้แต่ละแวดวงเกิดความเคลื่อนไหวขึ้นมาอยู่บ้าง
ทั้งหลู่เฟิ่งโหรวทะลวงขั้นปรมาจารย์ ไม่นานก็เข้าสู่การจัดอันดับ การจัดอันดับขั้นเจ็ดทั่วโลกมีทั้งหมดหนึ่งพันหกร้อยคน แต่นั่นคือก่อนหน้านี้ การจัดอันดับในช่วงนี้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มีคนทะลวงขั้น รวมถึงตกจากขั้นด้วยเช่นกัน
ตอนนี้การจัดอันดับของขั้นเจ็ดไม่ใช่จำนวนเต็มอีกแล้ว มีแค่หนึ่งพันห้าร้อยเก้าสิบแปดคน
นี่หมายความว่าขั้นเจ็ดที่ทะลวงด่านมีน้อยกว่าที่ตกขั้น
แน่นอนว่ามีบางคนที่เข้าสู่ขั้นแปดเช่นกัน ตอนนี้ยอดฝีมือขั้นแปดไม่ใช่ห้าร้อยยี่สิบห้าคนอีกแล้ว แต่เป็นห้าร้อยยี่สิบหกคน เยอะกว่าก่อนหน้านี้หนึ่งคน
หลู่เฟิ่งโหรวเข้าสู่การจัดอันดับ ไม่ได้อยู่คนสุดท้ายของขั้นเจ็ด แต่เธอไปอยู่ที่อันดับหนึ่งพันสามร้อยห้าสิบ
การจัดอันดับขั้นเจ็ดของประเทศจีนมียอดฝีมือทั้งหมดสามร้อยยี่สิบคน หลู่เฟิ่งโหรวอยู่ในอันดับสองร้อยเก้าสิบหก
พอทะลวงด่านก็ล้ำหน้าปรมาจารย์ยี่สิบกว่าคน นี่เป็นการยอมรับในความสามารถของหลู่เฟิ่งโหรวอย่างหนึ่งเช่นกัน
ตอนที่เธอทะลวงด่าน ปรากฏฉากนกเฟิ่งหวงเผาต้นไม้ ทั้งสะพานฟ้าดินเหมือนจะกลายพันธุ์อยู่บ้าง มีสีทองสว่างไสว ยังถูกยอดฝีมือบางส่วนที่ไล่ตามมาก่อนหน้านี้สัมผัสได้เช่นกัน
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้สื่อให้เห็นว่าบางทีความสามารถของหลู่เฟิ่งโหรวอาจจะแข็งแกร่งกว่าการจัดอันดับอยู่บ้าง
ภายในช่วงเวลาสั้นๆ หลังจากที่อธิการเฒ่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จากไป กลับเพิ่มปรมาจารย์ใหม่ขึ้นมาสองคน ทั้งยังดึงดูดความสนใจจากคนอื่น
เวลานี้เรื่องอาวุธวิเศษของอู๋ขุยซานยังไม่เปิดเผยออกไป แต่เกรงว่าอีกไม่นานคงเก็บไม่ได้อีกต่อไปแล้ว การจัดอันดับของอู๋ขุยซานน่าจะเลื่อนขึ้นเช่นกัน
รวมกับถังเฟิงที่อยู่ขั้นหก ช่วงนี้เข้าด่านอยู่ตลอด เกรงว่ากำลังตั้งใจทะลวงขั้นปรมาจารย์เหมือนกัน
ตอนนี้ยิ่งทำให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้โดดเด่นล้ำหน้าขึ้นไปอีก
———————-