ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 450-3 ความเศร้าหลั่งไหลเป็นสายน้ำ (3)
ตอนที่ 450 ความเศร้าหลั่งไหลเป็นสายน้ำ (3)
………………..
ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปและคนธรรมดาต่างมองว่าที่โดดเด่นเป็นเพราะยอดฝีมือปรมาจารย์พวกนี้
แต่ในสายตาของระดับสูง คนที่โดดเด่นอย่างแท้จริงยังคงเป็นฟางผิง
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่ง ปั่นป่วนจนถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ไม่สงบสุข ขั้นเก้านับสิบคนเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนทัพ
ตอนที่ออกจากถ้ำใต้ดิน ยิ่งแบกศพสัตว์ปีศาจสภาพสมบูรณ์และหินพลังงานจำนวนมากกลับมาด้วย ฟางผิงสร้างความเคลื่อนไหวมากกว่าหลู่เฟิ่งโหรวที่ทะลวงขั้นเจ็ดซะอีก อย่างน้อยปรมาจารย์ในพื้นที่แทบจะรู้จักฟางผิงกันหมด
นี่ถือเป็นผู้ฝึกยุทธ์คนแรกที่ถูกห้ามเข้าถ้ำใต้ดินในหลายปีมานี้
ส่วนฉินเฟิ่งชิง…ตอนนี้ทุกคนไม่ได้สนใจเท่าไหร่
ฉินเฟิ่งชิงนั้นลื่นเป็นปลาไหล แต่ต่อให้ความสามารถก่อเรื่องจะมากแค่ไหนก็ยังด้อยไปกว่าฟางผิงอยู่ดี
—
ฉินเฟิ่งชิงที่ถูกคนมองข้าม ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้เช่นกัน
วันที่ 9 มีนาคม
ฉินเฟิ่งชิงแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางของเหลวพลังงาน เสร็จสิ้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงครั้งแรก
ห้องแหล่งพลังงาน
ฉินเฟิ่งชิงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์แล้ว!”
หินพลังงานหกจิน เก้าหมื่นคะแนน ยึดจากมูลค่าก่อนหน้านี้เป็นเงินสดสูงถึงสองพันเจ็ดร้อยล้าน เขาเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่คนหนึ่งใช้ของพวกนี้ทะลวงขั้นห้า ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว
ตอนที่เขาสิ้นเปลืองหินพลังงาน ตาเฒ่าหลี่ยังปวดใจแทนด้วยซ้ำ
แต่เจ้าเด็กนี้สิ้นเปลืองไปมากขนาดนี้ ก็ยังให้ผลลัพธ์บางอย่างออกมาได้จริงๆ
ตอนนี้สะพานฟ้าดินของฉินเฟิ่งชิงปรากฏขึ้นข้างบน ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ อยู่บ้าง
คนทั่วไปจะเป็นลักษณะวงแหวน ฟางผิงเป็นแผ่นแป้งกลม!
ลูกบอลที่ทึบตัน!
ทั้งยังส่องแสงอย่างแบบนั้น
ข้างนอกห้องฝึกวิชา ฟางผิงมองอยู่พักหนึ่ง พึมพำว่า “พวกนายเห็นหรือเปล่า?”
ทุกคนทยอยมองไปทางเขา ฟางผิงเอ่ยแขวะว่า “โล้นเกลี้ยง! เจ้าหมอนี้ยึดติดเกินไปแล้ว? ตัวเองไถหัวโล้นยังไม่พอ ยังทำให้สะพานฟ้าดินตัวเองกลมเกลี้ยงขนาดนั้นอีก!”
“คิกๆ”
ทุกคนอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ หากไม่พูดคงนึกไม่ได้ แต่พอฟางผิงพูดออกมา ทุกคนมองอยู่พักหนึ่งก็เหมือนกับหัวโล้นของฉินเฟิ่งชิงอยู่บ้างจริงๆ
แม้ว่าจะหัวเราะไปอย่างนั้น ตาเฒ่าหลี่ยังคงเอ่ยว่า “รับรู้ถึงพลังงานเข้มข้นไม่น้อย พูดแบบนี้สามารถมองเป็นพวกกลายพันธุ์ได้แล้ว?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างขมขื่น “ใช้หินพลังงานหกจินเพื่อให้ขั้นสี่ทะลวงด่าน แม้ว่าจะกลายพันธุ์ได้แล้วจะยังไง? มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้นับว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีเงินแห่งหนึ่งสินะครับ? สั่งสมมาหลายปีขนาดนี้ รวมกับที่ผมหามาหลายครั้ง แต่หินพลังงานระดับสูงจะมีเท่าไหร่กัน? รวมด้วยกันแล้วคงไม่ถึงห้าร้อยจิน ดูจากที่เขาเอามาใช้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่หนึ่งร้อยคนคงผลาญของพวกเราเกลี้ยงได้แล้ว งั้นคนอื่นๆ จะฝึกวิชายังไง? พวกอาจารย์ไม่ต้องฝึกวิชากัน? ผู้ฝึกยุทธ์ต่ำกว่าขั้นสามไม่จำเป็นต้องฝึกวิชา? การสิ้นเปลืองแบบนี้ ทำได้แค่พึ่งตัวเองเท่านั้น หรือจะให้ที่บ้านช่วยสนับสนุน อาจารย์ คุณว่าจะมีขั้นสี่กี่คนที่ทำถึงขั้นนี้ได้? ไม่พูดถึงขั้นสี่ ในบ้านไม่มีปรมาจารย์ อย่าหวังเรื่องนี้เลย แม้ว่าจะมีปรมาจารย์ยอดฝีมือ ผมว่าอาจแบกรับภาระนี้ไม่ไหวเสมอไป คนอื่นไม่พูดถึง อวิ๋นซี ปู่เธอมีหินฝึกวิชาเยอะถึงขนาดนี้หรือเปล่า?”
เฉินอวิ๋นซีที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าว่า “มีสิ ปู่บอกว่าอีกไม่กี่วันจะส่งบางส่วนมาให้ฉัน…”
ฟางผิงหนังตากระตุก ฉันแค่ยกเธอมาเป็นตัวอย่าง อย่ามาคิดเป็นจริงเป็นจังได้หรือเปล่า!
เฉินเย่าถิงตาเฒ่านี้ บ้าไปแล้วสินะ!
แม้เขาจะมี เกรงว่าคงจะสะสมมาหลายปีเหมือนกัน นี่ไม่ใช่จะอัดเงินฝึกวิชาให้เฉินอวิ๋นซีหมดเลยหรือไง?
พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรส ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ในห้องกลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะไปหัวเราะมา จู่ๆ ก็เอ่ยอย่างทุกข์ระทม “ฉันกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์ แต่ฉันไม่มีเงินแล้ว!”
นอกจากไม่มีเงิน ยังติดหนี้อีกสองพันล้าน!
นี่ยังไม่รวมกับเรื่องที่ถูกห้ามเข้าถ้ำใต้ดินอีก
ฉันจะไปยืมเงินอีก!
ยืมห้าพันล้าน ไม่ก็หนึ่งหมื่นล้าน!
“อย่างมาก…ก็ขายชีวิตใช้หนี้!”
ยืมเยอะไป น่าจะได้ขายชีวิตจริงๆ แล้ว แต่ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงคิดว่านี่สามารถพิจารณาได้
ประเด็นอยู่ที่กลัวเจ้าหมอนั่นจะไม่ให้ยืมแล้ว!
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงไม่อาจสนใจเรื่องพวกนี้ได้มากมาย ไม่นานเขาก็นึกถึงเรื่องตัวเองทะลวงขั้นห้า อยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเจ้าหลี่หัวเหล็ก
ฉินเฟิ่งชิงยิ่งคิดก็ยิ่งเบิกบานใจ เจ้าพวกคนที่เคยล้ำหน้าเขา ตอนนี้ค่อยๆ ถูกเขาตามทันแล้ว
เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ธรรมดา ยังไม่เรียนจบก็กลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้า เกรงว่าใครก็คงคาดไม่ถึง?
ส่วนฟางผิง…เจ้านั่นมันผิดปกติชัดๆ ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงไม่มีความคิดจะตามให้ทันเขา
คิดไปคิดมา ฉินเฟิ่งชิงก็เปลี่ยนจากโศกเศร้าเป็นดีใจ หัวเราะอย่างบ้าคลั่งว่า “ฉันตามเจ้าหลี่หัวเหล็กและเหยาเฉิงจวินทันแล้ว หวังจินหยางก็สูงกว่าฉันแค่นิดเดียว อีกไม่นานนี่แหละ!”
ฉินเฟิ่งชิงอวดเบ่งและเหิมเกริมอย่างมาก ความเหิมเกริมนั้นแทบจะปกปิดไม่มิดแม้แต่น้อย
ข้างนอกห้องพวกฟางผิงสามารถเห็นเขาได้อย่างชัดเจน ทั้งได้ยินคำพูดของเขาด้วยเช่นกัน
ได้ยินแบบนี้ฟางผิงก็แค่นยิ้ม “เจ้าหมอนี้บ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่แปลก เขาสามารถไล่ตามพวกหลี่หานซงได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ”
“นี่ก็ถูก ไม่รู้ว่าพวกหลี่หานซงจะกดดันหรือเปล่า”
ฟางผิงหัวเราะ ระหว่างที่พูดมือถือก็ดังขึ้นมา
คนที่โทรมาคือหลี่หานซง
หลี่หานซงผิดปกติไม่น้อย น้ำเสียงแปลกไปอยู่บ้าง ถามว่า “ฟางผิง นายก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์เหมือนกัน ได้ยินว่านายหลอมกระดูกทองแล้ว มีเรื่องจะถามนายสักหน่อย”
“ว่ามาสิ อะไรเหรอ?”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลี่หานซงเอ่ยอย่างใสซื่อ “อยู่ดีๆ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื้อหนังแปรสภาพเป็นทอง นับไม่ได้ว่าร่างทองทั่วร่าง แต่ไม่ต่างจากขั้นห้าสูงสุดเท่าไหร่ นี่คงถือว่าเป็นขั้นห้าสูงสุดแล้วสินะ?”
“จู่ๆ ก็เปลี่ยนแปลง?”
“ใช่”
ฟางผิงมุมปากกระตุก ให้ตายเถอะ ผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์อย่างพวกนาย ล้อฉันเล่นแล้ว!
มองฉินเฟิ่งชิงที่ยังคงดีใจอย่างบ้าคลั่ง จู่ๆ ฟางผิงก็เห็นใจอยู่บ้าง น่าสงสารจริงๆ!
ฉันมีระบบ พวกเขาเป็นยอดฝีมือสมัยโบราณที่เกิดใหม่…ฉินเฟิ่งชิงนายมีอะไร?
นายทำสะพานฟ้าดินของตัวเองให้กลมเกลี้ยง หรือคิดว่าตัวเองเป็นผู้ฝึกยุทธ์กลายพันธุ์แล้วจริงๆ?
ผู้ที่ไม่รู้อะไร…ช่างน่าเศร้าจริงๆ
คำพูดของหลี่หานซง ตาเฒ่าหลี่ก็ได้ยินเช่นกัน มองฉินเฟิ่งชิงอย่างสงสารไม่น้อย เจ้าเด็กนี้น่าสงสารจริงๆ
ในสายนั้นหลี่หานซงยังไล่ถามไม่หยุด มีผลกระทบอะไรหรือเปล่า?
จะสร้างปัญหาอะไรไหม?
จะถ่วงรั้งการฝึกวิชาหรือเปล่า?
ทะลวงขั้นห้าสูงสุดในวันเดียว เขารู้สึกว่าเร็วไปอยู่บ้าง ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่
มักรู้สึกว่าฝึกวิชาเร็วเกินไปไม่ใช่เรื่องดี
คำพูดพวกนี้ฟางผิงคิดว่าจำเป็นต้องบันทึกไว้ จากนั้นเอาให้ฉินเฟิ่งชิงฟังสักหน่อย จะแทงใจหรือเปล่า?
อีกอย่างเจ้าหลี่หัวเหล็กเริ่มฟื้นฟูพลังแล้ว งั้นคนอื่นๆ ล่ะ?
ทำไมจู่ๆ ถึงฟื้นฟูอย่างกะทันหัน?
เป็นเพราะโลกดำเนินมาถึงจุดนี้เลยเริ่มฟื้นฟู หรือว่าเกิดเพราะสาเหตุอย่างอื่น?
———————-
………………..