ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 456-3 ฟางผิงเป็นคนดี (3)
ตอนที่ 456 ฟางผิงเป็นคนดี (3)
………………..
“เหิมเกริม!”
ฟางผิงโมโหอย่างหนัก ปะทุปราณทั่วร่าง ตะโกนว่า “ถ้ายังไม่ไสหัวไปอีก ฉันจะไล่นายออก!”
ฉินเฟิ่งชิงยืดคอไม่ส่งเสียงอีก จางอวี่ที่อยู่ด้านข้างละล่ำละลักว่า “ประธาน ฉินเฟิ่งชิงเป็นคนพูดตรงปากไว เขาไม่ได้ตั้งใจ…”
ประโยคที่ว่า ‘พูดตรงปากไว’ แทงใจทุกคนยิ่งกว่าคำพูดของฉินเฟิ่งชิงซะอีก
ตอนนี้ในทีมแลกเปลี่ยนมีคนอดไม่ได้ เอ่ยด้วยสีหน้าบิดเบี้ยวว่า “นายชื่อฉินเฟิ่งชิงสินะ? ดูท่านายกำลังดูถูกพวกเรา?”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นยิ้มว่า “ใช่ แล้วยังไง? พวกนายไม่มามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็แล้วไป มาแล้วนึกไม่ถึงว่าจะท้าประลองกับอาจารย์ขั้นหกของพวกเรา ล้ออะไรกันเล่น! คนระดับอย่างพวกนาย ยังจำเป็นต้องให้อาจารย์ขั้นหกของพวกเรารับมือ? พวกนายรู้หรือเปล่าว่าอาจารย์ของพวกเรายุ่งถึงขนาดไหน มีเวลาว่างมาเล่นกับพวกนายหรือไง ยังมีหน้าพูดจาอวดดี หาแค่ขั้นหกมาประลอง งั้นเหรอ อย่ามองว่าฉันเพิ่งจะขั้นห้าตอนต้น สู้กับพวกนายยังไม่มีปัญหา”
ฟางผิงโมโหขึ้นไปอีก ตั้งท่าเตรียมจะลงมือ
หลี่เฟยที่อยู่ด้านข้างกดไหล่ฟางผิงไว้ กดเสียงว่า “ฟางผิง รอก่อน”
ฟางผิงเผยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษด้วย เจ้าหมอนี้เป็นตัวก่อเรื่องของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พวกเรา วันนี้ไม่รู้ว่าสมองเลอะเลือนอะไร…”
หลี่เฟยตัดบทว่า “ไม่โทษนาย ฉันแค่อยากถามเท่านั้น ฉิน…ฉินเฟิ่งชิงสินะ? ฉันอยากรู้ว่านักศึกษาฉินคิดว่าความสามารถผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าตอนต้นแข็งแกร่งกว่าพวกเราจริงๆ?”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นหัวเราะ เอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นั่นแน่อยู่แล้ว! เห็นท่าทีของพวกนายก็แค่พวกไร้ประสบการณ์ เคยเห็นคาวเลือดหรือเปล่า? เคยฆ่าคนบ้างไหม?”
“ฉันไร้ความสามารถ ลงถ้ำใต้ดินแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่รูว่านักศึกษาฉินคงลงไปกี่ครั้งแล้ว? ทั้งฆ่าคนไปเท่าไหร่?”
“ฉันจะบอกนายทำไม ฟางผิง นายเคยลงถ้ำใต้ดินสี่ครั้งสินะ?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าดูไม่ได้ “แล้วมันยังไง? แม้สี่ครั้งก็ถือว่าเยอะแล้ว รุ่นพี่ทุกคนอาจจะไม่ได้เยอะไปกว่าฉันเท่าไหร่…”
“สี่ครั้ง?”
เวลานี้กระทั่งเจี่ยงเชาที่ไม่ค่อยสนใจอะไรเท่าไหร่ยังเอ็ดด่าออกมา “ไอ้หนู จะเหิมเกริมไปแล้ว! คิดว่าพวกเราเป็นดินน้ำมัน อยากจะปั้นอยากจะทำอะไรก็ได้หรือไง?”
ฟางผิงที่เป็นอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้นึกไม่ถึงว่าจะเคยลงถ้ำใต้ดินแค่สี่ครั้ง!
ข้อมูลนี้ทำให้ทุกคนเหนือความคาดหมายไม่น้อย
พูดกันว่านักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้มักจะลงถ้ำใต้ดิน เห็นคาวเลือดมาไม่น้อย
แต่ตอนนี้ฟางผิงลงถ้ำใต้ดินแค่สี่ครั้ง เจ้าหัวโล้นตรงหน้ายังอ่อนด้อยกว่าฟางผิง เขาเคยลงถ้ำกี่ครั้งกัน?
เจี่ยงเชาแทบจะถ่มน้ำลายใส่หน้าเขาแล้ว ฉันเคยลงไปตั้งห้าหกครั้งเถอะ!
นักศึกษาที่เคยลงถ้ำใต้ดินน้อยกว่าเขา นึกไม่ถึงว่าจะดูถูกพวกเขา?
ฟางผิงอยากพูดอะไรสักอย่าง ฉินเฟิ่งชิงกลับเอ่ยท้าทายต่อ “ทำไม? คิดจะประลองหรือไง? ไม่กลัวตัวเองจะร้องไห้กลับไป? ขั้นหกแพ้ให้ขั้นห้า คนเดียวสู้พวกนายได้สิบคน นั่นก็ขายหน้าแล้ว ได้ยินว่าพวกนายมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ฉันไม่กล้าลงมือหนักกับพวกนายหรอก ลงมือหนักก็เป็นปัญหาแล้ว เฮ้อ ช่างเถอะ คิดว่าเมื่อกี้ฉันไม่ได้พูดอะไรแล้วกัน ไปเถอะๆ ไม่อยากจะสนใจพวกนายแล้ว”
หลี่เฟยประกายสายตาเยียบเย็น “เรื่องนี้เกรงว่านักศึกษาฉินยังต้องให้คำตอบกับพวกเรา อยู่ดีๆ มาเหยียดหยามพวกเรา นี่ก็คือนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้งั้นเหรอ?”
“เหยียดหยาม?”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างตกใจว่า “นายคิดว่าฉันกำลังเหยียดหยามพวกนาย?”
สิ้นเสียง จู่ๆ ฉินเฟิ่งชิงก็หันไปมองฟางผิง กัดฟันว่า “ฟางผิง นายคิดว่าฉันเหยียดหยามพวกเขาหรือเปล่า? ถ้านายเป็นลูกผู้ชายจริงๆ นายพูดมา นายสามารถสู้พวกเขาสิบคนด้วยตัวคนเดียวหรือเปล่า?”
ฟางผิงหน้าดำเป็นก้นหม้อกลับเงียบไม่ปริปาก
“พูดมาสิ! นายมีความกล้าแค่นี้หรือไง?”
“เห็นได้ชัดว่าเอาชนะได้ แกล้งทำเป็นอ่อนแออยู่นั่นแหละ สนุกนักหรือไง?”
ฉินเฟิ่งชิงขุ่นเคืองอย่างถึงที่สุด พวกเจี่ยงเชาทยอยมองไปทางฟางผิง เห็นฟางผิงเผยสีหน้าดูไม่ได้ กลับไม่พูดอะไร คนพวกนี้ค่อยๆ หน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน
สรุปแล้ว…ฟางผิงก็คิดว่าเป็นแบบนี้จริงๆ?
ในระหว่างที่ทุกคนตกสู่ความเงียบ ฉินเฟิ่งชิงก็เบะปากว่า “ช่างเถอะ ไม่ถามแล้ว ถามก็ถามเสียเปล่า ยังไงพวกอาจารย์ก็เตรียมพร้อมเล่นเป็นเพื่อนพวกนายแล้ว ไม่เกี่ยวกับพวกเรา”
เจี่ยงเชาไม่อยากจะประมือกับอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ฟังจบก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นายหัวล้าน เหิมเกริมขนาดนี้ หรือจะประลองกันสักหน่อยดีล่ะ?”
ฉินเฟิ่งชิงลอบดีใจอย่างบ้าคลั่ง เจ้าอ้วนนี้จะติดกับง่ายเกินไปแล้ว!
ทว่ากลับพูดอย่างดูแคลนว่า “ไม่มีอารมณ์”
“เหอะๆ ฉันยังคิดว่านายมีความสามารถขนาดไหนซะอีก…”
ฉินเฟิ่งชิงขมวดคิ้วทันที “ทำไม? อยากจะสร้างปัญหาให้ตัวเองจริงๆ แล้ว?”
ระหว่างที่พูด ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยว่า “ประมือกับพวกนาย สิ้นเปลืองเวลาฉัน ฉันยังต้องฝึกวิชา แน่นอนว่า…ถ้านายไม่ยินยอม งั้นก็ประลองได้ แต่ฉันคนนี้ไม่ทำเรื่องที่ไม่ได้ผลประโยชน์ ชนะพวกนายแล้วก็ไม่มีอะไรดี เอาแบบนี้ดีหรือเปล่า ถ้าพวกเราจะประลองกันก็ควรให้รางวัลสักหน่อย พวกนายจะได้ร้องไห้กลับบ้านอย่างจำไม่ลืม!”
“อวดดี!”
พวกหลี่เฟยแทบจะโมโหขึ้นมาอยู่บ้าง เจ้าโล้นนี้จะเหิมเกริมไปแล้ว
ด้านข้างนั้นฟางผิงก็ตำหนิอย่างโมโหอีกครั้ง “ฉินเฟิ่งชิง นายจะไสหัวไปได้หรือยัง! ถ้ายังไม่ไปอีก ฉันจะจัดการนายซะ!”
“นายก็ดีแต่รังแกคนกันเอง ฟางผิง นายเป็นประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์เป็นความอัปยศของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พวกเราจริงๆ! ไร้ประโยชน์ ขายหน้าคนอื่นเท่านั้น คนขี้ขลาดตาขาวอย่างนายคู่ควรกับตำแหน่งอันดับหนึ่งของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ด้วยหรือไง? ขายหน้าคนทั้งมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แล้ว!”
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงแทบไม่มีความคิดจะเล่นละคร แต่จงใจด่าออกไปจริงๆ
อยากจะด่าฟางผิงตั้งนานแล้ว ปกติกลัวถูกซ้อม ตอนนี้ฟางผิงต้องแสดงละคร…ฉันกำลังเล่นให้สมบทบาทต่างหาก
“ขยะอย่างนายกลับไม่กล้าออกหน้าให้มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ พิสูจน์ความสามารถของนักศึกษาอย่างพวกเรา งั้นฉันเอง! พวกอาจารย์ของเราทำสงครามในถ้ำใต้ดินนับร้อยครั้ง มีเวลามาเล่นสนุกกับคนพวกนี้ที่ไหน คนอย่างนายก็คู่ควรกับนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ด้วยหรือไง?”
“ฉินเฟิ่งชิง!”
ฟางผิงปะทุโทสะอย่างหนัก หลี่เฟยที่อยู่ด้านข้างกดตัวเขาไว้อีกครั้ง มองฉินเฟิ่งชิงอย่างเยียบเย็น “นายมั่นใจนะว่าจะท้าประลองกับพวกเรา?”
“ฟางผิง พวกเขาเป็นฝ่ายหาเรื่องเอง ฉันไม่ได้กลัวพวกเขา! ท้าประลองก็ท้าประลองสิ กลัวพวกนายจะไม่กล้ามากกว่า!”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นยิ้มว่า “ฉันกลับอยากเห็นว่าใครจะไม่เกรงใจใคร! แต่บอกไปแล้ว เรื่องที่ไม่ได้ประโยชน์ ฉันไม่ทำ”
พูดจบ ฉินเฟิ่งชิงก็ชำเลืองมองทุกคน พินิจอย่างละเอียดก่อนจะใช้หางตาแลมองฟางผิง เห็นเขาชูมือ ใจก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ทันที กลับเอ่ยออกไปว่า “รางวัลน้อยไปไม่สนุก ห้าหมื่นล้านละกัน ชนะสามในห้าเกม มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ห้าคน พวกนายอีกห้าคน กล้าหรือเปล่า?”
“ห้าหมื่นล้าน!”
จางอวี่ที่อยู่ด้านข้างแทบจะอกแตกตาย!
ฉินเฟิ่งชิงบ้าไปแล้วสินะ!
ไม่สิ ฟางผิงต่างหากที่บ้า!
—————-