ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 460-3 การต่อสู้รอบแรก (3)
ตอนที่ 460 การต่อสู้รอบแรก (3)
………………..
ข้างหน้ารองเท้ามีคลื่นพลังงานและปราณม้วนตัวขึ้นราวกับพายุทอร์นาโด ชั่วพริบตานั้นก็พุ่งเข้าไปห่อร่างของฉินเฟิ่งชิง
ฉินเฟิ่งชิงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย แทบไม่ดูสักนิด ถลาเข้าไปกลางพายุโดยตรง
อีกฝั่งหนึ่งของเขตพัก ซูจื่อซู่ร้องออกมาอย่างตกใจ
นายโล้นนั่นทำไมไม่หลบล่ะ?
ลูกเตะของเจี่ยงเชาเมื่อครู่ ไม่ได้ทำออกมาโดยไร้เหตุผล นี่เป็นเคล็ดวิชาต่อสู้ที่สร้างเพื่อปรับใช้กับตัวเองอย่างหนึ่ง คลื่นพลังงานและปราณที่ราวพายุทอร์นาโดพวกนั้นแปรสภาพเป็นน้ำวน เฉือนตัดบนร่างของมนุษย์ แทบไม่ต่างจากการใช้อาวุธโลหะผสมฟันบนเนื้อหนังตรงๆ
ฉินเฟิ่งชิงทำไมถึงไม่หลบ?
เขารู้ว่าฝีมือของตัวเองห่างชั้นจากอีกฝ่ายอย่างมาก ทั้งอีกฝ่ายยังมีรองเท้าเป็นอาวุธวิเศษ ความสามารถทั้งหมดต้องอยู่ที่ช่วงล่างอยู่แล้ว ต่อสู้ประวิงเวลา หลบหลีกเป็นหลัก เกรงว่าสุดท้ายจะแพ้อย่างน่าอดสู
คนพวกนี้ขาดแคลนอะไร?
ความโหดเหี้ยม!
นี่ก็เป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งของอีกฝ่าย!
ปล่อยเคล็ดวิชาต่อสู้ออกมา เกรงว่าเจี่ยงเชาก็คงนึกไม่ถึงเหมือนกันว่านอกจากเจ้าโล้นตรงข้ามยังไม่หลบแล้ว ยังพุ่งเข้าไปตาแทบไม่กะพริบอีก
ชั่วพริบตาที่ซูจื่อซู่หวีดร้องขึ้นมา ร่างของฉินเฟิ่งชิงก็ฝ่าออกมาจากน้ำวนแล้ว เสื้อผ้าบนร่างขาดวิ่น แขนสองข้างปรากฏบาดแผลนับไม่ถ้วนขึ้นทันที
แต่เขาสวมเกราะหนังสัตว์ปีศาจขั้นหกไว้ข้างใน ช่วงลำตัวจึงไม่มีบาดแผลอะไร
ฉินเฟิ่งชิงแทบไม่สนใจว่าบาดแผลจะเป็นยังไง พุ่งออกมาแล้ว ในตอนที่เจี่ยงเชายังไม่ทันได้เปลี่ยนกระบวนท่า ดาบยาวก็สะสมพลังไว้นานแล้ว ไอเย็นวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว ฟันลงไปทันที!
ปัง!
เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ดาบยาวฟันออกไปในชั่วพริบตา เจี่ยงเชารีบปัดป้องเช่นกัน เตะไปทางดาบยาวจนปะทุประกายไฟขึ้นมา
ท่ามกลางการปะทะ เจี่ยงเชาถือโอกาสถอยหลังไปเล็กน้อย ด้านฉินเฟิ่งชิงได้รับแรงเยอะกว่า กลับไม่ถอยแม้แต่น้อย ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมา คำรามเสียงดัง ฟันโจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่ง!
เปรี้ยงๆๆ!
เสียงระเบิดดังขึ้นระลอกใหญ่ ฉินเฟิ่งชิงไม่คิดถอย ใช้ความสามารถของขั้นห้าตอนต้นควบคุมเจี่ยงเชาอย่างอยู่หมัด
เขตพัก หลี่เฟยกำหมัดแน่น ตะโกนว่า “โต้กลับสิ!”
พวกหลี่เฟยแทบจะปะทุโทสะอยู่แล้ว นายยังไม่โต้กลับอีก!
เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนอื่นอัดตั้งแต่ต้น ไม่ขายหน้าหรือไง?
กลางสนามนั้น เจี่ยงเชาใบหน้าแทบดูไม่ได้ ภายใต้ความโมโหก็เตะดาบยาวออกไป เท้าอีกข้างเตะน้ำวนพลังงานขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินเฟิ่งชิงคำรามขึ้นมา ร่างกายขยายใหญ่ พุ่งเข้าสู่น้ำวนเป็นครั้งที่สอง
ครั้งนี้ในเวลาเดียวกับที่เขาฝ่าออกมาก็คว้าเท้าขวาของเจี่ยงเชาเอาไว้ ชั่วพริบตานั้นมือก็ปริแตกทันที เสียงเสียดสีของกระดูกดังขึ้นบาดหู เวลานี้รองเท้าของเจี่ยงเชาระเบิดพลังปราณที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม บดขยี้เนื้อหนังบนมือของเขา
ฉินเฟิ่งชิงแสยะยิ้มอย่างดุร้าย จับเขาไว้แน่นอยู่ตลอด ตอนนี้เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “จับนายได้แล้ว!”
สิ้นเสียงฉินเฟิ่งชิงก็ระเบิดปราณอย่างเต็มที่ หัวโล้นแทบจะกลายเป็นสีแดง!
ครู่ต่อมาฉินเฟิ่งชิงก็จับเท้าอีกฝ่ายไว้แน่น มืออีกข้างหมุนดาบฟันไปยังคอของอีกฝ่าย!
เจี่ยงเชาระเบิดเสียงคำราม ขาสองข้างปะทุคลื่นปราณที่แข็งแกร่ง บดขยี้เนื้อหนังมือซ้ายของฉินเฟิ่งชิง ปราณยังคงปลดปล่อยอย่างต่อเนื่อง กำลังพุ่งเข้าไปบีบรัดแขนของเขา
เท้าอีกข้างหมุนเตะในอากาศ พลิกร่างเตะไปยังดาบยาวของเขา
ตอนนี้เจี่ยงเชาแทบจะด่าถึงมารดาแล้ว
โรคจิตหรือไง!
จับฉันไว้ทำหอกอะไร!
ความสามารถของเขาอยู่ที่เท้าทั้งหมด บีบรัดแขนฉินเฟิ่งชิงให้ขาดไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ได้มีเท้าแค่ข้างเดียว!
เมื่อถึงขั้นหก แทบไม่มีการหกล้มระหว่างเคลื่อนไหวเท้าสองข้างพร้อมกัน เรียกได้ว่าเป็นคนที่ลอยได้แล้ว เคลื่อนที่ในอากาศถือเป็นทักษะพื้นฐาน
บนหัวโล้นมีประกายสีแดงเข้มข้นกว่าเดิม
ชั่วพริบตาที่สองเท้าของเขาระเบิดพลัง ฉินเฟิ่งชิงก็ใช้แรงดึงขาของเขาให้ทั้งสองฝ่ายเข้ามาใกล้กัน เสี้ยวนาทีนี้บนหัวโล้นก็กลายเป็นสีแดงเจิดจ้า
ในตอนที่หลายคนยังไม่ทันดึงสติทัน ฉินเฟิ่งชิงก็โหม่งหัวไปหาเจี่ยงเชาที่กำลังเข้ามาใกล้
ในเวลานี้สิ่งที่ชนราวกับไม่ใช่หัวอีกแล้ว!
แต่เป็นดาบเล่มหนึ่ง!
เขตพัก ฟางผิงลุกขึ้นยืนทันที เผยสีหน้าจริงจัง ตะโกนว่า “รนหาที่ตายหรือไง!”
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้ายังไม่ได้หลอมกะโหลก เจี่ยงเชาที่อยู่ในขั้นหกตอนกลาง แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในช่วงไร้การป้องกัน แต่ปราณทั่วร่างกลับเข้มข้นอย่างถึงที่สุด ใช้หัวโหม่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วจะอะไรอีก?
แค่การป้องกันจากปราณอย่างเดียวก็อาจทะลวงไม่ได้เสมอไป
หวังจินหยางที่อยู่ด้านข้างกลับเผยสีหน้าดำดิ่ง พึมพำว่า “ไอ้เวรนี้ใช้ร่างของตัวเองหลอมเป็นดาบ อาจจะสามารถทะลวงได้เหมือนกัน…”
สิ้นเสียงนั้น หัวของฉินเฟิ่งชิงก็ชนกับท้องที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ของเจี่ยงเชาแล้ว
เปรี้ยง!
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น เจี่ยงเชากระอักเลือดออกมาทันที
เท้าขวาของเขาก็บดขยี้แขนของฉินเฟิ่งชิงจนเห็นกระดูกสีขาวเช่นกัน เท้าซ้ายยิ่งเตะดาบยาวลอยออกไป
แต่ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงแทบไม่ใส่ใจอะไร ใช้ร่างกายแทนดาบ โหม่งหัวโจมตีหน้าท้องเขาอย่างบ้าคลั่ง ทุกครั้งที่โจมตี ทั้งสองคนต่างกระอักเลือดสดออกมา ความเร็วนั้นแทบไม่อาจวัดได้!
เหมือนจะเป็นเวลาเสี้ยวพริบตา ในเวลาเดียวกับที่เจี่ยงเชาเหวี่ยงหมัดโจมตี ฉินเฟิ่งชิงก็คำรามอย่างบ้าคลั่งขึ้นอีกครั้ง ใช้หัวชนกับท้องของอีกฝ่าย!
‘พลั่ก!’
เจี่ยงเชารู้สึกแค่ว่าเหมือนอวัยวะภายในจะแตกเป็นส่วนๆ ปวดจนแทบจะร้องไห้ออกมา ปากกระอักเลือดพุ่งเป็นสาย ความเจ็บปวดนั้นทำให้การโต้กลับช้าลงไปอีก
ทั่วทั้งสนามเงียบเป็นเป่าสาก!
ตอนนี้ฉินเฟิ่งชิงมีเลือดชุ่มไปทั่วร่าง แขนซ้ายยังเห็นกระดูกสีขาวอย่างน่ากลัว หัวนั้นเนื้อหนังแทบจะเละไม่เป็นชิ้นดี
หมอนี่สะบัดหัวเล็กน้อย ไม่สนใจเช่นกัน ตะโกนแล้วก็เดินไปเก็บดาบยาวขึ้นมา เอ็ดด่าว่า “แม่งเหอะ มีเกราะป้องกันข้างใน ไม่งั้นคงชนท้องนายทะลุไปแล้ว อยากจะเห็นว่านายมีฝีมือขนาดไหนสักหน่อย ช่างเถอะ ไม่สู้แล้ว ไว้ชีวิตนายสักครั้งละกัน”
เจี่ยงเชาที่อยู่ด้านข้าง ตอนนี้แทบไม่หลงเหลือสภาพของผู้ชนะ กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น น้ำตานองเต็มหน้า แม่งเหอะ เจ้าหมอนี้ชนท้องเขาแทบจะแตกอยู่แล้ว!
ประเด็นอยู่ที่ชนเสร็จแล้ว…กลับเอ่ยปากยอมแพ้!
นี่นับว่าอะไร?
ฉินเฟิ่งชิงเดินไปยังเขตพักอย่างองอาจน่าเกรงขาม เจี่ยงเชายังคุกเข่าบนพื้น กุมท้องสะอึกสะอื้น
“เจ้าบ้า…”
อันที่จริงอาการบาดเจ็บของเจี่ยงเชาไม่ได้ร้ายแรงอะไร สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก บาดเจ็บแค่นี้แทบไม่นับว่าอะไร
ประเด็นอยู่ที่เจ็บจนถึงทรวงใน!
เขาแทบยังไม่ได้ออกแรงเต็มที่ ผลปรากฏวว่าสู้เสร็จแล้ว!
ฉินเฟิ่งชิงยอมแพ้เพราะโหม่งหัวชนมานานแล้ว เจี่ยงเชาก็ยังบาดเจ็บไม่มาก อย่างน้อยฉินเฟิ่งชิงก็ดูเหมือนอย่างนั้น เขากลับได้รับบาดเจ็บไม่น้อย หากสู้ต่อไป เจี่ยงเชาดึงสติกลับมาได้ เขาต้องถูกบดขยี้กับพื้นแล้ว
ด้วยเหตุนี้เจ้าหมอนี้เป็นฝ่ายจู่โจมยกใหญ่แล้วก็ยอมแพ้ไปตรงๆ
ตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายประมือกันจนฉินเฟิ่งชิงยอมแพ้ น่าจะใช้เวลาไม่ถึงสิบวินาทีเท่านั้น
ผู้แพ้เดินออกไปอย่างสง่างาม ผู้ชนะกลับคุกเข่ากุมท้องร้องครวญคราง เวลานี้พวกหลี่เฟยสีหน้าดูไม่ได้อย่างถึงที่สุด
ทั้งสิ่งที่ทำให้พวกเขาใบหน้าบิดเบี้ยวกว่าเดิมก็เกิดขึ้น ฉินเฟิ่งชิงเพิ่งจะเดินไป เจี่ยงเชากลับเดินกุมท้องกลับมาแล้ว
หลี่เฟยเห็นแบบนั้นก็เอ่ยอย่างโมโห “นายเป็นผู้ชนะ!”
“ลำไส้ฉันขาดแล้ว…เจ็บชะมัด!”
เจี่ยงเชาเจ็บจนไม่อยากสู้แล้วจริงๆ ยังไงก็มีอีกตั้งหลายคน
“นาย…”
พวกหลี่เฟยโมโหอย่างถึงที่สุด กลับไม่มีทางเลือก ทำได้แค่มองเจ้าหมอนี้เดินกลับไปในเขตพัก
มองไปด้านข้างอีกที ฉินเฟิ่งชิงที่เลือดชุ่มทั่วตัวกลับทำท่าราวกับไม่เป็นอะไร กำลังคุยหยอกเล่นกับพวกฟางผิง พวกหลี่เฟยก็ใบหน้าขึ้นสีทันที!
แม่งน่าอายเกินไปแล้ว!
เจี่ยงเชาเป็นความอัปยศอดสูชัดๆ!
——————
………………..