ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 466-2 อาวุธวิเศษอยู่ในมือ (2)
ตอนที่ 466 อาวุธวิเศษอยู่ในมือ (2)
………………..
“เอามา!”
ฟางผิงถลึงตามองฉินเฟิ่งชิงด้วยแววตาคมกริบ นายคิดจะทำอะไร?
ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าอาลัยอาวรณ์ อาวุธวิเศษตั้งห้าชิ้น!
ยังไม่ทันจับให้อุ่นมือเลย!
“เอาหินพลังงานให้ฉันหนึ่งจิน…”
“นายแพ้แล้ว!”
“นายอ้วนเจี่ยงก็ลงจากเวทีเหมือนกัน!”
ฉินเฟิ่งชิงรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้าง ตามสัญญาก่อนหน้านี้ถ้าเขาแพ้ นอกจากอาวุธระดับ A หนึ่งชิ้นก็ไม่ได้อะไรเพิ่มแล้ว
พูดจบ ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยต่อว่า “เจ้าหัวเหล็กไม่ได้ชนะ เหล่าหวังก็เหมือนกัน ทำไมถึงมาหักฉันคนเดียวล่ะ”
ฉินเฟิ่งชิงรู้สึกไม่ยุติธรรมขึ้นมา “เดิมทีฉันก็ขั้นต่ำสุดอยู่แล้ว ไม่ชนะเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง? อีกอย่าง นายยังให้ฉันเล่นละครเป็นเพื่อนนานขนาดนั้น ไม่มีผลงาน แต่ก็จ่ายความลำบากออกไป ทำไมต้องมาหักฉันด้วย!”
ด้านข้าง ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างลำบากใจว่า “หรือให้เขาจบๆ ไปซะ?”
ฟางผิงถูขมับ เอ่ยอย่างปวดหัวว่า “เขาสิ้นเปลืองของดีไปมากแล้ว! ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งจะเสียหินพลังงานไปหกจิน ตอนเช้ากลืนผลไม้พลังงานไปนับสิบลูก หินพลังงานอยู่ในมือเขา อีกเดี๋ยวน่าจะหายเกลี้ยงแล้ว!”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอึกอักว่า “ฉันเสียเยอะไม่เท่านายหรอกมั้ง?”
ฟางผิงหมดคำจะพูด ฉันเสียหินพลังงานไปเท่าไหร่?
ครั้งก่อนไม่ใช่เพราะไม่มีทางเลือกหรือไง?
นวดขมับแล้ว ฟางผิงก็ร่างสัญญาโยนให้เขา เอ่ยอย่างมีโทสะอยู่บ้าง “ขั้นห้าตอนกลางน่าจะพอแล้ว! หากนายสิ้นเปลืองของพวกนี้หมด ไม่ถึงขั้นห้าตอนกลาง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่เลี้ยงปีศาจกินทองอย่างนายไว้หรอก อยากไปไหนก็ไป!”
“งั้นนายจะแทรกแซงเรื่องที่ฉันหางานทำไม…”
ระหว่างที่พูดก็แค่นเสียงว่า “นายมีความสามารถก็ไปที่อื่น ลองขอหินพลังงานพวกเขาหลายกรัมหลายจินดูสิ ฉันว่าคงไม่มีให้หรอก!”
ฉินเฟิ่งชิงเงียบกริบ คำพูดนี้กลับถูกต้อง
ฟางผิงคร้านจะพูดอีก แย่งอาวุธวิเศษพวกนั้นมาตรงๆ มองหลี่หานซงที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง ครุ่นคิดก่อนเอ่ยว่า “สนับมือ ดาบ กระบี่ฉันจะเอาไว้ รองเท้าและหอกยาว นายเลือกสักอัน”
หลี่หานซงแทบไม่คิดมาก คว้าหอกยาวไปทันที
อาวุธวิเศษอย่างรองเท้าไม่ค่อยเหมาะกับผู้ฝึยุทธ์ที่เป็นฝ่ายรุกโจมตีเท่าไหร่
ฟางผิงเห็นเขาเลือกแล้ว ก็ถืออาวุธวิเศษสี่ชิ้นที่เหลือไว้ “อาจารย์ทั้งสอง แม้พวกเราปิดประตูแล้วจะเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ญาติสนิทมิตรสหายยังต้องแบ่งเรื่องเงินทองอย่างชัดเจน อาวุธวิเศษสี่ชิ้นนี้นับว่าผมให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยืม แน่นอนว่าครั้งนี้คว้าอาวุธวิเศษได้ ผมก็อาศัยอำนาจของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เหมือนกัน แต่ผมให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยืมอาวุธวิเศษ ถือเป็นการชดเชยจุดนี้ อาจารย์สองคนมีความเห็นว่ายังไง?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “จะพูดคลุมเครือไปเพื่ออะไร ยืมก็ยืมจบแล้ว พูดมากอะไรขนาดนั้น!”
หลู่เฟิ่งโหรวกลับพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
ฟางผิงเห็นแบบนั้นจึงโล่งใจ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “งั้นอาวุธวิเศษสี่ชิ้นนี้ก็เป็นสมบัติของผมแล้ว”
พูดจบ ฟางผิงก็ยื่นดาบให้หลู่เฟิ่งโหรวว่า “อาจารย์ อันนี้ให้คุณ อันที่จริงสนับมือจะดีกว่าอยู่บ้าง แต่…อาจารย์ถังน่าจะเหมาะสมกว่า…”
หลู่เฟิ่งโหรวไม่ได้พูดอะไร รับดาบยาวมา หลังจากนั้นบนดาบก็ปะทุคลื่นพลังจิตใจที่แข็งแกร่งออกมา
ผ่านไปสักพัก ดาบยาวก็หายวับไปจากเบื้องหน้าหลู่เฟิ่งโหรวอย่างรวดเร็ว
ตาเฒ่าหลี่มองอย่างรอคอย ผลปรากฏว่าเห็นฟางผิงส่งรองเท้ามา…ชั่วขณะนั้นก็มีโทสะทันที “ฉันจะเอากระบี่!”
“กระบี่ให้อธิการหลิว”
“ไอ้เวร!”
ตาเฒ่าหลี่หลุดปากด่า “ฉันถึงจะเป็นยอดฝีมือที่ใช้กระบี่!”
หลิวพั่วหลู่ใช้กระบี่เหมือนกัน แต่หลิวพั่วหลู่เทียบกับเขาได้หรือไง?
ฟางผิงถอนหายใจว่า “คุณรับอาวุธวิเศษไม่ไหวหรอก กระบี่อยู่ในมือไม่ต่างอะไรกับกระบี่โลหะผสม ใช้รองเท้าไปก่อนเถอะ กลับไปพวกเราฝีมือแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ไปฆ่าสัตว์ปีศาจขั้นแปด สร้างกระบี่อมตะที่เหมาะสมให้คุณใหม่ เทียบกับของผุผังพวกนี้จะดียิ่งกว่า?”
แต่หากได้อาวุธวิเศษขั้นแปดมาจริงๆ ตัวเองหลอมกระบี่อมตะเป็นอาวุธวิเศษ จะแข็งแกร่งกว่ากระบี่ขั้นเจ็ดตอนต้นนี้อยู่แล้ว
ฟางผิงไม่พูดมากอีก คว้าสองกระสอบที่อยู่ด้านข้างซึ่งใส่หินพลังงานไว้ โยนให้หวังจินหยางและเหยาเฉิงจวิน เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ของพวกนาย ถ้าพวกนายไม่มีธุระอะไรก็อย่าเพิ่งรีบกลับ สามารถไปดูห้องเคล็ดวิชาต่อสู้ได้ คนพวกนั้นยังอยู่ตรงนั้น สามารถแลกเปลี่ยนความรู้เส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ยังไงเมืองเจิ้นซิงก็มียอดฝีมือขั้นเก้าขั้นสุดยอดหลายคน ต้องมีจุดเด่นบางอย่างอยู่แล้ว แลกเปลี่ยนกันหน่อยไม่มีผลเสียหรอก”
“มีความคิดนี้ตั้งนานแล้ว”
หวังจินหยางตอบอย่างฉับไว คว้าหินพลังงานแล้วก็หมุนตัวไปทันที
เหยาเฉิงจวินตามเข้าไปเหมือนกัน หลี่หานซงกลับเอ่ยว่า “ฉันต้องกลับมหาวิทยาลัยปักกิ่งก่อน พวกนายมีผลประโยชน์ก็บอกกับฉันได้ ครั้งนี้กลับปักกิ่ง…ฉันน่าจะมุ่งหาขั้นหกเหมือนกัน”
“แล้วแต่นาย”
ฟางผิงพยักหน้าเบาๆ หลี่หานซงเห็นแบบนั้นจึงใช้ผ้าห่อหอกยาวเอาไว้ เดินออกไปทันที
คนไปหมดแล้ว หลู่เฟิ่งโหรวหยัดกายขึ้นว่า “ฉันจะกลับไปหลอมรวมกับอาวุธวิเศษสักหน่อย ทางนี้ให้หลี่ฉางเซิงต้อนรับละกัน ไม่มีความจำเป็นต้องเรียกฉัน”
ทิ้งคำพูดนี้แล้ว หลู่เฟิ่งโหรวก็จากไปเช่นกัน
ตาเฒ่าหลี่ยังไม่ถึงขั้นพลังจิตใจปรากฏ ไม่มีความจำเป็นต้องหลอมรวม
ฟางผิงไม่สนใจเรื่องพวกนี้อีก กวาดสายตามองตัวเลขข้างหน้าแทน
ทรัพย์สิน : 95,700,000,000 (เปลี่ยนแปลง)
ปราณ : 5999 แคล (5999 แคล)
จิตใจ : 899 เฮิรตซ์ (899 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (90%)
ช่องเก็บของ : 32 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที
อาวุธวิเศษสี่ชิ้นเพิ่มค่าทรัพย์สินให้เขาสี่หมื่นสี่พันล้าน
ระบบประเมินมูลค่าให้ค่อนข้างสูงทีเดียว
ก่อนหน้านี้ฟางผิงคิดว่าอาวุธวิเศษสี่ชิ้นอาจจะไม่ถึงสี่หมื่นล้าน ตอนนี้ดูแล้วมูลค่าของอาวุธวิเศษสูงกว่าที่คิดไว้ ไม่ได้หดลงขนาดนั้น
“ยังขาดอีกสี่พันสามร้อยล้าน…ระยะห่างจากแสนล้านไม่เยอะแล้ว”
ฟางผิงครุ่นคิด จู่ๆ ก็ปวดหัวอยู่บ้าง บอกว่าไม่เยอะ แต่สี่พันกว่าล้านก็ไม่น้อยเหมือนกัน
หากอาวุธวิเศษของมหาวิทยาลัยปักกิ่งนับเป็นของเขา นั่นก็เพียงพอแล้ว
แต่ไม่ให้มหาวิทยาลัยปักกิ่ง สำหรับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังจะมีแรงกดดันอยู่บ้าง
อย่ามองว่าคนพวกนี้มอบของให้อย่างสบายๆ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ฮุบไว้เองหมด เกิดปัญหาขึ้น คนอื่นๆ น่าจะยืนชมละครเท่านั้น
ตอนนี้ลากมหาวิทยาลัยปักกิ่งมาเอี่ยวด้วย ถือว่าเป็นแนวร่วมเดียวกับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้แล้ว
“แม้จะห่างไกลอยู่บ้าง แต่ถือว่าไม่เลวแล้ว สี่พันกว่าล้านเท่านั้น เทียบกับก่อนหน้านี้ที่แทบไม่เห็นความหวังดีกว่ามาก หากลงถ้ำใต้ดินอีกครั้ง…ตอนนี้ยังไปไม่ได้…ทางบริษัท…ไม่รู้ว่ามีหวังหรือเปล่า?”
ฟางผิงคำนวณในใจยกใหญ่ สรุปดูแล้วตอนนี้เขานับว่าร่ำรวยไม่น้อย
ตอนนี้เขายังเหลือคะแนนอีกหนึ่งล้านเจ็ดแสนแปดหมื่นคะแนน มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังติดหนี้เขาอีกมาก หินพลังงานหนึ่งหมื่นล้านรวมกับอาวุธวิเศษสี่ชิ้น
ต่อให้คะแนนเสื่อมมูลค่ายังไง ตอนนี้สองหมื่นต่อหนึ่งคะแนนยังคงคุ้มค่า
รวมเข้าด้วยกัน ทรัพย์สินของเขาน่าจะเกือบหนึ่งแสนล้านแล้ว
แต่ของพวกนี้จากมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เว้นแต่ว่าเขาจำเป็นต้องใช้เร่งด่วนจริงๆ ไม่งั้นก็คงไม่มีประโยชน์
“ค่าทรัพย์สินยังไม่ถึงแสนล้าน…ถึงแสนล้านต้องขยายช่องเก็บของให้ใหญ่ขึ้นหน่อย ตอนนี้พอจะใส่ร่างปีศาจขั้นเจ็ดได้เท่านั้น ขั้นแปดอาจใส่ไม่ได้เสมอไป หนึ่งแสนล้านก็เป็นช่องว่างสองร้อยลูกบาศก์เมตร”
ฟังเหมือนหนึ่งแสนล้านเยอะมากแล้ว อันที่จริงฟางผิงคำนวณดู สองร้อยกว่าลูกบาศก์เมตร จะใส่พืชปีศาจขั้นเก้ายังไง?
ใส่ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็ไม่คิดเรื่องค่าทรัพย์สินให้มากมายอีก ฉวยโอกาสที่พวกเจี่ยงเชายังไม่ไปไหน ตัวเองยังต้องตีซี้ต่อ ครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อทรัพยากร ตอนนี้ยังไม่ต้องการ สิ่งที่เขาต้องการคือข้อมูลบางอย่างงต่างหาก
อีกอย่าง…นั่นเป็นเรื่องที่เตรียมไว้สำหรับทะลวงขั้นหก
“หาค่าทรัพย์สินอีกประมาณห้าพันล้าน สืบหาข้อมูลที่จำเป็นบางส่วน ทะลวงขั้นหก…”
ฟางผิงพึมพำอยู่ในใจ ไม่ชักช้าอีก มอบอาวุธวิเศษสองชิ้นให้คลังสินค้าแล้วก็สาวเท้าไปห้องเคล็ดวิชาต่อสู้ทันที
———-
………………..