ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 473 ฉินเฟิ่งชิงขายร่างกาย (1)
ตอนที่ 473 ฉินเฟิ่งชิงขายร่างกาย (1)
………………..
วันที่ 30 มีนาคม ฟางผิงทะลวงด่านสำเร็จ ก้าวสู่ขั้นหก
รอจนถึงวันที่ 1 เมษายน การจัดอันดับขั้นห้าก็มีการเปลี่ยนแปลงใหม่
ฟางผิงเข้าสู่การจัดอันดับได้ไม่นาน ครองในอันดับที่หนึ่งมาตลอด กลับหายไปจากการจัดอันดับขั้นห้าในชั่วพริบตา
การหายไปดึงดูดความสนใจคนไม่น้อยเช่นกัน
อัจฉริยะมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่เพิ่งโดดเด่นได้ไม่นานคนนี้ ทะลวงด่านอีกครั้ง กลายเป็นยอดฝีมือขั้นหกแล้ว!
หวังจินหยางที่จัดอยู่ในอันดับสองไม่ได้ขึ้นสู่ที่หนึ่งทันที
แต่หลี่หานซงจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งกลับโผล่พรวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน อาศัยผลการต่อสู้เสมอกับขั้นหกตอนปลายขึ้นไปอยู่ในอันดับหนึ่ง
เวลานั้นการต่อสู้ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ประธานหลิวจากสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์และรัฐมนตรีหวังต่างอยู่ที่นั่น พูดถึงพลังต่อสู้ของหลี่หานซง ตอนนี้ดูแล้วค่อนข้างจะดีกว่าหวังจินหยาง
หลี่หานซงอันดับหนึ่ง หวังจินหยางอันดับสอง เหยาเฉิงจวินอันดับห้า…ฉินเฟิ่งชิงไม่อยู่ในการจัดอันดับ!
รอจนการจัดอันดับขั้นห้าล่าสุดออกมา ฉินเฟิ่งชิงก็รับความน้อยเนื้อต่ำใจไม่ไหวจริงๆ!
—
“ถือสิทธิ์อะไร!”
ฉินเฟิ่งชิงแทบจะปะทุโทสะแล้ว เขาคิดว่าตัวเองโมโหตายได้จริงๆ!
ห้าคนที่ลงสนามวันนั้น ฟางผิงขั้นหกแล้ว สามคนอื่นๆ ต่างเข้าสู่สิบอันดับแรกของขั้นห้า ถือสิทธิ์อะไรเขาไม่ได้แม้กระทั่งหางแถวของการจัดอันดับ?
กลับไม่ได้มีใครสนใจชื่อนี้มากมาย แต่คนๆ นี้ขายหน้าเกินไปอยู่บ้างแล้ว!
ฟางผิงเห็นเขากระโดดเร่าๆ ก็ถูขมับ เขียนเอกสารพลางเอ่ยอย่างขอไปที “นายอย่ามากระโดดกับฉันตรงนี้ ไปสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ให้เขาจัดอันดับใหม่ซะสิ”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ฉันไปหาได้ที่ไหนกัน พวกเขาไม่ได้สนใจฉัน!”
สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์มีปรมาจารย์ ฉินเฟิ่งชิงไม่ได้มีหน้าตาขนาดนั้น กลับเป็นฟางผิงที่มีคุณสมบัตินี้
ฟางผิงที่อยู่ขั้นหก แม้จะไม่ได้เข้าสู่การจัดอันดับขั้นหก แต่ก่อนหน้านี้อันที่จริงสมาพันธ์หารือกันมาครั้งหนึ่งแล้ว ฟางผิงที่อยู่ขั้นห้าตอนกลางสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกสูงสุดได้
ตอนนี้ก้าวสู่ขั้นหก ไม่รู้ว่าตกลงแข็งแกร่งขนาดไหน เพราะตอนนี้ไม่มีผลการต่อสู้ประกอบการตัดสินใจ จึงเป็นเรื่องยากอยู่บ้าง
แต่สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์เห็นตรงกันว่า ความสามารถของเขาเกรงว่าจะไม่ด้อยไปกว่ายอดฝีมือขั้นหกสูงสุดที่อยู่อันดับหลังๆ พวกนั้น
แต่ปรึกษากันอยู่ยกใหญ่ ท้ายที่สุดยังคงไม่ให้ฟางผิงเข้าสู่การจัดอันดับ
อย่างน้อยเจ้าหมอนี่ต้องแสดงผลการต่อสู้ให้เห็นอีกครั้งก่อน ยกระดับอัจฉริยะพวกนี้เกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดี
ยอดฝีมือที่อยู่ในการจัดอันดับขั้นหก แม้จะไม่อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อันที่จริงก็อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศจีนเช่นกัน
ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมองฟางผิงเป็นผู้ฝึกยุทธ์รุ่นใหม่คนหนึ่งแล้ว
ฟางผิงวางปากกา ถูขมับเล็กน้อย เอ่ยอย่างปวดหัวว่า “งั้นนายก็อย่ามารบกวนฉันได้หรือเปล่า? สองวันก่อนไม่ใช่ว่านายเห็นฉันยังหลบหรือไง? ตอนนี้ทำไมมาหาถึงหน้าประตูได้ล่ะ?”
ตั้งแต่เขาเข้าสู่ขั้นหก ฉินเฟิ่งชิงเห็นเขาก็หลบทันที ไม่ยอมประจันหน้าเขา
ตอนนี้เจ้าหมอนี้กลับเป็นฝ่ายเข้ามาหา ฟางผิงเดาว่าคงไม่ใช่เรื่องดี
เป็นอย่างที่คาด เรื่องการจัดอันดับเป็นแค่การเกริ่นนำ ฉินเฟิ่งชิงกระแอมไอแล้ว ไม่นานก็เอ่ยว่า “คือว่า…คือ…ให้ฉันยืมเงินหน่อย ฉันใช้หินพลังงานหมดแล้ว…”
“ไสหัวไป!”
ฟางผิงบันดาลโทสะ ด่าว่า “หินพลังงานหนึ่งจิน รวมกับผลไม้พลังงานมากขนาดนั้น นายกินเล่นเป็นขนม? นี่เพิ่งจะกี่วันเอง นายใช้จนหมดแล้ว!”
“ฉินเฟิ่งชิง นายเห็นหินพลังงานเป็นก้อนดินที่มีอยู่ทุกที่หรือไง?”
“นายรู้หรือเปล่าว่าเพื่อหินพลังงานหนึ่งกรัม คนอื่นๆ ถึงกระทั่งต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย?”
“นายควรจะกระจ่างแจ้งกว่าทุกคนซะอีกว่าของพวกนี้ได้มายากขนาดไหน นายสิ้นเปลืองแบบนี้ ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือไง?”
ฟางผิงโมโหอยู่บ้างจริงๆ!
ฉินเฟิ่งชิงกลับแล้วใหญ่ หมดแล้ว!
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ไม่ใช่…คือว่า…ยังไงสะพานฟ้าดินของฉันตอนนี้ก็ดูดกลืนพลังงานค่อนข้างไว ฉันแทบไม่ได้ฝึกอะไรก็หมดแล้ว นายคิดว่าฉันอยากเป็นแบบนี้หรือไง”
ฟางผิงสีหน้าแทบดูไม่ได้ เจ้าหมอนี่เป็นปีศาจกลืนทองขนานแท้
ประเด็นอยู่ที่กลืนไปเยอะขนาดนี้ เขายังไม่ถึงขั้นห้าตอนกลางอีก
จากขั้นสี่สูงสุดจนถึงตอนนี้ เจ้าหมอนี่ใช้หินพลังงานไปเท่าไหร่แล้ว?
แหล่งแร่ที่ฉินเฟิ่งชิงเสนอให้นั้น เขาขุดหินพลังงานได้ไม่น้อย แต่หินพลังงานพวกนี้ คนหลายพันของมหาวิทยาลัยกำลังใช้อยู่
ฉินเฟิ่งชิงใช้คนเดียวเจ็ดจินแล้ว พวกถังเฟิงทะลวงขั้นเจ็ดยังสิ้นเปลืองไม่เยอะขนาดนั้นเลย
เห็นฟางผิงสีหน้าดูไม่ได้ ฉินเฟิ่งชิงก็โอดครวญว่า “ประเด็นอยู่ที่ตอนนี้ถ้ำใต้ดินไม่ให้ฉันเข้าไป ฉันอยากหาของพวกนี้ยังไม่มีที่ให้หา ไม่งั้นนายไปคุยกับหน่วยทหารดู ให้ฉันเข้าไปในถ้ำใต้ดิน…”
“ตอนนี้ไม่ได้!”
ฟางผิงส่ายหน้า เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เรื่องในถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้เพิ่งสงบลง ทุกคนอยากจะพักกันสักหน่อย จะให้นายเข้าไปได้ยังไง? รอถ้ำใต้ดินเทียนหนานอุบัติคงไม่มีข้อจำกัดนี้แล้ว”
“งั้นยังต้องรอถึงเมื่อไหร่ล่ะ”
“ใกล้แล้ว”
ฟางผิงตอบออกไปส่งๆ สุดท้ายก็กวาดสายตามองเขา ขมวดคิ้วว่า “นายดูดกลืนพลังงานต่อไปแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร สิ้นเปลืองเกินไป!”
ฉินเฟิ่งชิงไร้เรี่ยวแรงอยู่บ้าง งั้นฉันจะทำยังไงได้
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “นายไม่กลัวตายสินะ? อยากฝึกวิชาให้เร็วขึ้นจริงๆ งั้นก็ไปห้องฝึกวิชาพลังฟ้าดิน ใช้พลังฟ้าดินหลอมอวัยวะภายใน!”
ฉินเฟิ่งชิงหน้าเปลี่ยนสี เอ่ยอึกอักว่า “นี่คือนายจะทำให้ฉันตายให้ได้?”
ฟางผิงจะใจดำเกินไปแล้ว!
หากระเบิดภายในร่างกาย นั่นกระดูกคงแหลกเป็นผุยผงแล้วจริงๆ
แม้เขาจะบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่คิดจะรนหาที่ตาย
ฟางผิงลุกยืนขึ้น เดินกลับไปกลับมาอยู่พักหนึ่ง ครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “ขั้นห้าทั้วไปใช้พลังฟ้าดินฝึกวิชา นั่นรนหาที่ตาย แต่นายพูดยาก แน่นอนว่าอันตรายต้องเยอะอยู่แล้ว โดยเฉพาะใช้พลังฟ้าดินกับอวัยวะภายใน”
เงียบไปสักพัก ฟางผิงกัดฟันว่า “รัฐบาลกำหนดราคาน้ำแร่ชีวิตอยู่ที่สิบล้านต่อหนึ่งกรัม คนทั่วไปซื้อไม่ไหว ฉันจะอาศัยในนามของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ซื้อให้นายหนึ่งร้อยกรัม! นายใช้น้ำแร่ชีวิตปกป้องอวัยวะภายใน ใช้พลังฟ้าดินหลอม แม้จะยังมีอันตราย แต่ก็ลดน้อยลงแล้ว หนึ่งพันล้าน…เทียบกับสิ้นเปลืองหินพลังงานอย่างไร้จำกัดดีกว่าไหนๆ หากนายอยากจะฝึกวิชาถึงขั้นห้าตอนกลาง วิธีนี้เร็วที่สุดแล้ว ทั้งยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่งั้นภายในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ นายคงไม่สามารถหลอมอวัยวะภายในให้เสร็จสิ้นได้”
“เอาเลย!”
ครั้งนี้ฉินเฟิ่งชิงตอบรับอย่างฉับไว!
นึกไม่ถึงว่าฟางผิงจะซื้อน้ำแร่ชีวิตให้เขาหนึ่งร้อยกรัม เจ้าหมอนี่ใจกว้างจริงๆ!
ฟางผิงสีหน้าแทบดูไม่ได้ “ฉินเฟิ่งชิง นายอย่าลืมว่าของสิ่งนี้ไม่ได้จัดสรรให้ภายนอก! ฉันอาศัยนามของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ออกหน้าช่วยเหลือนาย นั่นหมายความว่าหลังจากนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจจะซื้อไม่ได้อีกแล้ว! อาจารย์และคณบดีขั้นหกหลายคนต่างจ้องสิ่งนี้ตาเป็นมัน หากนายจะเอาไปก็ต้องใช้ส่วนของมหาวิทยาลัย นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินแล้ว นายเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าตอนต้น มีคุณูปการอะไรกับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้? เงินหนึ่งพันล้าน ฉันให้นายยืมได้ แต่ฉันบอกแล้วว่านี่ไม่ใช่ปัญหาแค่เรื่องเงิน!”
ฉินเฟิ่งชิงลูบหัวล้าน นี่กลับเป็นเรื่องจริง
รัฐบาลมีน้ำแร่ชีวิตไม่เยอะ ไม่อาจขายข้างนอกอย่างไร้จำกัด
ยื่นซื้อในนามมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้หนึ่งร้อยกรัม ปัญหาน่าจะไม่ใหญ่
แต่ของสิ่งนี้ทุกคนต่างอยากได้ รวมถึงปรมาจารย์ยอดฝีมือพวกนั้น
แม้ฉินเฟิ่งชิงจะเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง แต่ใช้โควต้าของมหาวิทยาลัยมาเติมเต็มการฝึกวิชาของตัวเอง…เขาไม่ใช่ฟางผิง ทั้งยังไม่มีคุณสมบัติเหมือนฟางผิง
คิดอยู่ค่อนวัน จู่ๆ ฉินเฟิ่งชิงก็กัดฟันว่า “ฉันจะเซ็นสัญญาทำงานกับมหาวิทยาลัยสิบปี…”
ฟางผิงขมวดคิ้วว่า “สิบปี? รวมกับหนึ่งพันล้านนี้ นายก็ติดหนี้สามพันล้านแล้ว อาจารย์ที่เซ็นสัญญาทำงานกับมหาวิทยาลัยสิบปีไม่ได้มีแค่นายคนเดียว”
ฉินเฟิ่งชิงกัดฟันต่อ เห็นฟางผิงยังคงเงียบก็เอ่ยอย่างโมโหว่า “สามสิบปี ได้แล้วสินะ! ฉันยังไม่รู้ว่ายังจะมีชีวิตรอดถึงสามสิบปีให้หลังหรือเปล่า ถึงฉันเซ็นสัญญาหนึ่งร้อยปีแล้วจะยังไงได้อีก?”
ฟางผิงฟังจบก็พยักหน้าว่า “งั้นก็หนึ่งร้อยปี ยังไงสั้นยาวก็ไม่เป็นไรอยู่แล้ว ต้องมีคำตอบให้กับมหาวิทยาลัยและพวกอาจารย์ ฉินเฟิ่งชิงจะทำงานที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้หนึ่งร้อยปี ทั้งยังได้ส่วนแบ่งคนเดียว น้ำแร่ชีวิตให้นายก็ไม่มีใครว่าอะไรแล้ว”
ฉินเฟิ่งชิงใบหน้าดำคล้ำ นายยังจะหนึ่งร้อยปีจริงๆ!
“งั้นสวัสดิการหลังจากนี้ของฉัน…”
“สวัสดิการพื้นฐานไม่มี เป็นการใช้หนี้ทั้งหมด ของที่ได้จากถ้ำใต้ดินก็เป็นเหมือนก่อนหน้านี้”
“ฟางผิง นายจะใจดำเกินไปแล้ว!”
ฉินเฟิ่งชิงทำหน้าจะร้องไห้ เอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “ให้ฉันทำงานฟรีๆ หนึ่งร้อยปี นายยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
—————–
………………..