ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 476-2 ผลักดัน (2)

ตอนที่ 476 ผลักดัน (2)

………………..

ฟางผิงเอ่ยเสียงเบาว่า “ถึงตอนนี้แล้ว หรือทุกคนยังตระหนักไม่ได้? ฉันยกตัวอย่างง่ายๆ ละกัน ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ยาบำรุงเลือดและปราณธรรมดาหนึ่งเม็ด ต้องใช้สามคะแนนแลกเปลี่ยน พอเป็นมหาวิทยาลัยจิงหนาน บางทีอาจจะเป็นสี่คะแนน มหาวิทยาลัยหนานเจียง นั่นก็ห้าคะแนน มูลค่าของคะแนนเท่ากัน แต่ว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใช้ค่าแลกเปลี่ยนที่น้อยที่สุดเพื่อได้รับผลประโยชน์ที่มากที่สุด พวกนายล่ะ? ทำจุดนี้ได้หรือเปล่า? พวกนายไม่รู้สึกขุ่นเคืองบ้างหรือไง? ไม่เคยมีความคิดจะเปลี่ยนแปลงเลย? พวกเราเป็นคนเหมือนกัน จ่ายความตั้งใจออกไปเหมือนกัน ทำไมพวกนายถึงคว้าทรัพยากรได้ยากกว่ามหาวิทยาลัยชื่อดังล่ะ? เดิมทีมหาวิทยาลัยทั่วไปก็ทรัพยากรไม่เยอะอยู่แล้ว ก้าวไปอย่างช้าๆ ตอนนี้นับวันก็ช้าลงเรื่อยๆ หรือทุกคนไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้เลย? และตอนนี้โอกาสก็มาแล้ว!”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา หลายคนต่างขมวดคิ้ว กระทั่งหลี่หานซงยังอดเอ่ยไม่ได้ “ฟางผิง ความยากในการได้รับทรัพยากรไม่ใช่สิ่งที่แพลตฟอร์มออนไลน์จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้…”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นายพูดไม่ผิด ฉันเข้าใจ นายฟังฉันให้จบก่อน”

ฟางผิงเอ่ยต่อ “แพลตฟอร์มออนไลน์ครั้งนี้ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน!”

“ทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน?”

“ใช่ ทำให้คะแนนเป็นมาตรฐานเดียวกัน!” ฟางผิงพยักหน้า “ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งมีมาตรฐานของตัวเอง นายใช้คะแนน ฉันใช้เป็นแต้ม มูลค่าสูงต่ำไม่เท่ากัน หนึ่งคะแนนของนายมูลค่าหนึ่งหมื่น หนึ่งคะแนนของฉันมูลค่าห้าหมื่น…อันที่จริงนี่ไม่เป็นผลดีต่อการแลกเปลี่ยนทรัพยากร ทำไมประเทศหนึ่งแห่งต้องใช้สกุลเงินเดียวกัน? นั่นเพราะปัญหาของการหมุนเวียนเงินตรา! ทำไมมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งใช้คะแนนแทนที่จะใช้เงินสด? ด้านหนึ่งเพื่อให้พวกนักศึกษาได้พึ่งพาตัวเองมากกว่า อีกด้านหนึ่งสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ เมื่อถึงระดับขั้นๆ หนึ่ง มีความต้องการมากเกินไป หากใช้เงินอีก ไม่เหมาะสมอยู่บ้าง จะทำให้เศรษฐกิจล้มละลายได้ง่าย ดังนั้นมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้จึงใช้ระบบคะแนน ไม่ได้ใช้เงินสด…”

ฟางผิงเอ่ยต่อ “ครั้งนี้แค่อยากเชื่อมโยงกับทุกคน พยายามร่วมกันสักหน่อย เริ่มทำการเปลี่ยนแปลง ใช้คะแนนและแต้มของแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นมาตรฐานเดียวกัน มูลค่าเป็นมาตราฐานเดียวกัน เรียกให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน!”

เรื่องนี้ไม่ได้ยากจนเกินไป

เป็นปัญหาความคุ้นชินอย่างหนึ่งเท่านั้น

ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็ควักสมุดเล่มหนึ่งออกมา พูดประกอบว่า “นี่เป็นมาตรฐานง่ายๆ ที่ฉันทำขึ้นมา หนึ่งคะแนนเทียบเท่ากับเงินสดเงินหมื่น พวกนักศึกษาสามารถใช้คะแนนแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด ทั้งสามารถใช้เงินสดแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน สัดส่วนหนึ่งหมื่นต่อหนึ่งคะแนน…”

เห็นทุกคนมีอะไรอยากจะพูด ฟางผิงจึงเอ่ยทันที “ใช้เงินสดแลกเป็นคะแนนมีเงื่อนไขจำกัด ไม่ได้แลกเปลี่ยนอย่างไร้จำกัด อย่างเช่นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม ทุกปีมีโควต้าแลกเปลี่ยนห้าร้อยคะแนนหนือหนึ่งพันคะแนนเท่านั้น แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนมีเงินจะแลกเปลี่ยนคะแนนจำนวนมากเอาทรัพยากรออกไปจากมหาวิทยาลัย”

เหยาเฉิงจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของการใช้มารตรฐานเดียวกันอยู่ที่ไหน?”

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ฟังฉันพูดก่อน ทำให้แต่ละมหาวิทยาลัยมีมาตรฐานคะแนนเดียวกันเป็นแค่การเริ่มต้นอย่างหนึ่ง! ต่อจากนั้นกำหนดราคาให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน!”

“หืม?”

หวังจินหยางแววตาวูบไหว “ความหมายของนายคือมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใช้สามคะแนนแลกเปลี่ยนยาบำรุงเลือดและปราณหนึ่งเม็ด งั้นบนแพลตฟอร์มพวกนายจะไม่แบ่งแยกอีก แต่ใช้สามคะแนนเป็นมาตรฐานเดียวกัน?”

เมื่อคำพูดนี้ออกมา คนอื่นๆ ต่างสั่นสะท้านในใจ!

จะเป็นไปได้ไง!

ความแตกต่างของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปและมหาวิทยาลัยชื่อดังอยู่ที่ตรงนี้ ความยากในการได้รับทรัพยากร

หากใช้สามคะแนนเหมือนกันหมด นั่นหมายความว่าคะแนนที่พวกเขาใช้ซื้อยาบำรุงได้หนึ่งเม็ดก่อนหน้านี้ บางทีอาจจะสามารถแลกได้ถึงสามเม็ด!

ราคาต่างภายในนั้น ใครจะทดแทนให้?

นี่ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ แต่เป็นมูลค่าสูงลิ่ว!

บางทีจำนวนที่ขาดไปในแต่ละปีอาจจะสูงถึงหลายล้านล้าน!

ใครจะรับผิดชอบเรื่องนี้ให้?

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้งั้นเหรอ?

เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้!

ตอนนี้สายตาคนทั้งหมดต่างจับจ้องเข้ามา

ด้านข้างนั้น ฉินเฟิ่งชิงเบ้ปาก เมื่อวานก็เห็นแล้ว เขาบอกแล้วว่าฟางผิงทำเรื่องเสียแรงเปล่าๆ เรื่องนี้ไม่มีความหมายอะไร

มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะไปเอาเงินที่ไหนมาจ่ายให้?

ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์จากมหาวิทยาลัยเป่ยเจียงละล่ำละลักว่า “ฟางผิง กำหนดราคามาตรฐานที่นายพูดถึง คงไม่ได้ใช้มาตรฐานของมหาวิทยาลัยของพวกเราแต่ละแห่งใช่หรือเปล่า? หากเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นคงไม่มีความหมายอะไร”

“หรือจะยอมขาดทุนนิดหน่อย ใช้มาตรฐานของพวกมหาวิทยาลัยชื่อดังไม่กี่แห่ง?” มีคนเอ่ยถามหยั่งเชิง

หากใช้มาตรฐานของมหาวิทยาลัยชื่อดังอื่นๆ พวกเขาก็ได้กำไรแล้ว

ฟางผิงยิ้มตาหยีว่า “ไม่ใช่ ใช้มาตรฐานของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง! สามคะแนนต่อยาบำรุงเลือดและปราณหนึ่งเม็ด งั้นทุกคนก็สามคะแนนทั้งหมด”

หวังจินหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ฟางผิง นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น! หากเป็นแบบนั้นจริงๆ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะมีความต้องการเพิ่มขึ้น แม้พวกเราจะทำให้ยาบำรุงและอาวุธเป็นมาตรฐานเดียวกันแจกจ่ายออกไปก็ยังไม่เพียงพอ ภายในนั้นจะเกิดการขาดดุลจำนวนมาก ส่วนที่ขาดไปนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะชดใช้อย่างนั้นเหรอ?”

ฟางผิงส่ายหัวว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว รัฐบาลจะรับผิดชอบเอง!”

“ฟางผิง คำพูดนี้ก็ไม่มีความหมายแล้ว…”

มีคนไม่พอใจขึ้นมา หากรัฐบาลจะทำแบบนั้นจริงๆ คงจะทำไปนานแล้ว ยังต้องรอให้นายมาหลอกทุกคนอีกหรือไง

ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งไม่เชื่อ อันที่จริงรัฐบาลเตรียมจะทำแบบนี้อยู่แล้ว แค่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือ จากการรับสมัครนักศึกษาก่อนหน้านี้ก็น่าจะมองออกแล้ว ทรัพยากรบางอย่างต้องลดราคาลง ทั้งยังต้องเพิ่มการจัดสรรให้แต่ละมหาวิทยาลัย ดังนั้นตอนนี้ฉันถึงเสนอให้ทำเป็นมาตรฐานเดียวกัน เชื่อมต่อแพลตฟอร์มก็เพื่อผลักดันให้รัฐบาลเสร็จสิ้นนโยบายนี้ให้เร็วขึ้น พวกเราไม่พยายาม อาศัยให้รัฐบาลผลักดันอย่างเดียว งั้นยังต้องสิ้นเปลืองเวลาอีกนานเท่าไหร่ล่ะ? พวกเราพยายามด้วยตัวเอง ทำเรื่องราวให้พร้อมก่อน ให้รัฐบาลมาเคลื่อนไหวอีกเล็กน้อย นั่นก็ง่ายแล้ว ตอนแรกเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาหนึ่งปีถึงจะสำเร็จ พวกเราพยายามช่วงชิงด้วยกัน บางทีอาจจะใช้แค่สามเดือน ไม่ก็หนึ่งเดือนเท่านั้น!”

“ผู้ฝึกยุทธ์ต้องช่วงชิง! นี่เป็นประโยคที่ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเรารู้ดี แต่ตอนนี้…ทุกคนเคยคิดจะเป็นฝ่ายช่วงชิง เป็นฝ่ายพยายามเพื่อสิ่งเหล่านี้บ้างหรือเปล่า? ทำแบบขอไปที เมื่อก่อนทำแบบนี้ พวกเราก็แบบนี้ นี่เป็นความคิดของหลายคน แต่รุ่นก่อนคือรุ่นก่อน เวลานั้นคือเวลานั้น สถานการณ์ไม่เหมือนกันแล้ว! ทุกคนล้วนเป็นแนวหน้าของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ หรือสังเกตถึงสถานการณ์เลวร้ายไม่ได้เลย? แม้หลายคนกำลังจะจบแล้ว แต่เพราะใกล้จบแล้ว ทุกคนเลยคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องช่วงชิงเพื่อผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยแล้ว?”

“มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เป็นตัวแทนแค่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ นี่เป็นช่องทางรับสมัครนักศึกษาอย่างเปิดกว้างต่อทั้งสังคม ไม่ใช่สำนัก ตระกูล ทั้งไม่ใช่หน่วยทหารที่เป็นเรื่องของทหารอย่างเดียว พวกเราเป็นตัวแทนของสังคมทั้งหมด ประชาชนทุกระดับชนชั้น! พวกเราผลักดันเรื่องทั้งหมดนี้ งั้นบางเรื่องก็ทำง่ายขึ้นแล้ว ตอนนี้ต้องทำให้รัฐบาลเห็นท่าทีของพวกเรา…พูดตามตรง สำหรับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ผลักดันทั้งหมดนี้อันที่จริงไม่มีความหมายอะไร เดิมทีพวกเราก็ได้รับผลประโยชน์นี้อยู่แล้ว พวกเราเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ ตามหลักแล้วฉันอยากให้พวกนายไม่ต้องทำอะไรด้วยซ้ำ ปล่อยให้พวกเรารับผลประโยชน์แบบนี้ต่อไป แต่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนเป็นนักศึกษาเหมือนกัน พวกเรายืนอยู่แนวหน้าของหมู่นักศึกษา งั้นก็ต้องพิจารณาผลประโยชน์เพื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด…”

หลิวซื่อเจี๋ยจากมหาวิทยาลัยหวากั๋วที่เงียบมาโดยตลอด เอ่ยว่า “ถ้าทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เชื่อมต่อแพลตฟอร์มแล้ว สุดท้ายเพราะไม่อาจผลักดันนโยบายได้ งั้นแพลตฟอร์มก็อาจจะกลายเป็นของวางโชว์เฉยๆ น่ะสิ”

——————–