ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 476-3 ผลักดัน (3)
ตอนที่ 476 ผลักดัน (3)
………………..
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นี่จำเป็นต้องให้พวกเราทดลองดู พยายามดู! หลังจากนั้นความคิดของฉันคือให้พวกบริษัทใหญ่กลายเป็นผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ ให้พวกเขาเข้าร่วมด้วยตัวเอง แต่ละปีไม่จำเป็นต้องส่งยาบำรุงและอาวุธไปยังแต่ละมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ให้เป็นโควตาคะแนนแทน แบบนี้แล้วจะสามารถประหยัดปัญหาได้เยอะ ทั้งเพิ่มความโปร่งใสขึ้นอีก ประโยชน์ของแพลตฟอร์ม อันที่จริงเป็นช่องทางการแสดงสินค้าอย่างหนึ่ง…อีกอย่าง ฉันยังมีความคิดที่เป็นเด็กๆ อยู่บ้าง”
ฟางผิงคลี่ยิ้มว่า “ปัจจุบันนี้ผลผลิตที่ทุกคนได้มาจากถ้ำใต้ดินล้วนเป็นพวกบริษัทใหญ่รับซื้อโดยตรง…ความคิดของฉันคือหลังจากนี้เปิดพื้นที่ขายของแต่ละคนขึ้นมาโดยตรงบนแพลตฟอร์ม ตอนนี้แพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไป ทุกคนคงเห็นแล้วสินะ? มีการแข่งขันถึงจะมีแรงกดดัน ตอนที่พวกเรามีผลผลิตในถ้ำใต้ดิน ไม่ต้องขายให้บริษัทใหญ่พวกนั้นอย่างเดียวแล้ว แต่อาศัยแพลตฟอร์มดำเนินการซื้อขายส่วนตัว หรืออาจจะดำเนินการซื้อขายกับบริษัทบางส่วน แบบนั้นสถานการณ์ก็ไม่เหมือนกันแล้ว พวกเราสามารถใช้ทรัพยากรที่พวกเราไม่ต้องการไปแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรบางอย่างที่พวกเราต้องการ หลายคนอันที่จริงในมือมีของที่ตัวเองไม่ได้ใช้หลายอย่าง แต่เขาไม่อยากขายออกไป ทำไมล่ะ? เพราะเงินสดและคะแนน บางครั้งในมหาวิทยาลัยของตัวเองอาจจะซื้อของที่ตัวเองต้องการไม่ได้เสมอไป”
“แต่มีแพลตฟอร์มอยู่ ทุกคนถึงกระทั่งสามารถแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้…หากจะพูดให้เห็นภาพกว่านี้ ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนอาวุธวิเศษกันได้ด้วยซ้ำ! หรืออาจจะใช้หินพลังงานจำนวนมากไปแลกเปลี่ยนเป็นน้ำแร่ชีวิตบางส่วน หินพลังงานแลกเปลี่ยนเป็นผลไม้พลังงาน…เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นการดำเนินเรื่องทั่วไป ตอนนี้ทำไมถึงไม่มีการแลกเปลี่ยนซื้อขายแบบนี้? เพราะแวดวงของพวกเรายังคงจำกัดเกินไป! จำกัดอยู่ในพื้นที่เดียว จำกัดอยู่ในมหาวิทยาลัยเดียว จำกัดอยู่ในถ้ำใต้ดินเดียว!”
ฟางผิงถอนหายใจ เอ่ยต่อว่า “เมื่อก่อนพวกเราไม่มีเงื่อนไขนี้ รัฐบาลอยากจะผลักดันก็ยากที่จะทำได้ แต่ตอนนี้พวกเรามีเงื่อนไขนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ทำล่ะ? อย่าคาดหวังทุกเรื่องกับรัฐบาล แต่ละฝ่ายต่างงานล้นมือ กำลังยุ่งกับการต่อต้านถ้ำใต้ดิน เรื่องเล็กแค่นี้ ฉันคิดว่าพวกเราดำเนินการเองจะเหมาะสมกว่า แพลตฟอร์มออนไลน์ในสังคม ทุกคนเห็นแล้ว เพราะมีคนทดลองถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงกับการใช้ชีวิตได้ หากทุกคนไม่มีใครลอง นั่นยังจะมีแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างทุกวันนี้ได้ยังไง? เมื่อก่อนทรัพยากรหายาก แต่ตอนนี้ถ้ำใต้ดินมีถึงยี่สิบสามแห่ง ทรัพยากรยังหายากขนาดนั้นจริงๆ งั้นเหรอ? เอาแต่นายเก็บ ฉันเก็บ ไม่มีใครเอาออกมา จะเก็บไว้ใช้ตอนชราหรือไง? รอบนแพลตฟอร์มปรากฏของบางอย่างที่ทุกคนอยากได้ ทรัพยากรพวกนี้ต้องถูกนำออกมา เกิดการไหลเวียน เวลานั้นถึงจะสามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด…”
ชั่วเวลาสั้นๆ นั้นทุกคนต่างเงียบลง
เนิ่นนานก่อนจะมีคนถามว่า “งั้นแพลตฟอร์มจะให้ใครมาดำเนินการ?”
ฟางผิงเผยสีหน้าหมดคำพูด เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่าช่วงแรกต้องเป็นผู้ให้บริการในปัจจุบันนี้ ถึงช่วงหลังแล้วพวกเราอาจจะมอบให้รัฐบาลมาดำเนินการ เรื่องแบบนี้รัฐบาลเหมาะสมที่สุดแล้ว!”
“อีกอย่างแพลตฟอร์มเป็นแค่ช่องทางอย่างหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าแพลตฟอร์มจะครอบครองทรัพยากร ทุกคนเข้าใจความหมายฉันหรือเปล่า?”
มีคนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นั่นก็พูดยาก ถ้ามีของดีบางอย่างปรากฏขึ้น ฝ่ายผู้ให้บริการต้องเห็นเป็นอันดับแรก ถึงกระทั่งกักของเอาไว้ ไม่ให้คนอื่นๆ แลกเปลี่ยน…นี่เป็นเรื่องปกติสินะ?”
ฟางผิงขมวดคิ้วว่า “ยังไม่ทันได้ทำอะไร ตอนนี้กลับครุ่นคิดไปไกลแล้ว จะเร็วเกินไปหรือเปล่า? แน่นอนว่าหากทุกคนไม่วางใจจริงๆ งั้นก็เป็นผู้ให้บริการร่วมกัน ซึ่งเป็นความหมายนี้…แต่ละมหาวิทยาลัยจ่ายออกมาสี่ห้าร้อยล้าน ครองหุ้นส่วนในนั้น จากนั้นมอบหมายแพลตฟอร์มให้ฝ่ายหนึ่งมาบริการ แต่ละมหาวิทยาลัยกำกับดูแลหรือรัฐบาลมาดูแลโดยตรง แบบนี้คงจะได้แล้วสินะ?”
สี่ห้าร้อยล้าน สำหรับมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้หนึ่งแห่ง อันที่จริงไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ฟางผิงอธิบายไปแล้ว
แต่ยังคงมีคนเอ่ยอย่างแคลงใจว่า “งั้นหนึ่งแห่งจ่ายไม่กี่ล้านก็พอแล้ว…”
ฟางผิงแทบจะหลุดด่ามารดาออกมาแล้ว ฉีกยิ้มปลอมๆ ว่า “นั่นไม่ได้ หนึ่งแห่งออกสี่ห้าร้อยล้าน รวมกันเป็นสี่ห้าหมื่นล้าน อันที่จริงจะใช้เป็นเงินประกัน เงินนี้ไม่มีใครเก็บใส่กระเป๋าตัวเอง หลักๆ เพื่อป้องกันปัญหาบางอย่างที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ชดใช้หรือเกิดความเสียหายอย่างอื่น จากนั้นพวกเราจะใช้เงินนี้มาทดแทน อีกอย่างไม่มีเงินพวกนี้ก็ยากจะทำให้ทุกคนวางใจ พวกเราสามารถหาบุคคลที่สามมารับรอง ถึงกระทั่งนำเงินไปเก็บไว้ในบัญชีที่รัฐบาลจัดสรรไว้ ใช้ในยามที่จำเป็นในอนาคต”
“สี่ห้าร้อยล้านแลกเปลี่ยนกับหลังจากนี้พวกนายได้รับการปฏิบัติเหมือนมหาวิทยาลัยชื่อดัง เรื่องแค่นี้พวกเรายังคิดขัดแย้งในใจ งั้นก็แล้วไปดีกว่า พูดคุยต่อไปไม่มีประโยชน์เหมือนกัน ทุกคนถามใจตัวเองดูเถอะ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีความจำเป็นต้องผลักดันเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยหรือไง? บางคนอาจจะคิดว่าฉันได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ แต่ทุกคนลองคิดดู มีผลประโยชน์มากมายขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? อย่างมากฉันก็ให้บริษัทตัวเองรับผิดชอบบริการจัดส่ง ได้กำไรค่าเหนื่อยเล็กน้อย นี่น่าจะเป็นผลประโยชน์ที่มากที่สุดของฉันแล้ว แบบนี้ไม่ผิดสินะ?”
ด้านข้างนั้น ฉินเฟิ่งชิงมองเขาอย่างระแวง
เหมือนว่า…จะไม่มีผลประโยชน์มากมายอะไร
กระทั่งหุ้นส่วนแพลตฟอร์มยังต้องแบ่งกับแต่ละมหาวิทยาลัย อย่างมากฟางผิงก็ได้ส่วนแบ่งมากหน่อยเท่านั้น แต่นี่มีความหมายงั้นเหรอ?
ฟางผิงเอ่ยต่อ “หรือจะเอาแบบนี้ อย่างเช่นกำหนดมูลค่าแพลตฟอร์มหนึ่งแสนล้าน แบ่งเป็นหนึ่งพันหุ้น หนึ่งหุ้นหนึ่งร้อยล้าน แต่ละมหาวิทยาลัยแบ่งรับซื้อบางส่วน เงินที่รับซื้อ ฉันบอกไปแล้ว หลักๆ จะใช้กับการให้บริการแพลตฟอร์มหรือจ่ายส่วนอื่นๆ ไม่มีใครเอาเงินนี้ไปได้ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เสนอ รวมถึงผู้ริเริ่ม ฉันครอบครองหนึ่งร้อยสองร้อยหุ้นในมือแบบไม่เสียเงิน ทุกคนมีความเห็นว่ายังไง?”
ฟางผิงเห็นพวกเขาไม่พูดอะไร จึงเอ่ยต่อว่า “เดิมทีแพลตฟอร์มไม่ได้มีมูลค่า แต่พวกเราก็ต้องเซ็นยอมรับข้อตกลงก่อนลงมือเช่นกัน ไม่อนุญาตให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้น แบบนี้แล้วหุ้นส่วนมีเท่าไหร่ก็ไม่มีความหมายอะไร เป็นแค่ในนามเท่านั้น หากให้ทุกคนถือมากไป กลับจะทำให้พวกนายไม่มีคุณสมบัติโน้มน้าวใจคนอื่นได้…”
ค่าทรัพย์สินขาดอีกนิดจะถึงหนึ่งแสนล้าน ไม่งั้นเขาคงขี้เกียจจะเล่นเป็นเพื่อนคนพวกนี้
มีคนพึมพำว่า “จำเป็นต้องตีเป็นมูลค่าสูงถึงหนึ่งแสนล้านเชียวเหรอ?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ฉันบอกไปแล้ว นี่เป็นการแสดงความสำคัญต่อแพลตฟอร์มของพวกเรา ทั้งกระตุ้นให้รัฐบาลผลักดันนโยบายเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งพวกเราจัดสรรเงินประกันมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รัฐบาลรู้สึกถึงความเร่งรีบและจริงใจของมหาวิทยาลัยพวกเรามากเท่านั้น!”
“ทั้งเงินพวกนี้…สุดท้ายยังใช้กับพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่ใช่ถูกใครฮุบไว้คนเดียว!”
มีคนเอ่ยอีกว่า “งั้นถ้าสุดท้ายไม่สามารถผลักดันสำเร็จ ยาบำรุงและอาวุธไม่ลดราคา การคงอยู่ของแพลตฟอร์มก็ไม่ได้มีความหมายเท่าไหร่แล้ว…เงินพวกนี้จะจัดการยังไง?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “นั่นก็ถอนคืนให้แต่ละมหาวิทยาลัย ทุกคนเห็นต่างหรือเปล่า? จ่ายเงินเล็กน้อย แลกกับการได้รับทรัพยากรในอนาคตที่ถูกขึ้น ฉันคิดว่าเดิมทีทุกคนไม่ควรมีความลังเลใดใดด้วยซ้ำ!”
พวกเขาโต้แย้งกระซิบกระซาบกันขึ้นมา ผ่านไปสักพักก็มีคนเอ่ยว่า “เรื่องนี้พวกเรายังต้องสอบถามกับระดับสูงของมหาวิทยาลัยก่อน”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ทุกคนไปถามเถอะ ใช้โอกาสที่คนของรัฐบาลและฝ่ายต่างๆ อยู่ที่นี่ ยังพอจะสามารถหยั่งเชิงข้อมูลได้บ้าง สาเหตุที่ฉันไม่ไปพูดกับพวกเขาโดยตรง เพราะครุ่นคิดว่าพวกเราล้วนเป็นวัยรุ่น ทุกคนมีความคิดเปิดกว้างมากกว่า พลังของคนๆ เดียวมีจำกัด แต่พลังของทุกคนนั้นไร้จำกัด!”
“พวกเราไม่ได้เป็นตัวแทนของพวกเราเอง แต่เป็นตัวแทนของนักศึกษาหลายแสนคน ถึงกระทั่งชนชั้นคนธรรมดาที่มีความมุ่งมั่นจะเข้าสู่มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้! อยากได้รับของบางอย่าง ไม่ไปช่วงชิงด้วยตัวเอง หรือจะหวังให้โชคหล่นมาจากฟ้า? ฉันเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ตรงนี้ คงไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว สนใจแค่ตัวเอง หากเป็นแบบนั้นจริงๆ การสั่งสอนของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้คงล้มเหลวแล้ว!”
หวังจินหยางคลี่ยิ้มว่า “นายตำหนิออกมาขนาดนี้แล้ว งั้นพวกเราก็ต้องพยายามช่วงชิงกันสักหน่อย ฉวยโอกาสที่วันนี้ระดับสูงของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต่างอยู่ที่นี่ บางทีอาจจะได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว!”
ฟางผิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เหล่าหวังทำได้ดี!
—————-