ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 477-2 โลกนี้มีแค่หลี่ฉางเซิงคนเดียว (2)
ตอนที่ 477 โลกนี้มีแค่หลี่ฉางเซิงคนเดียว (2)
………………..
ฟางผิงรีบเอ่ยเช่นกัน “จริงๆ แล้วเป็นแค่การทดลอง ไม่ได้บอกว่าสุดท้ายแล้วแพลตฟอร์มนี้จะกลายเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายทรัพยากรของผู้ฝึกยุทธ์ที่ยอมรับจากรัฐบาล ผมแค่อยากทลายอุปสรรคการแลกเปลี่ยนระหว่างมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เท่านั้น ไม่ได้บอกว่าจะแทนที่การทำงานของบริษัทใหญ่และรัฐบาล แพลตฟอร์มทำไม่ถึงขั้นนั้นเหมือนกัน ก่อนที่ยาบำรุง อาวุธและหินพลังงานยังไม่ได้ยกเลิกการผูกขาด ประโยชน์ของแพลตฟอร์มก็เพื่อการซื้อขายที่สะดวกรวดเร็วเท่านั้น”
หัวหน้าโจวที่พูดก่อนหน้านี้เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเธอแล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาระงานรัฐบาล แต่ว่า…พวกเธอต้องเตรียมรายงานการทำงานให้ดี การหมุนเวียนของทรัพยากร…บางครั้งยังคงต้องกำกับดูแล”
“นี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้วครับ!”
ฟางผิงรีบเอ่ยว่า “พวกเรากำลังพยายามช่วยรัฐบาลขจัดปัญหาบางส่วนล่วงหน้าเหมือนกัน เตรียมพร้อมสำหรับผลักดันนโยบายหลังจากนี้”
พูดมาถึงตรงนี้ ด้านข้างนั้น ซูจ่านจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ถ้าจะซื้อขายบนแพลตฟอร์มจริงๆ มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งต้องจ่ายเงินประกัน?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่จ่ายเงินประกัน ความคิดของผมคือทุกคนล้วนเป็นเจ้าของ แพลตฟอร์มเป็นของทุกคน เพื่อป้องกันไม่ได้มหาวิทยาลัยบางส่วนเกิดความรู้สึกไม่อยากผลักดันเพราะไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับการตัดสินและให้บริการได้ จ่ายเงินออกมาซื้อหุ้นส่วนหนึ่ง มีผลต่อการกระตุ้นให้ทุกคนช่วยผลักดัน ไม่ใช่รอนั่งเสวยสุขอย่างเดียว”
“สี่ห้าร้อยล้านไม่ใช่เรื่องใหญ่ ประเด็นอยู่ที่จำเป็นต้องถึงขนาดนี้เลยหรือไง?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง “จำเป็นครับ ยังไงภายในนั้นก็เกี่ยวพันถึงเรื่องมากมาย หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น…อย่างน้อยแพลตฟอร์มก็จะมีเงื่อนไขตรงนี้ไปจัดการ อย่างเช่นนักศึกษาบางคนซื้อทรัพยากรหลายสิบล้าน สุดท้ายเกิดการสูญหาย…ความรับผิดชอบนี้ แพลตฟอร์มจะตรวจสอบสืบเสาะให้อย่างละเอียด แต่ไม่อาจจะให้รบกวนถึงการฝึกวิชาของนักศึกษา ดังนั้นจำเป็นต้องใช้เงินประกันทดแทนรอยรั่วพวกนี้ อีกอย่างแพลตฟอร์มเองจำเป็นต้องจ่ายเงินประกันให้สามบริษัทใหญ่เพื่อได้รับยาบำรุง อาวุธและหินพลังงานมาเช่นกัน คงไม่อาจรอให้การค้าขายสิ้นสุดลงแล้วพวกเราค่อยไปจ่ายเงินพวกนี้ได้หรอกมั้งครับ?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มไปทางประธานอาวุโสของบริษัทใหญ่พวกนั้น “มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ไม่อาจทำเรื่องอย่างติดเป็นเครดิตไปก่อนแล้วค่อยจ่ายเป็นเงินเหมือนกัน จุดนี้สามบริษัทใหญ่วางใจเถอะ พวกเราจะจ่ายเงินมัดจำก้อนหนึ่งล่วงหน้าเพื่อใช้ซื้อของพวกนี้”
ด้านข้างนั้น หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ไม่ใช่เงินเยอะแยะอะไร มาถึงระดับนี้กันแล้ว มหาวิทยาลัยไม่จ่าย พวกนายจ่ายกันเองไม่ใช่ปัญหาใหญ่ด้วยซ้ำ คนที่น่ารำคาญที่สุดคือพวกนาย แค่เรื่องเล็กๆ กลับต้องทำอย่างกับเป็นเรื่องใหญ่!”
มีคนเอ่ยอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่า “คณบดีหลู่ อย่าพูดแบบนี้เลยดีกว่า พวกเรา…ยังควักเงินเยอะขนาดนั้นออกมาไม่ได้หรอก”
ฟางผิงทำราวกับไม่ได้ยินคำพูดนี้ เอ่ยต่อว่า “ความคิดของผมคือแบ่งแพลตฟอร์มเป็นหนึ่งพันหุ้น หุ้นละหนึ่งร้อยล้าน ทุกคนซื้อได้ตามใจ ซื้อมากหน่อย หลังจากนี้จะได้สวัสดิการเยอะอยู่บ้าง ซื้อน้อย หลังจากนี้ก็จะได้น้อยหน่อย นี่เป็นเรื่องปกติ จำกัดมากสุดสิบหุ้น น้อยสุดห้าหุ้น ส่วนผมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่ม หลังจากนี้จะให้บริษัทผมรับผิดชอบให้บริการ ทุกคนกำกับดูแลร่วมกัน ทางบริษัทถือสองร้อยหุ้น อันที่จริงก็เป็นแค่การวางท่าที้เท่านั้น เพราะไม่สามารถซื้อขายได้ อันที่จริงสองร้อยหุ้นหรือสามร้อยหุ้นแทบไม่มีความหมายอะไร ประเด็นอยู่ที่ต้องสอดคล้องกับระเบียบให้บริการของบริษัท…”
เมื่อคำพูดนี้ออกมาก็มีคนเอ่ยอย่างหมดคำพูด “หมายความว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะไม่จ่ายเงิน?”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ต้องจ่ายเงินเหมือนกัน ซื้อสิบหุ้น ไม่อยู่ในสองร้อยหุ้นนั้น ทุกคน ผมบอกไปแล้ว แค่ทำให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของบริษัทเท่านั้น ยังไงก็ให้บริษัทมีหุ้นในนามเพื่อให้บริการ ป้องกันข้อพิพาทหลังจากนี้ หรือทุกคนยังอยากให้ผมจ่ายเงินสองหมื่นล้าน ซื้อหุ้นปลอมเปลือกพวกนี้? หากเป็นแบบนั้นจริงๆ…ทุกคนคิดว่ายังมีใครยินดีทำเรื่องนี้ งั้นก็ให้ไปทำเถอะ หากมีคนยินดีจริงๆ อย่าพูดว่าสองร้อยหุ้นเลย ให้ห้าร้อยหุ้นยังไม่มีปัญหา คุณจ่ายห้าหมื่นล้านก็จบเรื่องแล้ว”
ด้านข้างนั้นเฉินเย่าถิงคลี่ยิ้มว่า “พูดถึงขนาดนี้แล้ว…จะให้เธอจริงๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าพวกเราต้องทำสัญญากันล่วงหน้า หากพวกเธอคิดจะขายจริงๆ นั่นก็ต้องถอนตัวออกไปโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่อาจให้เงินพวกเธอสักแดงเดียว!”
ฟางผิงยิ้มเจื่อนๆ ว่า “ยังไงก็ต้องให้ค่าบริการสักหน่อยหรือเปล่าครับ?”
“นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ในเมื่อให้พวกเธอทำ เงินค่าบริการเล็กน้อยนั้น พวกเราไม่สนใจอยู่แล้ว”
ฟางผิงพยักหน้า มองไปทางคนอื่นๆ “ผู้อาวุโสทุกท่านคิดว่ายังไงบ้าง?”
หลายคนต่างพยักหน้า ไม่ได้เห็นต่างอะไร ควักสี่ห้าร้อยล้านออกมา…ทดลองดูก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ทำสำเร็จ สุดท้ายหากบรรลุถึงเป้าที่คาดหวังไว้จริงๆ ล้วนเป็นผลดีกับทุกคนอยู่แล้ว
ซูจ่านจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย “จำเป็นต้องให้บริษัทของฟางผิงรับหน้าที่นี้อย่างนั้นเหรอ? บริษัทที่อยู่ใต้สังกัดของมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็มีหลายแห่งที่ทำธุรกิจซื้อขายออนไลน์ เทียบกับบริษัทของฟางผิงแล้วมีเงื่อนไขเพียบพร้อมกว่า…”
นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของอำนาจ
หากถูกฟางผิง…ไม่สิ ถูกมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้คว้าอำนาจไป หลังจากนี้มหาวิทยาลัยปักกิ่งก็ยากจะพลิกตัวกลับมาจริงๆ แล้ว
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ เรื่องนี้ผมเป็นผู้ริเริ่ม ทั้งยังเป็นคนเสนอ ตอนนี้จะมาถีบผมออกไปซะแล้ว ไม่เหมาะสมอยู่บ้างหรือเปล่า? ผมจะพูดตรงๆ ละกัน มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังอันดับหนึ่ง รวมถึงผม บางทีอาจจะเป็นอธิการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ในอนาคต ผมมีใจอยากจะคว้าอำนาจผู้นำในครั้งนี้จริงๆ พูดเห็นแก่ตัวหน่อย นี่ถือเป็นสิ่งที่เพิ่มประสบการณ์บางอย่างให้ผมเหมือนกัน อย่างน้อยทำเรื่องนี้สำเร็จ หลังจากนี้ทุกคนจะนึกถึงผมแล้ว หากผมอยากเป็นอธิการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อย่างน้อยคงไม่มีคนรู้สึกว่าฟางผิงคนนี้มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม…”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็หัวเราะเสียงดังทันที!
หลายคนมองไปทางอู๋ขุยซาน เหล่าอู๋ยังนั่งในตำแหน่งไม่ทันไร มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้กลับมีคนจับจ้องตำแหน่งของเขาแล้ว!
อู๋ขุยซานกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกัน ไม่ได้มีท่าทีโมโหอะไร แค่เอ่ยหยอกว่า “ถ้าเธอมีความสามารถ ตำแหน่งอธิการนี้มอบให้เธอจะเป็นไรไป!”
หัวหน้าหวังกลับเอ่ยอย่างไม่พอใจว่า “เอาเถอะ พวกนายคิดว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เป็นถิ่นฐานของตัวเองจริงๆ หรือไง? กล้าพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าฉันเนี่ยนะ? หัวหน้าจางไม่อยู่ที่นี่ ไม่งั้นคงทำให้พวกนายได้เห็นดีแล้ว!”
เจ้าสองคนนี้คิดว่าตำแหน่งอธิการมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พูดว่าจะยกให้ใครก็ยกให้คนนั้นได้หรือไง?
ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการศึกษา พวกนายไม่อาจตัดสินใจได้หรอก
ฟางผิงเอ่ยหน้าระรื่นว่า “ผมก็กำลังพยายามอยู่ไม่ใช่เหรอครับ? ตอนนี้ผมทำเรื่องมากมายเพื่อมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ กระทรวงการศึกษาก็พอใจ ถึงเวลานั้นจะนึกถึงผลงานของผม ไม่แน่ว่าอาจจะให้ผมเป็นอธิการจริงๆ? ผู้ฝึกยุทธ์ต้องช่วงชิง…ผมก็อยากช่วงชิงสักหน่อยเหมือนกัน”
ทุกคนหัวเราะอีกครั้ง พูดความในใจออกมาอย่างชัดเจน บางเรื่องก็ทำง่ายขึ้นแล้ว
ทางมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ อู๋ขุยซานไม่ได้พูดอะไร ทุกคนไม่มีอะไรจะพูดเหมือนกัน
ซูจ่านกลับอยากพูดต่ออีก ต่อให้ฟางผิงพูดดูดียังไงก็คว้าอำนาจให้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อยู่ดี มหาวิทยาลัยปักกิ่งไม่ยินดีอยู่แล้ว
มหาวิทยาลัยแห่งอื่นไม่มีคุณสมบัติไปช่วงชิง แต่มหาวิทยาลัยปักกิ่งมีคุณสมบัตินี้
กำลังคิดจะเอ่ยปาก ครู่ต่อมาใบหน้าทุกคนต่างทยอยเปลี่ยนสี มองไปยังที่ไกลๆ!
เห็นเพียงกลางอากศนั้นปรากฏสะพานขนาดใหญ่ที่ยาวกว่าร้อยเมตรขึ้นมา!
ในเวลานี้ประตูขนาดใหญ่สามบานก็ตกลงมา
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาชั่วพริบตา!
ครู่ต่อมาในประตูสามบานก็มีประกายกระบี่พุ่งสูงเสียดฟ้าแผ่กระจายออกมา!
ประกายกระบี่สามสาย หลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างรวดเร็ว กลายเป็นกระบี่ขนาดใหญ่เล่มหนึ่ง!
“ทำไมถึงเร็วขนาดนี้?”
“ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งจะปล่อยออกมาข้างนอกได้ไม่ใช่หรือไง?”
“…”
หลายคนยังไม่ทันหายตกใจ ครู่ต่อมาฉากที่ทำให้คนตกตะลึงก็เกิดขึ้นอีกครั้ง
กลางอากาศ ปรากฏมนุษย์ตัวเล็กร่างทองสี่คนอย่างวับวาบ กลับมีคนหนึ่งถือกระบี่ ต่อสู้กับกระบี่ใหญ่กลางอากาศนั้นขึ้นมา
เวลานี้กระทั่งฟางผิงยังอึ้งเช่นกัน นี่มันเรื่องอะไร?
มนุษย์ตัวเล็กร่างทองสี่คน ถือกระบี่เล็กกำลังล้อมโจมตีกระบี่ยักษ์ที่อยู่ตรงกลางอย่างบ้าคลั่ง
ทั้งกระบี่ยักษ์ก็โต้กลับอย่างไม่ขาดสาย กระบี่ยักษ์ยิ่งฟันก็ยิ่งเล็กลงเรื่อยๆ!
——————
………………..