ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 478.2 งานเลี้ยงเลิกรา (2)
ตอนที่ 478 งานเลี้ยงเลิกรา (2)
………………..
ตาเฒ่าหลี่เบ้ปาก แม่งเหอะ คนใจเหี้ยมก็คือคนใจเหี้ยม
อู๋ขุยซานไม่พูดมากอีก ตระหนักอะไรบางอย่างได้ จู่ๆ ก็ด่าว่า “ไอ้สารเลว!”
“ผู้บัญชาการหลี่ตั้งใจช่วยนายหลอมกระบี่แห่งจิตวิญญาณ นายกลับ…แม่งเหอะ ฉันอยากฆ่านายให้ตายจริงๆ!”
ผู้บัญชาการหลี่เมตตาหลี่ฉางเซิงอย่างยิ่ง ถึงได้ตั้งใจส่งอักษรภาพนั่นมาให้ แม้จะเป็นขั้นสุดยอด อักษรภาพก็ไม่ใช่ว่าจะส่งให้กันได้ง่ายๆ
นั่นเพื่อช่วยหลี่ฉางเซิงขัดเกลากระบี่!
ผลลัพธ์กลับแล้วใหญ่ ตาเฒ่าหลี่เดินในเส้นทางหลอมหมื่นวิถีเป็นหนึ่ง ความหวังดีของผู้บัญชาการหลี่แทบจะเสียเปล่าแล้ว
ถ้าตาเฒ่าหลี่ไม่เดินเส้นทางนี้ หลังจากปรากฏพลังจิตใจ พลังจิตใจถูกเจตจำนงดาบหลอมสร้างขึ้นมา ความสามารถไม่อาจอ่อนด้อย อนาคตข้างหน้าจะยาวไกลกว่านี้
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “นั่นต้องใช้เวลา ผู้บัญชาการหลี่เป็นผู้ที่ปฏิบัติต่อคนแตกต่างกันไป หากสิบปีก่อนมอบอักษรภาพนี้ให้ฉัน งั้นฉันคงไม่เลือกเดินเส้นทางนี้หรอก ตอนนี้มาถึงขั้นไหนแล้ว ใครจะมีเวลาไปขัดเกลา”
“นาย…”
อู๋ขุยซานแค่นเสียง ก่นด่าอยู่ในใจ!
ผู้บัญชาการหลี่ส่งอักษรภาพพวกนี้มาสื่อความหมายได้หลายอย่าง
ถึงกระทั่ง…เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ คนอื่นๆ สามารถไปตายได้ แต่ตาเฒ่าหลี่ต้องถูกคุ้มครองไว้
ยอดฝีมือขั้นสุดยอดคนหนึ่งปกป้องขั้นแปดคนหนึ่ง นั่นยังไม่ใช่ปัญหา
แต่ตอนนี้ขั้นแปดที่ชีวิตไม่ยืนนาน ยังควรค่าให้ขั้นสุดยอดปกป้องอีกหรือไง?
ส่วนสิบปีก่อน…ตาเฒ่าหลี่สิบปีก่อนนั้นมีคุณสมบัติให้ขั้นสุดยอดสนใจด้วยหรือไง!
แม้จะเป็นฟางผิงในตอนนี้ ยังขาดคุณสมบัติอยู่เล็กน้อยเช่นกัน อัจฉริยะมีมากมาย ร้อยปีนี้มีอัจฉริยะแบบไหนไม่เคยปรากฏขึ้นบ้าง
หากวันใดฟางผิงไม่กลายเป็นปรมาจารย์ นอกจากเขาจะฆ่าขั้นแปดคนหนึ่งในขั้นหกได้ ไม่งั้นขั้นสุดยอดคงไม่อาจสนใจเขาจริงๆ
ตอนที่พวกเขาคุยกัน ปรมาจารย์คนอื่นๆ ก็ออกห่างจากที่นี่แล้ว
ฟางผิงไม่อยากพูดมากอีก คนอื่นๆ ไม่มีใจจะถามเช่นกัน ในความเงียบ จู่ๆ ฟางผิงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้เฒ่าหลี่ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่งคนนั้นยังถลึงตามองคุณอยู่เลย!”
ตาเฒ่าหลี่ฟังจบก็ถลึงตาใส่ฟางผิง ก่อนจะหันไปมองซูจ่านที่เผยสีหน้าขุ่นเคืองอยู่ไกลๆ นั้น เอ่ยอย่างเหิมเกริมว่า “ถ้านายมองอีก! รอดูฉันไปทุบหัวนายกลางทางแล้วฝังไปในบ่อส้วมเถอะ!”
ซูจ่านหน้าดำเป็นก้นหม้อ ผ่านไปสักพักก็เอ่ยว่า “ทำไม?”
“ทำไมอะไร?”
ตาเฒ่าหลี่หัวเราะอย่างดูแคลน “นายคิดว่าฉันจะขี้ขลาดตาขาวเหมือนนาย! ฉันขั้นหกฟันขั้นแปด ขั้นแปดก็จะฟันขั้นเก้า ฉันเคยฉันกดหัวนายได้หนึ่งวัน ก็กดหัวนายได้ชั่วชีวิต! เต่าชราอย่างนายจะเข้าใจอะไร ผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่สามารถสร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โต ยังจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์?”
ซูจ่านเงียบไม่ส่งเสียง
ฟางผิงเห็นแบบนั้นก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ซู เรื่องแพลตฟอร์มตอนนี้คุณน่าจะไม่เห็นต่างแล้วสินะครับ?”
ซูจ่านมองเขาแวบหนึ่ง เนิ่นนานก่อนจะเอ่ยว่า “แล้วแต่พวกเธอ…แต่ว่า…”
พูดได้ครึ่งเดียว ซูจ่านก็ไม่อยากพูดแล้ว
ตอนนี้มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มาถึงจุดที่แทบจะบ้าคลั่งแล้ว ในความคิดของเขา ทั้งใจร้อนและอยากจะเห็นผลสำเร็จทันตาไปอยู่บ้าง
แต่นี่เป็นเส้นทางที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เลือกเอง ในเมื่อมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะเดินแบบนี้ เขาก็ไม่มีอะไรต้องพูด
ตาเฒ่าหลี่เดินในเส้นทางหมื่นวิถีรวมเป็นหนึ่ง ชีวิตยังแลกออกไปแล้ว เรื่องนี้สำคัญมากกว่าแพลตฟอร์มซะอีก
แค่แพลตฟอร์มออนไลน์เล็กๆ ตอนนี้แทบไม่มีความสำคัญอะไร
ซูจ่านไม่ได้คัดค้าน หมายความว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งเลิกล้มความคิดนี้ เรื่องนี้ก็ทำง่ายขึ้นแล้ว
—
งานเลี้ยงยังดำเนินต่อไป
ตอนนี้พวกปรมาจารย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างคิดล่องลอยไปไกลอยู่บ้าง
หลี่ฉางเซิงหลอมหมื่นวิถีเป็นหนึ่งแล้ว!
ก่อนที่จะมาถึงที่นี่แทบไม่มีใครตระหนักได้ว่าจะเกิดฉากนี้ขึ้นมา
แต่คนอื่นอาจไม่ตายเสมอไป ทว่าหลี่ฉางเซิงกลับต้องตายอย่างแน่นอน นี่เป็นเรื่องในไม่ช้าก็เร็วนี้
ในตอนที่พวกปรมาจารย์กำลังคิดซับซ้อน ฟางผิงราวกับลืมเรื่องนี้ไป นำเอกสารหลายฉบับไปให้ทุกคนเซ็น
“มหาวิทยาลัยหนานเจียงซื้อแค่ห้าหุ้น? ขี้เหนียวขนาดนี้เลย?”
“มหาวิทยาลัยปักกิ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง หนึ่งพันล้านไม่นับว่าเรื่องใหญ่อะไร ให้พวกคุณซื้อหนึ่งพันล้านเลยแล้วกัน ปรมาจารย์ซู คุณช่วยเซ็นชื่อหน่อย”
“…”
“ผู้เฒ่าเฉิน มหาวิทยาลัยจิงหนานก็เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดัง ซื้อสักสิบหุ้นเป็นยังไง?”
“…”
“โรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งก็เป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนเตรียมทหาร สิบหุ้นคงไม่เยอะสินะครับ…”
ฟางผิงฉวยโอกาสระหว่างที่ทุกคนกำลังคิดสับสน ถือเอกสารให้แต่ละมหาวิทยาลัยซื้อหุ้นอย่างไม่อิดออด
มหาวิทยาลัยบางแห่งรู้สึกว่ายังจำเป็นต้องหารือกัน ฟางผิงก็ไม่พูดมาก ไม่คิดตอแย แค่พูดเป็นนัยออกไปว่าไม่เซ็น…งั้นหลังจากนี้อาจจะถูกลากระยะห่างจากมหาวิทยาลัยแห่งอื่น
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซ็นชื่อถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่เซ็น นั่นก็ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน
เดินไปรอบๆ นั้นก็มีมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซ็นไปเจ็ดสิบเจ็ดแห่งแล้ว โรงเรียนเตรียมทหารสามแห่งก็เซ็นเช่นกัน
น้อยสุดซื้อสามหุ้น มากสุดสิบหุ้น
คำนวณทั้งหมดแล้วซื้อประมาณสี่ร้อยหุ้น
ฟางผิงไม่ใส่ใจเช่นกัน ไม่นานก็แก้ไขข้อกำหนดเล็กน้อย ให้ทุกคนเซ็นชื่อต่อ ครั้งนี้ไม่เอาหนึ่งพันหุ้นแล้ว ทั้งหมดแค่ห้าร้อยหุ้น
แพลตฟอร์มหยวนฟางเหลือไว้หนึ่งร้อยหุ้นพอเป็นพิธี
ทั้งหมดห้าร้อยหุ้นหรือหนึ่งพันหุ้น สำหรับฟางผิงเป็นความแตกต่างของหนึ่งหมื่นล้านหรือสองหมื่นล้านเท่านั้น
ไม่ว่าจะหนึ่งหมื่นล้านหรือสองหมื่นล้าน เขาล้วนสามารถแตะถึงเงื่อนไขอัปเกรดของระบบ
ตอนนี้กลัวก็แต่ว่าระบบจะไม่ยอมรับ
ปากพูดว่าลงถ้ำใต้ดินครั้งหนึ่งได้ห้าหมื่นล้าน
แต่ลงถ้ำใต้ดิน ไม่ไปขุดแร่เมืองราชาแทบไม่สามารถหาเงินเยอะขนาดนั้นได้
แหล่งแร่พลังงานไม่ได้มีอยู่กลาดเกลื่อน
สองครั้งก่อนนั้นล้วนนับว่าโชคดี หากโชคไม่ดี ลงถ้ำใต้ดินโดยไม่ได้อะไรเลยก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
ค่าทรัพย์สินเกือบหนึ่งหมื่นล้าน ฟางผิงไม่รู้ว่ายังต้องรอถึงเมื่อไหร่
ทั้งเขาต้องใช้ค่าทรัพย์สินเช่นกัน ครั้งหน้าหากเจอของอะไรใหญ่ๆ แบกกลับมาไม่ได้ ยังต้องขยายช่องเก็บของ ค่าทรัพย์สินไม่ถึงแสนล้าน เสียไปอาจไม่สามารถสะสมได้เยอะขนาดนี้อีกแล้ว
ยุ่งอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดสัญญาก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ส่วนเงิน รอแพลตฟอร์มเชื่อมต่อบนอินเทอร์เน็ตแล้ว คนพวกนี้ถึงจะโอนเงินเข้ามา ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
“หวังว่าจะไม่มีปัญหา!”
ฟางผิงถอนหายใจ ครั้งนี้หากสำเร็จ ครั้งหน้าระบบอัปเกรดก็มูลค่าล้านล้านแล้ว!
พอนึกถึงล้านล้าน…ฟางผิงรู้สึกว่าอย่าไปนึกถึงดีกว่า
นอกจากจะไปปล้นน้ำแร่ชีวิตของพื้นปีศาจขั้นเก้า ไม่งั้นก็ไปขุดแหล่งแร่ขนาดใหญ่ของเมืองราชา ทั้งไม่ใช่ขุดแค่เล็กน้อย แต่ต้องขุดออกมาจำนวนมาก
ขุดเยอะขนาดนั้น นอกจากพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจผู้พิทักษ์จะตาย ไม่งั้นต้องถูกพบตัวแน่
“แสนล้าน…ถ้าอัปเกรดแล้ว ระบบจะมีคุณสมบัติใหม่อะไรเพิ่มเข้ามา?”
ฟางผิงจมดิ่งในความคิด
—
จัดการเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว ฟางผิงก็เริ่มกินดื่มกับทุกคน
วันนี้ฟางผิงดื่มไปไม่น้อย
ปรมาจารย์ของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ก็ดื่มกันหนักจนตาแทบลืมไม่ขึ้นเช่นกัน
จวบจนใกล้จะจบงาน ฟางผิงเพิ่งเห็นฉินเฟิ่งชิงวิ่งกลับมาอย่างโมโห
เจ้าหมอนี้ไม่ได้ไปล้างแค้นกับอู๋ขุยซาน แต่ไปหาเฉินเฮ่าหราน ชวนเขาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไปแลกเปลี่ยนความรู้กันเย็นนี้ต่อ
ฟางผิงได้ยินก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
—
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป
จวบจนบ่ายโมงบ่ายสอง พวกแขกเหรื่อค่อยจะแยกย้ายกันไป
คล้อยหลังจากที่พวกแขกสลายตัวแล้ว เรื่องที่หลี่ฉางเซิงหลอมหมื่นวิถีเป็นหนึ่งก็ถูกแพร่กระจายในแวดวงปรมาจารย์
เรื่องราวทั้งหมดนี้ คนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่คิดสนใจอีกแล้ว
ฟางผิงส่งทุกคนออกไป รวมถึงฟางหยวนที่ได้รับอะไรกลับไปเยอะแยะเช่นกัน
ฟางหยวนและเฉินอวิ๋นซีสนิทสนมกันขึ้นมา ฟางผิงไม่ได้สนใจมากมาย มีความสุขก็ดีแล้ว มีความสุขหนึ่งวันก็นับสุขหนึ่งวัน
——————-