ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 479.2 ระบบอัปเกรดอีกครั้ง (2)
ตอนที่ 479 ระบบอัปเกรดอีกครั้ง (2)
………………..
พูดจบ ฟางผิงก็ไม่สนใจเขาอีก เริ่มตรวจสอบตัวเลขข้างหน้า
ทรัพย์สิน : 102,200,000,000 (เปลี่ยนแปลง)
ปราณ : 6999 แคล (6999 แคล)
จิตใจ : 929 เฮิรตซ์ (929 เฮิรตซ์)
หลอมกระดูก : 177 ชิ้น (100%) , 29 ชิ้น (90%)
ช่องเก็บของ : 32 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพยสินหนึ่งหมื่นต่อนาที
ค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่ถึงหนึ่งหมื่นล้าน แต่ความแตกต่างไม่ได้เยอะมาก น่าจะประมาณเก้าพันเก้าร้อยล้าน ฟางผิงสามารถเข้าใจได้ ยังไงเว็บไซต์ก็ลงทุนเงินไปบางส่วนเช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ค่าทรัพย์สินก็ถึงหนึ่งแสนล้านแล้ว!
ฟางผิงลอบดีใจ ในที่สุดก็หนึ่งแสนล้านแล้ว ระบบยอมรับมูลค่าของแพลตฟอร์มในครั้งนี้
ห้าร้อยหุ้น ฟางผิงถืออยู่หนึ่งร้อยหุ้น สี่ร้อยหุ้นที่เหลือราคาสี่หมื่นล้าน เงินพวกนี้บอกว่าเป็นราคาหุ้นของแพลตฟอร์ม อันที่จริงไม่ใช่มูลค่าของแพลตฟอร์ม
แต่ระบบยังคงยอมรับ!
ฟางผิงมองกระดานระบบที่ดำมืดไปชั่วพริบตา ไม่ได้สนใจ นี่เป็นสิ่งที่ระบบทำเมื่อจำเป็นต้องอัปเกรด เป็นเรื่องดี
ตอนนี้สิ่งที่ฟางผิงครุ่นคิดคือเรื่องของบริษัท จะต้องใส่ใจสักหน่อยหรือเปล่า?
เงินบนกระดาษพวกนี้ อันที่จริงหาง่ายกว่าเงินจริงๆ ซะอีก
หนึ่งล้านล้าน…บางทีอาจจะสามารถหามาจากทางบริษัทได้
หนึ่งล้านล้าน หากเป็นทรัพยากร นั่นเป็นตัวเลขที่สูงลิ่ว
แต่ถ้าเป็นบริษัทมูลค่าล้านล้าน…แม้จะยากอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้เสมอไป
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็มองไปทางเฉินอวิ๋นซี “ถ้ามีเวลาว่างช่วยฉันดูแลบริษัทหยวนฟางหน่อย ยังไงขยับขยายออกไปก็เพียงพอแล้ว เดี๋ยวฉันจะลองทำมูลค่าตลาดหนึ่งล้านล้านออกมาเล่นๆ ดู…”
ฉินเฟิ่งชิงที่ยังไม่ไปไหน หมดคำจะพูดอยู่บ้าง
เจ้าหมอนี้…เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระพวกนี้อยู่ตลอด
บางครั้งเงินก็ไม่มีประโยชน์
อย่างเช่นนายมีเงินหนึ่งหมื่นล้าน แต่ก็อาจซื้อาวุธวิเศษไม่ได้เสมอไป
แน่นอนว่าเงินไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนกัน อย่างน้อยยาบำรุงและหินพลังงานพวกนี้ยังใช้เงินซื้อได้
สำหรับพลังอำนาจ ประโยชน์ของเงินก็มีไม่น้อยเหมือนกัน
แต่ฟางผิง มีความจำเป็นต้องทำบริษัทด้วยตัวเองด้วยหรือไง?
เขาไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรขนาดนั้นสักหน่อย!
ฉินเฟิ่งชิงคิดไม่ตก เฉินอวิ๋นซีกลับไม่ได้ใส่ใจ พยักหน้าเบาๆ ลอบตื่นเต้นในใจอยู่บ้าง
ฟางผิง…นึกไม่ถึงว่าจะมอบบริษัทให้เธอดูแล!
นี่นับว่าอะไร?
ไว้ใจเธอแล้วงั้นเหรอ?
หรือว่า…จะมอบทรัพย์สินตระกูลให้แล้ว?
—
ฟางผิงไม่รั้งตัวอยู่ที่สมาคมผู้ฝึกยุทธ์นาน
หลายวันต่อจากนั้น ฟางผิงไม่มีใจจะฝึกวิชาด้วยซ้ำ
การอัปเกรดของระบบ ครั้งนี้ใช้เวลาไม่ใช่น้อยๆ
จวบจนถึงวันที่ 7 เมษายน ระบบเพิ่งจะอัปเกรดเสร็จสิ้น
ในหอพัก ฟางผิงรีบตรวจสอบการอัปเกรดของระบบ
ช่องเก็บของ : 32 ลูกบาศก์เมตร (+)
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพยสินหนึ่งหมื่นต่อนาที (+)
เลียนแบบกลิ่นอาย : ค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนต่อนาที (+)
“หมายความว่าไงกัน?”
รอจนเห็นตัวเลขล่าสุดบนกระดานของระบบแล้ว ฟางผิงก็เผยสีหน้าขุ่นเคือง!
แค่นี้?
อัปเกรดตั้งหนึ่งแสนล้าน!
ผลลัพธ์มีแค่นี้?
มีแค่เลียนแบบกลิ่นอายเพิ่มมา ครั้งนี้ฟางผิงพอจะเดาประโยชน์ของคุณสมบัตินี้ได้ เลียนแบบกลิ่นอายหรือจะพูดว่าเลียนแบบพลังงาน
ก่อนหน้านี้ม่านพลังงานมีหน้าที่ปิดบังพลังงาน ไม่ได้รับผิดชอบเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายด้วย
ก่อนหน้านี้ฟางผิงทำได้แค่ขุดดินอย่างลับๆ ล่อๆ สร้างคลื่นพลังงานให้ตัวเองเล็กน้อย พอจะปิดบังผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำทั่วไปได้ แต่ถึงระดับสูงแล้ว คลื่นพลังงานเล็กน้อยนั้นของเขา อันที่จริงแทบจะถูกมองออกได้ง่าย
ตอนนี้คุณสมบัติใหม่นับว่าช่วยซ่อมแซมจุดนี้ บางทีอาจจะสามารถเลียนแบบคลื่นพลังงานของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำได้อย่างแท้จริง
คุณสมบัตินี้ยอดเยี่ยม ทักษะปลอมตัวนับว่าประสบผลสำเร็จแล้ว
แต่การอัปเกรดของค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนล้าน มีแค่จุดนี้เพิ่มขึ้นมา ฟางผิงสีหน้าดูไม่ได้อยู่บ้าง!
ครั้งต่อไปก็เป็นหนึ่งล้านล้านแล้ว!
หนึ่งล้านล้านต้องใช้เวลากี่ปีกี่เดือน?
“ไม่สิ…ข้างหลังยังมีเครื่องหมายบวก!”
ผลปรากฏว่า…ครั้งนี้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นมา
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที (+1 , ค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนต่อนาที+)
ฟางผิงเผยแววตาแปลกออกไป ครู่ต่อมาฟางผิงก็เพิ่มเครื่องหมายบวกอีกครั้ง
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที (+2 , ค่าทรัพย์สินหนึ่งล้านต่อนาที+)
ฟางผิงลูบคาง พึมพำว่า “เครื่องหมายบวกยังอยู่! สามารถเพิ่มต่อได้…”
ฟางผิงกัดฟัน ลองเพิ่มเครื่องหมายอีกครั้ง
หลังจากนั้นสักพัก ตัวเลขก็เปลี่ยนไปแล้ว
ม่านพลังงาน : ค่าทรัพย์สินหนึ่งหมื่นต่อนาที (+3 , ค่าทรัพย์สินสิบล้านต่อนาที+)
ฟางผิงรีบหยุดทันที ไม่นานตัวเลขข้างหลังก็หายไป
ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ สิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินของฟางผิงไปกว่าสิบล้าน!
“คะ…เครื่องหมายบวกนี้ หรือว่า…”
ฟางผิงตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง แววตาเป็นประกายขึ้นมา เอ่ยอย่างสั่นสะท้าน “หรือว่า…นี่คือเพิ่มม่านพลังงานให้คนอื่นงั้นเหรอ?”
“หากเป็นแบบนั้นจริงๆ…”
ฟางผิงนึกถึงเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งได้ทันที!
ถ้าเขาคาดเดาไม่ผิด ผู้ฝึกยุทธ์ที่เพิ่มม่านพลังงานให้จะมีข้อจำกัดเรื่องความสามารถ?
ถ้าไม่มี งั้นหากเขา…ให้ม่านพลังงานกับยอดฝีมือขั้นสุดยอด อำพรางขั้นสุดยอดไว้สี่ห้าคนไปจู่โจมยอดฝีมือถ้ำใต้ดิน ไม่ได้หมายความว่าจะฆ่าอีกฝ่ายได้อย่างรวดเร็ว?
“เรื่องนี้…เรื่องนี้…น่าจะมีข้อจำกัดใช่หรือเปล่า?”
ฟางผิงใจเต้นกระหน่ำ ถ้าไม่มีข้อจำกัด งั้นคุณสมบัติเล็กๆ ไม่โดดเด่นนี้ ถึงกระทั่งเพียงพอจะพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ของมนุษย์ชาติได้!
ทำไมขั้นสุดยอดถึงไม่ล้อมฆ่าพวกถ้ำ?
ผู้อาวุโสขั้นสุดยอดหลายสิบคน ฆ่าขั้นสุดยอดถ้ำใต้ดินคนเดียวไม่ได้หรือไง?
ขั้นสุดยอดของมนุษย์หลายสิบคนรวมตัวกัน แค่ความเกรงขามนั้นก็ไม่อาจอำพรางได้แล้ว คนทั่วไปไม่อาจค้นพบ แต่ยอดฝีมือระดับเดียวกันสามารถรับรู้ได้แน่
ดังนั้นเรื่องแบบนี้ไม่มีประโยชน์
ไม่พูดถึงใกล้ๆ รอบนอกถ้ำใต้ดิน ขั้นเก้าสุดยอดของมนุษย์เข้ามา แทบจะถูกขั้นสุดยอดในส่วนลึกรับรู้ได้ทันที แม้จะห่างกว่าพันลี้หมื่นลี้ก็ตาม
“ตกลงมีข้อจำกัดหรือเปล่า?”
“อีกอย่าง ไม่ใช่แค่ม่านพลังงาน ยังมีการเลียนแบบกลิ่นอายที่มีเครื่องหมายบวกเพิ่มขึ้นมา หากสามารถเลียนแบบกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำได้จริงๆ งั้นให้ขั้นเก้าขั้นสุดยอดเลียนแบบกลิ่นอายของพวกเขา…ไม่สิ ให้พวกตาเฒ่าหลี่ปลอมเป็นผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ ไม่ใช่ว่าจะฆ่าใครก็ได้แล้วหรือไง?”
นึกมาถึงตรงนี้ ฟางผิงก็นั่งไม่ติดที่แล้ว!
คุณสมบัติสองอย่างนี้ บางทีอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง!
ช่วงเวลานั้นฟางผิงก็รู้สึกถึงความสำคัญของตัวเองขึ้นมา
—
สมาคมผู้ฝึกยุทธ์
ฟางผิงถลาเข้าไปข้างในแล้วก็เรียกใช้เครื่องหมายบวกที่ม่านพลังงานขึ้นมาอีกครั้ง ในหัวเขาปรากฏภาพอย่างเลือนรางขึ้นมา
ฟางผิงนึกถึงเฉินอวิ๋นซีทันที!
ครู่ต่อมาเฉินอวิ๋นซีที่เผยสีหน้างุนงงอยู่ตรงหน้าก็ไม่มีกลิ่นอายแล้ว!
เฉินอวิ๋นซีนั้นสัมผัสอะไรไม่ได้ ทำเพียงมองฟางผิงอย่างงุนงงอยู่บ้างเท่านั้น ฟางผิงเข้าประตูมาก็ยืนมองเธอนิ่งๆ เธอจะไม่กระอักกระอ่วนได้หรือไง
“ได้จริงๆ ด้วย!”
ฟางผิงเผยสีหน้าดีใจ กลับไม่พูดจาอะไร วิ่งออกไปข้างนอกทันที
—
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
“ไม่ได้เหรอ!”
ฟางผิงสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก อดก่นด่าไม่ได้ “ฉันว่าแล้ว แม่งเหอะ เล่นกับความรู้สึกชัดๆ!”
หวงจิ่งหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน!
ฟางผิง…เหิมเกริมถึงขั้นนี้แล้วจริงๆ!
เขานั่งอยู่ในห้องทำงานดีๆ ฟางผิงก็บุกเขามาถลึงตาใส่เขาเป็นอันดับแรก ก่อนจะด่าขึ้นมาซะงั้น…
นี่…นี่แม่งจะรังแกกันเกินไปแล้ว!
เธอคิดจะชิงอำนาจ ฉันก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้เธอสักหน่อย?
เธอเห็นฉันไม่ได้เรื่องเลยหรือไง?
หวงจิ่งโมโหแทบระเบิด เผยสีหน้าดำคล้ำ ไม่พูดพร่ำอะไรก็ซัดฝ่ามือออกไปทันที!
ฟางผิงเผลอยกมือโต้กลับโดยอัตโนมัติ…
หวงจิ่งบันดาลโทสะ ด่ากราดว่า “เธอยังกล้าโต้กลับ! ฉันไม่เคยไปทำอะไรเธอด้วยซ้ำ เข้าประตูมาก็ด่า ยังกล้าลงมือกลับอีก! นี่จะก่อกบฏหรือไง?”
หวงจิ่งระเบิดโมโห เรื่องนี้ไม่อาจรับได้แล้วจริงๆ!
ตอนนี้ฟางผิงเริ่มดึงสติกลับมาแล้ว สีหน้าเปลี่ยนอย่างหนัก รู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างยิ่ง ละล่ำละลักว่า “อธิการ ผมไม่ได้ด่าคุณ จริงๆ นะครับ ผมรับประกันได้ ต่อให้กล้าขนาดไหนก็ไม่ถึงกับกล้าด่าคุณหรอก…”
หวงจิ่งไหนเลยจะฟังคำอธิบายของเขา ครู่ต่อมาภายใต้ความโมโหก็ไม่จู่โจมผ่านอากาศอีกแล้ว ลงมือด้วยตัวเองโดยตรง คว้าแขนของฟางผิงก่อนจะโยนออกไปนอกหน้าต่างสุดแรง!
ครั้งนี้หวงจิ่งทุ่มสุดกำลัง!
ฟางผิงลอยละลิ่วออกไปอย่างรวดเร็ว กึ่งร่างทองแทบจะเสียดสีกับอากาศจนเกิดประกายไฟ เกิดเสียงระเบิดมาตลอดทาง แหวกผ่านอากาศไป
เวลานี้หวงจิ่งค่อยแค่นเสียงในลำคอ พอใจอยู่บ้าง
เขาพอจะเดาได้เช่นกันว่าฟางผิงไม่ได้ด่าตัวเอง เจ้าเด็กนั่นต่อให้ไม่น่าเชื่อถือยังไงก็ยังไม่เหิมเกริมถึงขั้นวิ่งมาด่าเขาถึงห้องทำงานได้หรอก
แต่ในเมื่อผิดพลาดไปแล้ว งั้นก็ทำผิดให้เป็นผิดซะ ฉวยโอกาสจัดการเจ้าเด็กนั่นค่อยว่ากัน
ส่วนครั้งนี้โยนฟางผิงออกไปไกลขนาดไหน…หวงจิ่งทอดมองไปเล็กน้อย น่าจะโยนออกไปหลายพันเมตร เจ้าเด็กนี่หลอมผิวหนังหนาแล้ว น่าจะไม่เป็นไร
———————
………………..