ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 480.2 ทดลองคุณสมบัติใหม่ (2)
ตอนที่ 480 ทดลองคุณสมบัติใหม่ (2)
………………..
ซ่งอิ๋งจี๋เดือดดาลขึ้นมา ถังเฟิงก็สีหน้าดำคล้ำเช่นกัน ต้องจัดการฉินเฟิ่งชิงสักหน่อยแล้ว!
ด้านข้างนั้นฟางผิงก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน กำลังสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับจางอวี่ รอจน ‘เข้าใจ’ ว่าเรื่องเป็นมายังไง ฟางผิงก็เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ฉินเฟิ่งชิง ทำเกินไปแล้ว! นึกไม่ถึงว่านายจะดีดหน้าผากอาจารย์ซ่ง ทั้งยังรังแกถังเหวินและหลัวเซิงอีก กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสองยังรังแก ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า? รีบขอโทษเดี๋ยวนี้!”
ฉินเฟิ่งชิงขุ่นเคืองอย่างยิ่ง เอ่ยด้วยสีหน้าราวกับจะร้องไห้ “เปล่าสักหน่อย ไม่ใช่ฝีมือฉัน! ฉันถูกใส่ร้าย ต้องมีคนใส่ร้ายฉันแน่ๆ!”
ฟางผิงเอ่ยอย่างจริงจัง “หรือนายจะบอกว่าเป็นฉัน? นึกไม่ถึงว่านายจะแกล้งทำเสียงฉัน ฉันโง่เหมือนนายขนาดนั้นหรือไง?”
จู่ๆ ฉินเฟิ่งชิงก็นึกอะไรได้ มองฟางผิงอย่างสงสัย เห็นคนอื่นๆ มองตัวเองก็เอ่ยเสียงดังทันที “ฉันถูกใส่ร้าย ฉันมีหลักฐาน!”
พูดจบฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยทันที “ต้องเป็นฝีมือฟางผิงแน่นอน เจ้าหมอนี่โหดเหี้ยมที่สุดแล้ว! อาจารย์ถัง วันนี้ผมฝึกวิชาที่ห้องพลังฟ้าดินทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหนเลย อาจารย์จางเป็นพยานได้ เขาอยู่ที่นี่ตลอดเหมือนกัน!”
ด้านข้างนั้น อาจารย์ที่เพิ่งถูกโยกย้ายมาดูแลห้องแหล่งพลังงานฟังจบก็เอ่ยว่า “วันนี้งั้นเหรอ? วันนี้ฉินเฟิ่งชิงไม่ได้ออกไปไหนจริงๆ ฉันยังคิดว่าเป็นเรื่องก่อนหน้านี้ซะอีก…”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็มองไปทางฟางผิงอย่างพร้อมเพรียงกัน
ฟางผิงใบหน้าแข็งทื่อ เจ้าฉินเฟิ่งชิงเก็บตัวไม่ได้ออกไปไหนเลยงั้นเหรอ?
ฉันยังคิดว่าเขาออกไปข้างนอกซะอีก!
เรื่องนี้…ไม่จบง่ายๆ แล้ว!
ซ่งอิ๋งจี๋เอ่ยอย่างสงสัยเช่นกัน “ฉินเฟิ่งชิง…เหมือนจะไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วขนาดนั้นเหมือนกัน…”
จางอวี่ที่ลากระยะห่างออกมาจากฟางผิงแล้วก็กัดฟันเอ่ยว่า “ฉินเฟิ่งชิงระดับเดียวกับฉัน ไม่ได้เหตุผลที่จะกดขี่ฉันได้เร็วขนาดนั้นเหมือนกัน สู้จนฉันแทบโต้กลับไม่ได้ ฉันยังคิดว่าทำไมฝีมือเขาก้าวกระโดดขนาดนี้…”
ฟางผิงสีหน้าไม่สะทกสะท้าน กระแอมไอเบาๆ “อย่ามองฉัน ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปรังแกคนที่อ่อนแอกว่าอย่างพวกถังเหวินได้ยังไง? ฉันเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก เป็นคนที่ต้องรักษาภาพลักษณ์เหมือนกัน…”
ฉินเฟิ่งชิงโวยวายว่า “นายจะต้องการภาพลักษณ์ไปเพื่ออะไร นายไม่ใช่เพิ่งทำครั้งแรกสักหน่อย เมื่อก่อนเอาแต่รังแกพวกจ้าวเหล่ยทุกวัน! ช่วงนี้ไม่ได้ทำไม่ได้หมายความว่าจะเลิกไปแล้ว นายเป็นคนหน้าไม่อายฝังอยู่ในกระดูกอยู่แล้ว! ไม่ได้หนี ต้องเป็นฝีมือนายแน่ ถ้าเป็นฝีมือฉัน คนโง่น่ะสิจะจงใจเปิดเผยกลิ่นอาย คนอื่นๆ ไม่พูดถึง ฉันปิดบังถังเหวินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ยังจะมาทำกลยุทธ์แกล้งจับเพื่อปล่อย จงใจพูดว่าเป็นฟางผิง…ไม่ใช่จงใจ เป็นไอ้สารเลวนี่แหละ! เรื่องต่ำช้าแบบนี้ พวกนายเพิ่งจะมา เขาก็มาเหมือนกัน เห็นได้ชัดว่าจะมาดูเรื่องสนุก! อาจารย์ซ้อมเขาให้ตายไปเลยดีกว่า! ซ้อมไอ้เวรนี้ซะ! ลบหลู่ครูบาอาจารย์ นึกไม่ถึงว่าจะดีดหน้าผากอาจารย์ซ่ง ไร้ยางอายถึงขนาดนี้ อาจารย์ซ่ง ถ้าคุณไม่ซ้อมเขาให้ตาย ยังจะมีหน้าเป็นอาจารย์อยู่เหรอครับ…”
ฉินเฟิ่งชิงด่าอยู่พักหนึ่ง มองไปทางถังเฟิงว่า “อาจารย์ถัง ตอนนี้คุณถือโอกาสซ้อมเขาตายได้ด้วยซ้ำ ซ้อมเขาก่อนค่อยว่ากัน เขายังไม่ถึงขั้นเจ็ดเหมือนกัน ถึงขั้นเจ็ดแล้ว วันนี้คุณต้องเป็นฝ่ายถูกซ้อมแน่!”
“ช่างเป็นศิษย์ที่ไร้ยางอาย!”
“ต่ำทรามหยาบช้า!”
“…”
ฉินเฟิ่งชิงด่ากราดออกมา น่าโมโหจริงๆ
โชคดีที่วันนี้เขาไม่ได้ออกไปไหน ไม่งั้นคงต้องกลายเป็นแพะรับบาปครั้งนี้แน่
พวกซ่งอิ๋งจี๋คงจะซ้อมเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
ฟางผิงไอ้เวรนี้ ไม่มีคุณธรรมแม้แต่น้อย นึกไม่ถึงว่าจะจงใจให้เขาเป็นแพะรับบาปถูกคนอัด มีความเป็นคนบ้างหรือเปล่า?
พวกถังเฟิงมองฟางผิงด้วยแววตาอันตราย ฟางผิงแสร้งเอ่ยอย่างใจเย็น “พลังปราณไม่สามารถอำพรางได้ พลังปราณของผมและฉินเฟิ่งชิงไม่ได้เหมือนกัน…”
ถังเฟิงมองไปทางฉินเฟิ่งชิงอย่างสงสัยอีกครั้ง
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มว่า “อย่ามองผม ไอ้หมอนี่มีวิชาเยอะจะตายไป ปิดบังกลิ่นอาย ในเมื่อเขาปิดบังกลิ่นอายได้ ปลอมแปลงพลังคนอื่นสักหน่อยไม่ใช่เรื่องปกติหรือไง คนอื่นทำไม่ได้ เขาต้องทำได้แน่นอน”
เวลานี้ทุกคนต่างมองไปทางฟางผิง ฉินเฟิ่งชิงพูดถูกแผง
คนอื่นพูดยาก ยังไงพลังปราณก็เป็นรากฐานของผู้ฝึกยุทธ์ แทบไม่อาจปรับเปลี่ยนได้
แต่ฟางผิง…นั่นไม่แน่เสมอไป!
ฟางผิงเผยรอยยิ้มออกมา รีบเอ่ยว่า “จะเป็นไปได้ยังไง…”
ถังเฟิงเงียบไปพักหนึ่ง จู่ๆ ก็เอ่ยว่า “ไม่ว่าจะใช่เธอหรือเปล่า เธอน่าสงสัยมากที่สุด อย่างอื่นไม่พูดถึง เจ้าสองคนนี้ไม่ใช่ของดีอะไร ไม่ใช่ฉินเฟิ่งชิงก็คือฟางผิง ทำโทษร่วมกันนั่นแหละ!”
ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ มีแค่เจ้าสองคนนี้ที่ไม่ใช่คนดีอะไร
ด้านข้างนั้นฉินเฟิ่งชิงที่กำลังเบะปากยิ้มใบหน้าแข็งทื่อขึ้นมา ฉันแม่งถูกใส่ร้ายชัดๆ!
หม้อร่วงลงมาจากฟ้าแท้ๆ!
—
หลังจากนั้นสักพัก
พวกถังเฟิงก็เดินจากไปด้วยความพอใจ
ฟางผิงและฉินเฟิ่งชิงมองหน้ากัน เสี้ยวนาทีต่อมา ฉินเฟิ่งชิงก็ปะทุโทสะ เอ่ยอย่างคับข้องใจว่า “ฉันจะเดิมพันกับนาย ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือนาย ฉันจะเอาหัวชนกำแพงตายซะ!”
บางทีพวกถังเฟิงอาจไม่มั่นใจ ฉินเฟิ่งชิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ประสบเหตุด้วยตัวเอง นั่นต้องมั่นใจอย่างแน่นอน เป็นฝีมือของฟางผิงอย่างไม่ต้องสงสัย!
ฟางผิงเตะเขาจนตัวลอย ขยี้ดวงตาที่ม่วงช้ำอยู่บ้าง เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าพวกนี้อยากอัดฉันตั้งนานแล้ว ครั้งนี้เสียแผนอยู่บ้าง รู้อย่างนี้คงไม่มาดูเรื่องสนุกหรอก”
ฉินเฟิ่งชิงแค่นเสียง ก่อนจะเอ่ยอย่างมีลับลมคมใน “นายสามารถปรับเปลี่ยนกลิ่นอายของปราณได้?”
เรื่องนี้อันที่จริงพวกถังเฟิงก็อยากถามเช่นกัน
แต่ครุ่นคิดดูแล้ว อย่าถามดีกว่า อัดคนก่อนค่อยว่ากัน หากถามออกมาแล้ว ฟางผิงทำไม่ได้ นั่นเท่ากับใส่ร้าย ไม่มีเหตุผลให้อัดเขาแล้ว?
ฟางผิงยิ้มตาหยี “นายทายสิ!”
“ทายกับผี ครั้งนี้นายวางแผนกับฉัน ทำให้ฉันถูกอัด…นายว่าชดใช้ความเสียหายให้ฉันหน่อยเป็นไง?”
“ชดใช้? ลดดอกเบี้ยให้นายสิบล้าน พอแล้วสินะ? ฉันเป็นคนใจกว้าง อัดครั้งหนึ่งแลกกับเงินสิบล้าน นายจะไปหาที่ไหนได้อีก”
ฟางผิงวางท่าใจกว้างขึ้นมา ครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “นายว่า…ครั้งหน้าฉันปลอมเป็นนายไปปล้นปรมาจารย์เป็นยังไง?”
ฉินเฟิ่งชิงหน้าดำเป็นก้นหม้อ ก่อนจะเอ่ยด้วยแววตาเป็นประกาย “สามารถปลอมแปลงกลิ่นอายปรมาจารย์ได้?”
“ไร้สาระ เลียนแบบนายเท่านั้น เพราะพลังปราณของนายห่วยแตก ลอกเลียนนิดหน่อยก็ได้แล้ว”
นั่นไม่ได้หมายความว่า…หลังจากนี้ไอ้สารเลวนี้ทำเรื่องชั่วช้า ตัวเองจะต้องเป็นแพะรับบาปแทนเขา?
นึกมาถึงตรงนี้ ฉินเฟิ่งชิงก็แทบจะอกแตกตาย!
สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้น ฉินเฟิ่งชิงครุ่นคิดลงไปลึกอีกหน่อย เอ่ยอย่างขุ่นเคืองว่า “นายแม่งคงไม่ได้จะวางแผนสวมเขาให้ฉันหรอกนะ? ถ้าฉันแต่งภรรยา กลางดึกนายแอบย่องเข้าไป…แม่งเหอะ วันนี้ฉันจะจัดการนายให้ตายซะ!”
ฉินเฟิ่งชิงตัดสินใจจะเดิมพันชีวิตกับเขาแล้ว!
ฟางผิงไอ้ชั่วนี้ วันนี้ไม่ตาย เขาไม่เลิกราเด็ดขาด
ในสถานการณ์ที่เทียบกับอีกฝ่ายไม่ได้ หลังจากนั้นไม่กี่นาทีฉินเฟิ่งชิงก็ถูกชกจนใบหน้าบวมช้ำ สุดท้ายจึงเลือกเลิกล้มไป อย่างมากฉันก็ไม่แต่งภรรยาแล้ว ฟางผิงไอ้เวรนี้ไม่ตาย เขาจะไม่แต่งภรรยาเด็ดขาด!
ฟางผิงคร้านจะสนใจว่าเขาคิดยังไงเช่นกัน ได้ทดลองแล้วอารมณ์ก็ดีขึ้นมา
เลียนแบบกลิ่นอาย แม้จะสิ้นเปลืองค่าทรัพย์สินไม่น้อย หนึ่งนาทีต่อหนึ่งแสน แต่นับว่าเป็นของดีจริงๆ!
วันนี้เลียนแบบกลิ่นอายฉินเฟิ่งชิง แทบจะทำให้ฉินเฟิ่งชิงถูกคนซ้อมตายแล้ว
งั้นหาก…เลียนแบบกลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำ…จะกลายเป็นหนอนบ่อนไส้ของพวกถ้ำได้หรือเปล่า?
แน่นอนว่าวันนี้เป็นคนกันเอง ทำให้องค์ประกอบในการเล่นละครสมบูรณ์กว่า
แต่ถึงถ้ำใต้ดินแล้ว เขาต้องเล่นให้เนี้ยบกว่านี้หน่อย บางที…อาจจะสามารถยุให้คนแตกคอกันได้จริงๆ!
“ครั้งก่อนหากมีความสามารถนี้ ฉันเลียนแบบกลิ่นอายผู้ฝึกยุทธ์เทียนเหมิน นั่นก็ยิ่งสมจริงแล้ว!”
ฟางผิงครุ่นคิดแล้ว แววตาก็ใสกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ!
————