ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 481.2 ร่วมกันผนึกประตู (2)
ตอนที่ 481 ร่วมกันผนึกประตู (2)
………………..
ฟางผิงรู้ว่าความกังวลของตัวเองอยู่ที่ไหน
ถ้าพวกเหล่าหวังไม่ใช่ยอดฝีมือกลับมาเกิดใหม่ เขาอาจจะไม่กังวลขนาดนี้
กลัวก็แต่ว่าคนพวกนี้หากเป็นยอดฝีมือกลับมาเกิดใหม่จริงๆ ฟื้นฟูความทรงจำก่อนหน้านี้ขึ้นมา นั่นก็พูดได้ยากแล้ว
อันที่จริงในตอนนี้ฟางผิงนับว่ายังเชื่อใจพวกหวังจินหยางและหลี่หานซง
“ฉินเฟิ่งชิงหมอนี่…สะพานฟ้าดินเขากลายพันธุ์เหมือนกัน พลังถือว่าแข็งแกร่ง แต่เจ้าโง่นี้…ฉันกังวลว่าเขาเอาสะพานฟ้าดินเข้ามาในประตูซานเจียวฉันแล้วจะปล้นฉันต่อ!”
ฟางผิงลอบประชดในใจ!
เขาเชื่อว่าฉินเฟิ่งชิงทำออกมาได้แน่ๆ
พอเจ้าหมอนี้เอาสะพานฟ้าดินเข้ามา ก็จะวางท่าทีให้พังพินาศไปด้วยกัน มีโอกาสปล้นเขาสูง
“ตกลงควรจะลองสักหน่อยหรือเปล่า?”
ฟางผิงลังเลอยู่ในใจ เรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้เขาอยู่บ้าง
การฝึกวิชาที่เร็วขึ้นแบบนี้ทำให้เขาหวั่นไหวจริงๆ
ไม่ใช่แค่เขาฝึกวิชาเร็วขึ้น ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หลังจากถึงขั้นหกแล้วยังสามารถเร็วได้อีก
หากเขาล่วงหน้าไปถึงขั้นเจ็ดก่อน ถึงกระทั่งหลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ขั้นหก สามารถเชิญยอดฝีมือขั้นเจ็ดบางส่วนมาช่วยเหลือพวกเขาได้ อย่างเช่นหลู่เฟิ่งโหรว…หรือตาเฒ่าหลี่?
จริงสิ ตกลงตาเฒ่าหลี่อยู่ขั้นไหนกันแน่?
ฟางผิงมึนหัวอยู่บ้าง พูดตามตรงเป็นเรื่องยากที่เขาจะไปถามกับตาเฒ่าหลี่ว่าอยู่ขั้นไหนกันแน่?
ขั้นเจ็ดหรือว่าขั้นแปด?
“ฟางผิง!”
หลู่เฟิ่งโหรวตะโกนออกมา ขมวดคิ้วว่า “คิดอะไรอยู่?”
“ไม่เกี่ยวกับเธอ ครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ไป!”
หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้วว่า “ถ้ำใต้ดินอุบัติครั้งนี้จะเกิดสงครามระดับสูงขนาดใหญ่ แม้เธอจะเข้าสู่ขั้นหกแล้ว ยังคงอ่อนด้อยไปอยู่บ้าง ตอนนี้ทางเทียนหนานเริ่มวางแผนเตรียมอพยพแล้ว หากถึงเวลาที่ถ้ำใต้ดินอุบัติจริงๆ นอกจากระดับสูงแล้ว ต่ำกว่านั้นคงไม่ให้อยู่ต่อ”
ครั้งนี้เทียนหนานเตรียมความพร้อมกรณีถูกคนบุกออกมาแล้ว
ตอนนี้เทียนหนานเริ่มทำการอพยพคนจำนวนมากแล้ว
สิ่งที่ประกาศต่อข้างนอกคือปรมาจารย์รับรู้ได้ถึงคลื่นของแผ่นดินไหว บางทีไม่นานอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง
สองปีก่อน เทียนหนานเคยทำการอพยพครั้งหนึ่งเหมือนกัน หลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวเป็นวงกว้างจริงๆ
ครั้งนี้รัฐบาลประกาศออกมา ทุกคนจึงให้ความร่วมมือเช่นกัน
ยังไงในสายตาของพวกเขา ปรมาจารย์ก็ทำได้ทุกอย่าง เหาะเหินเดินอากาศ บอกว่าแผ่นดินไหว นั่นต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีใครมองชีวิตของตัวเองเป็นเรื่องเล่นๆ
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่โง่ถึงขั้นบุกเข้าไปกลุ่มแรกต่อสู้พร้อมระดับสูงอยู่แล้วครับ ผมอยากรอให้สงบก่อนแล้วค่อยเข้าไปอีกที”
เห็นหลู่เฟิ่งโหรวยังจะพูดต่อ ฟางผิงก็เอ่ยเสียงเบาว่า “อันที่จริงครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อทรัพยากร แต่เพื่อคืนน้ำใจ ผมติดค้างน้ำใจหวังจินหยางไม่น้อย การต่อสู้ในคืนวันขึ้นปีใหม่ เขาอยู่ขั้นห้าตอนต้น ช่วยผมสกัดขั้นหกสูงสุดเอาไว้ อาจารย์ ผู้ฝึกยุทธ์ต้องรู้จักตอบแทนบุญคุณ ผมรับปากเขาแล้ว จะไปหาอาจารย์ของเขาที่เทียนหนานด้วยกัน ในเมื่อรับปากแล้ว ผมไม่ผิดคำพูดเด็ดขาด ดังนั้นผมจำเป็นต้องไปเทียนหนาน”
หลู่เฟิ่งโหรวขมวดคิ้วเล็กน้อย ผ่านไปสักพักจึงเอ่ยว่า “นั่นก็ต้องรอให้ถ้ำใต้ดินสงบก่อน อีกอย่าง…จางชิงหนานมีโอกาสรอดน้อยมาก หรือจะพูดว่าแทบไม่มีความเป็นไปได้ ไม่ใช่แค่สองสามวัน ตอนนี้ห่างจากที่ปิดผนึกครั้งก่อนเกือบสองปีแล้ว นานขนาดนี้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดยังเอาตัวรอดยากเลย…”
พูดมาถึงตรงนี้ หลู่เฟิ่งโหรวก็นึกถึงพ่อของตัวเอง
พ่อของเธอหายตัวไปสองปีแล้วเหมือนกัน
ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า?
ไม่คิดเรื่องพวกนี้มากมายอีก หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยต่อ “ครั้งนี้หวังจินหยางลงถ้ำใต้ดิน หลักๆ ก็เพื่อปลอบประโลมจิตใจของตัวเอง หากเธอจะไปจริงๆ อย่าตั้งเป้าหมายเพื่อหาคน เรื่องสำคัญยังคงเป็นปกป้องชีวิตของตัวเอง”
“อืม อู๋ขุยซาน ราชสีห์ถังและฉันจะเข้าไปด้วยกัน”
ระหว่างที่พูด หลู่เฟิ่งโหรวยังแค่นเสียงว่า “หลี่ฉางเซิงก็อยากไป ตาแก่นั่นกลัวตัวเองจะไม่ตายไวหรือไง?”
ฟางผิงเอ่ยเสียงเบาว่า “อาจารย์หลี่ต่อสู้หนึ่งครั้ง หากทุ่มสุดกำลัง พลังชีวิตจะไหลเวียนออกไปมากเท่าไหร่เหรอครับ?”
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยด้วยใบหน้าจริงจัง พยักหน้าว่า “พูดแบบนี้เถอะ…แม้จะไม่รู้ว่าตกลงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดสามารถใช้ชีวิตได้นานเท่าไหร่ แต่จากที่พวกเราคาดการณ์…ในความเป็นจริงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแปดยังพอจะมีเวลาชีวิตที่แน่นอนอยู่ มากเกินไปไม่กล้าพูด แต่ภายในสามร้อยปี นั่นคงตายไม่ได้ การหลั่งไหลพลังชีวิตของหลี่ฉางเซิงในตอนนี้ เร็วกว่าขั้นแปดทั่วไปกว่าสามสิบเท่าด้วยซ้ำ! หากต่อสู้ครั้งหนึ่ง อาจจะเสียพลังชีวิตไปถึงสิบปี ต่อสู้ทุ่มสุดกำลังแปดถึงสิบครั้ง บางทีอาจจะแก่ชราก่อนวัย ตายในเร็วๆ นี้”
“ไม่มีวิธีหยุดการไหลเวียนของพลังชีวิตเหรอครับ?”
“ไม่มี อย่างน้อยในตอนนี้พวกเราก็ไม่รู้ หมื่นวิถีรวมเป็นหนึ่งนั้นเป็นแค่บันทึกในคัมภีร์โบราณ ทั้งยังมีความคลุมเครือ แต่ก่อนหน้านี้อู๋ขุยซานพูดไม่ผิด น้ำแร่ชีวิตสามารถทดแทนการไหลเวียนแบบนี้ได้”
ระหว่างที่พูด หลู่เฟิ่งโหรวก็มองไปทางฟางผิง “พูดถึงเรื่องนี้ ไม่ใช่ให้เธอไปขโมยน้ำแร่ชีวิต แต่จะบอกเธอว่าไม่ต้องไป! ถ้าเธอได้น้ำแร่ชีวิตมา ยังไม่พูดเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง มีของพวกนี้แล้ว หลี่ฉางเซิงก็จะไม่มีความเกรงกลัว ตาแก่นี้อยากจะฟันขั้นแปดให้ตายหลายคน พิสูจน์การมีตัวตนของตัวเอง ให้เขาก็สิ้นเปลืองเปล่าๆ”
“อาจารย์หลี่ฟันขั้นแปดได้จริงๆ เหรอครับ?”
“…ได้!”
หลู่เฟิ่งโหรวชะงักเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบาว่า “ได้แน่นอน! ช่วงนี้เขากำลังปรับตัว ปราณของเขาแข็งแกร่งมาก! ตอนแรกเขากลืนน้ำแร่ชีวิตมากเกินไป พลังปราณพุ่งพรวด ถึงกระทั่งเทียบกับขั้นแปดสูงสุด เกือบหนึ่งแสนแคล! เขาบอกว่าทุ่มสุดแรงระเบิดพลังฟ้าดินหนึ่งหมื่นหลุน นั่นแค่คุยโว ภายใต้การทุ่มสุดกำลัง ระเบิดพลังฟ้าดินได้สองสามพันหลุนยังพอจะมีโอกาส อู๋ขุยซานที่ถืออาวุธวิเศษขั้นเก้า พลังระเบิดอาจสู้เขาไม่ได้เสมอไป อู๋ขุยซานสังหารขั้นแปดบางส่วนได้ ขอแค่อีกฝ่ายไม่มีอาวุธวิเศษ กะโหลกหลอมไม่ลึกล้ำเท่าไหร่ ฆ่าได้สบายๆ เขาทำได้ งั้นหลี่ฉางเซิงก็ทำได้”
“ถ้าอาจารย์หลี่มีอาวุธวิเศษ จะสามารถบ่มเพาะได้หรือเปล่าครับ? ให้กระบี่อาวุธวิเศษขั้นเก้ากับเขา จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นใช่หรือเปล่า?”
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอีกครั้ง “เขาสามารถใช้อาวุธวิเศษ ตอนนี้ตัวเขาเองก็คือประตูซานเจียว ใช้ร่างตัวเองเป็นกระบี่ แต่ว่า…ทางที่ดีอย่าให้อาวุธวิเศษเขา ยิ่งแสดงอานุภาพมากเท่าไหร่ พลังชีวิตก็ยิ่งจะไหลเวียนออกไปเยอะเท่านั้น หากให้อาวุธวิเศษขั้นเก้ากับเขาจริงๆ เขาคงจะกล้าไปฆ่าขั้นเก้า ถึงเวลานั้นต่อสู้สิ้นสุดแล้ว แม้เขาจะฆ่าอีกฝ่ายได้ ตัวเองก็ต้องตายเหมือนกัน”
“ต้องดูความสามารถของอีกฝ่าย ฉันหมายถึงขั้นเก้าที่อ่อนแอที่สุดประเภทนั้น ไม่มีอาวุธวิเศษ ความสามารถธรรมดา ถ้าในมือเขามีอาวุธวิเศษขั้นเก้าก็มีโอกาสฆ่าอีกฝ่ายได้สูง”
“แข็งแกร่งมาก!”
ฟางผิงสูดลมหายใจ หมื่นวิถีรวมเป็นหนึ่งทำให้ตาเฒ่าหลี่ยึดครองตำแหน่งอันดับหนึ่งของขั้นแปดได้จริงๆ?
อย่าลืมว่าอู๋ขุยซานเป็นขั้นแปดอันดับสองของโลก ยังไม่สามารถฆ่าขั้นเก้าที่อ่อนแอได้เสมอไป เอาชนะ…นั่นยังมีหวัง
หลู่เฟิ่งโหรวเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เอาชีวิตมาแลกพลังต่อสู้ แข็งแกร่งอยู่หรอก แต่การสิ้นเปลืองในครั้งเดียวแบบนี้ ต่อให้แข็งแกร่งแล้วมีประโยชน์อะไร รังแต่จะทำให้เขาสิ้นเปลืองเท่านั้น แต่ว่า…”
หลู่เฟิ่งโหรวถอนหายใจ “อันที่จริงเป็นวิธีของอัจฉริยะเท่านั้น คนอย่างพวกเราอยากทำยังไม่ได้ ไม่งั้นเพื่อยกระดับแล้ว ปรมาจารย์เฒ่ากลุ่มใหญ่ เกรงว่าจะอยากเอาชีวิตไปแลกกับพลังต่อสู้เช่นกัน”
หมื่นวิถีเป็นหนึ่งไม่ใช่เรื่องทั่วไป
หากไม่ใช่แบบนี้ ปรมาจารย์ที่ไปตายก่อนหน้านี้ก็ทำกันไปนานแล้ว
ปรมาจารย์พวกนี้จำหมื่นวิถีรวมเป็นหนึ่งที่บันทึกเพียงไม่กี่คำในคัมภีร์โบราณได้ค่อนข้างชัดเจน อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็มีปรมาจารย์เฒ่าขั้นแปดเคยลองเช่นกัน น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ
หมื่นวิถีรวมเป็นหนึ่ง จะทำได้ตอนที่พลังจิตใจเพิ่งปรากฏเท่านั้น
ฟางผิง…ฟางผิงสงสัยว่าตัวเองอาจจะทำไม่ได้ พลังจิตใจของเขาอาจจะปรากฏล่วงหน้า ทั้งร่างทองยังอาจแตะไม่ถึงมาตรฐานเสมอไป
พูดคุยกับหลู่เฟิ่งโหรวพักหนึ่ง ก่อนฟางผิงจะเดินออกมาจากบ้านพักหมายเลขแปด
ตอนที่เดินออกมา ฟางผิงนึกถึงเรื่องร่วมกันปิดผนึกประตูอีกครั้ง
“ตกลงจะบอกดีหรือเปล่า!”
“ตัดสินใจไม่ได้สักที!”
ฟางผิงถอนหายใจ บางทีอาจจะลองกับเหล่าหวังดูก่อน
ถ้าได้ผลจริงๆ ทั้งยังมีประสิทธิภาพ ค่อยครุ่นคิดว่าจะลากคนอื่นเข้ามาร่วมด้วยหรือเปล่า
————–