ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 496-3 ให้พวกเราหาคนต่อเถอะ (3)
ตอนที่ 496 ให้พวกเราหาคนต่อเถอะ (3)
………………..
รอออกห่างไประยะหนึ่งแล้ว ฟางผิงก็พึมพำว่า “ทำดีย่อมได้ดี คนใจกว้างอย่างฉันต้องได้รับสิ่งดีๆ ตอบแทนอยู่แล้ว”
ดูสิ ทั้งสองฝ่ายเป็นศัตรูคู่แค้น ตัวเองยังช่วยชีวิตพวกเขาไว้ คนดีอย่างนี้จะไปหาที่ไหนได้อีก?
ส่วนทำไมคนพวกนี้ถึงจากบ้านเกิดเมืองนอนไป นั่นไม่เกี่ยวกับฟางผิงแล้ว
“ไม่รู้ว่าที่นี่มีธรรมเนียมตั้งหอเกียรติยศหรือเปล่า อย่างเช่นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตอย่างฉัน กลับไปพวกเขาตั้งหอเกียรยศให้ก็ไม่ถือว่าเกินไป”
“เมืองหยวนเหว่ย…”
ฟางผิงลูบคาง บางทีน่าจะไปดูสักครั้งได้ แน่นอนว่าครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อระเบิดเมือง
ฟางผิงไม่อยากรนหาที่ตายอีก
ยิ่งไปกว่านั้นการต่อสู้ตรงทางเดินเทียนหนานเหมือนจะสงบลงแล้ว ไม่แน่ว่าขั้นเก้าพวกนั้นอาจจะกลับมาหมดแล้ว
—
อ้อมเมืองเฉียงเวยที่ล่มสลายไปแล้ว ฟางผิงเห็นดอกไม้ยักษ์ที่สูงเสียดฟ้ากำลังบ้าคลั่งต้นนั้นเหมือนกัน หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง ฟางผิงก็มาถึงหนองน้ำของทะเลสาบเสี้ยวจันทร์
เพิ่งมาถึงหนองน้ำ ฟางผิงก็รีบเอ่ยทันที “ฉันเอง!”
สิ้นเสียงนั้น หลี่หานซงก็โผล่ออกมาจากด้านข้าง ถอนหายใจว่า “ฉันยังคิดว่าเป็นคนของเมืองเฉียงเวยซะอีก นายไม่เป็นไรสินะ?”
“ฉันยังจะเป็นอะไรได้ นายไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า?”
เวลานี้หลี่หานซงแทบไม่ได้ดีไปกว่าฟางผิงเท่าไหร่ สะบักสะบอมไปทั่วร่าง
ได้ยินฟางผิงถาม หลี่หานซงเอ่ยอย่างจนใจว่า “ยังพอไหว ถ้าไม่ได้นายล่อเจ้านั่นไปทันเวลา ฉันคงจะมีปัญหาแล้ว เมื่อก่อนเห็นนายพาระดับสูงออกไปตะลอนเป็นฝูง คิดว่าไม่ได้ยากอะไร ตอนนี้เพิ่งพบว่าอันตรายกว่าที่จินตนาการไว้ซะอีก”
ดีที่รังของเจ้านั่นถูกทำลาย ปีศาจเขายักษ์โมโหเลยไม่ได้ตามเขาฆ่าต่อ วิ่งย้อนกลับไปแทน
“ไม่เป็นไรก็ดี พวกเหล่าหวังยังไม่มาเหรอ?”
“นายยังไม่ตาย พวกเราจะตายง่ายๆ ขนาดนั้นได้ยังไง?”
ในป่าเล็กๆ ฉินเฟิ่งชิงและหวังจินหยางปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
ฉินเฟิ่งชิงเดินสำรวจรอบๆ ฟางผิง ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ขนาดนี้ยังไม่ตาย ฉันถึงบอกว่านายเป็นตัวนำโชค นายดูตัวเองสิ ดวงแข็งขนาดไหน!”
ฟางผิงชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ขี้เกียจจะพูดมาก เอ่ยตรงๆ ว่า “ก่อนหน้านี้เพื่อระเบิดเมืองราชา ฉันเอาหินพลังงานที่ได้มาก่อนหน้านี้โยนเป็นชนวนระเบิดหมดแล้ว ฉินเฟิ่งชิง ส่วนของนายไม่เหลือแล้ว”
ฉินเฟิ่งชิงใบหน้าแข็งทื่อทันที อดก่นด่าไม่ได้ “นายบ้าไปแล้วสินะ!”
เจ้าหมอนี้เอาแร่พลังงานโยนไปหมดแล้ว?
ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “กลับไปค่อยรายงานหน่วยทหาร ดูว่าจะสามารถชดเชยให้ฉันได้หรือเปล่า ยังไงก็ระเบิดเมืองราชาไปตั้งหนึ่งแห่ง ไม่เก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่พวกเขาก็ดีเท่าไหร่แล้ว อะไรที่ควรชดใช้ก็ต้องชดใช้สักหน่อยหรือเปล่า?”
“หน่วยทหารจนจะตายไป นายคาดหวังให้หน่วยทหารชดใช้ให้นาย?”
ฉินเฟิ่งชิงด่าออกไปอีกครั้ง ฟาผิงแค่นหัวเราะ “นายจะเข้าใจอะไร รัฐบาลอาจเก็บสะสมไม่เยอะเสมอไป แต่ของดีต้องมีอยู่แล้ว ทรัพยากรสาธารณะทั่วไป รัฐบาลขัดสน เพราะคนที่ต้องการมีเยอะ แต่ทรัพยากรระดับสูง รัฐบาลมีไม่น้อย กำไว้ในมือแน่น ปกติแลกไม่ได้ ครั้งนี้ยังไงก็ต้องแบ่งให้ฉันส่วนหนึ่ง ไม่งั้นครั้งหน้าใครยังจะทำเรื่องที่ขาดทุนหนักแบบนี้?”
ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก ฟางผิงครุ่นคิดแล้วก็มองไปทางเหล่าหวัง “เป้าหมายที่พวกเราเข้ามาครั้งนี้คือการหาคน…”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา พวกเขาก็สีหน้าแข็งทื่ออยู่บ้าง
นายระเบิดเมืองราชาไปแล้ว ยังจะหาคนอะไรอีก!
ฟางผิงกระแอมไอ หัวเราะแห้งๆ ว่า “หาคนยังหาต่อได้ ก่อนหน้านี้ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง? ตอนแรกเมืองเฉียงเวยจับคนไว้กลุ่มหนึ่ง ฆ่าคนบางส่วน ที่เหลือล้วนถูกคนพาไป ก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวคราวอะไร ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจริงหรือเปล่า ตอนนี้กลับรู้ข้อมูลเล็กน้อย ก่อนกลับมาฉันช่วยกลุ่มที่ลี้ภัยจากเมืองเฉียงเวยเอาไว้…”
“หืม?”
ทั้งสามคนมองเขาด้วยแววตาแปลกๆ นายช่วยกลุ่มที่ลี้ภัย?
คำพูดนี้ทำไมฟังแล้วระคายหูแปลกๆ!
ฟางผิงไม่สนใจพวกเขา เอ่ยต่อว่า “หัวหน้ากลุ่มนี้ ลูกชายของเขาเป็นทหารคุ้มกันเมืองเฉียงเวย แต่ตอนนี้อยู่เมืองหยวนเหว่ย ได้ยินว่าเพราะมีภารกิจเลยไปเมืองหยวนเหว่ย ส่วนภารกิจอะไร แม้จะไม่ชัดเจน แต่ได้ยินว่าเพื่อคุ้มกันคนกลุ่มหนึ่งไปยังตะวันตก รับหน้าที่ส่งมอบกับเมืองหยวนเหว่ย พวกนายว่า…กลุ่มที่คุ้มกันเป็นผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์ที่ถูกจับมาพวกนั้นหรือเปล่า? พวกเราควรไปดูที่เมืองหยวนเหว่ย หาเจ้านั่นเพื่อสอบถามข้อมูลสักหน่อย…”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างหมดคำพูด “นายทำลายเมืองราชาของพวกเขา ยังจะไปหาเขาเพื่อสอบถามสถานการณ์อีก?”
“ไร้สาระ ฉันเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของพ่อเขา ถามสักหน่อยเป็นอะไรไป?”
“…”
ทุกคนไร้คำโต้ตอบ พูดมีเหตุผล
ประเด็นอยู่ที่ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคำพวกนี้ นายพูดออกมาละอายใจบ้างหรือเปล่า?
แม้จะประชดไปแบบนั้น พวกเขาก็ไม่พูดอะไรอีก หวังจินหยางมองฟางผิงแวบหนึ่ง ผ่านไปสักพักจึงถอนหายใจว่า “หรือจะพอแค่นี้”
เขาไม่อยากจะทำต่ออยู่บ้าง
การหาคนครั้งนี้ทำให้หัวใจแทบจะหยุดเต้นหลายครั้ง
ตอนนี้ยังจะไปเมืองราชาอีกแห่ง ใครจะรู้ว่ามีเรื่องอะไรรออยู่?
ฟางผิงเอ่ยอย่างจริงจัง “ในเมื่อรับปากนายแล้วว่ามาหาคนด้วยกัน งั้นก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ตอนนี้ยังหาคนไม่เจอ ฉันคิดว่าไม่ควรเลิกล้มกลางทาง หาต่อดีกว่า แม้จะหาไม่เจอจริงๆ หรือมั่นใจว่าตายแล้ว ตอนนั้นละทิ้งก็ไม่สาย พี่หวัง นั่นเป็นอาจารย์ของนาย…”
หวังจินหยางเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ฉันต้องอยากหาต่ออยู่แล้ว แต่วิธีของนาย…”
“พี่หวังวางใจ ครั้งนี้จะไม่ทำให้เป็นที่สะดุดตา!”
ฟางผิงเอ่ยหนักแน่น ก่อนจะจนใจอยู่บ้าง “ระเบิดเมืองไม่ได้แล้ว หินระดับสูงหมดเกลี้ยง ไม่มีชนวนระเบิด ระเบิดเมืองได้ยาก ทั้งตอนนี้ฉันบาดเจ็บไม่น้อย หากทะลวงใต้ดินเมืองราชาอีกครั้ง ต้องจบเห่จริงๆ แล้ว ครั้งนี้ไปหาคนอย่างแท้จริง ถ้าหาไม่เจอ พวกเราก็พอแค่นี้ ย้อนกลับเทียนหนาน”
หวังจินหยางครุ่นคิดพักหนึ่ง พยักหน้าว่า “งั้นก็รบกวนทุกคนแล้ว…”
พูดจบยังหันไปมองฟางผิง เอ่ยเสริมว่า “ครั้งนี้หาคนจริงๆ!”
“แน่อยู่แล้ว!”
ฟางผิงตอบอย่างฉับไว ก่อนจะควักเสื้อเกราะหลายตัวให้ทุกคน “ไป พวกเราไปดูเมืองหยวนเหว่ยกัน ตอนนี้เนื้อหนังฉันเละเทะไม่เป็นชิ้นดี ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเอาน้ำแร่ชีวิตมาซ่อมแซมร่างกายได้บ้างหรือเปล่า…”
คำพูดนี้หลุดออกมา หวังจินหยางก็ร่างกายแข็งทื่อทันที!
นายล้อฉันเล่นแล้ว!
แม่งเหอะ เมื่อกี้นายเพิ่งจะพูดว่าครั้งนี้ไม่ก่อเรื่องแล้ว!
น้ำแร่ชีวิตหาได้จากไหนกัน?
แน่นอนว่าต้องจากพืชปีศาจผู้พิทักษ์!
เจ้าหมอนี้นึกไม่ถึงว่าจะวางแผนขโมยน้ำแร่ชีวิต?
ฟางผิงเห็นแบบนั้นก็ไอแห้งๆ ละล่ำละลักว่า “แค่พูดไปอย่างนั้น อย่าคิดจริงจัง เจ้านี้ไม่ได้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง”
หวังจินหยางถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก
ด้านข้างนั้น หลี่หานซงเริ่มอวดเรื่องแหล่งแร่เมืองราชา รวมถึงผลงานอันยิ่งใหญ่ที่ตัวเองล่อสัตว์ปีศาจระดับสูงกับฉินเฟิ่งชิงแล้ว
——————
………………..