ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 116 : จุดหมายเดียวกัน
ตอนที่ 116 : จุดหมายเดียวกัน
เย่ฉิวเกาเงียบไป ส่วนฮวงจินเทียนไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนนั้นเองหวังเย่าก็เลือกที่จะเงียบบ้าง
หวังเย่าได้คิวที่ 34 มันยังมีอีกหลายคนที่ต้องลงทะเบียนก่อนหน้าเขา ดังนั้นเขาจึงได้แต่รออยู่เงียบ ๆ
ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคิวของเย่ฉิวเกา
“หวังเย่า นายต้องระวังให้มากเขาไว้” จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหูของหวังเย่า
“พี่ฮวง ทำไมพี่ถึงบอกแบบนี้ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมาเบาๆ
แต่ฮวงจินเทียนไม่ได้พูดอะไรออกมาต่อ อีกฝ่ายถึงกับไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำ
หวังเย่าสับสนและพึมพำออกมา “อย่าคิดว่าแข็งแกร่งจนดูถูกฉันได้นะ”
เย่ฉิวเกาใช้เวลา 3 นาทีก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับหนังสือเล่มเล็ก ๆ ซึ่งนั่นคือใบอนุญาตในการสำรวจมิติภายนอก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทางการอนุญาตให้เขาทำการสำรวจมิติภายนอกได้
เย่ฉิวเกาได้ยื่นใบอนุญาตให้ฮวงจินเทียนดูด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง มันมีตรา 3 ดาวอยู่ด้วยซึ่งหมายความว่าเขาจะไปสำรวจมิติ 3 ดาว
ฮวงจินเทียนขี้เกียจจะคุยกับอีกฝ่าย หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็จำคำพูดหนึ่งขึ้นมาได้ ว่ากันว่าฮวงจินเทียนนั้นขี้เกียจจนไม่อยากจะยุ่งกับใคร แม้แต่การพูดคุยกับใครเขาก็ขี้เกียจด้วย
เย่ฉิวเกาเห็นว่าไม่ได้ผลจึงขมวดคิ้ว ก่อนจะมองหวังเย่าด้วยสายตาเย็นชาแล้วเดินออกไป
หลังจากที่รอกว่า 10 นาที ฮวงจินเทียนก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นเขาก็เดินกลับออกมาพร้อมใบอนุญาต เขาไม่ได้ชายตามองมาที่หวังเย่าเลยแม้แต่น้อย และเดินออกไป
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่เขาก็ทำได้แค่อดทนเอาไว้
สุดท้ายก็ถึงตาเขา
หวังเย่าเดินเข้าไปพร้อมกับยื่นเอกสารให้พนักงานด้านใน
พนักงานมองดูอยู่สักพัก เมื่อพบว่าไม่มีปัญหาใดๆจึงได้พูดขึ้น “นายบอกฉันได้ไหมว่าทำไมนายถึงไปมิติลับในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ? นายก็รู้ว่าการสำรวจมิติลับนั้นอันตรายอย่างมาก มันง่ายที่จะตายได้ อัตราผู้เสียชีวิตที่สูงที่สุดของมหาวิทยาลัยหัวเซี่ยคือสาขาตรวจสอบ”
หวังเย่ามองพนักงานสาวด้วยสีหน้าแปลกใจ เขารู้ว่าอีกฝ่ายหวังดี จึงรู้สึกดีกับอีกฝ่ายและพูดขึ้น “คุณผู้หญิงสุดสวย ขอบคุณที่เตือน แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมเชื่อในความแข็งแกร่งของตัวเอง”
พนักงานคนนี้เป็นสาวสวย เมื่อเธอได้ยินคำชมแบบนั้นก็หน้าแดงขึ้นมา น้ำเสียงของเธอจึงอ่อนโยนลงมาทันที
“ ฉันคงห้ามนายไม่ได้…หวังว่านายจะมีความแข็งแกร่งและโชคดีมากพอ เอาล่ะ บอกฉันมาว่านายจะไปสำรวจที่ไหน “
หวังเย่าตอบกลับอย่างไม่ลังเล “ผมจะไปสำรวจมิติเทือกเขาหินโม่”
“เทือกเขาหินโม่อีกแล้วหรือ ? ทำไมถึงมีคนไปที่นั่นเยอะนัก ? ” พนักงานสาวขมวดคิ้ว “นายมั่นใจนะว่าจะไปที่เทือกเขาหินโม่ ที่นั่นน่ะมิติ 3 ดาวเลยนะ มันอันตรายสำหรับนายมาก”
หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้น “ไม่เป็นไร ผมรับมือได้ แต่พี่สาวสุดสวย พี่บอกได้มั้ยว่าใครจะไปที่เทือกเขาหินโม่บ้าง ? ”
“มันไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว” พนักงานสาวพูดขึ้น “คนหนึ่งคือเย่ฉิวเกา อีกคนคือฮวงจินเทียน อีกคนคือหลงปู้หยู๋”
หวังเย่าอึ้งไปเมื่อได้ยินว่าเป็นใครบ้างที่จะไปที่นั่น บังเอิญเกินไปแล้ว เย่ฉิวเกาและฮวงจินเทียนกลับคิดจะไปมิติเดียวกับเขางั้นหรือ
“แต่คนสุดท้ายนั้นเป็นใครกัน ? ” หวังเย่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อเพราะคนอื่นรอคิวอยู่
“ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว นี่ใบอนุญาต นายไปได้แล้ว” พนักงานสาวส่งใบอนุญาตให้กับหวังเย่า
หวังเย่ารับมันมาก่อนจะขอบคุณแล้วเดินออกมาจากห้อง
หวังเย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและใส่ชื่อของหลงปู้หยู๋ลงไป จากนั้นเขาก็ต้องตกใจกับข้อมูลที่ได้มา
หวังเย่าไม่คิดเลยว่าหลงปู้หยู๋ ชื่อนี้จะเป็นคนยอดเยี่ยมเช่นนี้
หลงปู้หยู๋เป็นเด็กกำพร้า หลังจากที่เข้าร่วมกองทัพแล้ว เพราะความรอบคอบ, ความรอบรู้และความกล้า ไม่นานเขาจึงได้เลื่อนขั้น เขาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากหัวหน้า เขาเริ่มออกล่าสัตว์อสูรตั้งแต่อายุ 15 ปีจนถึงตอนนี้เขาอายุ 23 ปีแล้ว
ตลอด 8 ปีมานี้ หลงปู้หยู๋ได้พบสถานการณ์แปลก ๆ มาหลายครั้ง ด้วยทักษะและความฉลาดของเขา เขาจึงได้กลายเป็นหัวหน้ากอง และได้สมบัติกลับมาเป็นจำนวนมาก
มีคนคิดจะใช้เงินซื้อตัวเขา แต่เขากลับปฏิเสธ เขาอยู่กองทัพเดิมมากว่า 5 ปี และสุดท้ายก็เลือกที่จะออกเดินทางเพียงลำพัง
แค่ 3 ปีที่เขาคนเดียวก็ทำเงินได้มากกว่าคนหลายร้อยคนในกองทัพรวมกัน ตอนนี้เขามีเงินกว่า 200 ล้านเครดิต และติด 1 ใน 10 อันดับแรกของเมืองหัวเซี่ย
ตัวเขาเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขาแค่พยายามทำให้ดีที่สุด ขณะเดียวกันเขาก็เลือกเข้ามหาวิทยาลัยหัวเซี่ยและเข้าสาขาตรวจสอบ เพราะเขาเองก็ได้สิทธิ์ในการทดสอบเป็นผู้ตรวจสอบเช่นกัน
“หลงปู้หยู๋คนนี้เป็นคนที่ยิ่งใหญ่” หวังเย่าถอนหายใจออกมา
แน่นอนหวังเย่าไม่ได้คิดอะไรมากเพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็ยังไม่เพียงพอ ยังไงซะ หวังเย่าก็มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด
หลังจากที่ออกจากฝ่ายลงทะเบียนมาแล้ว หวังเย่าก็ไม่ได้รีบร้อนเดินทางออกจากเมือง เขากลับไปที่โถงภารกิจ ก่อนจะเลือกรับภารกิจ หนึ่งคือเพื่อหาประสบการณ์ สองคือการทดสอบตัวเองเล็ก ๆน้อย ๆ สามคือการหาเงิน เพราะยังไงซะ เขาก็มีจ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยให้ดูแล ยิ่งเขามีเงินเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ตอนบ่ายสาม หวังเย่าก็เดินออกจากประตูเมืองมา จากนั้นเขาก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกไป
เพราะจ้าวเมิ่งซีได้ซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาใช้ ดังนั้นเขาจึงเอามอเตอร์ไซค์คันนี้ติดตัวมาด้วย
เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์มาได้ไม่นานเขาก็พบว่าในระยะ 100 ไมล์รอบเมืองนั้นสัตว์อสูรระดับสูงถูกจัดการไปหมดแล้ว มอเตอร์ไซค์เองก็ขับได้แค่ในระยะแค่ 40-50 ไมล์เท่านั้น
หวังเย่าเรียกการ์ฟิลด์ออกมาเป็นพาหนะ เพราะมันสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 200 ไมล์และพักแค่ 1 ชั่วโมงพละกำลังก็ฟื้นฟูกลับมาแล้ว เขาได้ขี่การ์ฟิลด์ และสั่งให้มันมุ่งหน้าไปที่เทือกเขาหินโม่ทันที
เทือกเขาหินโม่นั้นเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขา ถ้ามองจากมุมสูงแล้วจะพบว่าเทือกเขาแห่งนี้มันมีลักษณะเป็นเหมือนกับเครื่องโม่
ตอนนี้การ์ฟิลด์สามารถบินได้ในระดับความสูง 300 เมตร ดังนั้นหวังเย่าจึงไม่จำเป็นต้องลงไปที่พื้น เขาให้การ์ฟิลด์บินผ่านภูเขาไปอย่างต่อเนื่อง
3 เดือนที่ผ่านมานี้ความแข็งแกร่งของการ์ฟิลด์เองก็พัฒนาเช่นกัน เลเวลของมันขึ้นมาที่ 50 แล้ว มันได้กลายเป็นอสูรระดับสวรรค์อย่างเป็นทางการ สกิลของมันก็พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก
ในเวลาเดียวกันก็มีสกิลใหม่เพิ่มขึ้นมา มันคืออาณาเขตของราชา