ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 206 : ภาวะลึกลับ
ตอนที่ 206 : ภาวะลึกลับ
“กรร !”
ไม่นานหลังจากที่หวังเย่าออกจากหุบเขานั้นก็มีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังขึ้น หัวหน้าฝูงไทแรนโนซอรัสได้กลับไปที่รังแต่เมื่อเข้าใจสถานการณ์แล้ว มันก็หงุดหงิดอย่างมาก เพราะมันกลับโดนสิ่งมีชีวิตที่มันมองว่าไม่ต่างอะไรจากมดปลวกขโมยไข่ของพวกมันไป
โชคดีที่มันเสียไปแค่ไข่ โจรไม่ได้เข้าไปขโมยสมบัติด้วย
หลังจากที่โดนขโมยไข่ไป ก็ทำให้พวกมันเพิ่มความแน่นหนาในการป้องกันมากขึ้น พวกมันถึงกับสร้างเครื่องมือเพื่อส่งสัญญาณด้วย
เมื่อหวังเย่าหนีออกจากอาณาเขตของไทแรนโนซอรัสได้ เขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากโจรเลย
ครั้งนี้เขาโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บกลับมา เขาแค่ต้องเสียเวลาและเรี่ยวแรงเล็กน้อย แต่มันก็ได้ไข่กลับมามากแบบนี้ ซึ่งมันก็คุ้มค่า
“ดูเหมือนว่าโลกนี้จะเต็มไปด้วยเงินทองและโอกาส ” หวังเย่าอารมณ์ดีอย่างมาก ด้วยไข่ 21 ใบเหล่านี้เขาก็สามารถฟักสัตว์อสูรระดับสวรรค์ 21 ตัวขึ้นมาได้ ซึ่งนี้ทำให้เขาสามารถสร้างกองทัพทหารไทแรนโนซอรัสขึ้นมาได้
เมื่อไทแรนโนซอรัสพวกนี้โตเต็มวัย พวกมันก็จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มทหารรับจ้างโลกาของเขา ซึ่งในการต่อสู้กับฝูงสัตว์อสูรโดยเฉพาะสกิลสุดท้ายของมันที่สามารถทำให้ฝูงสัตว์อสูรต้องถอยกลับไปได้
ระหว่างทางที่กลับเขาก็ยังเจอกับพวกสัตว์อสูรอยู่บ้าง
“หือ ฉิงเหมยตกอยู่ในอันตราย” ทันใดนั้นระหว่างทางที่กลับนั้นเขาก็พบว่าฟ่านฉิงเหมยโดนงูพิษไล่ตามอยู่
แววตาของหวังเย่าสั่นไหว เขาไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรผู้หญิงของเขาเด็ดขาด
“ฉิงเหมย ฉันมาช่วยแล้ว” หวังเย่าพุ่งเข้าไปหาฟ่านฉิงเหมย ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
ฟ่านฉิงเหมยแปลกใจแต่ก็ยังยิ้มออกมา “ใครต้องการให้นายช่วย ฉันแค่ขี้เกียจเลยไม่ได้ทำอะไรมัน”
เธอพูดความจริง ถึงงูระดับทองนี่จะดูน่ากลัว แต่เธอก็ฆ่ามันได้ไม่ยากหากเธอจะทำ
แต่หวังเย่าไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ เขากลับหัวเราะออกมา “ใครกล้ารังแกผู้หญิงของฉัน มันต้องตาย ! ”
เขาพุ่งออกไปพร้อมกับทำการโจมตีด้วยใบมีดลม
เมื่อหวังเย่าลงมาถึงพื้นก็พบว่าหัวของงูนั้นถูกตัดขาดไปแล้ว
“เรียบร้อย เธอเป็นยังไงบ้าง ? ” หวังเย่าอารมณ์ดีจนยิ้มกว้างออกมา
“ทำไมนายถึงอารมณ์ดีแบบนี้ได้ ? ” ฟ่านฉิงเหมยแปลกใจกับรอยยิ้มของเขา
“ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดถึงเธอแล้วมาเจอเธอพอดี เธอคิดถึงฉันรึเปล่า ? ” หวังเย่าถามขึ้น
มันไม่ง่ายที่จะได้โอกาสแบบนี้ จึงเป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้เสียเปล่า
ฟ่านฉิงเหมยกรอกตาใส่โดยไม่พูดอะไรออกมา ก่อนจะถามขึ้น “หวังเย่า นายไปที่ไหนมา ? ”
ฟ่านฉิงเหมยไม่เห็นร่องรอยของหวังเย่าเลยตลอด 2-3 วันมานี้ ในใจของเธอกังวลอย่างมาก เมื่อได้พบกับหวังเย่าก็ทำให้เธอโล่งอกแต่ก็ยังสงสัยอยู่ดี
หวังเย่ากอดอกก่อนจะยิ้มออกมา “ฉันไปเจอฝูงไทแรนโนซอรัสมา เลยตามมันไปจนพบว่ารังของมันอยู่ที่หุบเขา ฉันกินนอนอยู่ในโพรง ฉันไม่ได้อาบน้ำเลย ฉิงเหมย เธอช่วยเฝ้าทางให้ฉันได้มั้ยรึว่าเธอจะมาช่วยฉันอาบน้ำดี ? ”
ฟ่านฉิงเหมยคิ้วขมวดก่อนจะผลักเขาออก “นายควรเรียนรู้มารยาทบ้าง นายถึงกับกล้าพูดกับรุ่นพี่แบบนี้ นายรีบไปอาบน้ำซะ ฉันจะเฝ้าต้นทางให้”
“รุ่นพี่งั้นหรือ ? ฉิงเหมย เธอพูดผิดแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเป็นรุ่นพี่ก็จริงแต่ตอนนี้ฉันน่ะเรียนจบแล้ว เธอเองก็กำลังจะเรียนจบ เราถือว่าเป็นรุ่นเดียวกันแล้ว” หวังเย่ายิ้มออกมา
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง นายคิดจะเอาเปรียบฉันต่างหาก” ฟ่านฉิงเหมยกรอกตาใส่ “นายบอกว่าอยากอาบน้ำนี้ นายเลิกพูดไร้สาระแล้วรีบไปอาบน้ำได้แล้ว”
“แล้วทำไมเธอถึงไม่มาอาบด้วยกัน ? เธอเองก็เดินทางมาตั้งนาน เธอก็น่าจะอาบน้ำด้วย” หวังเย่าพูดขึ้นพร้อมกับรีบถอดเสื้อผ้าออกทันที
ฟ่านฉิงเหมยหน้าแดงก่ำ ก่อนจะรีบหันหลังและเดินหนีออกไป
หวังเย่าเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา การได้หยอกแฟนแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกดีจริง ๆ
เขารีบถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะโดดลงไปในแม่น้ำ เมื่อร่างกายถูกชะล้างสิ่งสกปรกออก มันก็ทำให้เขาผ่อนคลายอย่างมาก
“หวังเย่า นายเป็นอะไรไหม ปกตินายอาบน้ำแค่ไม่กี่นาที นี่มันผ่านมา 10 นาทีแล้วนะ” ฟ่านฉิงเหมย ตะโกนถามขึ้นมา
หวังเย่ายังลอยอยู่บนผิวน้ำแต่ไม่ได้ตอบคำถามของฟ่านฉิงเหมยแต่อย่างใด
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากตอบ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับความผ่อนคลายนี้อยู่
เขาลอยอยู่บนผิวน้ำพร้อมกับหลับตา จิตของเขาจ่มลงไปกับความผ่อนคลายนี้ ความคิดไม่ได้ถูกควบคุมโดยร่างกายอีกต่อไป ตอนนั้นเขาสามารถคิดได้เร็วกว่าเดิมถึงสิบเท่า ความสงสัยในการฝึกฝนต่าง ๆ กระจ่างขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะทักษะกระบี่บินส่วนที่สาม เขาติดอยู่ที่ส่วนนี้มานานและก้าวหน้าได้ช้า แต่ตอนนี้จิตของเขาเหมือนกับได้รับการยกระดับ
ฟ่านฉิงเหมยตะโกนถามหวังเย่าอยู่หลายรอบ แต่เมื่อไม่ได้รับคำตอบจากหวังเย่า มันก็ทำให้เธอกังวลขึ้นมา เธอกลัวว่าเขาจะโดนโจมตี เธอจึงรีบหันหลังกลับเพื่อมาตรวจสอบสถานการณ์
แต่ที่นี่มันจะมีอันตรายอะไร ? เธออยู่ที่นี่มานานแต่ก็ยังไม่พบอันตรายเลยสักครั้ง
“รึว่าเขาจะแกล้งกัน” ฟ่านฉิงเหมยกำหมัดแน่น
“ถึงเขาจะแกล้งรึไม่แต่ก็ต้องไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น รึว่าเขาจะผล็อยหลับไป ? ” ฟ่านฉิงเหมยค่อย ๆ หันหลังกลับและเดินไปที่แม่น้ำ
เมื่อเธอเดินมาถึงแม่น้ำและมองลงไป สีหน้าของเธอก็แข็งทื่อก่อนที่แก้มของเธอจะแดงก่ำขึ้นมา