ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 270 : สลับฉาก
ตอนที่ 270 : สลับฉาก
ลู่หานกระโดดลงจากเวทีและเดินเข้ามาหาเหล่ยอู่ฉวน ก่อนที่เหล่ยอู่ฉวนจะพูดขึ้น “นายเหนือกว่าจริง ๆ เฮ้อ น่าเสียดายที่สุดท้ายฉันเป็นได้แค่คนดูหลังจากนี้ ฉันหวังว่านายจะเป็นแชมป์ได้”
ไม่คิดเลยว่าเหล่ยอู่ฉวนจะหัวเราะออกมา เขาไม่ได้เสียดายกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย เพราะมันเป็นการต่อสู้ที่สมศักดิ์ศรีอย่างมาก
“ไปที่ห้องพักกันเถอะ มารอดูกันว่าคู่ต่อสู้ของนายคนต่อไปจะเป็นใคร” เหล่ยอู่ฉวนเดินเข้าไปตบไหล่ลู่หาน แล้วพาอีกฝ่ายเดินไปยังห้องพัก
แม้ว่าลู่หานจะคิ้วขมวดเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ปัดมือของเหล่ยอู่ฉวนออก เขาแค่มองไปที่เหล่ยอู่ฉวนและพูดขึ้นมา “ตอนสุดท้ายไม่น่าจะมีผลลัพธ์แบบนั้นได้”
“นายไม่ต้องคิดอะไรมาก ไปกันเถอะ คู่ต่อไปจะเริ่มแล้ว” เมื่อได้ยินคำถามของลู่หาน เหล่ยอู่ฉวนกลับเร่งให้ลู่หานกลับไปที่ห้องพักก่อน
“นี่มัน…” สุดท้ายลู่หานก็ได้แต่พึมพำพร้อมกับเดินกลับไปยังห้องพักพร้อมกับเหล่ยอู่ฉวน
….
หวังเย่ายังคงมองทุกอย่างอยู่เงียบ ๆ
ลัวจ้าวฮว่าได้พูดขึ้นมา “หัวหน้า นายบอกว่าเหล่ยอู่ฉวนแข็งแกร่งและน่าจะเป็นแชมป์ได้ไม่ใช่หรือ ? แล้วทำไมเขาถึงตกรอบตั้งแต่รอบแรก ? ”
พี่หลง, เจ้าเขียวและเจ้าหนูพากันพูดขึ้นมา “ใช่ หัวหน้า ก่อนหน้านี้นายบอกว่าเขาจะชนะนี่”
โจวอวิ๋นพูดขึ้น “นั่นสิอาเย่า”
หลงปู้หยู๋เองก็พูดขึ้น “ขอโทษที แม้แต่ฉันก็ยังอดขำไม่ได้”
อันตงจ๋าพูดขึ้นมา “นี่พวกนายไม่คิดไว้หน้าหัวหน้าเลยรึไง ? ”
…
เมื่อได้ยินคำพูดของทุกคน หวังเย่าก็หัวเราะออกมา “พวกนายหยุดได้แล้ว พวกนายอยากให้ฉันต้องอายรึไง ? ”
“ใช่ ! ” หลงปู้หยู๋พูดขึ้นมา ส่วนโจวอวิ๋นและคนอื่น ๆ พากันพยักหน้าเห็นด้วย
“พวกนายเริ่มได้ใจเกินไปแล้ว อยากลองดีกันสินะ ? พวกนายคงไม่อยากได้ทรัพยากรจากฉันอีกแล้วสินะ ? ” หวังเย่า หัวเราะเสียงเหี้ยมออกมา
“ขอโทษหัวหน้า พวกเราผิดไปแล้ว” ทุกคนรีบพากันร้องขอความเมตตาขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นว่าพวกนั้นแทบจะคุกเข่าอ้อนวอน หวังเย่าก็พอใจอย่างมาก
“เลิกเล่นได้แล้ว หน้าไม่อายจริง ๆ ”
“เลิกไร้สาระได้แล้ว ”
เสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจดังขึ้นมา
ตอนนี้ลูกน้องพวกนั้นแทบจะคุกเข่าให้กับหวังเย่าแล้ว แต่จ้าวเมิ่งซีกับฟ่านฉิงเหมยกลับทนไม่ไหวและบ่นออกมา
เสียงของพวกเธอเหมือนกับโมโหนิด ๆ ด้วย
“งั้นฉันจะแสดงให้เธอดูว่าฉันหน้าด้านได้แค่ไหน” หวังเย่ามองไปที่จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยพร้อมกับยิ้มออกมา
“พวกนายหันไปทางอื่น”
หยางเสี่ยวหยวนและคนอื่น ๆ รีบทำตามทันที
เมื่อรู้สึกได้ถึงมือที่โอบมาที่เอวอีกครั้ง ทั้งสองก็หน้าแดงขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้หยุดมือของหวังเย่าเอาไว้
เพราะพวกเธอมีความคิดอย่างหนึ่งในหัว ก่อนจะมองไปยังที่นั่งของแขกพิเศษและมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเหนือกว่า โดยที่หวังเย่าไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย
….
“ยัยสองคนนั่น ! ” ตอนนั้นฟางอี้ก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง
เธอบิดชายเสื้อไปมาเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเอง “ฉันไม่เห็น ฉันไม่เห็น ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ….”
“ใจเย็น ๆ ก่อนฟางอี้ เธอน่ะเป็นคนสวยและสูงส่ง เธอไม่จำเป็นต้องโกรธกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้หรอก”
“ใช่ เรื่องเล็กแบบนี้ต้องใจเย็น ๆ ไว้” เธอพึมพำออกมาพร้อมกับหันหน้าหนี
ฟางฉิงหัวนั้นไม่ได้สนใจลูกสาวของตัวเอง ตอนนี้เขาสนใจอย่างอื่นและสิ่งที่เขาสนใจตอนนี้คือผู้อาวุโสจากภูเขาอู่ตัง
หลังจากที่เหล่ยอู่ฉวนพ่ายแพ้ไป ผู้อาวุโสก็พูดอะไรไม่ออก สีหน้าของเขาหม่นลงทันที
แม้ว่านี่จะเป็นแค่การชุมนุม และด้วยกฎต่าง ๆ แล้วทำให้เหล่ยอู่ฉวนไม่อาจจะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็มีน้อยคนที่จะเทียบเขาได้ ไม่คิดเลยว่าเหล่ยอู่ฉวนจะตกรอบตั้งแต่รอบแรกแบบนี้
ก่อนหน้านี้เขายังคิดภาพอันสวยหรูอยู่ แต่เมื่อเหล่ยอู่ฉวนตกรอบไปตั้งแต่รอบแรก มันก็ไม่ได้ดีกว่าคนที่ตกรอบคนอื่น ๆ เลย ผู้อาวุโสถึงกับอยากหนีออกจากที่นี่เพราะความอับอาย แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาได้แต่ต้องรักษาท่าทีเฉยเมยของตัวเองไว้
แน่นอนว่าแขกคนอื่น ๆ ก็พูดเยาะเย้ยเขา
“นายบอกว่าเหล่ยอู่ฉวนแกร่งที่สุดในหมู่ศิษย์ไม่ใช่รึไง ? เขาตกรอบตั้งแต่รอบแรกได้ยังไง นี่คือคนที่แกร่งที่สุดเลยนะ”
“รึว่าศิษย์ของนายไม่สนใจตำแหน่งแชมป์ของการชุมนุมนี้จึงจงใจแพ้ ? ” ผู้อาวุโสของเขามังกรพยัคฆ์ได้พูดขึ้นมา
“ใช่ บางทีในสายตาของภูเขาอู่ตังแล้ว แชมป์ของงานชุมนุมเล็ก ๆ นี้อาจจะไม่คู่ควรให้ต้องสนใจ เขาแค่มาเล่น ๆ เท่านั้น” นี่คือคำพูดของคนจากวัดโชโคะคุจิ
“ฉันจะรายงานว่าคนของนายน่ะจงใจยอมแพ้” นี่คือคำพูดของคนจากแตรทิเบต
“พวกนาย…” เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยเหล่านั้น ใบหน้าของผู้อาวุโสจากภูเขาอู่ตังก็แดงก่ำขึ้นมา เขาได้แต่ชี้นิ้วไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้
“ใจเย็น ๆ อย่าสร้างปัญหา คนของพวกนายอาจจะตกรอบเหมือนกันก็ได้” ฟางฉิงหัวหัวเราะออกมา
มีแค่ผู้ตรวจสอบ 4 ดาวที่มองดูอยู่เงียบ ๆ พวกเขาไม่คิดจะไปเยาะเย้ยคนพวกนี้
คนจากตระกูลใหญ่หลายคนก็ไม่ได้คิดจะเยาะเย้ยเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาไม่อาจจะหาเรื่องสำนักเหล่านี้ได้ พวกเขาต้องผูกมิตรเอาไว้