ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 292 : วิพากษ์วิจารณ์
ตอนที่ 292 : วิพากษ์วิจารณ์
แม้ว่าการชุมนุมจะจบลงไปแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่พูดถึงในอินเตอร์เน็ตไม่จบไม่สิ้น
เหล่าอัจฉริยะของเมืองหัวเซี่ยต่างก็ได้รับคำชม แต่คนที่น่าสนใจที่สุดคือเจิ้นเหลิ่งเทียนที่เป็นแชมป์ในครั้งนี้
ไม่ใช่แค่เขาแข็งแกร่งเหนือใคร แต่อายุของเขาก็ยังน้อยที่สุดอีกด้วย บอกได้ว่าเขาเป็นบุตรแห่งสวรรค์เลยก็ว่าได้
แทบทุกคนที่เห็นเขาบนเวทีการชุมนุมต่างก็เรียกเขาว่าสัตว์ประหลาด เขาราวกับมังกรในคราบมนุษย์
พื้นเพของเขาลึกลับอย่างมาก สัตว์ประหลาดแบบนี้ไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน ดังนั้นการปรากฏตัวของเขาต่อหน้าทุกคนก็ทำให้ทุกคนต่างพากันสนใจ นี้ก็ไม่ต่างจากการไปกดดันเหล่าอัจฉริยะมากมาย
แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่อาจจะรู้ถึงที่มาของเจิ้นเหลิ่งเทียนได้เลย
ตลอดหลายวันมานี้มันมีโพสที่ว่าเจิ้นเหลิ่งเทียนอยู่ที่ไหน, กินอะไรและไปที่ไหนบ้าง…
เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจ แต่กลับมีคนอยากรู้เป็นจำนวนมาก ทว่าเรื่องที่พวกเขาอยากรู้มากที่สุดก็คือชายคนนี้มาจากที่ไหน
หรือว่าเขาจะหลุดมาจากตำนาน….
ทุกคนกลัวที่จะหาข้อมูลต่อ พวกเขาสลัดความคิดที่ว่าอยากจะรู้ที่มาของเจิ้นเหลิ่งเทียน
จากนั้นในเว็บไซต์ที่ใหญ่ที่สุดก็ได้โพสข้อมูลของเจิ้นเหลิ่งเทียนที่เป็นแชมป์การชุมนุมศิลปะการต่อสู้ ซึ่งทำให้เกิดการถกเถียงขึ้นในหมู่ผู้คน
มันมีคอมเมนต์เป็นแสนข้อความในเวลาอันสั้นและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกไม่นานคงทะลุล้านคอมเม้นแน่ ๆ
โพสต์นี้มีข้อมูลทั้งหมดที่เจิ้นเหลิ่งเทียนแสดงออกมาในการชุมนุมศิลปะการต่อสู้
ทักษะที่เจิ้นเหลิ่งเทียนได้ใช้ในการต่อสู้ก็ถูกอธิบายออกมาด้วย
สุดท้ายก็มีภาพการต่อสู้ระหว่างเจิ้นเหลิ่งเทียนกับลู่หานถูกเผยแพร่ออกมา
เหล่าหญิงสาวเข้าไปคอมเมนต์ใต้รูปนี้และพากันออกปากชมเจิ้นเหลิ่งเทียนไม่หยุดหย่อน
กล่าวได้ว่ามันทำให้คนจำนวนมากสนใจ
“แม้ว่าฉันจะเคารพเจิ้นเหลิ่งเทียน แต่จะบอกว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดก็คงจะเกินไปหน่อยมั้ง ประเทศหัวเซี่ยนั้นกว้างใหญ่ อัจฉริยะทั้ง 36 เมืองล้วนมีมากมาย การชุมนุมนี้มีแค่สำนักโดยรอบและเมืองบางแห่งที่ส่งคนมาเข้าร่วมเท่านั้น มันยังมีคนอีกมากมายที่ยังไม่ได้มาเข้าร่วมการชุมนุมนี้”
“มันไม่ใช่การชุมนุมระดับชาติ การที่เจิ้นเหลิ่งเทียนคว้าแชมป์ของเมืองหัวเซี่ยมาได้นั้น อาจจะบอกได้ว่าเขาแข็งแกร่งในระดับต้น ๆ ของประเทศ แต่จะบอกว่าเขาเป็นผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดคงไม่ได้ เพราะอัจฉริยะหลาย ๆ เมืองไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมนี้ไม่ใช่รึไง ? ”
“นอกจากนี้ก็ยังมีอัจฉริยะที่ไม่คิดจะแสดงตัวอยู่ด้วย จริงอยู่ว่า เจิ้นเหลิ่งเทียนนั้นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาแกร่งที่สุดในประเทศหรอกนะ”
คอมเมนต์นี้มีหลายคนที่เห็นด้วย
“นอกจากนี้แล้วเว็บนี้ก็วิเคราะห์ได้ถูก ถึงฉันจะเคารพเจิ้นเหลิ่งเทียนที่เขาแข็งแกร่ง แต่ถ้าจะบอกว่าแข็งแกร่งที่สุดมันก็ไม่ถูก”
“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น”
“ใช่ อัจฉริยะของหัวเซี่ยน่ะยังมีคนอื่นอีกนอกจากเจิ้นเหลิ่งเทียน”
ตอนนี้ความเห็นของทุกคนเริ่มเปลี่ยนไป
“ใช่ ใช่ ฉวนเยว่จากเมืองก้าวสวรรค์ก็แข็งแกร่ง เธอน่ะทั้งสาวทั้งสวย ถ้าเธอเข้าร่วมการชุมนุมนี้ งั้นแชมป์ก็อาจจะเป็นของเธอก็ได้”
“ ? ? ? คอมเม้นต์ด้านบนหมายความว่าไง ? มู่หรงชางในเมืองตงโจวก็ไม่ได้อ่อนแอนะ”
“ ? คอมเม้นต์ห้ากับหก พวกนายเอาหลงห่าวเยี่ยนของเมืองภูเขาเหิงซานไปไว้ไหน”
“อัจฉริยะจากเมืองโม่ตู้ต่างหากที่แข็งแกร่งที่สุด”
“คนของเมืองฉันต่างหากที่แกร่งที่สุด ! ”
….
คอมเมนต์อื่น ๆ ต่างก็พากันถกเถียงว่าคนของเมืองตัวเองแข็งแกร่งที่สุด
โพสต์ในเว็บนี้ไม่เป็นที่ยอมรับของหลายคนและทำให้มีคนเข้ามาคอมเมนต์เป็นล้าน ๆ
สงครามในอินเตอร์เน็ตได้เริ่มขึ้นแล้ว
…
หวังเย่าเห็นข้อความเหล่านั้นก็ต้องปวดหัวไปด้วย เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา ความภักดีของคนนี่มันน่ากลัวจริง ๆ
โชคดีที่เขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย…แต่เมื่อเขาไล่โพสต์ลงต่อไป ชื่อของเขาก็ปรากฏขึ้นมา
“อย่าเถียงกัน อย่างเถียงกัน ผู้เยาว์ที่โดดเด่นที่สุดอย่างหวังเย่าน่ะพวกนายไม่รู้จักกันรึไง ? ”
ทันทีที่เห็นโพสนี้ ผู้คนจำนวนมากต่างก็พากันเข้ามาเถียงจนเกิดการโต้เถียงเป็นล้านคอมเมนต์
“ผู้เยาว์ที่โดดเด่นทั้งสิบแล้วยังไง ? เหล่ยอู่ฉวนกับหลงจั่วเทียนที่เป็นผู้เยาว์โดดเด่นก็ยังไม่ผ่านรอบแรกไม่ใช่รึไง พวกเขาทำให้ฉันหัวเราะแทบบ้าตาย ฮ่าฮ่า”
“ผู้เยาว์ที่โดดเด่นนั้นหมายถึงผู้ที่สร้างผลงานให้กับประเทศ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งที่สุด เอาจริง ๆ แล้วในด้านความแข็งแกร่ง พวกเขายังคงอ่อนแออยู่ ”
“ฉันเองก็เคารพสามคนนั้น ผลงานที่พวกเขาสร้างขึ้นมาคู่ควรกับรางวัลที่พวกเขาได้รับ แม้จะไม่ได้แข็งแกร่ง แต่ยังไงซะพวกเขาก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศ”
“ฉันสงสัยว่าเว็บนี้อยากให้เราเข้ามาเถียงกันมากกว่า ฉันว่าเราใจเย็นกันก่อน”
“แล้วทำไมหวังเย่าไม่เข้าร่วมการชุมนุมล่ะ….”
…
เมื่อเห็นข้อความเหล่านั้นหวังเย่าก็ฮึดฮัดออกมาแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
เขาไม่จำเป็นต้องสนใจคำพูดของคนพวกนี้
ถ้าเก็บเอาคำพูดของพวกนี้มาคิด มันก็มีแต่จะทำให้เขาหงุดหงิดซะมากกว่า
นี่คือวิธีที่หวังเย่าใช้รับมือกับคนแย่ ๆ