ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 293 : เริ่มการประมูล
ตอนที่ 293 : เริ่มการประมูล
เมื่อแต่ดูจากคอมเมนต์ต่างๆแล้วหวังเย่าก็รู้สึกหดหู่ เขาไม่รู้ว่าคนต้นโพสนั้นเป็นแฟนคลับหรือแอนตี้แฟนของเขากันแน่
เมื่อโพสต์นี้ได้รับความสนใจก็ทำให้คนจากเมืองอื่น ๆ ทั้ง 36 เมืองเข้ามาพูดคุยด้วย
หวังเย่าไม่สนใจจะอ่านอีกต่อไป จากนั้นเขาก็หาข่าวอื่นอ่านแทน
นอกจากเรื่องการชุมนุมแล้ว สถานการณ์ของเมืองตัดขวางก็ไม่ได้สู้ดีนัก
ระหว่างการชุมนุมนี้มีกลุ่มทหารรับจ้างมากมายที่ถูกฆ่าซึ่งทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาอย่างมาก
“ถ้ากลับไปจัดการธุระที่เมืองอรุณเสร็จ ดูเหมือนว่าฉันคงต้องไปที่เมืองตัดขวางสักครั้ง” หวังเย่าขมวดคิ้ว เขาเหมือนจะจริงจังในเรื่องนี้มาก
ระดับโลก, สัตว์อสูร, ควบคุม
“น่าปวดหัวจริง ๆ ฉันหวังว่าเรื่องนี้คงจะไม่เกี่ยวข้องกับมันด้วย” หวังเย่าส่ายหน้าและปิดโน๊ตบุ๊คก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปด้านนอก
….
การประมูลจะจัดขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันชาติ
สถานที่ในการจัดประมูลอยู่ที่หอสมบัติสวรรค์
ในฐานะหอประมูลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหัวเซี่ยแล้ว มันไม่น่าแปลกใจที่การประมูลจะถูกจัดขึ้นที่นี่
การประมูลนี้มีผู้คนมากมายต้องการจะเข้าร่วมเพราะมีของหายากหลายอย่างที่ถูกเอามาประมูล ดังนั้นจึงมีแค่คนจากตระกูลใหญ่ที่เข้าร่วมได้
เศรษฐีอายุน้อยอย่างหวังเย่าเองก็ได้รับบัตรเชิญนี้เช่นกัน
ตอนนี้เขายืนอยู่ที่หน้าหอสมบัติสวรรค์ เมื่อมองไปยังตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เขาก็ได้แต่ถอนหายใจกับความยิ่งใหญ่ของมัน
เขามางานประมูลนี้คนเดียวไม่ได้พาคนอื่น ๆ มาด้วย จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเมยอยู่ที่มหาวิทยาลัย ดังนั้นหวังเย่าจึงมาที่นี่คนเดียว
ตอนนี้มีผู้คนมากมายอยู่หน้าตึกพร้อมกับทยอยเดินเข้าไปในตัวตึก
พวกสำนักลับได้ส่งผู้อาวุโสและศิษย์มาที่นี่ด้วย ทุกคนที่นี่ต่างก็มีอำนาจอยู่พอตัว มันเพียงพอจะแสดงให้เห็นแล้วว่าการประมูลนี้ต้องมีบางอย่างที่พวกเขาอยากจะได้มันกลับไป
นอกจากนี้คนจากตระกูลใหญ่ก็มาที่นี่ด้วย สมาชิกของตระกูลลู่และตระกูลเซี่ยงรวมถึงตระกูลชั้นนำทั้งห้าก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน
ตัวแทนของตระกูลชั้นนำและตระกูลชั้นสูงต่างก็เดินทางมาที่นี่
กลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นที่รู้จักกันดีก็มาที่นี่ด้วย
กล่าวได้ว่าการประมูลนี้คือการรวมตัวกันของกองกำลังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศหัวเซี่ย การประมูลนี้ต้องแตกต่างจากทุกครั้งแน่ ๆ
สุดท้ายหวังเย่าก็ได้เดินเข้าไปในตึกหลังจากที่ตรวจสอบบัตรเชิญเสร็จ
บัตรเชิญของหวังเย่านั้นเหมือนจะพิเศษ ไม่นานหลังจากที่เขาเข้าไปก็มีพนักงานหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับเขา
“คุณหวังเย่า เชิญมาทางนี้กับฉัน” เธอโค้งให้กับหวังเย่า ก่อนจะนำทางเขาไป
หวังเย่าไม่ได้พูดอะไรมากและเดินตามเธอไปทันที ยิ่งได้เห็นสะโพกที่ส่ายไปมาของเธอก็ยิ่งทำให้เขาพอใจ
“คุณหวังเย่า นี่คือห้อง VIP ของหอสมบัติสวรรค์ มันมีไว้สำหรับรับรองเฉพาะแขกพิเศษและตั้งอยู่ที่ชั้นสอง ด้านล่างคือลานประมูล”
“ถ้ามีอะไรเรียกหาฉันได้ตลอด ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว ฉันขอตัวก่อน” พนักงานสาวพูดขึ้น
หลังจากที่หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ เธอก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อเห็นอีกฝ่ายออกจากห้องไปแล้ว หวังเย่าก็อดคิดถึงสาวน้อยในตลาดมืดที่เมืองอรุณไม่ได้ ตอนนี้เขายังไม่ได้ข่าวของเธอเลย
“ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง กลับไปเมืองอรุณครั้งนี้จะได้เจอเธอรึเปล่า” หวังเย่าพึมพำออกมา ก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองลงไปที่ลานด้านล่าง
ด้านล่างนั้นส่วนมากแล้วจะเป็นที่นั่งซึ่งจุคนได้หลายพันคน ตอนนี้มันมีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด
การประมูลยังไม่เริ่ม บางคนที่รู้จักกันจึงเดินเข้าไปพูดคุยกันและแบ่งปันข้อมูลต่าง ๆ
คนเหล่านั้นส่วนใหญ่เป็นพวกทหารรับจ้างหรือไม่ก็คนจากตระกูลระดับต้น
คนอื่น ๆ อย่างคนจากตระกูลชั้นนำ, คนจากสำนักต่าง ๆ และตระกูลใหญ่รวมไปถึงหวังเย่าต่างก็อยู่ในห้อง VIP ที่ชั้นสอง
มันยังมีชั้น 3 อยู่แต่จะมีคนอยู่หรือไม่นั้น หวังเย่าไม่รู้
หวังเย่าไม่ได้สนใจอะไรมากสำหรับคนที่อยู่บนชั้นสาม เขามาที่นี่เพื่อดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เพราะเขาจะนั่งดื่มชาและดูการประมูลก็เท่านั้น
การประมูลนี้จัดขึ้น 3 วัน ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่ามันต้องมีสินค้ามากมายขนาดไหน
ในตอนที่จิบชาอยู่นั้น หวังเย่าก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมาที่เขา เมื่อตรวจสอบดูแล้ว หวังเย่าก็พบว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ชั้นสามแต่เมื่อมองไปแล้วก็ไม่พบใคร ดังนั้นหวังเย่าจึงยิ้มออกมา “ ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมากเกินไป มันไม่มีใครอยู่ที่นั่น”
“แต่ทำไมฉันถึงได้รู้สึกแบบนี้ได้ ? ”
ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านนอกพร้อมกับเสียงเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก !
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับสาวสวยในชุดสีแดงที่ปรากฏตัวขึ้นมา
เมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของอีกฝ่าย หวังเย่าก็รู้ได้ทันทีว่าความรู้สึกที่เขารู้สึกเมื่อตะกี้นั้นมาจากไหน
“คุณหนูฟางอี้มีอะไรงั้นหรือ ? ” หวังเย่าที่นั่งอยู่บนโซฟาได้พูดขึ้น
แม้ว่าในใจเขาจะสับสน แต่ภายนอกนั้นหวังเย่าไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
“อื่ม ! ”