ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 336 : ฟักไม่ได้
ตอนที่ 336 : ฟักไม่ได้
“ ด้วยความบังเอิญเขาจึงรอดจากสัตว์อสูรทั้งสามและกองทัพสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนมาได้ แต่เขาก็บาดเจ็บหนักเช่นกัน สุดท้ายเขากับคนที่เหลือในมิตินั้นถึงรอดออกมาได้” ตอนนั้นเฉินเหล่าก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
ทุกคนต่างก็พากันเงียบและคิดตามคำพูดของเฉินเหล่า
คนที่ชั้นสองและชั้นสามต่างพากันมองไปที่ไข่บนเวทีอย่างไม่กระพริบตา หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเฉินเหล่าแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็สนใจไข่นี่อย่างมาก
นี่ไม่ต้องรู้ถึงเหตุผลที่ว่าทำไมสัตว์อสูรเหล่านั้นถึงได้ให้ความสำคัญกับไข่นี่ แค่ฉากในภาพก็ทำให้พวกเขาสนใจได้แล้ว
ยังไงซะพวกเขาก็ไม่เคยเห็นไข่ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้มาก่อน
การที่ทำให้มิติบิดเบี้ยวได้นั้นยิ่งทำให้ทุกคนตะลึง
แม้จะไม่รู้ระดับของไข่นี่ แต่ความสามารถของมันจะต้องเกี่ยวข้องกับมิติเป็นแน่
เห็นได้จากมิติที่บิดเบี้ยวในภาพเมื่อสักครู่นี้
ดังนั้นทุกคนจึงสนใจไข่นี่ขึ้นมา แต่พวกเขาจะประมูลมันมารึไม่นั้นไม่อาจจะรู้ได้
“น่ากลัวจริง ๆ ฉันชื่นชมคนของหอสมบัติสวรรค์ที่กล้าหาญและไม่ลังเล แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับอันตรายแต่พวกเขาก็ยังรอดมาได้ เขาต้องแข็งแกร่งแน่ ๆ ”
“เขาสมควรได้รับคำยกย่องจากเรา”
“แต่การทำให้สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์โกรธ หากไม่ใช่เพราะมีความแข็งแกร่งเพียงพอแล้ว ถ้าสัตว์อสูรทั้งสามร่วมมือกัน งั้นเขาก็อาจจะรอดจากมิตินั้นมาไม่ได้”
“แค่คิดก็น่าทึ่งแล้ว”
…
ผู้คนได้สติกลับมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เจอกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่แค่คิดก็ทำให้พวกเขาขนลุกได้แล้ว นี่ไม่ต้องนับคนที่เจอมันกับตัวเลย
พวกเขาคงไม่กล้าแบบคนของหอสมบัติสวรรค์
เฉินเหล่าที่อยู่บนเวทีได้พูดขึ้นต่อ “ครั้งนี้หอสมบัติสวรรค์ได้หาผู้ดูแลระดับสูงจำนวนมากและใช้วิธีการมากมายในการตรวจสอบ แต่ก็ไม่อาจจะวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับไข่นี่ได้เลย”
“นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงได้บอกว่าไม่รู้ระดับของไข่นี่” เฉินเหล่าเงียบไปชั่วครู่และมองไปที่ชั้นสองและสาม “ไข่นี่แม้แต่ผู้ดูแลระดับสูงก็ไม่อาจจะหาวิธีในการฟักมันได้ ไม่ว่าจะทดลองยังไงก็ไร้ประโยชน์ กว่า 1 เดือนมานี้เราได้หาผู้ดูแลมากมายและใช้ทุกวิธีแต่ก็แทบไม่ได้ผล ”
คำพูดของเฉินเหล่าทำให้ทุกคนอึ้ง
“ไม่คิดเลยว่าแม้แต่หอสมบัติสวรรค์และผู้ดูแลระดับสูงก็ไม่อาจจะฟักไข่นี่ออกมาได้”
“รึว่ามันเกี่ยวข้องกับพลังของสัตว์อสูรในภาพกัน ? ”
“ในเมื่อหอสมบัติสวรรค์และผู้ดูแลระดับสูงไม่อาจจะทำได้ งั้นฉันบอกได้เลยว่าคงไม่มีใครในโลกนี้ฟักไข่นี่ออกมาได้สำเร็จ ? ”
“ใช่ ถ้าเป็นแบบนั้นกองกำลังใหญ่จะคิดประมูลมันมาอีกหรือ ? ”
“แต่คงต้องหมดเงินเยอะไปกับไข่นี่ แต่โอกาสที่จะฟักมันออกมาได้นั้นกลับน้อยนิดจนน่าสงสาร ฉันไม่คิดว่าจะมีคนเต็มใจทำแบบนั้นแน่ แม้ว่าจะลองเสี่ยงก็ตาม”
“ในเมื่อหอสมบัติสวรรค์เอาของแบบนี้มาประมูล เดาว่ามันคงมีคนประมูลแน่ อย่าลืมสิว่ามีคนมากมายในโลกนี้ มันต้องมีสักคนที่ทำได้แน่”
“ตอนนี้รอดูก่อนว่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่เท่าไหร่”
“ใช่ ใช่ เราได้แต่ต้องรอลุ้น พวกคนที่ชั้นสองและสามต้องคิดอะไรกันอยู่แน่ บางทีที่พวกเขาคิดอาจจะไม่เหมือนกับที่พวกเราคิด”
…
“แม้แต่ผู้ดูและระดับสูงก็ไม่อาจจะทำได้”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องทบทวนกันอีกรอบ..”
“ฉันจะเรียกผู้อาวุโสมา ฉันไม่รู้ว่าเขาจะฟักมันออกมาได้รึเปล่า…”
…
บนชั้นสองนั้นทุกคนต่างก็พากันพูดคุยในเรื่องนี้
ชัดแล้วว่าเมื่อได้ยินที่เฉินเหล่าพูดมา พวกเขาก็ต้องคิดทบทวนกันอย่างหนัก
และคิดลังเลว่าควรประมูลมันดีรึไม่ ?
เฉี่ยนเจินเฉียนบนชั้นสามคิ้วขมวดและพูดขึ้นมา “โอกาสในการฟักมันต่ำจริง ๆ หรือ ? ”
“ตราบใดที่รู้สายพันธุ์ของมัน แม้ว่าโอกาสฟักจะต่ำแต่ฉันก็จะประมูลมัน” ไป๋พั่วหล้างพูดขึ้น
“ก็นั่นแหละคือส่วนที่น่าโมโหที่สุด” ฮวงเทียนเจวี๋ยนถอนหายใจออกมา
“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเข้าร่วมดีรึไม่ จากในภาพมันมีสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ถึง 3 ตัวคอยดูแล ไข่นี่ต้องโดดเด่นแน่ ๆ ” จางจื้อเฉียงพูดขึ้น
“ฉันไม่รู้ว่าเจ้าเมืองคิดยังไง ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนหันไปถามฟางฉิงหัว
ฟางฉิงหัวส่ายหน้าและพูดขึ้น “ฉันบอกได้ว่าถึงจะไม่รู้ระดับของไข่นี่ แต่เงาที่เราเห็นนั้นคงเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ในตัวมันแน่”
“งั้นหรือ ? ” เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ได้ยินแบบนั้นก็พากันคิดทบทวน
ทั้งห้าคนตอนนี้ยืนอยู่ตรงข้างหน้าต่างห้องตัวเองและพูดคุยกัน
ฟางอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฟางฉิงหัวมองไปที่ไข่นั่นด้วยสีหน้าตึงเครียด เพราะตอนนี้นกกระจอกเพลิงดำของเธอนั้นมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป
ฟางอี้ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมีปฏิกิริยาที่แปลกไป แต่เพราะด้วยเธอทำสัญญากับมัน จึงทำให้เธอรับรู้ได้ว่ามันรู้สึกไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
เธออยากเรียกนกกระจอกเพลิงดำออกมาแต่หลังจากที่คิดทบทวนดูแล้ว เธอก็ต้องโยนความคิดนี้ทิ้งไป