ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 349 : ความตะลึงของซือคงเป่า
ตอนที่ 349 : ความตะลึงของซือคงเป่า
หวังเย่ามองไปที่อสูรมิติที่ตอนนี้กำลังกินเปลือกไข่ที่เหลือ เขานั่งลงข้าง ๆ มัน
ซึ่งตอนนี้หวังเย่าก็หน้าซีดอย่างมาก เลือดที่เสียไปเมื่อตะกี้นั้นต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่ร่างกายจะฟื้นฟูขึ้นมาได้
กล่าวได้ว่าหวังเย่าในตอนนี้ไม่ต่างจากคนป่วยเลย แม้แต่คนธรรมดาก็ยังจัดการกับเขาได้แล้ว
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาเสียเลือดไปมากขนาดไหน
แม้ว่าเขาจะดื่มน้ำยาอาหารไปหลายขวด แต่สภาพร่างกายของเขาก็ถือว่าแทบไม่ดีขึ้นเลย
ยังไงซะเขาก็เสียเลือดไปจำนวนมากและน้ำยาอาหารเพียงลำพังก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้มากนัก
หวังเย่าทำสัญญากับอสูรมิติเพื่อที่จะใช้สกิลของมัน แต่เพราะหวังเย่าตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแอ เขาจึงไม่อาจจะใช้สกิลของอสูรมิติได้ จึงต้องรอจนกว่าจะฟื้นฟูตัวเองก่อนแล้วถึงจะทดสอบสกิลเหล่านั้นได้
เขาไม่ได้รีบบอกคนด้านนอกว่าเขาฟักไข่ออกมาได้สำเร็จ เพราะเวลาที่ใช้ก็น้อยเกินไป ถ้าบอกพวกนั้นไป พวกนั้นคงตกตะลึง
หวังเย่าจึงได้แต่นอนลงบนโซฟา แล้วดื่มน้ำยาอาหารพร้อมกับมองดูอสูรมิติกินเปลือกไข่ของตัวเอง
กร้วม กร้วม
อสูรมิติยังคงกินเปลือกไข่อยู่ เมื่อเห็นหวังเย่านอนลงบนโซฟาและมองมาที่มัน มันก็คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะอุ้มเปลือกไข่มาหาหวังเย่าแล้วยื่นให้กับหวังเย่า
มันอยากให้หวังเย่ากินเปลือกไข่กับมันงั้นหรือ ?
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าก็ส่ายหน้าก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ ฉันไม่กินหรอก แกกินเลย”
อสูรมิติเหมือนจะเข้าใจคำพูดของหวังเย่า เมื่อได้ยินแบบนั้นมันจึงรีบกินเปลือกไข่ต่อทันที
“มันดูฉลาดมาก” หวังเย่ายื่นมือออกไปลูบหัวอสูรมิติพร้อมกับคิด
กร้วม กร้วม แจ่บ ๆ
อสูรมิติเผยสีหน้าพอใจออกมา ปากของมันยังคงเคี้ยวไม่หยุด
ไม่นานหลังจากนั้นเปลือกไข่ทั้งหมดก็ถูกอสูรมิติกินจนหมดเกลี้ยง
ไม่รู้ว่าเปลือกไข่นี่มีพลังงานพิเศษอะไรแต่หลังจากที่อสูรมิติกินหมดแล้ว มันก็ทำตามหวังเย่า มันนอนหลับบนโต๊ะไปทันที
เมื่อหวังเย่าเห็นว่าอสูรมิติหลับก็ไม่คิดจะรบกวน เขาได้แต่มองดูมันอยู่เงียบ ๆ
แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่างของอสูรมิติกลับโปร่งใสขึ้นมา สุดท้ายร่างของมันก็หายไปต่อหน้าต่อตาหวังเย่า ราวกับว่ามันหายไปจากห้องนี้
เมื่อเห็นโต๊ะที่ว่างเปล่า หวังเย่าก็ไม่ได้ใส่ใจกับการหายตัวไปของอสูรมิติ
พลังสัญญานั้นทำให้เขารับรู้ว่าอสูรมิติยังนอนอยู่บนโต๊ะอยู่
หลอมรวมกับมิติ นี่คือความสามารถของอสูรมิติ
ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะหาว่ามันอยู่ไหน เขาเอาโทรศัพท์ออกมาตรวจสอบข่าวในอินเตอร์เน็ตพร้อมกับดื่มน้ำยาอาหารไปด้วย
…
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง หวังเย่าก็ได้ส่งข้อความหาเฉี่ยนเจินเฉียนเพื่อบอกพวกนั้นว่าการฟักไข่สำเร็จแล้ว
เขาเพิ่งจะส่งข้อความไปไม่นานก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นก่อนที่ทั้งหกคนจะเข้ามาในห้อง
ฟางฉิงหัว, เฉี่ยนเจินเฉียน, ฮวงเทียนเจวี๋ยน, จางจื้อเฉียง,ไป๋พั่วหล้างและซือคงเป่ามองไปที่โต๊ะว่างเปล่าตรงหน้าหวังเย่า
“ไม่ได้ผลงั้นหรือ ? นี่…”
เมื่อเห็นโต๊ะที่ว่างเปล่า ทั้งหกคนก็พากันมองมาที่หวังเย่าด้วยความสงสัย
“เสี่ยวซวี ได้เวลาปรากฏตัวแล้ว” เมื่อเห็นสีหน้าของทั้งหกคน หวังเย่าก็พูดขึ้น
เสี่ยวซวีเป็นชื่อเล่นของอสูรมิติที่หวังเย่าเพิ่งจะตั้งให้มัน
เสี่ยวซวีเหมือนจะพอใจกับชื่อของมันอย่างมาก
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะทึ่ง มันเกิดมามีจิตวิญญาณและความฉลาดกับตัว อนาคตนั้นคงมีความสามารถที่น่าทึ่งกว่านี้แน่
ตอนที่หวังเย่าพูดจบ ร่างมังกรของอสูรมิติก็ได้แยกตัวออกจากมิติและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน
ทั้งหกคนจ้องเขม็งไปที่อสูรมิติที่ปรากฏตัวขึ้นมา
เมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งและสายตาของทั้งหกคน เสี่ยวซวีก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
“พวกนี้เป็นใคร พวกนี้มาทำอะไรที่นี่ พวกนี้คิดจะทำอะไร ? ” หากเสี่ยวซวีพูดได้ มันคงถามแบบนี้ออกมาแน่
แม้ว่าจะแสดงสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งของทั้งหกคน แต่เสี่ยวซวีก็ไม่ได้แสดงท่าทีเกรงกลัวออกมา ดวงตาของมันยังจับจ้องไปยังทั้งหกคน
“นี่มันอสูรมิติ…”
“มันเหมือนในบันทึกเอาไว้ไม่มีผิด ยกเว้นแค่ขนาดที่ต่างออกไป แต่ส่วนที่เหลือน่ะเหมือนกับในบันทึกเลย”
“นี่คืออสูรมิติที่เพิ่งเกิดใหม่”
“บางทีมันอาจจะขึ้นเป็นอสูรมิติที่แข็งแกร่งในอนาคตได้”
ทุกคนพากันพูดถึงอสูรมิติตามที่พวกเขารู้จัก
“หวังเย่า ฉันคิดไม่ถึงเลยว่านายจะฟักมันออกมาได้จริง ๆ ” ในฐานะหัวหน้าหอสมบัติสวรรค์แล้ว ซือคงเป่ารู้ดีกว่าใครว่ามันน่าปวดหัวแค่ไหนกับการฟักไข่นี่ออกมา
ผู้ดูแลระดับสูงมากมายถูกเรียกตัวมาแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ มันเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าการฟักไข่นี่ยากเย็นแค่ไหน
แต่หวังเย่าไม่ใช่แค่ฟักไข่นี่ออกมาได้สำเร็จแต่เขายังใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นในการฟักมันออกมา
มันจะไม่ทำให้พวกเขาตะลึงได้ยังไง